7 ขั้นตอนช่วยชีวิตมือถือตกน้ำ มือถือน้ำเข้าเครื่องทำอย่างไรให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมมาดูกัน
ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันจะสามารถกะนน้ำได้ แต่มือถือส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถกันน้ำได้ และถ้าทำมือถือตกน้ำหรือเปียกน้ำก็มีโอกาสพังสูงมาก แต่อย่างไรก็ตามอย่างเพิ่งหมดหวัง เพราะยังมีวิธีที่อาจช่วยชีวิตมือถือจมน้ำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีก จากเว็บไซต์ gendesignstudio.com ทำอย่างไรเรามาดูกันเลย
1. รับเอาขึ้นจากน้ำทันที
บางคนอาจจะคิดว่าถ้ามือถือจมน้ำไปแล้วก็คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ยังไงก็ไม่รอดแน่ ๆ แต่แท้จริงแล้วหากรีบนำขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด ก็ยังอาจมีโอกาสรอดอยู่ เพราะถ้ายิ่งปล่อยไว้นานน้ำก็จะยิ่งเข้าเครื่องมากขึ้น
2. ปิดเครื่อง
ถึงแม้ว่ามือถือส่วนใหญ่เครื่องจะดับเมื่อมีน้ำเข้า แต่ถ้าหากเครื่องยังไม่ดับก็ให้ปิดเครื่องหรือถอดแบตเตอรี่ออกทันที เพื่อลดความเสียงจากไฟฟ้าลัดวงจร
3. ถอดแบตเตอรี่ (ถ้าทำได้)
ถ้าเป็นมือถือรุ่นที่ถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ เช่น iPhone ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ถอดแบตเตอรี่ได้ก็ควรถอดออกทันที เพื่อลดความเสียงจากไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทำให้ไฟลุกได้
4. ถอดซิม เมม และชิ้นส่วนอื่น ๆ ออกให้หมด
เปิดฝาของช่องต่าง ๆ ออกให้หมด ถอดซิม ถอดเมม แล้วนำเครื่องวางบนผ้านุ่ม ๆ
5. ใส่ลงในถุงสูญญากาศ
นำเครื่องใส่ในถุงสูญญาอาศแล้วดูดอากาศออกให้หมด น้ำที่อยู่ในเครื่องจะถูกดูดออกมาด้วย
6. ใส่ลงในข้าวสาร
ใส่ลงในข้าวสารทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน เนื่องจากข้าวสารสามารถช่วยดูดซับความชิ้นออกจากเครื่องได้ หรือจะใช้วัตถุกันความชื้นแทนก็ได้เช่นกัน
7. ลองเปิดเครื่องเช็กเครื่องดู
ควรใส่ในข้าวสารไม่ต่ำกว่า 2 วัน อย่าใจร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำในเครื่องแห้งหมดแล้ว ไม่งั้นเมื่อเปิดเครื่องมาอาจช็อตได้
ที่มา : Gen Design Studio
http://www.gendesignstudio.com/2016/blog/blog_detail.php?blog_id=32
7 ขั้นตอนช่วยชีวิตมือถือตกน้ำ ให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม
ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันจะสามารถกะนน้ำได้ แต่มือถือส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถกันน้ำได้ และถ้าทำมือถือตกน้ำหรือเปียกน้ำก็มีโอกาสพังสูงมาก แต่อย่างไรก็ตามอย่างเพิ่งหมดหวัง เพราะยังมีวิธีที่อาจช่วยชีวิตมือถือจมน้ำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีก จากเว็บไซต์ gendesignstudio.com ทำอย่างไรเรามาดูกันเลย
1. รับเอาขึ้นจากน้ำทันที
บางคนอาจจะคิดว่าถ้ามือถือจมน้ำไปแล้วก็คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ยังไงก็ไม่รอดแน่ ๆ แต่แท้จริงแล้วหากรีบนำขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด ก็ยังอาจมีโอกาสรอดอยู่ เพราะถ้ายิ่งปล่อยไว้นานน้ำก็จะยิ่งเข้าเครื่องมากขึ้น
2. ปิดเครื่อง
ถึงแม้ว่ามือถือส่วนใหญ่เครื่องจะดับเมื่อมีน้ำเข้า แต่ถ้าหากเครื่องยังไม่ดับก็ให้ปิดเครื่องหรือถอดแบตเตอรี่ออกทันที เพื่อลดความเสียงจากไฟฟ้าลัดวงจร
3. ถอดแบตเตอรี่ (ถ้าทำได้)
ถ้าเป็นมือถือรุ่นที่ถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ เช่น iPhone ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ถอดแบตเตอรี่ได้ก็ควรถอดออกทันที เพื่อลดความเสียงจากไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทำให้ไฟลุกได้
4. ถอดซิม เมม และชิ้นส่วนอื่น ๆ ออกให้หมด
เปิดฝาของช่องต่าง ๆ ออกให้หมด ถอดซิม ถอดเมม แล้วนำเครื่องวางบนผ้านุ่ม ๆ
5. ใส่ลงในถุงสูญญากาศ
นำเครื่องใส่ในถุงสูญญาอาศแล้วดูดอากาศออกให้หมด น้ำที่อยู่ในเครื่องจะถูกดูดออกมาด้วย
6. ใส่ลงในข้าวสาร
ใส่ลงในข้าวสารทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน เนื่องจากข้าวสารสามารถช่วยดูดซับความชิ้นออกจากเครื่องได้ หรือจะใช้วัตถุกันความชื้นแทนก็ได้เช่นกัน
7. ลองเปิดเครื่องเช็กเครื่องดู
ควรใส่ในข้าวสารไม่ต่ำกว่า 2 วัน อย่าใจร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำในเครื่องแห้งหมดแล้ว ไม่งั้นเมื่อเปิดเครื่องมาอาจช็อตได้
ที่มา : Gen Design Studio
http://www.gendesignstudio.com/2016/blog/blog_detail.php?blog_id=32