อ่านชื่อกระทู้แล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ ก็ตั้งใจจะทำให้มันแปลกนั่นแหละค่ะ 55555555555
เรียน ท่านผู้อ่านที่พลัดหลงหรือตั้งใจ ไม่ว่าจะเข้ามาด้วยประการใดทั้งสิ้น ขอบคุณที่กดเข้ามานะคะ ไม่ต้องอ่านหมดทุกตัวอักษรก็ได้ค่ะ กระทู้มันยาว แค่เข้ามาให้รู้จักม.อ.ปัตตานีมากขึ้นก็ดีใจแล้ว ^_^
ช่วงนี้น้องๆม.6 ว่าที่รหัส 59 คงจะอยู่ในช่วงโค้งจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยกันแล้ว จขกท.ก็เลยอยากจะรีวิว ม.อ.ปัตตานีให้น้องๆรู้จักมากขึ้นมากกว่าความคิดที่ว่า ‘ม.อ.ปัตตานี มีแต่อันตราย’ ค่ะ
เวลาไปพูดถึงม.อ.ปัตตานีกับพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย เวลาบอกว่าจะไปเรียนที่ม.อ.ปัตตานี เวลาบอกว่าติดที่ม.อ.ปัตตานี เชื่อว่า 99.99% ของพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตาย มักจะคัดค้านและห้ามว่า อย่าไปเรียนเลยพร้อมทั้งบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันอันตราย และถามกลับว่าไม่กลัวระเบิดหรอ ใช่มั้ยคะ? จขกท.เองก็เคยประสบพบเจอคำถามเหล่านี้ค่ะ พอพูดปั๊บก็ได้รับคำตอบกลับไวอย่างกับแสง
แน่นอนค่ะว่า มันอันตรายจริงๆตามที่พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายายเขาเป็นห่วงกัน (อ้าว) จขกท.คงปฎิเสธไม่ได้หรอกค่ะ ว่าในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบใดๆเกิดขึ้นเลย ก็มันมีข่าวอยู่ทุกๆวัน มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งที่อันตรายนั้นล้วนเกิดขึ้นในบริเวณนอกอำเภอเมืองค่ะ ไม่ใช่บริเวณในมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น ส่วนม.อ.ปัตตานีนั้น ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองและในบริเวณมหาวิทยาลัยเองมีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี เอาจริงๆ เหตุการณ์ความไม่สงบที่เป็นข่าวตามช่องทีวีที่ทุกคนกังวลนั้น สำหรับคนในพื้นที่เองก็จะมีการเตือนภัยกันล่วงหน้า ทั้งข่าวปากต่อปาก และแหล่งข่าวอื่นๆ อ่านแล้วอาจไม่เชื่อ งั้นต้องลองมาอยู่เองค่ะ
ปล.หากข้อมูลต่อจากนี้ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งมาอยู่ได้ปีเดียวเอง เพิ่มเติมข้อมูลหรือบอกให้แก้ไขได้เลยค่ะ ยินดีรับคำติชมเสมอ
ปล.2 ข้อมูลทางวิชาการที่ว่ามีคณะอะไรบ้าง แล้วคณะไหนเรียนยังไง เรียนยากมั้ย ถ้าอยากรู้แนะนำให้เสิร์ชและถามผู้รู้เอาเองนะคะ เพราะจขกท.ก็บอกได้ไม่หมดเหมือนกัน
Start!
จขกท.เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วันแรกที่ได้เข้ามาในม.อ.ปัตตานี คือ วันสอบสัมภาษณ์รอบแอดมิชชั่น ระหว่างทางก็ตื่นเต้นทุกวินาทีกันเลยทีเดียว 5555555555 บอกตรงๆก็กลัวค่ะ ไม่รู้ตัวเองจะเจออะไรบ้าง จากบ้านมาไกลแสนไกล ถ้าเป็นอะไรไปจะทำไงเนี่ย ใช่แล้ว! ทุกคนจะมีความคิดนี้อยู่ในสมองเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเดินทางมาที่ปัตตานี แต่ในระหว่างทางนั้นก็มีการรักษาความปลอดภัยเป็นระยะเลยนะคะ มีพี่ทหารยืนเวรยามและตรวจตราอยู่ สบายใจขึ้นระดับหนึ่ง นั่งมาเรื่อยๆก็สำรวจเส้นทาง จขกท.ได้รู้ว่าปัตตานีติดทะเลก็วันนั่งรถมานี่แหละค่า (ให้ตายเถอะ ยังกะเพิ่งออกจากถ้ำ) สอบสัมภาษณ์เสร็จอะไรเสร็จก็สำรวจกันมหา’ลัยกันต่อ
สำหรับบริเวณม.อ.ปัตตานีเองก็มีทะเลนะคะ อยู่ด้านหลัง ทะเลที่นี่ อืมมมมมม จขกท.ขอใช้คำว่าทะเลหาปลานะคะ มันออกแนวทะเลโคลน สีดำๆ น้ำไม่ได้ใสแบบเห็นตัวปลาเพราะคนที่นี่ทำมาหากินกับทะเล ทะเลก็แบบนั้นแหละค่ะ
ถ้าอยากจะไปสัมผัสทะเลหลังม.จริงๆก็ไปได้ค่ะ แต่ไปกันเยอะๆปลอดภัยไวก่อนดีสุด ยังไงอันตรายมันก็มีอยู่ทุกที่แหละเนอะ ถ้าอยากจะแค่ชมวิวเอาในม.ก็แนะนำให้ขึ้นไปดาดฟ้าหรือห้องเรียนบนตึกสูงๆ ที่หันออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นค่ะ เช่นตึกวทท. (คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) นอกจากทะเลหลังม.ที่เป็นธรรมชาติที่ปัตตานีแล้วยังมี หอดูนก อยู่โซนตึกวทท.เหมือนกันค่ะ ไกลสักหน่อย แต่บรรยากาศดีมาก
มาที่โซนตึกเรียนกันบ้าง อาคารเรียนที่นี่ มีหลักๆที่มักจะใช้เรียนกันเยอะคือ ตึก19และ ตึก58 อาคารเรียนรวมใหม่เดินไกลและไฉไลกว่าเดิม (รึเปล่า?) สำหรับการเดินทาง จขกท.ชินแล้วค่ะ เพราะสิ่งที่ต้องทำคือเดินมาเรียนทุกวัน ใช่ค่า! เดิน เดินจริงๆค่ะ เดินนี่แหละ เพราะ นักศึกษาปีหนึ่งห้ามใช้รถจักรยานยนต์ส่วนตัว ก็เป็นเฟรชชี่ใสใส เดินกันให้ขาลากไปก่อน ค่อยใช้รถตอนปีสองงี้ (จริงๆก็ใช้ได้นะคะ เห็นเพื่อนๆใช้กันอยู่) ตึกที่ไกลมากๆในความคิดของจขกท.คือตึกวสส.ค่ะ (คณะวิทยาการสื่อสาร) เดินจากหอมานี่คือ ขาลาก น้ำตาจะไหล ยิ่งตอนกลางวันนี่คือร้อนแบบไม่ต้องพูดอะไรเลย อาจจะใกล้หน่อยสำหรับเด็กหอสหกรณ์นะคะ (หอพักในกำกับ) เพราะตึกวสส.อยู่โซนนั้น
ปิ๊งป่อง! สำหรับหอในนั้น หอหญิงมีทั้งหมด 5 หอ คือ หอ5 6 7 8และ 10 หอชายมีทั้งหมด 5 หอเช่นกันคือ 1 2 3 4 และ 9 ทางเดินระหว่างที่ไปอาคารเรียนจากหอมีอยู่ตลอดๆค่ะมีร่มไม้ให้หลบแดดอยู่เหมือนกัน ก่อนจะไปเรียนก็ต้องเดินข้ามสะพานข้ามคลองที่เรียกว่า คลอง 200 เขาเรียกกันมางี้ก็เรียกกันไปค่ะ ตอนเย็นๆคลอง 200 จะบรรยากาศดีมาก ร่มรื่น ส่วนใหญ่ก็มามานั่งกินลมชมวิวกันค่ะ คนมาออกกำลังกายก็มีนะ คลอง 200 นี้มีความเชื่อว่า ถ้าใครเห็นน้องตัวเงินตัวทองว่ายน้ำในคลองนี้จะได้เกรดสี่ค่ะ สาธุกันไป น้องตัวเงินตัวทองคนที่นี่เรียก แยเวาะ เป็นภาษามลายูถิ่นค่ะ
ม.อ.ปัตตานีแห่งนี้ คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามค่ะ นั่นคือ ชาวมุสลิมประมาณ 80% รองลงมาก็เป็นศาสนาพุทธและอื่นๆตามลำดับ ดังนั้นภาษาที่ชาวมุสลิมที่นี่ใช้พูดกันส่วนใหญ่ คือภาษามลายูถิ่นหรือภาษายาวีนั่นแหละค่ะ จขกท.ได้ยินครั้งแรกนี่ เงี่ยหูฟังอยู่นานมาก เขาพูดอะไรกัน พอถามเพื่อน เพื่อนก็บอก อ้อ นั่นภาษามลายู เราก็ อ้อ ว่าทำไมฟังไม่รู้เรื่อง แล้วเราที่พูดภาษามลายูไม่เป็นจะสื่อสารกับเขายังไง? คำตอบคือ ใช้ภาษากลางราชการแบบที่พูดกันนี่แหละค่ะ เขาฟังเข้าใจและโต้ตอบรู้เรื่อง แต่ถ้าซัดภาษาใต้ถิ่นกำเนิดแท้ แบบนั้นเขาอาจจะทำหน้างงใส่นะคะ เพราะเขาฟังไม่ออก อาจจะฟังออกแค่เล็กน้อยแต่มันโต้ตอบยาก พอๆกับที่เราฟังภาษามลายูไม่ออกนั่นแหละค่า
ม.อ.ปัตตานีมีหอสมุดแห่งนึงนะคะ ชื่อว่า หอสมุดจอห์น เอฟ. เคนเนดี นักศึกษาเรียกสั้นๆว่า จอห์นเอฟ มี2ตึกค่ะ มีบันได้สีรุ้งที่ตึกใหม่ และมีทางเดินเชื่อมไปยังตึกเก่าด้วย หอสมุดอยู่โซนอาคารเรียน เหนื่อยๆหรือมีช่วงว่างๆก็ไปนอนที่หอสมุดนี่แหละค่ะ ช่วงสอบที่หอสมุดจะคนเยอะมาก เพราะเขามาอ่านหนังสือกัน รวมถึงลานประดู่ด้วย
ลานประดู่คือ โรงอาหารค่ะ และอีกที่หนึ่งคือ ลานอิฐ อยู่ตรงข้ามกันเลย ทั้งสองโรงอาหารนี้อยู่บริเวณโซนหอพักมีของกินให้เลือกพอสมควรค่ะ ถ้าคิดไม่ออกแล้วว่าจะกินอะไร ไปสิงในเซเว่นสักสองสามชั่วโมงได้เลย เดินวนให้ครบทุกตารางนิ้ว เซเว่นในม.อยู่ข้างลานประดู่นะคะ โรงอาหารเองก็ยังมีอีกที่นึงอยู่โซนอาคารเรียนหลังตึก 19 ก็คือ ลานเล
นอกจากอาหารในโรงอาหารแล้วม.อ.ปัตตานีของเรา มีตลาดแทบทุกวันเลยนะคะ มีทั้งตลาดหลังม. เดินออกไปนอกรั้วแค่ไม่กี่ก้าวก็มีของกินอร่อยๆ เสื้อผ้าถูกๆ ของใช้ บลาๆๆให้เลือกให้ชมกันเป็นแถวยาวตลอดครึ่งฝั่งถนนค่ะ เรียกได้ว่าปิดถนนขายกันเลยทีเดียว ตลาดหลังม.มีทุกวันจันและอังคาร ถ้าไม่อยากเดินออกไปนอกม.ก็ยังมีตลาดในม.อย่างตลาด วทท.นะคะ เขาก็ขายกันตรงตึกวทท.นั่นแหละค่ะ มีของกินอร่อยๆเยอะเหมือนกัน ตลาดวทท.มีทุกวันจันทร์ และพฤหัสค่ะ แล้ววันพุธล่ะ? วันพุธมี.เราก็มีตลาดนะคะ (บอกแล้วว่ามีทุกวันจริงๆ) วันพุธพิกัดตลาดอยู่ที่ลานอิฐค่ะ บริเวณด้านหน้าของโรงอาหารลานอิฐก็จะมีตลาดตั้งแต่ประมาณบ่ายสามจนถึงค่ำๆค่ะ ของกินก็เยอะเช่นกัน เอาง่ายๆคือมาม.อ.ปัตตานีไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรกิน สำหรับเรื่องของกินแล้ว จขกท.บอกเลยว่า แล้วแต่คนค่ะ ไม่มีอาหารที่ไหนจะถูกปากทุกคนไปหมด เพราะสไตล์การกินของแค่ละคนไม่เหมือนกัน จขกท.เองตอนมาแรกๆก็กินไม่ค่อยถูกปากหรอกค่ะ แต่พออยู่เรื่อยๆจะกินอะไรก็ได้หมด 55555555555555
สถานที่ที่จะแนะนำของอร่อยยังมีเยอะแยะเลยค่ะ ถ้าเดินออกไปถนนสายมอ(ถนนหน้ามหา’ลัย) มีให้เลือกหลายร้าน หลายสไตล์เลยค่ะ แฮมเบอร์เกอร์ พิชซ่า ร้านเครื่องดื่ม ไส้กรอกลูกชิ้น บลาๆๆ ส่วนใหญ่ร้านอาหารที่นี่จะเปิดตอนเย็นจนถึงค่ำๆ ช่วงประมาณทุ่มกว่าๆคนเยอะเกือบทุกร้าน ร้านที่เปิดจนถึงดึกๆเลยก็มีนะคะ ว่ากันว่าที่เรียกว่า สายมอ มาจาก มอ เสียงร้องของน้องวัวค่ะ เพราะว่าตอนกลางคืนจะมีน้องวัวเยอะแยะมากมายเดินเต็มถนน น้องวัวไม่หลบรถนะคะ รถต้องหลบเอาเอง ที่แปลกสำหรับจขกท.ก็คือ น้องวัวที่นี่กินขยะค่ะ ไม่ได้กินหญ้า กลางวันไม่ค่อยมีให้เห็นนะคะ จะเห็นทีก็ตอนเย็นๆค่ำ
การออกไปกินลมชมวิวนอกบริเวณมหาลัย เอาแบบจริงจังเลย!!! เรื่องเหตุการณ์ความไม่สงบเวลาออกเดินทางไปไหนมาไหนในพื้นที่ปัตตานี สำหรับจขกท. ทีวีน่ะ ไม่ค่อยได้ดูหรอกค่ะ บางทีเวลาพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย เขาโทรมาถามโทรมาบอกว่า มีเหตุการณ์เกิดตรงนั้นตรงนี้ จขกท.เองก็เพิ่งรู้กับพี่พวกเขาบอกพวกเขาเป็นห่วงกันนี่แหละค่า ก็สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าวันๆนึงใช้เวลาไปกับอะไร ทำไมไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวกับเขาเลย เพราะฉะนั้น พื้นที่ไหนที่อันตรายเลี่ยงได้ก็คือไม่ไป ดีที่สุดค่ะ
จะบอกว่าม.อ.ปัตตานีเองก็มีนักศึกษาต่างชาตินะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวแอฟริกาและจีนค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะเรียน วอศ. (วิทยาลัยอิสลามศึกษา) ซึ่งตึกวอศ.เป็นอะไรที่งดงามอลังการงานสร้างมาก คือดูดี ดูหรู ดูแพง ยิ่งใหญ่เว่อร์
ยังมีคณะอื่นๆและสถานที่ที่ไม่ได้เล่าให้ฟังอีกเยอะเลยนะคะ ได้แก่ คณะศึกษาศาสตร์ที่อยู่กับม.อ.ปัตตานีมานานแสนนานคณะรัฐศาสตร์ สิงห์น้ำเงิน คณะมนุษย์ฯที่อยู่มาตั้งแต่นู่นนานพอๆกับคณะศึกษาศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์กับตึกเก่าที่ข้างในไม่ได้เก่าแบบที่เห็น คณะพยาบาลศาสตร์ คณะน้องใหม่ล่าสุดกับตึกเรียน Pre-clinical และตึกคณะใหม่ที่กำลังสร้าง ยังมีสำนักงานและกองกิจการต่างๆที่ให้บริการนักศึกษาอีกมากมาย รวมทั้งบ้านไม้โบราณและพิพิธภัณฑ์พระเทพญาณโมลีสองที่นี้นานๆครั้งจะเปิดให้เข้าชมนะคะ
สำหรับเรื่องกิจกรรมของม.ของคณะหรืออะไรบลาๆๆๆ ที่นี่ก็จัดไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างอะไรมากค่ะ ตามจำนวนคนที่มีตามนั้นแหละค่ะ ถ้าเกิดน้องๆที่จะมาเรียนม.อ.ปัตตานี ก็อยากให้มาสัมผัสเองมากกว่า
จริงๆแล้วม.อ.ปัตตานีไม่ได้กว้างขวางมากหรอกค่ะ เพราะมันคือวิทยาเขตหนึ่ง ซึ่งเป็นวิทยาเขตแรกของม.อ. แต่ขอบอกเลยว่า ไม่ได้อันตรายแบบที่หลายๆคนคิด ยังมีมุมมองดีๆอีกเยอะแยะให้เราหาและให้เราเห็น จะอันตรายหรือไม่อันตรายอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะไปหามันมั้ยหรือจะดูแลตัวเองแค่ไหน เรื่องคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ ทุกคนต้องคิดถึงอยู่แล้วค่ะ แรกๆนี่เด็กปีหนึ่งโฮมซิกกันเป็นแถบๆ เสาร์อาทิตย์ใครบ้านใกล้ๆหน่อยก็กลับกันเป็นขบวน ยิ่งหยุดยาวช่วงฮารีรายอของชาวมุสลิมนี่คือม.เงียบมากนึกว่าร้าง สงกรานต์ก็เงียบพอๆกัน อยู่ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ชินเองค่ะ มีกิจกรรม มีงาน มีสอบ มีอะไรที่เราต้องเจออีกเยอะในแบบฉบับของนักศึกษามหาวิทยาลัย ยังไงเราต้องปรับตัวให้เขากับสังคมที่เราอยู่นั่นแหละเนาะ สรุปแล้วมอ.ปัตตานีไม่ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองไม่รู้หรอกนะคะ (อ้าว แล้วที่พิมมาทั้งหมดล่ะ? 55555555)
สุดท้ายก่อนจบกระทู้ก็อยากบอกน้องๆม.6 ทุกคน เด็กซิ่ว หรือใครก็ตามที่กำลังตัดสินใจเกี่ยวกับที่จะมาเรียนม.อ.ปัตตานี หวังว่ากระทู้คงจะช่วยได้สำหรับเรื่องความเป็นอยู่และเรื่องความปลอดภัย ส่วนเรื่องเรียนนั้นตัวใครตัวมันนะคะ ท้อได้แต่อย่าถอยเนาะ สู้ๆค่า
Image Credit : แคกูรี
[รีวิว] ม.อ.ปัตตานี ไม่ได้มี (แค่) ระเบิดแบบที่คิด!!!
เรียน ท่านผู้อ่านที่พลัดหลงหรือตั้งใจ ไม่ว่าจะเข้ามาด้วยประการใดทั้งสิ้น ขอบคุณที่กดเข้ามานะคะ ไม่ต้องอ่านหมดทุกตัวอักษรก็ได้ค่ะ กระทู้มันยาว แค่เข้ามาให้รู้จักม.อ.ปัตตานีมากขึ้นก็ดีใจแล้ว ^_^
ช่วงนี้น้องๆม.6 ว่าที่รหัส 59 คงจะอยู่ในช่วงโค้งจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยกันแล้ว จขกท.ก็เลยอยากจะรีวิว ม.อ.ปัตตานีให้น้องๆรู้จักมากขึ้นมากกว่าความคิดที่ว่า ‘ม.อ.ปัตตานี มีแต่อันตราย’ ค่ะ
เวลาไปพูดถึงม.อ.ปัตตานีกับพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย เวลาบอกว่าจะไปเรียนที่ม.อ.ปัตตานี เวลาบอกว่าติดที่ม.อ.ปัตตานี เชื่อว่า 99.99% ของพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตาย มักจะคัดค้านและห้ามว่า อย่าไปเรียนเลยพร้อมทั้งบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันอันตราย และถามกลับว่าไม่กลัวระเบิดหรอ ใช่มั้ยคะ? จขกท.เองก็เคยประสบพบเจอคำถามเหล่านี้ค่ะ พอพูดปั๊บก็ได้รับคำตอบกลับไวอย่างกับแสง
แน่นอนค่ะว่า มันอันตรายจริงๆตามที่พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายายเขาเป็นห่วงกัน (อ้าว) จขกท.คงปฎิเสธไม่ได้หรอกค่ะ ว่าในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบใดๆเกิดขึ้นเลย ก็มันมีข่าวอยู่ทุกๆวัน มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งที่อันตรายนั้นล้วนเกิดขึ้นในบริเวณนอกอำเภอเมืองค่ะ ไม่ใช่บริเวณในมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น ส่วนม.อ.ปัตตานีนั้น ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองและในบริเวณมหาวิทยาลัยเองมีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี เอาจริงๆ เหตุการณ์ความไม่สงบที่เป็นข่าวตามช่องทีวีที่ทุกคนกังวลนั้น สำหรับคนในพื้นที่เองก็จะมีการเตือนภัยกันล่วงหน้า ทั้งข่าวปากต่อปาก และแหล่งข่าวอื่นๆ อ่านแล้วอาจไม่เชื่อ งั้นต้องลองมาอยู่เองค่ะ
ปล.หากข้อมูลต่อจากนี้ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งมาอยู่ได้ปีเดียวเอง เพิ่มเติมข้อมูลหรือบอกให้แก้ไขได้เลยค่ะ ยินดีรับคำติชมเสมอ
ปล.2 ข้อมูลทางวิชาการที่ว่ามีคณะอะไรบ้าง แล้วคณะไหนเรียนยังไง เรียนยากมั้ย ถ้าอยากรู้แนะนำให้เสิร์ชและถามผู้รู้เอาเองนะคะ เพราะจขกท.ก็บอกได้ไม่หมดเหมือนกัน
Start!
จขกท.เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วันแรกที่ได้เข้ามาในม.อ.ปัตตานี คือ วันสอบสัมภาษณ์รอบแอดมิชชั่น ระหว่างทางก็ตื่นเต้นทุกวินาทีกันเลยทีเดียว 5555555555 บอกตรงๆก็กลัวค่ะ ไม่รู้ตัวเองจะเจออะไรบ้าง จากบ้านมาไกลแสนไกล ถ้าเป็นอะไรไปจะทำไงเนี่ย ใช่แล้ว! ทุกคนจะมีความคิดนี้อยู่ในสมองเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเดินทางมาที่ปัตตานี แต่ในระหว่างทางนั้นก็มีการรักษาความปลอดภัยเป็นระยะเลยนะคะ มีพี่ทหารยืนเวรยามและตรวจตราอยู่ สบายใจขึ้นระดับหนึ่ง นั่งมาเรื่อยๆก็สำรวจเส้นทาง จขกท.ได้รู้ว่าปัตตานีติดทะเลก็วันนั่งรถมานี่แหละค่า (ให้ตายเถอะ ยังกะเพิ่งออกจากถ้ำ) สอบสัมภาษณ์เสร็จอะไรเสร็จก็สำรวจกันมหา’ลัยกันต่อ
สำหรับบริเวณม.อ.ปัตตานีเองก็มีทะเลนะคะ อยู่ด้านหลัง ทะเลที่นี่ อืมมมมมม จขกท.ขอใช้คำว่าทะเลหาปลานะคะ มันออกแนวทะเลโคลน สีดำๆ น้ำไม่ได้ใสแบบเห็นตัวปลาเพราะคนที่นี่ทำมาหากินกับทะเล ทะเลก็แบบนั้นแหละค่ะ
ถ้าอยากจะไปสัมผัสทะเลหลังม.จริงๆก็ไปได้ค่ะ แต่ไปกันเยอะๆปลอดภัยไวก่อนดีสุด ยังไงอันตรายมันก็มีอยู่ทุกที่แหละเนอะ ถ้าอยากจะแค่ชมวิวเอาในม.ก็แนะนำให้ขึ้นไปดาดฟ้าหรือห้องเรียนบนตึกสูงๆ ที่หันออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นค่ะ เช่นตึกวทท. (คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) นอกจากทะเลหลังม.ที่เป็นธรรมชาติที่ปัตตานีแล้วยังมี หอดูนก อยู่โซนตึกวทท.เหมือนกันค่ะ ไกลสักหน่อย แต่บรรยากาศดีมาก
มาที่โซนตึกเรียนกันบ้าง อาคารเรียนที่นี่ มีหลักๆที่มักจะใช้เรียนกันเยอะคือ ตึก19และ ตึก58 อาคารเรียนรวมใหม่เดินไกลและไฉไลกว่าเดิม (รึเปล่า?) สำหรับการเดินทาง จขกท.ชินแล้วค่ะ เพราะสิ่งที่ต้องทำคือเดินมาเรียนทุกวัน ใช่ค่า! เดิน เดินจริงๆค่ะ เดินนี่แหละ เพราะ นักศึกษาปีหนึ่งห้ามใช้รถจักรยานยนต์ส่วนตัว ก็เป็นเฟรชชี่ใสใส เดินกันให้ขาลากไปก่อน ค่อยใช้รถตอนปีสองงี้ (จริงๆก็ใช้ได้นะคะ เห็นเพื่อนๆใช้กันอยู่) ตึกที่ไกลมากๆในความคิดของจขกท.คือตึกวสส.ค่ะ (คณะวิทยาการสื่อสาร) เดินจากหอมานี่คือ ขาลาก น้ำตาจะไหล ยิ่งตอนกลางวันนี่คือร้อนแบบไม่ต้องพูดอะไรเลย อาจจะใกล้หน่อยสำหรับเด็กหอสหกรณ์นะคะ (หอพักในกำกับ) เพราะตึกวสส.อยู่โซนนั้น
ปิ๊งป่อง! สำหรับหอในนั้น หอหญิงมีทั้งหมด 5 หอ คือ หอ5 6 7 8และ 10 หอชายมีทั้งหมด 5 หอเช่นกันคือ 1 2 3 4 และ 9 ทางเดินระหว่างที่ไปอาคารเรียนจากหอมีอยู่ตลอดๆค่ะมีร่มไม้ให้หลบแดดอยู่เหมือนกัน ก่อนจะไปเรียนก็ต้องเดินข้ามสะพานข้ามคลองที่เรียกว่า คลอง 200 เขาเรียกกันมางี้ก็เรียกกันไปค่ะ ตอนเย็นๆคลอง 200 จะบรรยากาศดีมาก ร่มรื่น ส่วนใหญ่ก็มามานั่งกินลมชมวิวกันค่ะ คนมาออกกำลังกายก็มีนะ คลอง 200 นี้มีความเชื่อว่า ถ้าใครเห็นน้องตัวเงินตัวทองว่ายน้ำในคลองนี้จะได้เกรดสี่ค่ะ สาธุกันไป น้องตัวเงินตัวทองคนที่นี่เรียก แยเวาะ เป็นภาษามลายูถิ่นค่ะ
ม.อ.ปัตตานีแห่งนี้ คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามค่ะ นั่นคือ ชาวมุสลิมประมาณ 80% รองลงมาก็เป็นศาสนาพุทธและอื่นๆตามลำดับ ดังนั้นภาษาที่ชาวมุสลิมที่นี่ใช้พูดกันส่วนใหญ่ คือภาษามลายูถิ่นหรือภาษายาวีนั่นแหละค่ะ จขกท.ได้ยินครั้งแรกนี่ เงี่ยหูฟังอยู่นานมาก เขาพูดอะไรกัน พอถามเพื่อน เพื่อนก็บอก อ้อ นั่นภาษามลายู เราก็ อ้อ ว่าทำไมฟังไม่รู้เรื่อง แล้วเราที่พูดภาษามลายูไม่เป็นจะสื่อสารกับเขายังไง? คำตอบคือ ใช้ภาษากลางราชการแบบที่พูดกันนี่แหละค่ะ เขาฟังเข้าใจและโต้ตอบรู้เรื่อง แต่ถ้าซัดภาษาใต้ถิ่นกำเนิดแท้ แบบนั้นเขาอาจจะทำหน้างงใส่นะคะ เพราะเขาฟังไม่ออก อาจจะฟังออกแค่เล็กน้อยแต่มันโต้ตอบยาก พอๆกับที่เราฟังภาษามลายูไม่ออกนั่นแหละค่า
ม.อ.ปัตตานีมีหอสมุดแห่งนึงนะคะ ชื่อว่า หอสมุดจอห์น เอฟ. เคนเนดี นักศึกษาเรียกสั้นๆว่า จอห์นเอฟ มี2ตึกค่ะ มีบันได้สีรุ้งที่ตึกใหม่ และมีทางเดินเชื่อมไปยังตึกเก่าด้วย หอสมุดอยู่โซนอาคารเรียน เหนื่อยๆหรือมีช่วงว่างๆก็ไปนอนที่หอสมุดนี่แหละค่ะ ช่วงสอบที่หอสมุดจะคนเยอะมาก เพราะเขามาอ่านหนังสือกัน รวมถึงลานประดู่ด้วย
ลานประดู่คือ โรงอาหารค่ะ และอีกที่หนึ่งคือ ลานอิฐ อยู่ตรงข้ามกันเลย ทั้งสองโรงอาหารนี้อยู่บริเวณโซนหอพักมีของกินให้เลือกพอสมควรค่ะ ถ้าคิดไม่ออกแล้วว่าจะกินอะไร ไปสิงในเซเว่นสักสองสามชั่วโมงได้เลย เดินวนให้ครบทุกตารางนิ้ว เซเว่นในม.อยู่ข้างลานประดู่นะคะ โรงอาหารเองก็ยังมีอีกที่นึงอยู่โซนอาคารเรียนหลังตึก 19 ก็คือ ลานเล
นอกจากอาหารในโรงอาหารแล้วม.อ.ปัตตานีของเรา มีตลาดแทบทุกวันเลยนะคะ มีทั้งตลาดหลังม. เดินออกไปนอกรั้วแค่ไม่กี่ก้าวก็มีของกินอร่อยๆ เสื้อผ้าถูกๆ ของใช้ บลาๆๆให้เลือกให้ชมกันเป็นแถวยาวตลอดครึ่งฝั่งถนนค่ะ เรียกได้ว่าปิดถนนขายกันเลยทีเดียว ตลาดหลังม.มีทุกวันจันและอังคาร ถ้าไม่อยากเดินออกไปนอกม.ก็ยังมีตลาดในม.อย่างตลาด วทท.นะคะ เขาก็ขายกันตรงตึกวทท.นั่นแหละค่ะ มีของกินอร่อยๆเยอะเหมือนกัน ตลาดวทท.มีทุกวันจันทร์ และพฤหัสค่ะ แล้ววันพุธล่ะ? วันพุธมี.เราก็มีตลาดนะคะ (บอกแล้วว่ามีทุกวันจริงๆ) วันพุธพิกัดตลาดอยู่ที่ลานอิฐค่ะ บริเวณด้านหน้าของโรงอาหารลานอิฐก็จะมีตลาดตั้งแต่ประมาณบ่ายสามจนถึงค่ำๆค่ะ ของกินก็เยอะเช่นกัน เอาง่ายๆคือมาม.อ.ปัตตานีไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรกิน สำหรับเรื่องของกินแล้ว จขกท.บอกเลยว่า แล้วแต่คนค่ะ ไม่มีอาหารที่ไหนจะถูกปากทุกคนไปหมด เพราะสไตล์การกินของแค่ละคนไม่เหมือนกัน จขกท.เองตอนมาแรกๆก็กินไม่ค่อยถูกปากหรอกค่ะ แต่พออยู่เรื่อยๆจะกินอะไรก็ได้หมด 55555555555555
สถานที่ที่จะแนะนำของอร่อยยังมีเยอะแยะเลยค่ะ ถ้าเดินออกไปถนนสายมอ(ถนนหน้ามหา’ลัย) มีให้เลือกหลายร้าน หลายสไตล์เลยค่ะ แฮมเบอร์เกอร์ พิชซ่า ร้านเครื่องดื่ม ไส้กรอกลูกชิ้น บลาๆๆ ส่วนใหญ่ร้านอาหารที่นี่จะเปิดตอนเย็นจนถึงค่ำๆ ช่วงประมาณทุ่มกว่าๆคนเยอะเกือบทุกร้าน ร้านที่เปิดจนถึงดึกๆเลยก็มีนะคะ ว่ากันว่าที่เรียกว่า สายมอ มาจาก มอ เสียงร้องของน้องวัวค่ะ เพราะว่าตอนกลางคืนจะมีน้องวัวเยอะแยะมากมายเดินเต็มถนน น้องวัวไม่หลบรถนะคะ รถต้องหลบเอาเอง ที่แปลกสำหรับจขกท.ก็คือ น้องวัวที่นี่กินขยะค่ะ ไม่ได้กินหญ้า กลางวันไม่ค่อยมีให้เห็นนะคะ จะเห็นทีก็ตอนเย็นๆค่ำ
การออกไปกินลมชมวิวนอกบริเวณมหาลัย เอาแบบจริงจังเลย!!! เรื่องเหตุการณ์ความไม่สงบเวลาออกเดินทางไปไหนมาไหนในพื้นที่ปัตตานี สำหรับจขกท. ทีวีน่ะ ไม่ค่อยได้ดูหรอกค่ะ บางทีเวลาพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย เขาโทรมาถามโทรมาบอกว่า มีเหตุการณ์เกิดตรงนั้นตรงนี้ จขกท.เองก็เพิ่งรู้กับพี่พวกเขาบอกพวกเขาเป็นห่วงกันนี่แหละค่า ก็สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าวันๆนึงใช้เวลาไปกับอะไร ทำไมไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวกับเขาเลย เพราะฉะนั้น พื้นที่ไหนที่อันตรายเลี่ยงได้ก็คือไม่ไป ดีที่สุดค่ะ
จะบอกว่าม.อ.ปัตตานีเองก็มีนักศึกษาต่างชาตินะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวแอฟริกาและจีนค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะเรียน วอศ. (วิทยาลัยอิสลามศึกษา) ซึ่งตึกวอศ.เป็นอะไรที่งดงามอลังการงานสร้างมาก คือดูดี ดูหรู ดูแพง ยิ่งใหญ่เว่อร์
ยังมีคณะอื่นๆและสถานที่ที่ไม่ได้เล่าให้ฟังอีกเยอะเลยนะคะ ได้แก่ คณะศึกษาศาสตร์ที่อยู่กับม.อ.ปัตตานีมานานแสนนานคณะรัฐศาสตร์ สิงห์น้ำเงิน คณะมนุษย์ฯที่อยู่มาตั้งแต่นู่นนานพอๆกับคณะศึกษาศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์กับตึกเก่าที่ข้างในไม่ได้เก่าแบบที่เห็น คณะพยาบาลศาสตร์ คณะน้องใหม่ล่าสุดกับตึกเรียน Pre-clinical และตึกคณะใหม่ที่กำลังสร้าง ยังมีสำนักงานและกองกิจการต่างๆที่ให้บริการนักศึกษาอีกมากมาย รวมทั้งบ้านไม้โบราณและพิพิธภัณฑ์พระเทพญาณโมลีสองที่นี้นานๆครั้งจะเปิดให้เข้าชมนะคะ
สำหรับเรื่องกิจกรรมของม.ของคณะหรืออะไรบลาๆๆๆ ที่นี่ก็จัดไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างอะไรมากค่ะ ตามจำนวนคนที่มีตามนั้นแหละค่ะ ถ้าเกิดน้องๆที่จะมาเรียนม.อ.ปัตตานี ก็อยากให้มาสัมผัสเองมากกว่า
จริงๆแล้วม.อ.ปัตตานีไม่ได้กว้างขวางมากหรอกค่ะ เพราะมันคือวิทยาเขตหนึ่ง ซึ่งเป็นวิทยาเขตแรกของม.อ. แต่ขอบอกเลยว่า ไม่ได้อันตรายแบบที่หลายๆคนคิด ยังมีมุมมองดีๆอีกเยอะแยะให้เราหาและให้เราเห็น จะอันตรายหรือไม่อันตรายอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะไปหามันมั้ยหรือจะดูแลตัวเองแค่ไหน เรื่องคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ ทุกคนต้องคิดถึงอยู่แล้วค่ะ แรกๆนี่เด็กปีหนึ่งโฮมซิกกันเป็นแถบๆ เสาร์อาทิตย์ใครบ้านใกล้ๆหน่อยก็กลับกันเป็นขบวน ยิ่งหยุดยาวช่วงฮารีรายอของชาวมุสลิมนี่คือม.เงียบมากนึกว่าร้าง สงกรานต์ก็เงียบพอๆกัน อยู่ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ชินเองค่ะ มีกิจกรรม มีงาน มีสอบ มีอะไรที่เราต้องเจออีกเยอะในแบบฉบับของนักศึกษามหาวิทยาลัย ยังไงเราต้องปรับตัวให้เขากับสังคมที่เราอยู่นั่นแหละเนาะ สรุปแล้วมอ.ปัตตานีไม่ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองไม่รู้หรอกนะคะ (อ้าว แล้วที่พิมมาทั้งหมดล่ะ? 55555555)
สุดท้ายก่อนจบกระทู้ก็อยากบอกน้องๆม.6 ทุกคน เด็กซิ่ว หรือใครก็ตามที่กำลังตัดสินใจเกี่ยวกับที่จะมาเรียนม.อ.ปัตตานี หวังว่ากระทู้คงจะช่วยได้สำหรับเรื่องความเป็นอยู่และเรื่องความปลอดภัย ส่วนเรื่องเรียนนั้นตัวใครตัวมันนะคะ ท้อได้แต่อย่าถอยเนาะ สู้ๆค่า
Image Credit : แคกูรี