FastView บริษัทสตาร์ทอัพระดับ unicorn ถูกแฉว่าเป็น Cyber Wrecker โจมตี I’LL-IT, LE SSERAFIM และศิลปินอื่นๆในค่าย HYBE

เผยแพร่: 5 มีนาคม 2025 เวลา 09:01 | ปรับปรุง: 5 มีนาคม 2025 เวลา 09:16
ผู้สื่อข่าว: จาง อูจอง

HYBE ยื่นฟ้อง 7 ช่อง YouTube ที่เผยแพร่เนื้อหาวิจารณ์ศิลปิน และพบว่า FastView เป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังช่อง ‘People Box’ และ ‘Da Issue’ ที่โจมตีศิลปินค่าย HYBE โดยมีรัฐบาลเกาหลีให้การสนับสนุน FastView หลายร้อยล้านวอน... ทั้งนี้ บริษัทปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาโจมตีศิลปินของ HYBE

บริษัทสตาร์ทอัพ FastView ซึ่งมีรายได้ต่อปี 33,000 ล้านวอน และได้รับเงินลงทุนสะสมถึง 12,500 ล้านวอน กำลังเผชิญกับคดีความ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่เนื้อหาที่โจมตีศิลปินของ HYBE ผ่านหลายช่อง YouTube ที่จัดอยู่ในกลุ่ม ‘Cyber Wrecker’ (ยูทูบเบอร์ที่เกาะกระแสเรื่องอื้อฉาว)
บริษัทนี้เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทเทคโนโลยีด้านคอนเทนต์ และได้รับเลือกให้เป็น ‘อากิยูนิคอร์น’ (Baby Unicorn) โดยกระทรวงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของเกาหลีใต้ในปี 2022 พร้อมได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 3,000 ล้านวอน และในปีที่ผ่านมา ยังได้รับการคัดเลือกเป็น ‘อากิยูนิคอร์นพลัส’ ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับสตาร์ทอัพที่มีแนวโน้มเติบโตสูง

FastView ถูกฟ้องหลังจากถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังช่อง YouTube ที่โจมตี HYBE ตามรายงานของศาลกลางกรุงโซล เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025 HYBE ได้ยื่นคำร้องแก้ไขชื่อจำเลยในคดีความเรียกค่าเสียหายที่ยื่นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งพบว่า ‘จำเลยที่ 1’ คือ FastView

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว HYBE และบริษัทในเครือ ได้แก่ BELIFT LAB และ Source Music ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2,800 ล้านวอน ต่อ 7 ช่อง YouTube ได้แก่
Cute Rabbit Jjang
EnterPick
People Box
Da Issue
NewJeansFam
Issue Tan
Wangjam Issue
     ช่องเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่เนื้อหาวิจารณ์ศิลปินของ HYBE โดยกล่าวหาว่า I’LL-IT คัดลอกคอนเทนต์ของศิลปินอื่น และเผยแพร่ ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสมาชิกของ LE SSERAFIM เป็นจำนวนมาก

ตัวอย่างของคอนเทนต์ที่เผยแพร่ ได้แก่
"เหตุผลที่ XXXX พัวพันกับ Danworld"
"ทำไม XXXX ถึงกลายเป็นคนไม่น่าคบหากะทันหัน"
"ข้อกล่าวหาการลอกเลียนเพลงของ XXX ที่ไม่มีวันสิ้นสุด"
"สถานการณ์ปัจจุบันของ XXXX ที่ถูกวิจารณ์เรื่องภาพลักษณ์ญี่ปุ่น"
     เพื่อสืบหาตัวตนของผู้ผลิตเนื้อหาที่เป็นปัญหา HYBE ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงแคลิฟอร์เนียตอนเหนือในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ มาตรา 1782 เพื่อขอให้ YouTube (Google) เปิดเผยข้อมูลเจ้าของช่องเหล่านี้ และพบว่าผู้ดำเนินการช่อง People Box และ Da Issue คือบริษัท FastView

FastView เคยมีประวัติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จมาก่อน
FastView เคยมีประวัติที่ไม่ดีเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จมาก่อน ผ่านช่อง YouTube ‘AutoPost’ โดยในเดือนกรกฎาคม 2020 บรรณาธิการของ AutoPost ได้โพสต์วิดีโอที่กล่าวหาว่า Hyundai Motor Company ปลดพนักงานโดยมิชอบและมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในการดำเนินงาน ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ทำให้บริษัทและผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา

FastView ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ในฐานะช่องทางที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและเทรนด์สำหรับพนักงานออฟฟิศ ก่อนที่จะจดทะเบียนเป็นบริษัทเมื่อเดือนเมษายน 2018 ปัจจุบันบริษัทระบุว่าพัฒนาโซลูชัน AI เพื่อเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านช่องทางต่างๆ และเพิ่มรายได้จากการเข้าชม
ล่าสุด FastView ได้ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยตั้งสำนักงานที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการคอนเทนต์ K-pop ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก บริษัทได้รับเงินลงทุนสะสมจากบริษัทร่วมลงทุน (VC) หลายแห่ง รวมถึง Feynman Asset Management, Partners Investment, DSC Investment, SparkLabs Ventures และ KB Capital รวมเป็นมูลค่า 12,500 ล้านวอน ในปีที่ผ่านมา บริษัททำรายได้ 33,000 ล้านวอน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 1,500 ล้านวอน ซึ่งถือเป็นการทำกำไรเป็นครั้งแรกของบริษัท

ทั้งนี้ FastView ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา ตัวแทนของ FastView กล่าวว่า "ช่องเหล่านี้เป็นช่องที่นำเสนอเนื้อหาที่ได้รับความนิยมในชุมชนออนไลน์ในรูปแบบของวิดีโอ Shorts เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีหรือใส่ร้ายศิลปินของ HYBE เรารู้สึกตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และจะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนอย่างเต็มที่" บริษัทกล่าวเพิ่มเติมว่า "ขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ CEO และอดีต CEO ของบริษัทในชุมชนออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการหมิ่นประมาทและการกล่าวหาอย่างไม่มีมูลความจริง เรากำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาเหล่านี้"

กระทรวงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลีใต้ชี้แจงว่า "โครงการ ‘อากิยูนิคอร์น’ คัดเลือกสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพโดยใช้เกณฑ์การระดมทุนจากภาคเอกชน และได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ติดตามข้อพิพาททางกฎหมายที่เกิดขึ้นหลังจากบริษัทได้รับเงินสนับสนุน" "ตั้งแต่ปี 2020 - 2024 มีบริษัทที่ผ่านโครงการนี้จำนวน 300 แห่ง โดยรัฐบาลจะติดตามผลการดำเนินงาน เช่น งบการเงินของบริษัท แต่ไม่ได้ติดตามประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง"

ที่มา: [url=https://n.news.naver.com/article/366/0001058353]The 'baby unicorn' Fastview is a cyber wrecker?... Islet LE SSERAFIM slander[/url]
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่