หลายๆคนที่มาเยี่ยมเยือนบ้าน มักจะขอให้เขียนรีวิววิธีการเก็บบ้าน แม่ปุ้มพยายามเก็บรูปไว้มาตลอด 1 ปีเพื่อวีวิวนี้ค่ะ
. . . การจัดของในบ้านให้เป็นระเบียบและสวยงาม เน้นอุปกรณ์ การตกแต่งบ้านที่สามารถใช้งานได้จริงด้วยค่ะ
หลักการจัดบ้านให้ดูไม่รก คือ พยายามคุมโทนสีของใช้ในบ้านให้เป็นโทนสีเดียวกัน (อาจจะแบ่งเป็นห้องนึง สีนึงก็ได้ค่ะ)
เนื่องจากเจ้าของกระทู้ ถูกโฉลกกับสี ครีม ดังนั้นจึงแต่งบ้านด้วยสีนี้ พอเรามีสีในใจแล้ว เวลาเราเลือกซื้อของเข้าบ้าน เราก็จะเลือกสีที่เข้ากับบ้านเราไว้อันดับหนึ่งค่ะ
กระทู้นี้จะยังไม่พูดถึงสไตล์การแต่งบ้านนะคะ เพราะต้องรวบรวมข้อมูลเรื่องการเลือกซื้อวัสดุ สถาปนิก และผู้รับเหมาอย่างละเอียดค่ะ แต่บอกไว้คร่าวๆว่า แต่งแบบ Shabby chic ค่ะ ที่เลือกแบบนี้เพราะเป็นบรรยากาศที่คุ้นเคยจากบ้านเก่าสมัยยังอยู่สก๊อตแลนด์ค่ะ อยากเก็บความรู้สึกดีๆที่เริ่มต้นสร้างครอบครัวไว้ ก็เลยนำมากลับมาใช้ที่ไทยด้วย การจัดเก็บของจึงใช้การประยุกต์ทั้งไทยและเทศ (เลือกเอาสิ่งดีๆของเค้ามาใช้ให้เค้ากับบ้านเมืองเราค่ะ)
ขอเริ่มเป็นห้องๆจากส่วนโถ่งรับแขกหน้าบ้าน (จำลองแบบมากจาก conservatory ค่ะ)
สังเกตุว่าพื้นที่ใต้โซฟา เรายังใช้เก็บของได้ แนะนำกล่องเก็บของพลาสติก ที่ใช้เก็บของใต้เตียง หาซื้อได้ตาม HomePro หรือ IKEA ค่ะ
ปุ้มมักจะพับรถเข็นยูกิเก็บไว้ใต้โซฟานี้ค่ะ
และตรงนี้คือตู้ใส่รองเท้าค่ะ ซื้อมาจากงาน บ้านและสวน ร้าน Parawood Design นอกจากรูปทรงจะถูกใจแล้วราคายังน่ารักด้วยค่ะ
จะแบ่งตู้ซ้ายเป็นรองเท้าของคุณลูก และขวาเป็นของคุณพ่อค่ะ วางไว้หน้าบ้านเพราะอยากให้ระบายอากาศ ไม่อับชื้นค่ะ
ส่วนรองเท้าแม่ แยกเก็บในตู้ด้านใน เพราะส่วนใหญ่เป็นส้นสูงที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ก็เลยเก็บไว้ในที่ที่เย็นๆหน่อยค่ะ
รองเท้าจัดแบบนี้เพราะจะได้สะดวกตอนจะเลือกใช้ค่ะ ส่วนใหญ่จะเร่งรีบออกจากบ้าน เวลาเลือกหยิบรองเท้า ต้องใช้เวลาน้อยที่สุดค่ะ อีกอย่างนึงคือเวลาเปิดตู้มาเห็นรองเท้าทั้งหมด เป็นการย้ำเตือนว่าเรามีคู่ไหน สีอะไร แบบไหนบ้าง จะได้ไม่ไปซื้อมาอีกค่ะ (สาวๆคงจะเข้าใจ)
เท้าความไปยังสมัยอยู่บ้านเก่า แม่ปุ้มก็จะฝึกฝนยูกิให้รู้จักเก็บรองเท้าตัวเองทุกครั้งที่เข้าบ้าน เพราะบ้านเราไม่มีแม่บ้าน ทุกคนต้องช่วยกันเก็บของคนละไม้คนละมือค่ะ ในภาพข้างล่างนี้เป็นการเก็บรองเท้าฝีมือยูกิเองค่ะ
ไอเดียวางหนังสืออ่านเล่นที่หยิบอ่านบ่อยๆค่ะ
ห้องต่อมาคือ Living room
ตู้กระจกเงาด้านข้างโซฟา(ด้านซ้าย) เอาไว้เก็บของใช้ที่ไม่ค่อยได้หยิบใช้บ่อยๆ เช่น อัลบั๊มรูป กระดาษ หนังสือ เอกสารที่ไม่ค่อยได้หยิบมาอ่านค่ะ เป็นต้น
ด้านหลังโซฟา เอาไว้วางของประดับ แต่บางอย่างก็ใช้ได้จริง แต่นานๆหยิบมาใช้ทีนึงค่ะ
ตู้กระจกด้านขวาเอาไว้เก็บถ้วยกาแฟ ชุดน้ำชา เอาไว้ให้แขกมาเลือกหยิบแบบที่แขกชอบมาใช้ (สำหรับบริการตัวเองค่ะ)
ใต้โซฟา สามารถซ่อนตระกร้าเก็บของจุกจิกได้ด้วยค่ะ
ใต้โต๊ะกาแฟ ยังสามารถซ่อมของเล่นหรือ เบาะรองนั่ง สำหรับนั่งพื้นได้ด้วยนะคะ
ปุ้มดัดแปลงตระกร้ามาจากตระกร้านอนสมัยยูกิยังเป็นแบเบาะค่ะ ตระกร้าแบบนี้ฝรั่งจะนิยมใช้เป็นเตียงเลี้ยงเด็ก วางบนขาโยกเรียกว่า Moses Baskets & Stands (คล้ายการไกวเปลในบ้านเราค่ะ) สำหรับเมืองไทยหาซื้อตระกร้าได้ที่ร้านข้างถนนตรงข้าม JJ mall ค่ะ (จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ)
มุมรับประทานอาหาร หรือ dining room จะอยู่ในโถงห้องรับแขกด้วยค่ะ เพราะอยากให้แชร์ทีวีร่วมกัน (ซึ่งปกติจะเปิดตอนแขกมาบ้านค่ะ)
จุดเด่นของตู้วางทีวีคือ มีลิ้นชักซ่อนเอาไว้เก็บ เครื่องเล่นดีวีดีและซ่อนปลั๊กให้ดูเป็นระเบียบค่ะ
เสนอไอเดียตรงมุมรับประทานอาหาร เก็บพวกขนม อาหารว่างให้น่ารักๆ แบบนี้ค่ะ (หาซื้อได้ตามตลาดนัดสวนจตุจักร)
และพวกเครื่องปรุงที่ใช้บนโต๊อาหารก็เก็บไว้บน console table ด้านหลัง (หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปของ Qualy)
นำเสนอจานชามน่ารักๆ เลือกสีและสไตล์เดียวกัน (แม่ปุ้มซื้อมาจาก JJ Mall ในราคาชิ้นละ 40-80 บาทค่ะ)
นานๆจะได้จัดชุดจานชามรับแขกเต็มๆแบบนี้ค่ะ แต่ธรรมเนียมฝรั่งเค้ามักจะทำกับบ่อยๆนะคะ
ใครสนใจวิธีแบบจริงจังลองหาดูคลิปค่ะ
ถัดมาคือห้องครัว ห้องเตรียมอาหาร หรือ Kitchen & pantry ค่ะ
มุมชงกาแฟ
มุมทำอาหาร
มุมเก็บเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหารค่ะ (ขวดแก้วซือมาจากร้านขายเครื่องแก้ว ฝั่งตรงข้าม JJ Mall ราคาขวดละ 55 บาทค่ะ)
การจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆค่ะ
เริ่มจากส่วนเก็บจานชามสำหรับใช้บนโต๊ะอาหาร
ลิ้นชักใส่อะไรบ้างเพื่อให้หยิบใช้ได้ง่ายค่ะ
ที่จัดระเบียบช้อมส้อมแบบนี้ สามารถหาซื้อได้ที่ Ikea ค่ะ มีหลายแบบตามความต้องการของลูกค้าทุกคนเลยค่ะ
ตู้บานเปิดด้านล่างค่ะ ออกแบบให้เปิดได้สองฝั่ง เพื่อประโยชน์ใช้สอยทั้งตู้บนและล่างนะคะ
เปิดจากฝั่งด้านนอกครัว(ติดกับห้องอาหาร)เป็นแบบนี้ค่ะ
และเปิดจากฝั่งในครัวแบบนี้ค่ะ
ในถังพลาสติกใส่อุปกรณ์เล็กๆ เพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ (หาซื้อได้ที่ Daiso หรือ index ราคาไม่เกิน 60 บาทค่ะ)
มาดูตู้อื่นๆในครัวค่ะ ไล่จากตู้แขวนผนังจากซ้ายไปขวาค่ะ
ลิ้นชักครัวจากซ้ายไปขวาค่ะ
มุมล้างจานค่ะ
เทคนิคสำหรับ แม่บ้านยุคใหม่
นำพลาสติกสำรองไว้ก้นตระกร้า จะเป้นถุงรีไซเคิลหรือถุงใหม่ก็แล้วแต่สะดวกค่ะ
ช่วยประหยัดเวลา และปัญหาในการลืมหยิบถุงใหม่มาเปลี่ยนค่ะ
เพิ่มไอเดียสำหรับ tag แก้วน้ำ ไม่ใช้หยิบผิดกันค่ะ (ปุ้มซื้อมากจากพารากอนของ Qualy ค่ะ)
ขอมาต่อพรุ่งนี้นะคะ
้how to organize my home . . . . .วิธีการเก็บของแบบเทพๆ . . . มาเก็บบ้านให้สวยน่าอยู่กันเถอะค่ะ
. . . การจัดของในบ้านให้เป็นระเบียบและสวยงาม เน้นอุปกรณ์ การตกแต่งบ้านที่สามารถใช้งานได้จริงด้วยค่ะ
หลักการจัดบ้านให้ดูไม่รก คือ พยายามคุมโทนสีของใช้ในบ้านให้เป็นโทนสีเดียวกัน (อาจจะแบ่งเป็นห้องนึง สีนึงก็ได้ค่ะ)
เนื่องจากเจ้าของกระทู้ ถูกโฉลกกับสี ครีม ดังนั้นจึงแต่งบ้านด้วยสีนี้ พอเรามีสีในใจแล้ว เวลาเราเลือกซื้อของเข้าบ้าน เราก็จะเลือกสีที่เข้ากับบ้านเราไว้อันดับหนึ่งค่ะ
กระทู้นี้จะยังไม่พูดถึงสไตล์การแต่งบ้านนะคะ เพราะต้องรวบรวมข้อมูลเรื่องการเลือกซื้อวัสดุ สถาปนิก และผู้รับเหมาอย่างละเอียดค่ะ แต่บอกไว้คร่าวๆว่า แต่งแบบ Shabby chic ค่ะ ที่เลือกแบบนี้เพราะเป็นบรรยากาศที่คุ้นเคยจากบ้านเก่าสมัยยังอยู่สก๊อตแลนด์ค่ะ อยากเก็บความรู้สึกดีๆที่เริ่มต้นสร้างครอบครัวไว้ ก็เลยนำมากลับมาใช้ที่ไทยด้วย การจัดเก็บของจึงใช้การประยุกต์ทั้งไทยและเทศ (เลือกเอาสิ่งดีๆของเค้ามาใช้ให้เค้ากับบ้านเมืองเราค่ะ)
ขอเริ่มเป็นห้องๆจากส่วนโถ่งรับแขกหน้าบ้าน (จำลองแบบมากจาก conservatory ค่ะ)
สังเกตุว่าพื้นที่ใต้โซฟา เรายังใช้เก็บของได้ แนะนำกล่องเก็บของพลาสติก ที่ใช้เก็บของใต้เตียง หาซื้อได้ตาม HomePro หรือ IKEA ค่ะ
ปุ้มมักจะพับรถเข็นยูกิเก็บไว้ใต้โซฟานี้ค่ะ
และตรงนี้คือตู้ใส่รองเท้าค่ะ ซื้อมาจากงาน บ้านและสวน ร้าน Parawood Design นอกจากรูปทรงจะถูกใจแล้วราคายังน่ารักด้วยค่ะ
จะแบ่งตู้ซ้ายเป็นรองเท้าของคุณลูก และขวาเป็นของคุณพ่อค่ะ วางไว้หน้าบ้านเพราะอยากให้ระบายอากาศ ไม่อับชื้นค่ะ
ส่วนรองเท้าแม่ แยกเก็บในตู้ด้านใน เพราะส่วนใหญ่เป็นส้นสูงที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ก็เลยเก็บไว้ในที่ที่เย็นๆหน่อยค่ะ
รองเท้าจัดแบบนี้เพราะจะได้สะดวกตอนจะเลือกใช้ค่ะ ส่วนใหญ่จะเร่งรีบออกจากบ้าน เวลาเลือกหยิบรองเท้า ต้องใช้เวลาน้อยที่สุดค่ะ อีกอย่างนึงคือเวลาเปิดตู้มาเห็นรองเท้าทั้งหมด เป็นการย้ำเตือนว่าเรามีคู่ไหน สีอะไร แบบไหนบ้าง จะได้ไม่ไปซื้อมาอีกค่ะ (สาวๆคงจะเข้าใจ)
เท้าความไปยังสมัยอยู่บ้านเก่า แม่ปุ้มก็จะฝึกฝนยูกิให้รู้จักเก็บรองเท้าตัวเองทุกครั้งที่เข้าบ้าน เพราะบ้านเราไม่มีแม่บ้าน ทุกคนต้องช่วยกันเก็บของคนละไม้คนละมือค่ะ ในภาพข้างล่างนี้เป็นการเก็บรองเท้าฝีมือยูกิเองค่ะ
ไอเดียวางหนังสืออ่านเล่นที่หยิบอ่านบ่อยๆค่ะ
ห้องต่อมาคือ Living room
ตู้กระจกเงาด้านข้างโซฟา(ด้านซ้าย) เอาไว้เก็บของใช้ที่ไม่ค่อยได้หยิบใช้บ่อยๆ เช่น อัลบั๊มรูป กระดาษ หนังสือ เอกสารที่ไม่ค่อยได้หยิบมาอ่านค่ะ เป็นต้น
ด้านหลังโซฟา เอาไว้วางของประดับ แต่บางอย่างก็ใช้ได้จริง แต่นานๆหยิบมาใช้ทีนึงค่ะ
ตู้กระจกด้านขวาเอาไว้เก็บถ้วยกาแฟ ชุดน้ำชา เอาไว้ให้แขกมาเลือกหยิบแบบที่แขกชอบมาใช้ (สำหรับบริการตัวเองค่ะ)
ใต้โซฟา สามารถซ่อนตระกร้าเก็บของจุกจิกได้ด้วยค่ะ
ใต้โต๊ะกาแฟ ยังสามารถซ่อมของเล่นหรือ เบาะรองนั่ง สำหรับนั่งพื้นได้ด้วยนะคะ
ปุ้มดัดแปลงตระกร้ามาจากตระกร้านอนสมัยยูกิยังเป็นแบเบาะค่ะ ตระกร้าแบบนี้ฝรั่งจะนิยมใช้เป็นเตียงเลี้ยงเด็ก วางบนขาโยกเรียกว่า Moses Baskets & Stands (คล้ายการไกวเปลในบ้านเราค่ะ) สำหรับเมืองไทยหาซื้อตระกร้าได้ที่ร้านข้างถนนตรงข้าม JJ mall ค่ะ (จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ)
มุมรับประทานอาหาร หรือ dining room จะอยู่ในโถงห้องรับแขกด้วยค่ะ เพราะอยากให้แชร์ทีวีร่วมกัน (ซึ่งปกติจะเปิดตอนแขกมาบ้านค่ะ)
จุดเด่นของตู้วางทีวีคือ มีลิ้นชักซ่อนเอาไว้เก็บ เครื่องเล่นดีวีดีและซ่อนปลั๊กให้ดูเป็นระเบียบค่ะ
เสนอไอเดียตรงมุมรับประทานอาหาร เก็บพวกขนม อาหารว่างให้น่ารักๆ แบบนี้ค่ะ (หาซื้อได้ตามตลาดนัดสวนจตุจักร)
และพวกเครื่องปรุงที่ใช้บนโต๊อาหารก็เก็บไว้บน console table ด้านหลัง (หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปของ Qualy)
นำเสนอจานชามน่ารักๆ เลือกสีและสไตล์เดียวกัน (แม่ปุ้มซื้อมาจาก JJ Mall ในราคาชิ้นละ 40-80 บาทค่ะ)
นานๆจะได้จัดชุดจานชามรับแขกเต็มๆแบบนี้ค่ะ แต่ธรรมเนียมฝรั่งเค้ามักจะทำกับบ่อยๆนะคะ
ใครสนใจวิธีแบบจริงจังลองหาดูคลิปค่ะ
ถัดมาคือห้องครัว ห้องเตรียมอาหาร หรือ Kitchen & pantry ค่ะ
มุมชงกาแฟ
มุมทำอาหาร
มุมเก็บเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหารค่ะ (ขวดแก้วซือมาจากร้านขายเครื่องแก้ว ฝั่งตรงข้าม JJ Mall ราคาขวดละ 55 บาทค่ะ)
การจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆค่ะ
เริ่มจากส่วนเก็บจานชามสำหรับใช้บนโต๊ะอาหาร
ลิ้นชักใส่อะไรบ้างเพื่อให้หยิบใช้ได้ง่ายค่ะ
ที่จัดระเบียบช้อมส้อมแบบนี้ สามารถหาซื้อได้ที่ Ikea ค่ะ มีหลายแบบตามความต้องการของลูกค้าทุกคนเลยค่ะ
ตู้บานเปิดด้านล่างค่ะ ออกแบบให้เปิดได้สองฝั่ง เพื่อประโยชน์ใช้สอยทั้งตู้บนและล่างนะคะ
เปิดจากฝั่งด้านนอกครัว(ติดกับห้องอาหาร)เป็นแบบนี้ค่ะ
และเปิดจากฝั่งในครัวแบบนี้ค่ะ
ในถังพลาสติกใส่อุปกรณ์เล็กๆ เพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ (หาซื้อได้ที่ Daiso หรือ index ราคาไม่เกิน 60 บาทค่ะ)
มาดูตู้อื่นๆในครัวค่ะ ไล่จากตู้แขวนผนังจากซ้ายไปขวาค่ะ
ลิ้นชักครัวจากซ้ายไปขวาค่ะ
มุมล้างจานค่ะ
เทคนิคสำหรับ แม่บ้านยุคใหม่
นำพลาสติกสำรองไว้ก้นตระกร้า จะเป้นถุงรีไซเคิลหรือถุงใหม่ก็แล้วแต่สะดวกค่ะ
ช่วยประหยัดเวลา และปัญหาในการลืมหยิบถุงใหม่มาเปลี่ยนค่ะ
เพิ่มไอเดียสำหรับ tag แก้วน้ำ ไม่ใช้หยิบผิดกันค่ะ (ปุ้มซื้อมากจากพารากอนของ Qualy ค่ะ)
ขอมาต่อพรุ่งนี้นะคะ