[CR] เล่าสู่กันฟัง....ภาพเล่าเรื่อง “วังเวียง” ไม่วังเวง

Date : 4-8 May 2016
Route : Buriram - Korat - Udonthani - NongKhai - Vangvieng


ชื่อกระทู้เสี่ยวมาก 555 กระทู้นี้ไม่พูดถึงอาหารนะคะ เพราะถ่ายไม่ทันกินทุกที 555

       “วังเวียง”ชื่อนี้ได้ยินมาก็เยอะ เห็นคนตั้งกระทู้ก็เยอะ  พอมีคนชวนใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีในการตัดสินใจ  เตรียมตัวก่อนมาไม่ถึงสามวัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก 555  เลยตั้งกระทู้ไว้เตือนความจำ ว่ากาลครั้งหนึ่งเราเคยมานะ  และมันมีความทรงจำอะไรดีๆเยอะ นอกจากธรรมชาติก็คนเนี้ยละ 555 โอปป้า (เฮ้ย! ไม่ใช่)เค้าล้อเล่น

       การเดินทางจากภาคอีสานไปวังเวียงประเทศลาวไม่ได้ยุ่งยากเลย ขอแค่มีเงินกับเวลา ใครๆก็สามารถไปได้ ถ้าพร้อมแล้วหาวันว่างๆแล้วเก็บของไปกันเลยค่ะ กระทู้นี้คงเป็นguidelineในการเดินทางไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่คิดและอยากจะbackpack ไปชมธรรมชาติที่สวยงามของประเทศเพื่อนบ้าน แค่มีพาสปอร์ตใบเดียวก็เที่ยวลาวได้(ตามคำโฆษณาเขาว่ามา) จะไปหลวงพระบางต่อก็ได้ แต่เราอยากซึมซับความงามของวังเวียงอย่างช้าๆก็ขอเที่ยววังเวียงที่เดียวเลย (ครั้งหน้าจะไปถึงหลวงพระบาง ครั้งนี้ขาดซึ่งการวางแผน)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

5 May 2016 : Day 1
       วันหยุดยาวคนจึงเยอะมากกกกกกกก  เราหยุดเขาหยุด นั่งรถมาถึงอุดรธานีตีสามก็นอนรอไปค่ะ วังเวียงขายตั๋วตอน 06.00 น. เวียงจันทน์ขายตั๋วตอน 07.00 น.  
    รถไปวังเวียงมีรอบเดียวตอน  8.30 น. (ช่วงหยุดยาว เทศกาล อาจมีเพิ่มรถ) ครั้งนี้มีรถไปวังเวียงสามคัน

แต่สำหรับคนที่ไม่ทันรถวังเวียง ก็สามารถนั่งรถไปเวียงจันทน์แล้วต่อรถมาวังเวียงได้ค่ะ

       เมื่อขึ้นรถไปวังเวียง คนประจำรถจะแจกใบเข้า-ออกชาแดนไทย ลาว (เก็บไว้ดีๆเผื่อขากลับ) กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย (กรอบเป็นภาษาอังกฤษ)
พอมาถึงสะพานมิตรภาพ รถก็จะจอดให้ลงไปตรวจพาสปอร์ต เพื่อความรวดเร็วเราก็ไปซื้อบัตร One way ticket (ใช้เหมือน BTS เสียบแล้วเดินไปเลย) ราคา 1,000 kip (5 baht) สำหรับวันธรรมดา ราคา 11,000 kip (50 Baht) สำหรับวันหยุดราชการอย่างเสาร์อาทิตย์ (จ่ายเป็นกีบถูกว่าจ่ายเงินไทย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

       ตรวจพาสปอร์ตออกจากประเทศไทยเสร็จ ข้ามสะพานไปฝั่งลาวก็ตรวจพาสปอร์ตเข้าประเทศลาว (สามารถแลกเงินได้ที่นี้หรือจะไปแลกที่วังเวียงก็ได้) แล้วก็นั่งยาวๆไป ถึงเที่ยงรถจะจอดให้เข้าห้องน้ำ ซื้อของกิน (เติมพลังหน่อย ของเขาก็อร่อยอยู่)

       บ่ายสองรถก็มาถึง Bus Station ช่วงเทศกาลคนเยอะเขาก็จะแนะนำให้ซื้อตั๋วกลับเลย (วันกลับก็เอามาแลกตั๋วจริงขึ้นรถ) คนขายตั๋วจะถามว่าพักที่ไหน วันกลับ รถจะไปรับถึงที่พักมาที่คิวรถเพื่อกลับหนองคาย-อุดร (แต่ถ้ายังไม่มีที่พัก เขาก็จะบอกเบอร์ให้เราโทรแจ้งเมื่อมีที่พัก เราก็ให้ที่พักโทรให้ก็ได้ ไม่ต้องซื้อซิมลาวโทรเองหรอก)

       เดินไปขึ้นรถจะมีรถมารับไปส่งในเมืองฟรี  โดยรถจะไปส่งที่ Malany Villa  (แต่ถ้าไม่ขึ้นรถจะเดินก็ได้ ถ้าเดินเข้าเมืองก็ไม่ไกลมาก แค่เดินข้ามถนนจะผ่านพื้นที่โล่งๆ (ซึ่งเป็นที่ลงบอลลูนล่ะ) ก็จะเข้าเมืองได้ ระยะทางประมาณ 500 เมตรเห็นจะได้มั้ง

    หาที่พักตามอัธยาศัยเลยค่ะ อยากได้แบบไหนชอบแบบไหนก็เดินเข้าไปถามได้เลย มีหลากหลายราคา มีเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่พักนะคะ อย่างเราบังเอิญได้ที่พักถูกห้องพัดลมราคา 70,000 kip(280 baht)  ห้องแอร์ราคา 100,000 kip (400 baht) แต่เราไม่อยากแนะนำที่นี้อ่ะ 555 แต่ถ้าอยากรู้ว่าที่ไหนก็หลังไมค์มาได้เดี๋ยวจะบอกเหตุผลว่าทำไมไม่อยากแนะนำ 555

    หลังจากได้ที่พักและเก็บข้าวของเรียบร้อย  คว้ากล้องได้ก็ไปโล้ด สำรวจที่ทาง หาของกิน หาที่เช่ารถ(สำหรับพรุ่งนี้)


6 May 2016 : Day 2
       เช้านี้มาพร้อมกับสายฝน ตั้งใจจะตื่นตีห้ามาถ่ายรูปพระอาทิตย์ยามเช้า บรรยากาศวังเวียงตอนเช้าๆ แต่ฝนตก ลมแรง สัมผัสได้จากเสียงลม หกโมงกว่าๆฝนก็หยุดตก จากนั้นก็ไปหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซด์  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย.....GO GO GO!!! หัวเราะ

       ไปที่ใกล้ๆก่อนเลย ที่แรก สะพานส้ม (ดูตามแผนที่ได้เลยไปไม่ยาก) สามารถเดินไปหรือจะขับรถไปก็ได้เพราะไม่ไกลจากตัวเมืองวังเวียง
มีเสียค่าผ่านทางตรงทางเข้าของวังเวียงรีสอร์ท คนละ 2,000 kip(8 baht) รถมอไซด์ 3,000 kip(12 baht)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พอถึงสะพานส้ม เป็นสะพานข้ามแม่น้ำซอง ข้ามไปจะเป็นถ้ำจัง (chang cave) ก็จะมีเสียค่าเข้า



ข้างล่างก่อนขึ้นถ้ำจัง  น้ำใสมาก ร่มรื่น น่านอนมาก 555 (ออนนี่ขาวมากกกกกกก กิกิ)





ซื้อตั๋วเข้าถ้ำจัง  15,000 kip (60 baht)

       บันไดทางขึ้นถ้ำจัง  147 ขั้นเอง (เสียงสูง) เมื่อขึ้นไปบนสุด  มองลงมาจะเห็นวิวแม่น้ำซอง  สะพานส้มได้ชัดเลย  สวยมากๆๆ (มองด้วยตาเปล่าสวยมากๆๆๆ)


       เข้าถ้ำ....ข้างในถ้ำจังเป็นถ้ำขนาดใหญ่ แต่....ไม่มีการเจริญเติมโตของถ้ำแล้ว  หินงอกหินย้อย ก็หยุดอยู่แค่นั้น  เป็นถ้ำที่เย็นมาก อาจเป็นเพราะอยู่สูง  และมีรูให้ลมเข้าออกเย็นสบาย (เห็นรอยขีดขูดในถ้ำแล้วก็สะท้อนใจอย่าง  คนเราไม่รักษาสิ่งที่มีอยู่เลย)




มองวิวจากในถ้ำก็สวย



สถานีต่อไป Blue lagoon ห่างจากเมือง 7 Km.



ป้ายบอกอีก 2 Km.



ถึงแล้ว ถ้ำปูคำ(Poukham Cave) กับ Blue lagoon

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เข้ามาจะเห็นบลูลากูนก่อน  เดินตรงไปอีกนิดจะเห็นทางขึ้นไปถ้ำปูคำ  เราจะไปดูถ้ำปูคำก่อนแล้วค่อยมาเล่นน้ำกัน
       ตรงทางขึ้นถ้ำจะมีให้เช่าไฟฉาย(ไฟฉายคาดหัว แถวบ้านเอิ้นไฟส่องกบ)ก่อนขึ้นถ้ำ  แนะนำเลยว่าควรเช่า  หรือเตรียมมาเอง  โทรศัพท์ไฟมันไม่ค่อยสว่าง  อีกอย่างถ้าทำโทรศัพท์ตกไม่คุ้มนะ  ในถ้ำไม่ได้มืดแบบไม่มีแสงเลย  ในความมืดก็ยังมีแสงสว่างอยู่  แต่ด้วยทางเดินที่มีน้ำจะทำให้ลื่นบวกกับก้อนหินเล็กใหญ่  ก็เดินระวังๆกันด้วยนะคะ
       ระหว่างเดินขึ้นก็ได้ทำได้ความรู้จักกับเพื่อนร่วมทาง....พี่ๆเขามากันสามคน  ตอนจะขึ้นไม่เห็นคนเลยหันไปถามว่าขึ้นไปไหม  พวกพี่ๆเขาขึ้นพวกเราก็เออมีเพื่อนเดินขึ้นแล้ว ก็เดินตามๆกันไป  ทางก็ชันอยู่ แต่ไม่มาก  ขึ้นไปมองลงมาก็สูงใช้ได้ 555



       เข้ามาให้ถ้ำก็จะเจอกับพระนอน ^/\^  ตรงจุดนี้ก็สามารถเดินต่อเข้าไปในถ้ำได้อีก แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะไม่ได้เช่าไฟฉาย บวกกับโทรศัพท์แบตหมด 555 มีพี่หนึ่งในสามที่ร่วมเดินขึ้นมาเข้าไปต่อ พวกเราเลยนั่งรอกันตรงนี้  (หลังจากที่นั่งสังเกตการตรงนี้สักพัก จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า  พอคนไทยเข้ามาจะมายืนหน้าพระ และยกมือไหว้อย่างนอบน้อมทุกคน ทุกคนจริงๆ )


(จากที่อ่านจากในเน็ตมากคร่าวๆ เขาบอกว่าถ้ำปูคำ ใครที่เข้ามาแล้วเห็นปูคำ จะโชคดี....(มีใครเห็นบ้างไหมค่ะ))

       หลังจากเสียเหงื่อให้กับการเดิน  ก็มาเล่นน้ำให้สดชื่นกันหน่อย  ค่าเช่าเสื้อชูชีพ 2 ชม. 10,000 kip (40 baht) ไม่ใส่ก็ได้นะ  เล่นสนุกเหมือนกัน
น้ำเย็นมากกกกก ไม่คิดว่าจะเย็นขนาดนี้ เย็นถึงไส้ติ่งอ่ะ 555 ถ้ามาหน้าหนาวไม่อยากจะคิดเลย เค้าล้อเล่น
ณ จุด จุดนี้ (ใครใคร่โดนโดน ใครใคร่เล่นน้ำก็เล่นน้ำ)  (พี่ยุ่นขาวมากกกกกก)


        หลังจากเล่นน้ำผ่านไปแค่ครึ่งวันกว่าๆ จะไปไหนต่อดี หารือกันกับเพื่อนร่วมทริป....เพื่อนร่วมทริปบอกก่อนมาทางบลูลากูนมีป้ายไปถ้ำผาเงิน....ตกลงกันได้......ก็ไปกันเลยยยยยยย

*เกร็ดความรู้บูลลากูน....ที่น้ำในสระบูลลากูนค่อนข้างใส่นั้นเป็นเพราะว่า  บริเวณนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน  มีหินปูนอยู่ในดินมากมาย  ซึ่งในหินปูนจะมี  แคลเซียมคาร์บอเนต  ซึ่งทำให้สารแขวงลอยอยู่ในน้ำนั้นตกตะกอน....Cr.ในอินเตอร์เน็ต

**(อ่าวววว จะถึงหมื่นตัวอักษรแล้ว ยังมีต่อ)
ชื่อสินค้า:   วังเวียง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่