ถามไปสิบประโยคตอบแค่ประโยคเดียวนั้นคือเขาไม่อยากสนทนาด้วย(อาจมีเหตุผลที่ดีหรือไร้เหตุผลก็ได้)
หรืออีกอย่างคือ เขาไม่ได้เรียกว่าโลกส่วนตัวสูง เขาเรียกมนุษย์สัมพันธ์ต่ำ

แต่หากไม่ได้เป็นคนรู้จักหรือเกี่ยวดองอะไรกัน
เช่นไปจีบสาวแล้วโดนทำแบบนี้ใส่ คือเขาไม่ว่างสนทนา เขาไม่อยากคุย (ไม่ใช่ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์)
เพียงแค่เขาไม่ต้องการเพื่อนใหม่

เช่นไปทักไปคุยกับคนแปลกหน้าแบบว่าต้องการจะรู้จักหรืออยากเป็นเพื่อนกันแต่ถูกทำแบบนี้ใส่ #ก็เช่นกัน

โลกส่วนตัวสูง ก็อีกเรื่อง.....
คนโลกส่วนตัว คือทุกอย่างรอบตัวอยู่ในลำดับความสำคัญที่ตำกว่า
ลำดับที่สอง  คือมีลำดับแรก แต่เว้น 2 3 4 ไป
แล้วก็ไปมีลำดับความสำคัญระดับที่ไม่จำเป็นต้องสนใจมาก

สิ่งที่อยู่ในลำดับความสำคัญแรกคืออะไรหละ?  
คือโลกของเขานั่นเอง โดยนัยคือ(งานอดิเรก ความชอบ กิจกรรม หรืออาชีพ)
คนบ้างาน ก็ถูกเรียกว่าโลกส่วนตัวได้เหมือนกัน
โลกที่หมายถึงนั่น จะมีคนในแวดวงนั่นอยู๋ในโลกของเขาด้วยก็ได้

เช่นผู้หญิงติดบ้าน เรียกว่าโลกส่วนตัวได้ คือชอบอยู่กับบ้านข้องเกี่ยวแต่กับคนที่รู้จักพ่อแม่ญาติพี่น้อง
เพราะสนใจที่จะทำกิจกรรม(นอน)555+ อยู่บ้านสนใจครอบครัวเป็นอันดับแรก
สนใจผู้คนที่รู้จักที่จำเป็นกับการอยู๋บ้าน หรือกิจกรรมนั่นๆได้ ก็ใช้ได้เช่นกัน

คนเงียบๆ ก็อีกเรื่อง
ไม่ค่อยพูด ในหนึ่งวันไม่พูดซักประโยค แม้กระทั่งตอนอยู่คนเดียวก็ไม่ได้พูดกับตัวเอง (มีคนแบบนี้จริงๆและไม่ได้เป็นบุคลิคที่แปลก)
ทางจิตวิทยาแล้ว คนเหล่านี้มักใช้เวลาไปกับการมองและคิด และมักเข้าใจชีวิตและมีสติและสมาธิกับการทำกิจกรรม อยู่ตลอดเวลา
อะไรที่ออกมาจากปากคนพวกนี้ส่วนมากจะผ่านการคิดมาแล้วถึงแม้จะเป็นถ้อยคำที่ไม่น่าฟังก็ตาม
หมายถึงคิดมากกว่าคนทั่วไป มีการไตร่ตรองที่มากกว่า การเลือกใช้คำที่มากกว่า

สรุปก็คือเงียบ แต่พูดเมื่อมันเกิดประโยชน์เท่านั้น ไม่พร่ำเพรื่อไม่ชอบพดไร้สาระ
อะไรที่คิดแล้วว่าไม่มีแก่นสารพูดแล้ว
อารมณ์ไม่ดีขึ้น
พูดแล้วไม่ได้ความรู้
พูดแล้วไม่ได้ผ่อนคลาย
พูดแล้วคนไม่ยิ้ม
พูดแล้วคนไม่หัวเราะ
อะไรก็ตามพูดแล้วแล้วจบไปไร้ค่า เขาจะไม่พูด

สรุปคือทุกอย่างผ่านการไตร่ตรองมาก่อนแล้วนั่นเอง

อย่าเอาบุคลิคพวกนี้มาวางรวมกันเพราะต่างกันสิ้นเชิง
ในต่างประเทศเรื่องอุปนิสัยพวกนี้แบ่งแยกและมีชื่อเรียกเยอะมากและไม่ใช่อาการที่ส่อไปในทางที่ไม่ดี
เพราะเขาเห็นความสำคัญเรื่องจิตวิทยามากกว่าบ้านเรา

คนเงียบในทาง หยิ่งยโส นั่นก็อีกเรื่องนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มักมองผู้สนทนาในทางที่ต่ำกว่า
-ฉันจะคุยกับคุณก็ต่อเมื่อฉันต้องการจะคุย
-หากตอนนั้นฉันไม่ต้องการคุย แต่คุณอยากคุยฉันก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ
-ฉันสวยผูชายเข้าหาวันละหลายคน จะคุยกับใครก็ได้ ต้องผู้ชายหล่อเนี๊ยบเท่านั้นคุณอย่ายุ่งให้มาก
-ฉันหน้าตาดี คุณไม่หล่อฉันคุยเพราะฉันว่าง ตอบตอบมารยาท ไม่ได้อยากสนทนากับคุณขนาดนั้น

นี่คือลักษณะนึง ไม่ได้เจอแค่ผู้หญิงสวย แต่พบในเลสเบี้ยนเช่นกัน เพราะเขาก็ถูกตอมกับจากผู้ชายเหมือนกัน
มักจะมองว่าคนที่เข้ามาหวังแค่ร่างกาย เพราะในหัวสนใจแค่ว่าตัวเองสวย คนก็เลยอยากได้ครอบครองเพราะตัวเองไม่มีอะไรดี
ไม่เห็นคุณค่า ก็เลยต้องยกปมเด่น ที่คิดว่าเหนือกว่าออกมาข่มใจตัวเอง ฉันสวยคนเข้ามาเพราะฉันสวย คนนั้นคนนี้ไม่สวยกว่าฉันเลย

นี่คือ หยิ่งหยิ่งไม่ใช่กริยาที่แสดงออก แต่เป็นกริยา ที่อยู่ภายในตัวเอง