Mother's Story เรื่องเล่าของเเม่
Story 1 หลุด
"ถึงห้องแล้วครับแม่...ครับๆ ผมวางก่อนนะ หวัดดีครับ...เฮ้อออออ" ผมวางสายจากแม่ก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ กวาดตามองห้องเช่าแคบๆ ที่ผมพึ่งย้ายมาอยู่ใหม่ แม้จะไม่ชอบใจกับกลิ่นอับเท่าไร แต่ก็พอทนอยู่ได้ ที่พักในเมืองหลวงจะหาที่ไหนที่ถูกเท่าที่นี่ได้ ผมเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดเข้าเมืองหลวง ไม่ได้ร่ำรวยขนาดจะมีเงินซื้อคอนโดฯหรูๆ อยู่หรอกครับ
ผมเดินแบกกระเป๋าตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ ตรงมุมห้อง ก่อนจะเริ่มจัดแจงของที่ติดตัวมาน้อยชิ้นให้เข้าที่
"ไปอยู่ที่ใหม่อย่าลืมไหว้เจ้าที่เจ้าทางเขานะลูก" คำพูดของแม่ลอยเข้าหูผมทันทีที่เดินออกมาจากประตูห้องน้ำ
"หึๆ" ผมแค่นหัวเราะออกมากับประโยคนี้บ่อยครั้ง นี่มันสมัยไหนแล้ว ใครเค้าเชื่อเรื่องแบบนี้กัน ผมส่ายหัวเบาๆ กับความคิดนี้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูระเบียง เพื่อมองดูวิวยามค่ำ
"
อะไรวะเนี่ย...!!" ผมสถบออกมากับภาพที่เห็น ศาลพระภูมิไม้ทรงเรือนไทยเก่าๆ ที่ผุไปบางส่วน เศษธูปเทียนที่จุดบ้างดับบ้างเกลื่อนพื้น เศษดอกไม้แห้งที่ลมพัดปลิวมาติดที่เท้าผม กลิ่นเหม็นเน่าจากเครื่องคาวหวานที่ไม่รู้ใครนำมาถวาย ทำให้อารมณ์ของผมตอนนี้ถึงขีดสุด
"ไม่ทน
แล้ว!!" ผมหันหลังกลับ สาวเท้าเดินออกจากห้องพักของตัวเอง ตรงดิ่งไปยังห้องผู้จัดการหอ เพื่อเรียกร้องให้จัดการกับศาลผุๆ ในห้องนั้น
"ไม่อยู่"
ป้ายหน้าประตูของผู้จัดการหอติดคำนี้อยู่ ผมหลับตาลง กำมือทั้งสองแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ลง แต่สายตาเจ้ากรรมเหลือบไปเห็นขวานดับเพลิงที่อยู่ในตู้ด้านข้าง ผมเดินเข้าไปอย่างไม่รีรอ
"เพล้ง"
ผมไม่รู้ว่าเพราะแรงโมโห หรือเพราะของที่นี่มันเก่าทุกอย่าง ตัวล็อกถึงได้เสีย ประตูของตู้หลุดออกมาตกแตก แต่เวลานี้ผมไม่สนใจอะไร
แล้ว ศาลเก่าๆ บ้าๆ นั้น ทำไมถึงมีอยู่ที่ระเบียงห้องผมได้ ผมจ่ายทั้งเงินมัดจำจ่ายทั้งค่าเช่าล่วงหน้าสามเดือน ผมถือว่าห้องนั้นเป็นของผมแล้ว ผมจะทำยังไงกับของในห้องนั้นก็ได้ ใบประกันข้าวของหอก็ไม่ได้ระบุไว้ว่าห้ามทำร้ายอะไร ผมถือว่าผมมีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ผมหยิบขวานออกมาแล้วรีบกลับห้องทันที
'413'
ผมไขกุญแจหน้าห้องตัวเองด้วยความรีบร้อน
"ย้ายมาใหม่หรอพ่อหนุ่ม" เสียงแหบๆ แก่ๆ จากห้องข้างๆ เอ่ยทักผม เจ้าของเสียงเป็นหญิงแก่หัวขาวผิวเหี่ยว ก็เหมือนกับคนสูงวัยทั่วๆ ไป
"ครับ" ผมตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะรีบเข้าห้องไปจัดการปัญหา
ผมจัดการเก็บกวาดซากไม้และทำความสะอาดบริเวณระเบียง ตอนนี้ระเบียงห้องว่างเปล่าอย่างที่ควรเป็น กลิ่นเน่าเหม็นสาบก็หายไปแล้ว เพราะผมฉีดสเปรย์กำจัดกลิ่นทิ้งไว้ พรุ่งนี้เป็นวันเริ่มทำงานวันแรก ผมคิดว่าผมไม่สมควรไปสาย เพราะงานที่นี่หายากมาก ตอนนี้ผมล้าไปทั้งตัว ตั้งแต่จัดการกับศาลไม้ ผมล้มตัวลงนอนบนเตียง มันเหม็นสาบฝุ่นเล็กน้อย ความล้าของร่างกายทำให้ผมเลิกสนใจและหลับตาลงแทน
"พี่ว่าไงบ้างแม่" เสียงเจื้อยแจ้วของน้องชายผมกับการเริ่มต้นบทสนทนาทำให้ผมค่อยๆ ลืมตามอง หลังจากที่หลับตาไปได้สักครู่ ผมกำลังฝันอยู่หรอ...?
"พี่เค้าพึ่งถึงหอเมื่อตอนหัวค่ำนี่แหละ ถ้าอยากคุยก็โทรคุยกันเองแล้วกัน" แม่พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ พร้อมกับลุกจากเก้าอี้ไปยังห้องครัว ผมยืนมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ผมคิดว่านี่คงเป็นความฝันเเน่นอน
ครืนนน ครืนนนน ครืนนน
เสียงโทรศัพท์มือถือตรงหัวเสียงสั่นอย่างแรงเมื่อมีสายเรียกเข้า ผมลืมตาตื่นอย่างตกใจกับฝันที่พึ่งเห็น ก่อนจะเอื้อมมือไปกดรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรมา
"สวัสดีครับ กรพูดครับ ไม่ทราบว่..."
"พี่กร! เป็นไงมั้งพี่ ที่หอสาวเยอะป่ะ" เสียงเจือเเจวของน้องชายตัวดีดังออกมาก่อนที่ผมจะทันพูดจบประโยค
"...." ผมยกหูค้างไว้ด้วยความตะลึ่ง ผมไม่คิดว่าสายเรียกเข้าจะเป็นเจ้ากานต์โทรมา มันเหมือนเป็นฉากต่อเนื่องจากที่ผมฝันเห็น
"พี่กร! เห้ย! ได้ยินผมป่ะเนี่ย ฮัลโหล ทำไมพี่ไม่ตอบวะ!!?" เสียงปลายสายยังคงดังต่อไป ผมรู้สึกว่าลำคอฝืดๆ กลืนน้ำลายยากมาก เหงื่อที่หน้าผากจับกันเป็นหยดไหลลงมา ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ผมไม่สามารถพูดตอบกลับน้องได้ ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ร่างกายมันหนักอึ้งไปหมด
เอี๊ยด เอี๊ยด กึก!
เสียงพัดลมบนเพดานเริ่มดังแปลกๆ ผมทำได้แค่เหลือบตาขึ้นมอง พัดลมหมุนจังหวะแปลกๆ มันเริ่มจังหวะหมุนที่เร็วขึ้นๆ ก่อนจะกระตุกแล้วช้าลงๆ ก่อนจะเร็วขึ้นและเป็นแบบเดิม ผมบอกไม่ถูกว่าควรสนใจกับอะไรตอนนี้ ร่างกายที่หนักจนขยับไม่ได้ หรือ พัดลมที่หมุนแปลกๆ จะหมุนเร็วไปเลยก็ไม่ จะช้าไปเลยก็ไม่ หรือ บางสิ่งบางอย่างที่ผมเริ่มสังเกตเห็นจากเงาตรงปลายเตียง...
แสงไฟจากด้านนอกส่องเข้ามาภายใน ทำให้เกิดเงาตามผนังห้องตรงปลายเตียง ผมเห็นเงาของพัดลมที่หมุนจังหวะแปลกๆ และสังเกตว่าตรงพัดลมของจริงกับพัดลมตรงเงามันมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนกัน มันคล้ายกับมีอะไรบางอย่างผูกมัดเอาไว้ ผมเหลือบตามองสลับอยู่นาน ก่อนที่ผมจะเบิกตากว้าง ตกใจกับสิ่งที่เห็นในเงา ภาพเงาเท้าของใครบางคนอยู่ๆ ก็ตกลงมาจากเงาพัดลม!! ก่อนจะเริ่มสั่นอย่างแรง!! ตามจังหวะแปลกๆ ของพัดลมที่ผมเคยบอกไว้ มันสั่นแรงมากๆ!! ก่อนจะหยุดนิ่งไป เงาเท้าที่ผนังยังคงสั่นตามแรงหมุนของพัดลม เหงื่อซึมออกตามไรผมและหน้าผาก ผมค่อยๆ หันกลับมามองที่พัดลมอีกครั้ง
เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด
"...!!!"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออภัยที่ขาดตอนนะคะ คุยกันตรงนี้ก่อนน๊าาา เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเองค่ะ มีเนื้อเรื่องที่มาจากความจริงแค่ 1% 555555 แต่งขึ้นมาเพราะเบื่อๆ เป็นนิยายสั้นๆ เรื่องละประมาณสองตอน เอามาลงที่พันทิปก่อนเลย ยังไม่ได้เอาลงเว็บหลัก อาจจะไม่มีวินัยในการลงเท่าไร เพราะต้องแล้วแต่เวลาว่าง ช่วงนี้พยายามเร่งแต่งเรื่องหลักให้จบอยู่อ่ะค่ะ พิมพ์คำไหนผิดก็ขออภัยตรงนี้เลยนะคะ ติชมได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านค่ะ
Mother's Story เรื่องเล่าของแม่
Story 1 หลุด
"ถึงห้องแล้วครับแม่...ครับๆ ผมวางก่อนนะ หวัดดีครับ...เฮ้อออออ" ผมวางสายจากแม่ก่อนจะถอนหายใจออกมาดังๆ กวาดตามองห้องเช่าแคบๆ ที่ผมพึ่งย้ายมาอยู่ใหม่ แม้จะไม่ชอบใจกับกลิ่นอับเท่าไร แต่ก็พอทนอยู่ได้ ที่พักในเมืองหลวงจะหาที่ไหนที่ถูกเท่าที่นี่ได้ ผมเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดเข้าเมืองหลวง ไม่ได้ร่ำรวยขนาดจะมีเงินซื้อคอนโดฯหรูๆ อยู่หรอกครับ
ผมเดินแบกกระเป๋าตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ ตรงมุมห้อง ก่อนจะเริ่มจัดแจงของที่ติดตัวมาน้อยชิ้นให้เข้าที่
"ไปอยู่ที่ใหม่อย่าลืมไหว้เจ้าที่เจ้าทางเขานะลูก" คำพูดของแม่ลอยเข้าหูผมทันทีที่เดินออกมาจากประตูห้องน้ำ
"หึๆ" ผมแค่นหัวเราะออกมากับประโยคนี้บ่อยครั้ง นี่มันสมัยไหนแล้ว ใครเค้าเชื่อเรื่องแบบนี้กัน ผมส่ายหัวเบาๆ กับความคิดนี้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูระเบียง เพื่อมองดูวิวยามค่ำ
" อะไรวะเนี่ย...!!" ผมสถบออกมากับภาพที่เห็น ศาลพระภูมิไม้ทรงเรือนไทยเก่าๆ ที่ผุไปบางส่วน เศษธูปเทียนที่จุดบ้างดับบ้างเกลื่อนพื้น เศษดอกไม้แห้งที่ลมพัดปลิวมาติดที่เท้าผม กลิ่นเหม็นเน่าจากเครื่องคาวหวานที่ไม่รู้ใครนำมาถวาย ทำให้อารมณ์ของผมตอนนี้ถึงขีดสุด
"ไม่ทนแล้ว!!" ผมหันหลังกลับ สาวเท้าเดินออกจากห้องพักของตัวเอง ตรงดิ่งไปยังห้องผู้จัดการหอ เพื่อเรียกร้องให้จัดการกับศาลผุๆ ในห้องนั้น
"ไม่อยู่"
ป้ายหน้าประตูของผู้จัดการหอติดคำนี้อยู่ ผมหลับตาลง กำมือทั้งสองแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ลง แต่สายตาเจ้ากรรมเหลือบไปเห็นขวานดับเพลิงที่อยู่ในตู้ด้านข้าง ผมเดินเข้าไปอย่างไม่รีรอ
"เพล้ง"
ผมไม่รู้ว่าเพราะแรงโมโห หรือเพราะของที่นี่มันเก่าทุกอย่าง ตัวล็อกถึงได้เสีย ประตูของตู้หลุดออกมาตกแตก แต่เวลานี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว ศาลเก่าๆ บ้าๆ นั้น ทำไมถึงมีอยู่ที่ระเบียงห้องผมได้ ผมจ่ายทั้งเงินมัดจำจ่ายทั้งค่าเช่าล่วงหน้าสามเดือน ผมถือว่าห้องนั้นเป็นของผมแล้ว ผมจะทำยังไงกับของในห้องนั้นก็ได้ ใบประกันข้าวของหอก็ไม่ได้ระบุไว้ว่าห้ามทำร้ายอะไร ผมถือว่าผมมีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ผมหยิบขวานออกมาแล้วรีบกลับห้องทันที
'413'
ผมไขกุญแจหน้าห้องตัวเองด้วยความรีบร้อน
"ย้ายมาใหม่หรอพ่อหนุ่ม" เสียงแหบๆ แก่ๆ จากห้องข้างๆ เอ่ยทักผม เจ้าของเสียงเป็นหญิงแก่หัวขาวผิวเหี่ยว ก็เหมือนกับคนสูงวัยทั่วๆ ไป
"ครับ" ผมตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะรีบเข้าห้องไปจัดการปัญหา
ผมจัดการเก็บกวาดซากไม้และทำความสะอาดบริเวณระเบียง ตอนนี้ระเบียงห้องว่างเปล่าอย่างที่ควรเป็น กลิ่นเน่าเหม็นสาบก็หายไปแล้ว เพราะผมฉีดสเปรย์กำจัดกลิ่นทิ้งไว้ พรุ่งนี้เป็นวันเริ่มทำงานวันแรก ผมคิดว่าผมไม่สมควรไปสาย เพราะงานที่นี่หายากมาก ตอนนี้ผมล้าไปทั้งตัว ตั้งแต่จัดการกับศาลไม้ ผมล้มตัวลงนอนบนเตียง มันเหม็นสาบฝุ่นเล็กน้อย ความล้าของร่างกายทำให้ผมเลิกสนใจและหลับตาลงแทน
"พี่ว่าไงบ้างแม่" เสียงเจื้อยแจ้วของน้องชายผมกับการเริ่มต้นบทสนทนาทำให้ผมค่อยๆ ลืมตามอง หลังจากที่หลับตาไปได้สักครู่ ผมกำลังฝันอยู่หรอ...?
"พี่เค้าพึ่งถึงหอเมื่อตอนหัวค่ำนี่แหละ ถ้าอยากคุยก็โทรคุยกันเองแล้วกัน" แม่พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ พร้อมกับลุกจากเก้าอี้ไปยังห้องครัว ผมยืนมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ผมคิดว่านี่คงเป็นความฝันเเน่นอน
ครืนนน ครืนนนน ครืนนน
เสียงโทรศัพท์มือถือตรงหัวเสียงสั่นอย่างแรงเมื่อมีสายเรียกเข้า ผมลืมตาตื่นอย่างตกใจกับฝันที่พึ่งเห็น ก่อนจะเอื้อมมือไปกดรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรมา
"สวัสดีครับ กรพูดครับ ไม่ทราบว่..."
"พี่กร! เป็นไงมั้งพี่ ที่หอสาวเยอะป่ะ" เสียงเจือเเจวของน้องชายตัวดีดังออกมาก่อนที่ผมจะทันพูดจบประโยค
"...." ผมยกหูค้างไว้ด้วยความตะลึ่ง ผมไม่คิดว่าสายเรียกเข้าจะเป็นเจ้ากานต์โทรมา มันเหมือนเป็นฉากต่อเนื่องจากที่ผมฝันเห็น
"พี่กร! เห้ย! ได้ยินผมป่ะเนี่ย ฮัลโหล ทำไมพี่ไม่ตอบวะ!!?" เสียงปลายสายยังคงดังต่อไป ผมรู้สึกว่าลำคอฝืดๆ กลืนน้ำลายยากมาก เหงื่อที่หน้าผากจับกันเป็นหยดไหลลงมา ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ผมไม่สามารถพูดตอบกลับน้องได้ ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ร่างกายมันหนักอึ้งไปหมด
เอี๊ยด เอี๊ยด กึก!
เสียงพัดลมบนเพดานเริ่มดังแปลกๆ ผมทำได้แค่เหลือบตาขึ้นมอง พัดลมหมุนจังหวะแปลกๆ มันเริ่มจังหวะหมุนที่เร็วขึ้นๆ ก่อนจะกระตุกแล้วช้าลงๆ ก่อนจะเร็วขึ้นและเป็นแบบเดิม ผมบอกไม่ถูกว่าควรสนใจกับอะไรตอนนี้ ร่างกายที่หนักจนขยับไม่ได้ หรือ พัดลมที่หมุนแปลกๆ จะหมุนเร็วไปเลยก็ไม่ จะช้าไปเลยก็ไม่ หรือ บางสิ่งบางอย่างที่ผมเริ่มสังเกตเห็นจากเงาตรงปลายเตียง...
แสงไฟจากด้านนอกส่องเข้ามาภายใน ทำให้เกิดเงาตามผนังห้องตรงปลายเตียง ผมเห็นเงาของพัดลมที่หมุนจังหวะแปลกๆ และสังเกตว่าตรงพัดลมของจริงกับพัดลมตรงเงามันมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนกัน มันคล้ายกับมีอะไรบางอย่างผูกมัดเอาไว้ ผมเหลือบตามองสลับอยู่นาน ก่อนที่ผมจะเบิกตากว้าง ตกใจกับสิ่งที่เห็นในเงา ภาพเงาเท้าของใครบางคนอยู่ๆ ก็ตกลงมาจากเงาพัดลม!! ก่อนจะเริ่มสั่นอย่างแรง!! ตามจังหวะแปลกๆ ของพัดลมที่ผมเคยบอกไว้ มันสั่นแรงมากๆ!! ก่อนจะหยุดนิ่งไป เงาเท้าที่ผนังยังคงสั่นตามแรงหมุนของพัดลม เหงื่อซึมออกตามไรผมและหน้าผาก ผมค่อยๆ หันกลับมามองที่พัดลมอีกครั้ง
เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด
"...!!!"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้