ที่ผ่านมา เราจะเข้าใจว่านักลงทุนเทวดา (Angel investor) หรือนักลงทุนอิสระ ที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการ Start up ที่เพิ่งกำเนิดเกิดใหม่ ให้มีแรงใจเดินหน้าในช่วงแรก จะมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยในขณะนี้ คงจะยากที่จะหานักลงทันอิสระที่จะมาลงทุนใน Start up ปกติ หรือ Tech start up ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอยู่ในขณะนี้
หากเป็นเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว จะพบว่าจำนวนนักลงทุนอิสระทีจะให้การสนับสนุน Start up นั้น จะคิดเป็นเพียง 25% ของอัตราเฉลี่ยเท่านั้น ซึ่งหากถามคนในวงการแล้ว จะทราบดีว่าความคาดหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนอิสระในยุคแรกๆนั้น มีน้อยมาก ผิดกับ VC หรือ Venture Capital นักลงทุนรายใหญ่ซึ่งแม้จะไม่ได้โดดเข้าร่วมแต่แรก แต่ถือว่าเป็น “น้ำบ่อใหญ่” ของ Start up เกือบทุกกลุ่มที่หวังจะยกระดับตัวเองขึ้นไป
ความน่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนี้คือ กลุ่มนักลงทุนอิสระได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนกลุ่ม start up มากขึ้น โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 5% แม้ว่าจะเป็นอัตราที่ไม่มากนัก แต่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเพิ่มเติมขึ้นในอนาคตอันใกล้
CROWDFUNDING มาแรง! แซง VENTURE CAPITAL
การระดมทุนสาธารณะแบบ Crowdfunding จะมาแรงแซงธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ในไม่ช้า แม้การระดมทุนสาธารณะแบบ Crowdfunding ในประเทศไทยยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ Crowdfunding ก็คือ การระดมทุนจากประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักลงทุนโดยตรงและลงทุนในจำนวนน้อย วิธีการ เช่น เจ้าของไอเดียโพสต์ไอเดียธุรกิจของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ แล้วระดมทุนผ่านทางบุคคลที่เข้ามาดู เพื่อให้ได้เงินทุนเพียงพอในการพัฒนาโปรเจกต์ให้สำเร็จ
ตัวอย่างเว็บไซต์ Crowdfunding ยอดนิยม เช่น Kickstarter การระดมทุนสาธารณะแบบ Crowdfunding มีการเพิ่มมูลค่าอย่างก้าวกระโดดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี พ.ศ.2553 Crowdfunding มีมูลค่าเพียง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ข้อมูลในปี พ.ศ.2558 มูลค่า Crowdfunding สูงถึง 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 2559 หรือประมาณ 32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 2559 หรือประมาณ 32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะสูงกว่ามูลค่าการระดมทุนแบบ Venture Capital
Start up เข้าสู่ยุค Angel และ CrowdFundings
ที่ผ่านมา เราจะเข้าใจว่านักลงทุนเทวดา (Angel investor) หรือนักลงทุนอิสระ ที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการ Start up ที่เพิ่งกำเนิดเกิดใหม่ ให้มีแรงใจเดินหน้าในช่วงแรก จะมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยในขณะนี้ คงจะยากที่จะหานักลงทันอิสระที่จะมาลงทุนใน Start up ปกติ หรือ Tech start up ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอยู่ในขณะนี้
หากเป็นเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว จะพบว่าจำนวนนักลงทุนอิสระทีจะให้การสนับสนุน Start up นั้น จะคิดเป็นเพียง 25% ของอัตราเฉลี่ยเท่านั้น ซึ่งหากถามคนในวงการแล้ว จะทราบดีว่าความคาดหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนอิสระในยุคแรกๆนั้น มีน้อยมาก ผิดกับ VC หรือ Venture Capital นักลงทุนรายใหญ่ซึ่งแม้จะไม่ได้โดดเข้าร่วมแต่แรก แต่ถือว่าเป็น “น้ำบ่อใหญ่” ของ Start up เกือบทุกกลุ่มที่หวังจะยกระดับตัวเองขึ้นไป
ความน่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนี้คือ กลุ่มนักลงทุนอิสระได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนกลุ่ม start up มากขึ้น โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 5% แม้ว่าจะเป็นอัตราที่ไม่มากนัก แต่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเพิ่มเติมขึ้นในอนาคตอันใกล้
CROWDFUNDING มาแรง! แซง VENTURE CAPITAL
การระดมทุนสาธารณะแบบ Crowdfunding จะมาแรงแซงธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ในไม่ช้า แม้การระดมทุนสาธารณะแบบ Crowdfunding ในประเทศไทยยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ Crowdfunding ก็คือ การระดมทุนจากประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักลงทุนโดยตรงและลงทุนในจำนวนน้อย วิธีการ เช่น เจ้าของไอเดียโพสต์ไอเดียธุรกิจของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ แล้วระดมทุนผ่านทางบุคคลที่เข้ามาดู เพื่อให้ได้เงินทุนเพียงพอในการพัฒนาโปรเจกต์ให้สำเร็จ
ตัวอย่างเว็บไซต์ Crowdfunding ยอดนิยม เช่น Kickstarter การระดมทุนสาธารณะแบบ Crowdfunding มีการเพิ่มมูลค่าอย่างก้าวกระโดดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี พ.ศ.2553 Crowdfunding มีมูลค่าเพียง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ข้อมูลในปี พ.ศ.2558 มูลค่า Crowdfunding สูงถึง 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 2559 หรือประมาณ 32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 2559 หรือประมาณ 32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะสูงกว่ามูลค่าการระดมทุนแบบ Venture Capital