กระทู้นี้จะมีเป็นรีวิวแบบไม่ละเอียดนะครับ เพราะว่าไม่ได้ถ่ายภาพทุกขั้นตอนที่ไปจะออกแนวอวดภาพกับแชร์ประสบการณ์มากกว่าครับ 5555 ทริปนี้ไปกับเพื่อนกันสองคนครับ แต่ผมก็จะพยายามอธิบายให้ละเอียดที่สุดเลยครับ
เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกต้องขออภัยด้วยนะครับ
กระทู้จะมีสองตอนนะครับ http://ppantip.com/topic/33907741 ตอนสองครับผม
วันแรกของการเดินทาง ผมใช้บริการขนส่งมวลชนของประเทศไทยแสนเก่าแก่ครับ ครับใช่ครับ รถไฟครับ
(คืนที่ 1)
18.35 น. ผมเริ่มออกเดินทางครับ รถไฟออก
(วันที่ 2 )
05.30 น. ถึงสถานีรถไฟหนองคายครับ พอถึงนี่โดนล้อมหน้าลอมหลังขอลายเซ็นกันเลยครับ 5555 จริงๆแล้วเขาจะพาเราไปด่านตรวจคนเข้าเมืองครับ
06.00 น. ผมก็เริ่มผ่านกรรมวิธีารผ่านด่านปกติครับแบบที่คนเขาทำกันทั่วๆไป แต่ก็ต้องคิดหนักครับ เพราะที่แลกเงินตรงด่านยังไม่เปิด ผมก็เลยต้องรอเข้าไปแลกในตัวเมืองเวียงจันทน์
07.00 น. ผมก็เดินหาที่พักครับ เดินๆดูไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอที่ถูกใจ ก่อนที่จะไปแลกเงินที่ธนาคารแล้วกลับมาเข้าที่พักครับ ผมไปพักที่ Mixok INN คืนละ 100,000 KIP พร้อมกับจองตั๋วรถผ่านทางที่พักเลย เพื่อไปวังเวียง ในราคา 50,000 KIP รอบ 10.00 น. ของพรุ่งนี้
09.00 น. เข้าที่พัก เก็บสัมภาระ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย (เพราะนั่งรถไฟมากลิ่นฝุ่นกับกลิ่นเหล็กเต็มตัวเลยครับ)
ก่อนที่จะออกไปลุยกันในเวียงจันทน์ ขอหาของเพิ่มพลังก่อนนะครับบบ
ชามนี้ ราคา 12,000 KIP ครับ
เมื่อท้องอิ่มการเดินทางก็ต้องมาครับ การเดินทางผมเลือกที่จะใช้เป็นจักรยานครับเป็นการปั่นไปตามแผนที่วางไว้ครับ
จักรยานค่าเช่าราคา 10,000 KIP ครับ เราต้องทำการยื่นบัตรประชาชนทิ้งไว้กับร้านด้วย (เจ้าของเดียวกับร้านเฝ่าที่กินครับ 55555)
แผนที่วางไว้ การปั่นจักรยานจะเป็นการปั่นเลนขวานะครับ จากที่ได้ทำการปั่นมาถือว่าอันตรายพอสมควรครับ เพราะการจราจรที่ลาวผมว่าโหดร้าย 555
ที่แรกคือ หอพระแก้วครับ แต่เนื่องจากที่ไปหอพระแก้วปิดปรับปรุงครับเลยทำให้อดดูเลย
ผมเลยเบนเข็มไปที่ต่อไปครับ นั่นคือประตูชัย(Patuxay)
สวยงามดีครับผมเป็นสถาปัตยากรรมที่สวยงามครับ ก็ได้ถ่ายภาพกันเรียบร้อย จากนั้นขึ้นไปด้านบนครับ ค่าขึ้น 3,000 KIP
ได้ภาพเรียบร้อยก็ลงมาครับ หิวน้ำกันฝุดๆเลยครับ 5555 ซื้อน้ำกินข้างล่างครับในราคา 6,000 KIP เป็นน้ำเปล่า หรือน้ำอัดลมราคาเดียวกันครับ
นั่งพักกันสักพักจิบน้ำเหมือนจิบชาชมดอกไม้ร่วง ก่อนที่เราจะไปเป้าหมายต่อไปครับ
นั่นคือพระธาตุหลวงนั่นเองงงงงงงง
ตอนไปถึงเป็นเวลา 12.45 ครับ ที่นี่จะมีเวลาเปิด-ปิด พักครับ พักเที่ยง-บ่ายโมงครับ เราก็เลยต้องถ่ายมุมไกลๆนั้นไว้ก่อน
13.00 น. ก็เข้ากันได้เลยยยยยยย
ระยะทางของแต่ละสถานที่ไม่ไกลกันครับสามารถปั่นจักรยานได้ แต่ผมอยากจะแนะนำว่า เหมาตุ๊กๆต่อราคากันมันส์ๆไปดีกว่าครับ ไม่เสี่ยงอันตรายดี
เมื่อเสร็จผมก็ปั่นไปเพื่อที่จะกลับที่พักครับ เพราะเหนื่อย + ร้อนมากๆ แต่ทันใดนั้นนนนนนน
ผมก็เจอ เข้ากลับบบบบบบสถานที่นี้ขอพักก่อนแล้วกันน
แก้วนี้ ถ้าผมจำไม่ผิดจะอยู่ที่ 18,000 KIP ครับ เมื่อพักเสร็จก็ปั่นไปคืนจักรยานกับกลับที่พักครับ แต่คราวนี้ไม่ยากครับ เพราะเป็นทางตรงตลอด 555 เริ่มจับทางได้ครับ
เข้าที่พัก พักผ่อนรอเวลาเพื่อไปหาข้าวเย็นกินกับไปตลาดมืดครับ
18.30 น.เริ่มหิวแล้วครับ
แต่ก่อนอื่นที่จะไปหาไรกินขอเก็บภาพก่อนครับ
ที่นี่จะเป็นที่ที่คนในเวียงจันทน์จะมาออกกำลังกายกันครับ ออกกันเยอะมากกกกกกกกก
กลุ่มคนจะเป็นกลุ่มคนที่เต้นแอโรบิกกันครับ มีหลายกลุ่มมากๆ
ผมก็นั่งๆมองไปรอบๆ จนกระทั่งผมไปเจออะไรแปลกๆอยู่ตรงแม่น้ำโขงที่แห้งจนสามารถไปเดินได้ครับ แต่พอไปดูใกล้ๆครับ
นั่นคือช้างที่ปั้นเป็นทรายครับ ตัวใหญ่มากกกกกกกก
เอาล่ะครับหิวจริงๆแล้วไม่ไหวแล้วววววว มื้อเย็นวันนี้จะเป็น ข้าวหมูกรอบ ราคา 15,000 KIP กับ น้ำขวดเล็ก 2,000 KIP
หลังจากนั้นก็ไปเดินดูตลาดมืดครับ เหมือนตลาดนัดบ้านเราเลย เดินดูสักพักก็กลับเข้าที่พักไปพักผ่อนดู ผู้กองยอดรัก ช่อง3ละครับ (TVไทยเยอะหม๊วก)
เช้าวันต่อมาครับ วันที่ 2 ของการผจญภัย
08.30 ผมก็ทำการเช็คเอาท์และกินข้าวเช้าของที่พักครับ ซึ่งฟรีครับ รวมอยู่ในค่าที่พักแล้ว
รสชาติถือว่าไม่แตกต่างกับทางบ้านเราครับผม อร่อยดี
ชาแก้วนี้ 15,000 KIP ครับผม
หลังจากกินเสร็จก็นั่งรอรถครับ จะมีคนรถมารับที่หน้าที่พักเพื่อไปขึ้นรถคันใหญ่อีกที
รถพาผมไปทิ้งไว้ตรงจุดรอครับ เวลาออกที่จริงจะต้องเป็น 10.00 น. แต่มันล่วงเลยมาจนถึง 12.00 น.
การเดินทางมาครั้งนี้ผมเคยบอกกับเพื่อนว่า อยากเจอคนญี่ปุ่นแล้วชวนคุยด้วย 555555 จังหวะเหมาะเลยครับมีคนญี่ปุ่นมารถด้วยครับ 2 คน
ทั้งสองคนมารอรถเพื่อที่จะไปวังเวียงเหมือนกันครับผม
คนซ้ายชื่อ ยูริครับ คนขวา ยูจิ ทั้งสองคนเดินทางกันมานานมากครับ 7 เดือนแล้ว ไปมาหลายประเทศมากๆครับ อินเดีย เนปาล มาเลเซีย ไทย ลาว เป็นการเดินทางที่สุดยอดเลยครับ ได้มีการพูดคุยกันนานมากๆเลยครับ สอนภาษาญี่ปุ่นให้ผมด้วย 555555
ในที่สุดรถก็มาสักทีครับ เดินทางกันเลยลุยไปวังเวียงต่อครับ
การเดินทางมาถึงวังเวียงประมาณ บ่าย 3ครับ เมื่อมาถึงผมก็ได้เดินตระเวนหาที่พักเลยครับ ไปได้เจอที่พักราคา 120,000 KIP 2 คืนครับ
วันที่มาถึงวังเวียงไม่มีอะไรมากมายครับ เดินสำรวจเมืองไปเรื่อยๆ ว่ามีอะไรบ้างเพื่อที่จะวางแผนสำหรับวันต่อไปครับ
สะพานข้ามแม่น้ำซองที่นี่ จะมีอยู่สองสะพานครับ สะพานในภาพที่ผมลงไปนั้นเป็นสะพานข้ามฟรีครับ
แต่มันจะมีสะพานเสียตังอีกอันครับ คือขาข้ามไปเสียครับ แต่ขาข้ามกลับจะไม่เสียตัง ส่วนราคานั้นผมไม่ทราบครับเพราะเลี่ยงจะข้ามตลอด 555555
หลังจากสำรวจเรียบร้อย ก็เริ่มหิวแล้วล่ะครับ
กินแบบฝรั่งเลยครับ 555 อันนี้ราคา 20,000 KIP ครับ
แต่คือมันไมอิ่มจริงๆผมเลยจัดการเบิ้ลต่อครับ
ส่วนผัดกะเพราจานนี้ 25,000 KIP ครับ
หลังจากอิ่มแล้วก็กลับที่พักครับ อาบน้ำแล้วมานั่งเล่น Wifi ตรงส่วนกลางของที่พักครับ มองดูคนเดินไปเดินมา จิบน้ำไปเรื่อยครับ 55555รอให้เวลาผ่านไปเพื่อเที่ยววันพรุ่งนี้ครับ
เช้าวันที่ 3 ก็มาถึงครับผม วันนี้ตอนแรกจะลุกตั้งแต่เช้าเลยครับจะไปเก็บภาพบรรยากาศเช้าๆของเมืองแห่งนี้ แต่ !!! แรง G มันดึงตัวผมไว้ครับ 5555 สรุปตื่น 8 โมง ก็รีบอาบน้ำอาบท่า หาข้าวกินเลยครับ จากนั้นการเที่ยววันนี้จะเป็นการไปเที่ยวถ้ำที่ห่างจากตัวเมืองไป 18 KM ครับ เราจะปั่นจักรยานไปครับ
ตัดสินใจเช่า เสือภูเขาครับ ราคา 20,000 KIP ครับ ตามธรรมเนียมครับ แลก Passport ครับ กำหนดคืน ไม่เกิน 2 ทุ่มครับ
เอาล่ะครับเริ่มปั่นกันเล๊ยยยยยย
วิวสองข้างทางจะเป็นธรรมชาติ ผมว่าสวยดีนะครับ เพราะภาพของภูเขามันติดตามากเลย มีแต่สวยๆทั้งนั้น
ใช้เวลาปั่นกันประมาณ 40 นาทีครับ เหนื่อยก็พักกันไปตามทางเรื่อยๆ
และแล้วเราก็มาถึงครับ ทางเข้าเพื่อจะไปถ้ำช้าง ถ้ำหลุบ ถ้ำหอย
โดยมีไกด์ท้องถิ่นครับ จ้างไป 100,000 KIP ครับ เพื่อพาเราเข้าไปถึงข้างในเลย และลึกมากๆ การเดินเข้าไปต้องใช้ประสบการณ์มากๆเลยครับ
ตามชื่อเลยครับจะมีหินหยอยออกมาเป็นรูปช้างครับ
สำหรับผมคิดว่าไม่มีอะไรเลยครับหลังจากเข้าไปรู้สึกผิดหวังเหมือนกัน จากนั้นก็เลยตัดสินใจปั่นกลับกันเลยครับ
ตอนแรกวางแพลนไว้จะไปต่อ แต่ไม่ไหวละครับ พลังหมดไปกับการปั่นไปกลับเกือบ 40 KM แล้วครับ เอาไว้ต่อวันพรุ่งนี้ละกันครับ
เย็นวันนี้ก็เป็นเหมือนเดิมครับ หาอะไรกินอาบน้ำและมานั่งเล่น Wifi ส่วนกลางเหมือนเดิมเลย 5555 ชีวิตวนลูบ
เริ่มวันที่ 4 ครับ ตอนแรกตั้งเป้ากันไว้ว่าวันนี้จะไปหลวงพระบางแต่ คือว่า เสียเวลาไปกับเมื่อวานพวกผมเลยไม่ได้ไปที่ๆอยากไป
เลยตัดสินใจที่จะพักที่วังเวียงกันต่ออีกคืนครับ แต่เราหาที่พักกันใหม่ครับ เพราะที่พักเก่ามีปัญหาอย่างนึงครับน้ำไม่ชอบไหลครับ เดี๋ยวมาเดี๋ยวขาด ฮือออ
ห้องพักที่ได้ในวันนี้ ราคา 100,000 KIP ครับ เข้าที่พักเสร็จก็เริ่มออกหาข้าว กินกลับมาอาบน้ำอาบท่าครับ แล้วไปเช่า มอไซต์เลยครับเนื่องจากไม่ไหวจริงๆครับจากจักรยาน555555 เช่ามอไซต์ไป 40,000 KIP
เป้าหมายของผมวันนี้จะไป ถ้ำจัง บลูลากูน แล้วก็จุดชมวิวครับ
เริ่มจากการขับมอไซต์ไปถ้ำจังครับ จะเจอทางเข้ารีสอร์ทครับ ค่าเข้า 2,000 KIP และค่าเข้าถ้ำราคา 15,000 KIP
ก่อนที่จะเข้าถ้ำจะมีสะพานครับ สวยมากครับเหมาะแก่การถ่ายรูป 5555555
ขอถ่ายด้วยครับ 55555 กลัวเขาหาว่าเราไปไม่จริง 555555555
หลังจากสร้างภาพแล้วผมก็ขอตัวไปเป็นมนุษย์ถ้ำต่อครับ
เห็นบันไดถึงกับต้องบอกว่า ตู้หูวววววว เลยครับ 555555
อันนี้ปากถ้ำครับ พร้อมจะเข้าแล้วววว
ถ้าผมไม่พลาด ถ้ำจังจะเป็นถ้ำเดียวครับที่ติดไฟไว้ตลอดทางในถ้ำครับ ภาพอาจจะไม่ชัดต้องกราบขออภัยด้วยครับบบบ
ในเมื่อดูเสร็จแล้วสิ่งที่จะทำต่อไปคือ ไปบลูลากูนครับ ที่นี่จะไป 1 ได้ 2 นะครับเพราะมีถ้ำพูคำอยู่ที่นั่นด้วยครับผม
แต่ขอไว้ต่อในตอน 2 นะครับ -0-
[CR] เที่ยวลาวชิวๆ 8 คืน 7 วัน (สบ๊าย สบาย) เวียงจันทน์ - วังเวียง - หลวงพระบาง
เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกต้องขออภัยด้วยนะครับ
กระทู้จะมีสองตอนนะครับ http://ppantip.com/topic/33907741 ตอนสองครับผม
วันแรกของการเดินทาง ผมใช้บริการขนส่งมวลชนของประเทศไทยแสนเก่าแก่ครับ ครับใช่ครับ รถไฟครับ
(คืนที่ 1)
18.35 น. ผมเริ่มออกเดินทางครับ รถไฟออก
(วันที่ 2 )
05.30 น. ถึงสถานีรถไฟหนองคายครับ พอถึงนี่โดนล้อมหน้าลอมหลังขอลายเซ็นกันเลยครับ 5555 จริงๆแล้วเขาจะพาเราไปด่านตรวจคนเข้าเมืองครับ
06.00 น. ผมก็เริ่มผ่านกรรมวิธีารผ่านด่านปกติครับแบบที่คนเขาทำกันทั่วๆไป แต่ก็ต้องคิดหนักครับ เพราะที่แลกเงินตรงด่านยังไม่เปิด ผมก็เลยต้องรอเข้าไปแลกในตัวเมืองเวียงจันทน์
07.00 น. ผมก็เดินหาที่พักครับ เดินๆดูไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอที่ถูกใจ ก่อนที่จะไปแลกเงินที่ธนาคารแล้วกลับมาเข้าที่พักครับ ผมไปพักที่ Mixok INN คืนละ 100,000 KIP พร้อมกับจองตั๋วรถผ่านทางที่พักเลย เพื่อไปวังเวียง ในราคา 50,000 KIP รอบ 10.00 น. ของพรุ่งนี้
09.00 น. เข้าที่พัก เก็บสัมภาระ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย (เพราะนั่งรถไฟมากลิ่นฝุ่นกับกลิ่นเหล็กเต็มตัวเลยครับ)
ก่อนที่จะออกไปลุยกันในเวียงจันทน์ ขอหาของเพิ่มพลังก่อนนะครับบบ
ชามนี้ ราคา 12,000 KIP ครับ
เมื่อท้องอิ่มการเดินทางก็ต้องมาครับ การเดินทางผมเลือกที่จะใช้เป็นจักรยานครับเป็นการปั่นไปตามแผนที่วางไว้ครับ
จักรยานค่าเช่าราคา 10,000 KIP ครับ เราต้องทำการยื่นบัตรประชาชนทิ้งไว้กับร้านด้วย (เจ้าของเดียวกับร้านเฝ่าที่กินครับ 55555)
แผนที่วางไว้ การปั่นจักรยานจะเป็นการปั่นเลนขวานะครับ จากที่ได้ทำการปั่นมาถือว่าอันตรายพอสมควรครับ เพราะการจราจรที่ลาวผมว่าโหดร้าย 555
ที่แรกคือ หอพระแก้วครับ แต่เนื่องจากที่ไปหอพระแก้วปิดปรับปรุงครับเลยทำให้อดดูเลย
ผมเลยเบนเข็มไปที่ต่อไปครับ นั่นคือประตูชัย(Patuxay)
สวยงามดีครับผมเป็นสถาปัตยากรรมที่สวยงามครับ ก็ได้ถ่ายภาพกันเรียบร้อย จากนั้นขึ้นไปด้านบนครับ ค่าขึ้น 3,000 KIP
ได้ภาพเรียบร้อยก็ลงมาครับ หิวน้ำกันฝุดๆเลยครับ 5555 ซื้อน้ำกินข้างล่างครับในราคา 6,000 KIP เป็นน้ำเปล่า หรือน้ำอัดลมราคาเดียวกันครับ
นั่งพักกันสักพักจิบน้ำเหมือนจิบชาชมดอกไม้ร่วง ก่อนที่เราจะไปเป้าหมายต่อไปครับ
นั่นคือพระธาตุหลวงนั่นเองงงงงงงง
ตอนไปถึงเป็นเวลา 12.45 ครับ ที่นี่จะมีเวลาเปิด-ปิด พักครับ พักเที่ยง-บ่ายโมงครับ เราก็เลยต้องถ่ายมุมไกลๆนั้นไว้ก่อน
13.00 น. ก็เข้ากันได้เลยยยยยยย
ระยะทางของแต่ละสถานที่ไม่ไกลกันครับสามารถปั่นจักรยานได้ แต่ผมอยากจะแนะนำว่า เหมาตุ๊กๆต่อราคากันมันส์ๆไปดีกว่าครับ ไม่เสี่ยงอันตรายดี
เมื่อเสร็จผมก็ปั่นไปเพื่อที่จะกลับที่พักครับ เพราะเหนื่อย + ร้อนมากๆ แต่ทันใดนั้นนนนนนน
ผมก็เจอ เข้ากลับบบบบบบสถานที่นี้ขอพักก่อนแล้วกันน
แก้วนี้ ถ้าผมจำไม่ผิดจะอยู่ที่ 18,000 KIP ครับ เมื่อพักเสร็จก็ปั่นไปคืนจักรยานกับกลับที่พักครับ แต่คราวนี้ไม่ยากครับ เพราะเป็นทางตรงตลอด 555 เริ่มจับทางได้ครับ
เข้าที่พัก พักผ่อนรอเวลาเพื่อไปหาข้าวเย็นกินกับไปตลาดมืดครับ
18.30 น.เริ่มหิวแล้วครับ
แต่ก่อนอื่นที่จะไปหาไรกินขอเก็บภาพก่อนครับ
ที่นี่จะเป็นที่ที่คนในเวียงจันทน์จะมาออกกำลังกายกันครับ ออกกันเยอะมากกกกกกกกก
กลุ่มคนจะเป็นกลุ่มคนที่เต้นแอโรบิกกันครับ มีหลายกลุ่มมากๆ
ผมก็นั่งๆมองไปรอบๆ จนกระทั่งผมไปเจออะไรแปลกๆอยู่ตรงแม่น้ำโขงที่แห้งจนสามารถไปเดินได้ครับ แต่พอไปดูใกล้ๆครับ
นั่นคือช้างที่ปั้นเป็นทรายครับ ตัวใหญ่มากกกกกกกก
เอาล่ะครับหิวจริงๆแล้วไม่ไหวแล้วววววว มื้อเย็นวันนี้จะเป็น ข้าวหมูกรอบ ราคา 15,000 KIP กับ น้ำขวดเล็ก 2,000 KIP
หลังจากนั้นก็ไปเดินดูตลาดมืดครับ เหมือนตลาดนัดบ้านเราเลย เดินดูสักพักก็กลับเข้าที่พักไปพักผ่อนดู ผู้กองยอดรัก ช่อง3ละครับ (TVไทยเยอะหม๊วก)
เช้าวันต่อมาครับ วันที่ 2 ของการผจญภัย
08.30 ผมก็ทำการเช็คเอาท์และกินข้าวเช้าของที่พักครับ ซึ่งฟรีครับ รวมอยู่ในค่าที่พักแล้ว
รสชาติถือว่าไม่แตกต่างกับทางบ้านเราครับผม อร่อยดี
ชาแก้วนี้ 15,000 KIP ครับผม
หลังจากกินเสร็จก็นั่งรอรถครับ จะมีคนรถมารับที่หน้าที่พักเพื่อไปขึ้นรถคันใหญ่อีกที
รถพาผมไปทิ้งไว้ตรงจุดรอครับ เวลาออกที่จริงจะต้องเป็น 10.00 น. แต่มันล่วงเลยมาจนถึง 12.00 น.
การเดินทางมาครั้งนี้ผมเคยบอกกับเพื่อนว่า อยากเจอคนญี่ปุ่นแล้วชวนคุยด้วย 555555 จังหวะเหมาะเลยครับมีคนญี่ปุ่นมารถด้วยครับ 2 คน
ทั้งสองคนมารอรถเพื่อที่จะไปวังเวียงเหมือนกันครับผม
คนซ้ายชื่อ ยูริครับ คนขวา ยูจิ ทั้งสองคนเดินทางกันมานานมากครับ 7 เดือนแล้ว ไปมาหลายประเทศมากๆครับ อินเดีย เนปาล มาเลเซีย ไทย ลาว เป็นการเดินทางที่สุดยอดเลยครับ ได้มีการพูดคุยกันนานมากๆเลยครับ สอนภาษาญี่ปุ่นให้ผมด้วย 555555
ในที่สุดรถก็มาสักทีครับ เดินทางกันเลยลุยไปวังเวียงต่อครับ
การเดินทางมาถึงวังเวียงประมาณ บ่าย 3ครับ เมื่อมาถึงผมก็ได้เดินตระเวนหาที่พักเลยครับ ไปได้เจอที่พักราคา 120,000 KIP 2 คืนครับ
วันที่มาถึงวังเวียงไม่มีอะไรมากมายครับ เดินสำรวจเมืองไปเรื่อยๆ ว่ามีอะไรบ้างเพื่อที่จะวางแผนสำหรับวันต่อไปครับ
สะพานข้ามแม่น้ำซองที่นี่ จะมีอยู่สองสะพานครับ สะพานในภาพที่ผมลงไปนั้นเป็นสะพานข้ามฟรีครับ
แต่มันจะมีสะพานเสียตังอีกอันครับ คือขาข้ามไปเสียครับ แต่ขาข้ามกลับจะไม่เสียตัง ส่วนราคานั้นผมไม่ทราบครับเพราะเลี่ยงจะข้ามตลอด 555555
หลังจากสำรวจเรียบร้อย ก็เริ่มหิวแล้วล่ะครับ
กินแบบฝรั่งเลยครับ 555 อันนี้ราคา 20,000 KIP ครับ
แต่คือมันไมอิ่มจริงๆผมเลยจัดการเบิ้ลต่อครับ
ส่วนผัดกะเพราจานนี้ 25,000 KIP ครับ
หลังจากอิ่มแล้วก็กลับที่พักครับ อาบน้ำแล้วมานั่งเล่น Wifi ตรงส่วนกลางของที่พักครับ มองดูคนเดินไปเดินมา จิบน้ำไปเรื่อยครับ 55555รอให้เวลาผ่านไปเพื่อเที่ยววันพรุ่งนี้ครับ
เช้าวันที่ 3 ก็มาถึงครับผม วันนี้ตอนแรกจะลุกตั้งแต่เช้าเลยครับจะไปเก็บภาพบรรยากาศเช้าๆของเมืองแห่งนี้ แต่ !!! แรง G มันดึงตัวผมไว้ครับ 5555 สรุปตื่น 8 โมง ก็รีบอาบน้ำอาบท่า หาข้าวกินเลยครับ จากนั้นการเที่ยววันนี้จะเป็นการไปเที่ยวถ้ำที่ห่างจากตัวเมืองไป 18 KM ครับ เราจะปั่นจักรยานไปครับ
ตัดสินใจเช่า เสือภูเขาครับ ราคา 20,000 KIP ครับ ตามธรรมเนียมครับ แลก Passport ครับ กำหนดคืน ไม่เกิน 2 ทุ่มครับ
เอาล่ะครับเริ่มปั่นกันเล๊ยยยยยย
วิวสองข้างทางจะเป็นธรรมชาติ ผมว่าสวยดีนะครับ เพราะภาพของภูเขามันติดตามากเลย มีแต่สวยๆทั้งนั้น
ใช้เวลาปั่นกันประมาณ 40 นาทีครับ เหนื่อยก็พักกันไปตามทางเรื่อยๆ
และแล้วเราก็มาถึงครับ ทางเข้าเพื่อจะไปถ้ำช้าง ถ้ำหลุบ ถ้ำหอย
โดยมีไกด์ท้องถิ่นครับ จ้างไป 100,000 KIP ครับ เพื่อพาเราเข้าไปถึงข้างในเลย และลึกมากๆ การเดินเข้าไปต้องใช้ประสบการณ์มากๆเลยครับ
ตามชื่อเลยครับจะมีหินหยอยออกมาเป็นรูปช้างครับ
สำหรับผมคิดว่าไม่มีอะไรเลยครับหลังจากเข้าไปรู้สึกผิดหวังเหมือนกัน จากนั้นก็เลยตัดสินใจปั่นกลับกันเลยครับ
ตอนแรกวางแพลนไว้จะไปต่อ แต่ไม่ไหวละครับ พลังหมดไปกับการปั่นไปกลับเกือบ 40 KM แล้วครับ เอาไว้ต่อวันพรุ่งนี้ละกันครับ
เย็นวันนี้ก็เป็นเหมือนเดิมครับ หาอะไรกินอาบน้ำและมานั่งเล่น Wifi ส่วนกลางเหมือนเดิมเลย 5555 ชีวิตวนลูบ
เริ่มวันที่ 4 ครับ ตอนแรกตั้งเป้ากันไว้ว่าวันนี้จะไปหลวงพระบางแต่ คือว่า เสียเวลาไปกับเมื่อวานพวกผมเลยไม่ได้ไปที่ๆอยากไป
เลยตัดสินใจที่จะพักที่วังเวียงกันต่ออีกคืนครับ แต่เราหาที่พักกันใหม่ครับ เพราะที่พักเก่ามีปัญหาอย่างนึงครับน้ำไม่ชอบไหลครับ เดี๋ยวมาเดี๋ยวขาด ฮือออ
ห้องพักที่ได้ในวันนี้ ราคา 100,000 KIP ครับ เข้าที่พักเสร็จก็เริ่มออกหาข้าว กินกลับมาอาบน้ำอาบท่าครับ แล้วไปเช่า มอไซต์เลยครับเนื่องจากไม่ไหวจริงๆครับจากจักรยาน555555 เช่ามอไซต์ไป 40,000 KIP
เป้าหมายของผมวันนี้จะไป ถ้ำจัง บลูลากูน แล้วก็จุดชมวิวครับ
เริ่มจากการขับมอไซต์ไปถ้ำจังครับ จะเจอทางเข้ารีสอร์ทครับ ค่าเข้า 2,000 KIP และค่าเข้าถ้ำราคา 15,000 KIP
ก่อนที่จะเข้าถ้ำจะมีสะพานครับ สวยมากครับเหมาะแก่การถ่ายรูป 5555555
ขอถ่ายด้วยครับ 55555 กลัวเขาหาว่าเราไปไม่จริง 555555555
หลังจากสร้างภาพแล้วผมก็ขอตัวไปเป็นมนุษย์ถ้ำต่อครับ
เห็นบันไดถึงกับต้องบอกว่า ตู้หูวววววว เลยครับ 555555
อันนี้ปากถ้ำครับ พร้อมจะเข้าแล้วววว
ถ้าผมไม่พลาด ถ้ำจังจะเป็นถ้ำเดียวครับที่ติดไฟไว้ตลอดทางในถ้ำครับ ภาพอาจจะไม่ชัดต้องกราบขออภัยด้วยครับบบบ
ในเมื่อดูเสร็จแล้วสิ่งที่จะทำต่อไปคือ ไปบลูลากูนครับ ที่นี่จะไป 1 ได้ 2 นะครับเพราะมีถ้ำพูคำอยู่ที่นั่นด้วยครับผม
แต่ขอไว้ต่อในตอน 2 นะครับ -0-