
ติดตามเรื่องราวตอนที่แล้วได้จาก
ตอน1: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-I ตอนดีเลย์เดลี
http://ppantip.com/topic/35118550
ตอน2: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-II ตอนกฏแห่งแรงดึงดูดที่ปันกอง
http://ppantip.com/topic/35123718
ตอน3: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-III ตอนไปนูบราแบบแมนๆ Royal Enfield
http://ppantip.com/topic/35127049
ตอน4: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-IV ตอน In Love In Leh
http://ppantip.com/topic/35130597
ตอน5: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-V ตอน เส้นทางสู่ Zanskar หุบเขาแห่งสวรรค์
http://ppantip.com/topic/35139076
ตอน6: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-VI ตอน เมืองแห่ง Zanskar, Rungdum-Padum
http://ppantip.com/topic/35151837
อำลาเมืองแห่งสงคราม Kargil
เมื่อคืนเรากลับมานอนที่ Kargil ที่ Zojila Residence อยู่ริม Suru River หรือแม่น้ำดำ ที่เราเรียกกันเองเพราะน้ำออกเป็นสีดำ เป็นโรงแรมที่เราหากันเอง ไม่นอนโรงแรมเดิมในวันที่มาเพราะไม่มีแอร์และเสียงพัดลมดังมากกก ปรากฎว่าโรงแรมนี้ดีกว่ามากแถมต่อรองราคาได้อีกด้วย ใช้มุขเดิมคือมีงบอยู่ 1500 รูปีต่อห้อง เลยได้ห้องนอน 2 ห้องที่ connect กันได้ เดียงนุ่มหลับสบาย เพียงแต่ไม่มีอาหารเช้าให้
Zojila Residence Hotel
วันนี้เรามาถึง Kargil ช่วงบ่ายเลยได้เห็นเมืองตอนยังไม่มืด ความกลัวในวันมาจากบรรยากาศมืดๆ และมีผู้ชายชาวมุสลิมเดินเต็มถนนจึงเบาลงและหมดไป พบว่าคนขายของตามร้านอาหารน่ารัก และใส่ใจเมื่อเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว
สาวมุสลิมในคาร์กิล
บรรยากาศในคาร์กิล
คืนนี้อาลีมาหาเราที่โรงแรมและบอกว่าสนุกตอนขับรถให้พวกเรา (อาลีถามเรายัง ว่าเราสนุกป่าวอ่ะ?..555) แต่เราบอกอาลีว่าเราเหมารถยาวคงต้องใช้รถที่เหมามาจาก เลห์ ต่อไปจนถึงศรีนาคา แล้วเราก็ร่ำลากับอาลีพร้อมขอบคุณที่ไปผจญเส้นทางทรหดด้วยรถกระป๋อกับเรา....(เฮ้อ..) จริงๆแล้วเค้าน่ารักมากค่ะ ไม่หงุดหงิดหรือแสดงอาการไม่ดีเลย เป็นทั้งล่าม ทั้งคนถ่ายรูปหมู่ให้... “อาลี แห่งปารีส-ดักการ์”
“อาลี แห่งปารีส-ดักการ์”
อำลา Kargil เมืองแห่งสงครามดินแดนกับปากีสถานในอดีต ..ขอสันติภาพ จงมีต่อมนุษย์ที่แบ่งปันตลอดไป..
เช้าวันนี้เราเลยได้กลับมาเป็นคุณหนูเหมือนเดิมด้วยรถ SUV แบบก้นไม่ระบม แถมทางจากนี้ไปถึง ศรีนาการ์ 90% ก็เป็นเส้นทางดี
เส้นทาง Kargil-Sonamarg-Srinagar
เส้นทางสู่ Sonamarg ทุ่งหญ้าแห่งทองคำ
จาก Kargil ไป Sonamarg เป็นระยะทาง 123 กิโล บนสาย NH1D เป็นเส้นทางหลักไปจนถึง Srinagar เส้นทางค่อนข้างดี ผ่านเมือง Drass และ Baltal
หมู๋บ้าน Drass บ้านจะมีสีสรรฉูดฉาด ระหว่างทางไป Sonamarg
ชนเผ่านอแมด ที่พักพบได้ระหว่างทางมีทั้งเป็นเต้นท์ ส่วนที่รังดุมเป็นก้อนหินนำมาทำเป็นที่พักชั่วคราว
ก่อนถึง Sonamarg จะเห็นวิวหุบเขาของป่าสนและมีลำธารไหลผ่าน หน้าหนาวมีหิมะปกคลุมคงจะสวยงามมาก
วิวเส้นทางก่อนถึง Sonamarg เป็นป่าสนระหว่างหุบเขามีลำธาร
Sonamarg หรือแปลว่า“ทุ่งหญ้าแห่งทองคำ”มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะตัดกับท้องฟ้าสีเข้ม เป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมในเขต Ganderbal district ของแคว้น Jammu and Kashmir
Sonamarg ถิอเป็นจุดประดูของเส้นทางสายไหมโบราณเชื่อมต่อ Gilgit กับ Kashmir สู่จีนและประเทศติดทะเลอื่นๆ
Zojila pass 15 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเป็นจุดที่สูงที่สุดของเส้นขนส่งที่ยังคงเป็นแคมป์ตั้งอยู่บนเส้น NH1D ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกองทัพอินเดียในการรักษาความมั่นคงของพื้นทีใน Kashmir
ส่วนใหญ่เป็นหุบเขาป่าสน Sonamarg ตั้งอยู่บนฝั่งของ Nallah Sindh ซึ่งเป็นสาขาของ Jehlum River จากหุบเขาของ Kashmir ห่างจาก Srinagar ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 87 กิโลเมตร ความสูงที่ 2800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมในการเล่นสกีฤดูหนาวของนักท่องเที่ยว
แต่เนื่องจากในฤดูหนาวจะมีหิมะตกอย่างหนักจึงไม่ค่อยมีประชากรที่อยู่จริง โดยในปี 2011 มีประชากรที่อยู่ถาวรใน Sonamarg เพียง 382 คนไม่รวมนักท่องเที่ยวและผู้ที่มีทำงานรองรับตามฤดูกาล

Sonamarg จะเปิดเป็นฤดูท่องเที่ยวในปลายเดือนเมษายน ซึ่งยังคงมีหิมะปกคลุม สามารถจะเช่าม้าเพื่อขี่เข้าไปชม Thajiwas glacier
การเข้าชมสถานที่จะคิดค่าเข้าคนละ 50 รูปี ค่ากล้องถ่ายรูป 200 รูปี และค่ารถเหมาเข้าไป 1000 รูปี ม้าที่ขี่เข้ากลาเซียร์ 300 รูปีต่อคน
ถึงจุดหมายที่ Sonamarg ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อถึงจุดหมายแต่ละที่คือหาที่พัก เพราะที่จองมาได้ยกเลิกไปหมดแล้วเกือบทุกที่ ที่ Sonamarg มีที่พักมากพอควรเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ราคาก็สูงตามแต่ก็ไม่พ้นความสามารถในการต่อรองเหลือห้องละ 1500 รูปีหรือ 750 บาท Hotel Sunshine ริมแม่น้ำ Sindh River วิวอลัง.. ส่วนมากถ้าต่อรองแล้วเค้าให้ราคาตามนั้นเค้าถือว่าเป็นการตกลงกันแล้ว ให้จ่ายเงินเข้าเลย..ห้ามต่อเล่นๆค่ะ..555
Hotel Sunshine ริมแม่น้ำ Sindh River เรานอนห้องด้านหน้าชั้นบนและชั้นล่างค่ะ
อย่างค่าเหมารถเข้าไปดู Thajiwas glacier ตอนแรกบอกราคามา 2000 รูปี ก็เหลือ 1000 รูปี โดยระยะทางประมาณ 5 กิโลเท่านั้น พอเข้าไปถึง อยู่ที่ว่าจะเดินหรือเช่าม้าขี่ ที่เห็นส่วนมากก็เช่าขี่ค่ะ เพราะ 2-3 กิโลแม้วค่ะ คือเดินขึ้น-ลง
ราคา 1000 รูปี เป็นราคาที่รวมค่าเข้าอีกคนละ 50 รูปี แต่ตอนไปถึงด่านเก็บเงิน คนขับรถบอกให้เราออกเองอีก เราไม่ยอมเพราะได้ตกลงกันแล้ว...แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจ่ายเองอีก 150 รูปีเป็นค่าเข้าของ 3 คน
ทุ่งหญ้าทองคำ หน้าโรงแรม Hotel Sunshine
วันนี้ฟ้าไม่ค่อยใสมีเมฆมาก เลยไม่ได้รูปสวยสมใจ ที่ Sonamarg เป็นที่นิยมของคนอินเดียมาเที่ยวแทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยนอกจากกลุ่มเรา อีกอย่างน่าจะเป็นเพราะนี่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว เดือนที่นิยมจะเป็นเมษายนที่ยังมีหิมะปกคลุมและยังไม่หนาวมาก
เราขี่ม้าไปที่ Thajiwas Glacier อีกประมาณ 2 กิโลเมตร ม้า 3 ตัวคนจูง 2 คนเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆอายุประมาณ 10 ขวบ 1 คน ค่าขี่ม้าที่ 300 รูปี เด็กชายอินเดียขยันขันแข็งในการทำงานดีมาก ตอนถึงจุดกลาเซียร์เลยซื้อขนมห่อเลี้ยง
ขี่ม้าเข้าไปอีก 2 กิโลเมตรเพื่อไปถึง Thajiwas Glacier
จริงๆที่จุด Thajiwas glacier ต้องเดินเท้าไปอีกหลายร้อยเมตรจะมี กระดานเลื่อนให้เช่าเล่นแต่เราไม่ได้เข้าไปกันเพราะมาเพือถ่ายรูปแต่ฟ้าก็ไม่เป็นใจวันนี้
เด็กน้อยที่จูงม้าให้พงศ์
ขี่ม้าชมเมือง เอ๊ยชมกลาเซียร์
ถึงจุดสุดท้ายที่ม้าไปได้ จะมีเต้นท์ขายชาและขนม
เรากลับมากินอาหารที่พักพร้อมทำข้าวผัด ไข่เจียวในครัวของโรงแรม และใช้เวลาพักผ่อนนอนชมวิวจากหน้าต่างห้อง พรุ่งนี้เราจะเดินทางต่อไปที่ Srinagar ...ใกล้ถึงจุดหมายสุดท้ายใน Kashmir แล้ว
วิวจากหน้าต่างห้องพัก
การเดินทางไปได้สะดวกโดยจากสนาม Srinagar (SXR) เมืองหลวงของ Kashmir มีรถทัวร์วิ่งมาตามเส้นทาง NH1D เส้นทางนี้จะปิดในช่วงธันวาคม โดยจะมีเฉพาะทหารที่อยู่ในค่ายประจำการในหน้าหนาว
หลังจากสงครามคาร์กิลจบลงทำให้มีทหารปลดประจำการจำนวนมาก รัฐบาลจึงมีโครงการที่จะขุดอุโมงค์ความยาว 6 กิโลเมตรที่ Gagangear และ 14 กิโลเมตรที่ Zojila เพื่อให้เส้นทางนี้สามารถเปิดใช้ได้ตลอดทั้งปี ไปจนถึงเลห์
จาก 22 วัน นี่ล่วงมาเกินครึ่งเป็นวันที่ 18 เราเหลือเวลาอยู่ในอินเดียเหนืออีกไม่กี่วัน นึกถึงวันที่ผ่านมาผ่านเส้นทางสูงที่สุด ป่วยด้วยโรค Attitude sickness ต้องหาทางไปเลห์จากเดลีด้วยรถแทนนั่งเครื่องบิน ซึ่งใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ต้องติดค้างในเลห์เพราะปัญหาของสหกรณ์แทกซี่ประท้วง ตอนนี้เราอยู่ในระดับความสูงที่ 2730 เมตร และจะต่ำลงเรื่อยๆเมื่อไปถึง Srinagar”””เราเริ่มคิดถึงความสูงแล้วสิ.....555
ณ ตอนนี้แต่ละคนได้ทบทวนชีวิตตัวเองที่ผ่านมา และ ชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป เราควรออกแบบชีวิตเราอย่างไร และทำอย่างไรเพื่อให้เป็นจริง..ไม่มีอะไรง่าย แต่ก็คงไม่มีอะไรยากเกินไปขอให้เราตั้งใจทำมันด้วยความคิดที่ดี...นี่เราให้กำลังใจตัวเองเต็มที่..555
Srinagar เมืองแห่งทะเลสาป Dal Lake
เช้านี้เราใช้เวลาอ้อยอิ่ง กว่าจะออกเกือบ 10-11 โมง จากที่นี่ไป Srinagar เหลือระยะทางแค่ 80 กิโลเมตร และเส้นทางเป็นสภาพดีสลับกับหินบางช่วง
เส้นทางสู่ Srinagar
Srinagar เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงในฤดูร้อนของแคว้น Jammu Kashmir มีแม่น้ำเฌลัม Jhelum River ซึ่งเป็นสาขาจากแม่น้ำสินธุหรือ Indus ผ่านกลางเมืองและลงสู่ Dal Lake นอกจาก ดาลเลคยังมีทะเลสาปอื่นอีก Nigeen, Anchar, Khushal Sar, Gil Sar และ Hokersar ศรีนาการ์ยังถูกเรียกเป็น เวนิสตะวันออก หรือ แคชเมียร์เวนิส
Wular Lake ที่อยู่ทางเหนือของ ศรีนาการ์ถือเป็นทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ตอนเข้าสู่เขตศรีนาการ์เราพบว่ามีทหารถืออาวุธตามจุดต่างๆ จึงเก็บกล้องลงไม่ค่อยได้ถ่ายมากจนเข้าสู่เขต Dal Lake และเริ่มต้นหาที่พักที่เป็น boat house คือบ้านที่ลอยอยู่ในน้ำ

คนขับรถพาเราหยุดตามท่าที่จะมีหลาย gate ให้เลือก ที่ท่าจะมีป้ายบอกราคาที่พักตามเกรด A,B,C ซึ่งแบ่งตามขนาดและ option ว่ารวมอาหารหรือไม่ การ walk-in เลยไม่ต้องกลัวโก่งราคาเพราะรัฐท้องถิ่นได้กำหนดราคามาตรฐานไว้แล้ว...
แต่อย่างเราก็ต่อรองตามปกติ 555 จริงๆ ราคามาตรฐานนั้นยังสามารถต่อรองได้อีกค่ะ
ที่ท่า Ghat No.17 คิดค่าเรือเพื่อข้ามไปดูที่พัก 100 รูปี
[CR] 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-VII ตอน ไปขี่ม้าที่ Sonamarg, นั่งเรือชม Dal Lake
ติดตามเรื่องราวตอนที่แล้วได้จาก
ตอน1: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-I ตอนดีเลย์เดลี http://ppantip.com/topic/35118550
ตอน2: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-II ตอนกฏแห่งแรงดึงดูดที่ปันกอง http://ppantip.com/topic/35123718
ตอน3: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-III ตอนไปนูบราแบบแมนๆ Royal Enfield http://ppantip.com/topic/35127049
ตอน4: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-IV ตอน In Love In Leh http://ppantip.com/topic/35130597
ตอน5: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-V ตอน เส้นทางสู่ Zanskar หุบเขาแห่งสวรรค์ http://ppantip.com/topic/35139076
ตอน6: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-VI ตอน เมืองแห่ง Zanskar, Rungdum-Padum http://ppantip.com/topic/35151837
อำลาเมืองแห่งสงคราม Kargil
เมื่อคืนเรากลับมานอนที่ Kargil ที่ Zojila Residence อยู่ริม Suru River หรือแม่น้ำดำ ที่เราเรียกกันเองเพราะน้ำออกเป็นสีดำ เป็นโรงแรมที่เราหากันเอง ไม่นอนโรงแรมเดิมในวันที่มาเพราะไม่มีแอร์และเสียงพัดลมดังมากกก ปรากฎว่าโรงแรมนี้ดีกว่ามากแถมต่อรองราคาได้อีกด้วย ใช้มุขเดิมคือมีงบอยู่ 1500 รูปีต่อห้อง เลยได้ห้องนอน 2 ห้องที่ connect กันได้ เดียงนุ่มหลับสบาย เพียงแต่ไม่มีอาหารเช้าให้
วันนี้เรามาถึง Kargil ช่วงบ่ายเลยได้เห็นเมืองตอนยังไม่มืด ความกลัวในวันมาจากบรรยากาศมืดๆ และมีผู้ชายชาวมุสลิมเดินเต็มถนนจึงเบาลงและหมดไป พบว่าคนขายของตามร้านอาหารน่ารัก และใส่ใจเมื่อเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว
คืนนี้อาลีมาหาเราที่โรงแรมและบอกว่าสนุกตอนขับรถให้พวกเรา (อาลีถามเรายัง ว่าเราสนุกป่าวอ่ะ?..555) แต่เราบอกอาลีว่าเราเหมารถยาวคงต้องใช้รถที่เหมามาจาก เลห์ ต่อไปจนถึงศรีนาคา แล้วเราก็ร่ำลากับอาลีพร้อมขอบคุณที่ไปผจญเส้นทางทรหดด้วยรถกระป๋อกับเรา....(เฮ้อ..) จริงๆแล้วเค้าน่ารักมากค่ะ ไม่หงุดหงิดหรือแสดงอาการไม่ดีเลย เป็นทั้งล่าม ทั้งคนถ่ายรูปหมู่ให้... “อาลี แห่งปารีส-ดักการ์”
อำลา Kargil เมืองแห่งสงครามดินแดนกับปากีสถานในอดีต ..ขอสันติภาพ จงมีต่อมนุษย์ที่แบ่งปันตลอดไป..
เช้าวันนี้เราเลยได้กลับมาเป็นคุณหนูเหมือนเดิมด้วยรถ SUV แบบก้นไม่ระบม แถมทางจากนี้ไปถึง ศรีนาการ์ 90% ก็เป็นเส้นทางดี
เส้นทางสู่ Sonamarg ทุ่งหญ้าแห่งทองคำ
จาก Kargil ไป Sonamarg เป็นระยะทาง 123 กิโล บนสาย NH1D เป็นเส้นทางหลักไปจนถึง Srinagar เส้นทางค่อนข้างดี ผ่านเมือง Drass และ Baltal
ก่อนถึง Sonamarg จะเห็นวิวหุบเขาของป่าสนและมีลำธารไหลผ่าน หน้าหนาวมีหิมะปกคลุมคงจะสวยงามมาก
Sonamarg หรือแปลว่า“ทุ่งหญ้าแห่งทองคำ”มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะตัดกับท้องฟ้าสีเข้ม เป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมในเขต Ganderbal district ของแคว้น Jammu and Kashmir
Sonamarg ถิอเป็นจุดประดูของเส้นทางสายไหมโบราณเชื่อมต่อ Gilgit กับ Kashmir สู่จีนและประเทศติดทะเลอื่นๆ
Zojila pass 15 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเป็นจุดที่สูงที่สุดของเส้นขนส่งที่ยังคงเป็นแคมป์ตั้งอยู่บนเส้น NH1D ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกองทัพอินเดียในการรักษาความมั่นคงของพื้นทีใน Kashmir
ส่วนใหญ่เป็นหุบเขาป่าสน Sonamarg ตั้งอยู่บนฝั่งของ Nallah Sindh ซึ่งเป็นสาขาของ Jehlum River จากหุบเขาของ Kashmir ห่างจาก Srinagar ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 87 กิโลเมตร ความสูงที่ 2800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมในการเล่นสกีฤดูหนาวของนักท่องเที่ยว
แต่เนื่องจากในฤดูหนาวจะมีหิมะตกอย่างหนักจึงไม่ค่อยมีประชากรที่อยู่จริง โดยในปี 2011 มีประชากรที่อยู่ถาวรใน Sonamarg เพียง 382 คนไม่รวมนักท่องเที่ยวและผู้ที่มีทำงานรองรับตามฤดูกาล
Sonamarg จะเปิดเป็นฤดูท่องเที่ยวในปลายเดือนเมษายน ซึ่งยังคงมีหิมะปกคลุม สามารถจะเช่าม้าเพื่อขี่เข้าไปชม Thajiwas glacier
การเข้าชมสถานที่จะคิดค่าเข้าคนละ 50 รูปี ค่ากล้องถ่ายรูป 200 รูปี และค่ารถเหมาเข้าไป 1000 รูปี ม้าที่ขี่เข้ากลาเซียร์ 300 รูปีต่อคน
ถึงจุดหมายที่ Sonamarg ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อถึงจุดหมายแต่ละที่คือหาที่พัก เพราะที่จองมาได้ยกเลิกไปหมดแล้วเกือบทุกที่ ที่ Sonamarg มีที่พักมากพอควรเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ราคาก็สูงตามแต่ก็ไม่พ้นความสามารถในการต่อรองเหลือห้องละ 1500 รูปีหรือ 750 บาท Hotel Sunshine ริมแม่น้ำ Sindh River วิวอลัง.. ส่วนมากถ้าต่อรองแล้วเค้าให้ราคาตามนั้นเค้าถือว่าเป็นการตกลงกันแล้ว ให้จ่ายเงินเข้าเลย..ห้ามต่อเล่นๆค่ะ..555
อย่างค่าเหมารถเข้าไปดู Thajiwas glacier ตอนแรกบอกราคามา 2000 รูปี ก็เหลือ 1000 รูปี โดยระยะทางประมาณ 5 กิโลเท่านั้น พอเข้าไปถึง อยู่ที่ว่าจะเดินหรือเช่าม้าขี่ ที่เห็นส่วนมากก็เช่าขี่ค่ะ เพราะ 2-3 กิโลแม้วค่ะ คือเดินขึ้น-ลง
ราคา 1000 รูปี เป็นราคาที่รวมค่าเข้าอีกคนละ 50 รูปี แต่ตอนไปถึงด่านเก็บเงิน คนขับรถบอกให้เราออกเองอีก เราไม่ยอมเพราะได้ตกลงกันแล้ว...แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจ่ายเองอีก 150 รูปีเป็นค่าเข้าของ 3 คน
วันนี้ฟ้าไม่ค่อยใสมีเมฆมาก เลยไม่ได้รูปสวยสมใจ ที่ Sonamarg เป็นที่นิยมของคนอินเดียมาเที่ยวแทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยนอกจากกลุ่มเรา อีกอย่างน่าจะเป็นเพราะนี่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว เดือนที่นิยมจะเป็นเมษายนที่ยังมีหิมะปกคลุมและยังไม่หนาวมาก
เราขี่ม้าไปที่ Thajiwas Glacier อีกประมาณ 2 กิโลเมตร ม้า 3 ตัวคนจูง 2 คนเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆอายุประมาณ 10 ขวบ 1 คน ค่าขี่ม้าที่ 300 รูปี เด็กชายอินเดียขยันขันแข็งในการทำงานดีมาก ตอนถึงจุดกลาเซียร์เลยซื้อขนมห่อเลี้ยง
จริงๆที่จุด Thajiwas glacier ต้องเดินเท้าไปอีกหลายร้อยเมตรจะมี กระดานเลื่อนให้เช่าเล่นแต่เราไม่ได้เข้าไปกันเพราะมาเพือถ่ายรูปแต่ฟ้าก็ไม่เป็นใจวันนี้
เรากลับมากินอาหารที่พักพร้อมทำข้าวผัด ไข่เจียวในครัวของโรงแรม และใช้เวลาพักผ่อนนอนชมวิวจากหน้าต่างห้อง พรุ่งนี้เราจะเดินทางต่อไปที่ Srinagar ...ใกล้ถึงจุดหมายสุดท้ายใน Kashmir แล้ว
การเดินทางไปได้สะดวกโดยจากสนาม Srinagar (SXR) เมืองหลวงของ Kashmir มีรถทัวร์วิ่งมาตามเส้นทาง NH1D เส้นทางนี้จะปิดในช่วงธันวาคม โดยจะมีเฉพาะทหารที่อยู่ในค่ายประจำการในหน้าหนาว
หลังจากสงครามคาร์กิลจบลงทำให้มีทหารปลดประจำการจำนวนมาก รัฐบาลจึงมีโครงการที่จะขุดอุโมงค์ความยาว 6 กิโลเมตรที่ Gagangear และ 14 กิโลเมตรที่ Zojila เพื่อให้เส้นทางนี้สามารถเปิดใช้ได้ตลอดทั้งปี ไปจนถึงเลห์
จาก 22 วัน นี่ล่วงมาเกินครึ่งเป็นวันที่ 18 เราเหลือเวลาอยู่ในอินเดียเหนืออีกไม่กี่วัน นึกถึงวันที่ผ่านมาผ่านเส้นทางสูงที่สุด ป่วยด้วยโรค Attitude sickness ต้องหาทางไปเลห์จากเดลีด้วยรถแทนนั่งเครื่องบิน ซึ่งใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ต้องติดค้างในเลห์เพราะปัญหาของสหกรณ์แทกซี่ประท้วง ตอนนี้เราอยู่ในระดับความสูงที่ 2730 เมตร และจะต่ำลงเรื่อยๆเมื่อไปถึง Srinagar”””เราเริ่มคิดถึงความสูงแล้วสิ.....555
ณ ตอนนี้แต่ละคนได้ทบทวนชีวิตตัวเองที่ผ่านมา และ ชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป เราควรออกแบบชีวิตเราอย่างไร และทำอย่างไรเพื่อให้เป็นจริง..ไม่มีอะไรง่าย แต่ก็คงไม่มีอะไรยากเกินไปขอให้เราตั้งใจทำมันด้วยความคิดที่ดี...นี่เราให้กำลังใจตัวเองเต็มที่..555
Srinagar เมืองแห่งทะเลสาป Dal Lake
เช้านี้เราใช้เวลาอ้อยอิ่ง กว่าจะออกเกือบ 10-11 โมง จากที่นี่ไป Srinagar เหลือระยะทางแค่ 80 กิโลเมตร และเส้นทางเป็นสภาพดีสลับกับหินบางช่วง
Srinagar เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงในฤดูร้อนของแคว้น Jammu Kashmir มีแม่น้ำเฌลัม Jhelum River ซึ่งเป็นสาขาจากแม่น้ำสินธุหรือ Indus ผ่านกลางเมืองและลงสู่ Dal Lake นอกจาก ดาลเลคยังมีทะเลสาปอื่นอีก Nigeen, Anchar, Khushal Sar, Gil Sar และ Hokersar ศรีนาการ์ยังถูกเรียกเป็น เวนิสตะวันออก หรือ แคชเมียร์เวนิส
Wular Lake ที่อยู่ทางเหนือของ ศรีนาการ์ถือเป็นทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ตอนเข้าสู่เขตศรีนาการ์เราพบว่ามีทหารถืออาวุธตามจุดต่างๆ จึงเก็บกล้องลงไม่ค่อยได้ถ่ายมากจนเข้าสู่เขต Dal Lake และเริ่มต้นหาที่พักที่เป็น boat house คือบ้านที่ลอยอยู่ในน้ำ
คนขับรถพาเราหยุดตามท่าที่จะมีหลาย gate ให้เลือก ที่ท่าจะมีป้ายบอกราคาที่พักตามเกรด A,B,C ซึ่งแบ่งตามขนาดและ option ว่ารวมอาหารหรือไม่ การ walk-in เลยไม่ต้องกลัวโก่งราคาเพราะรัฐท้องถิ่นได้กำหนดราคามาตรฐานไว้แล้ว...
แต่อย่างเราก็ต่อรองตามปกติ 555 จริงๆ ราคามาตรฐานนั้นยังสามารถต่อรองได้อีกค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น