ภาพของละองที่ถ่ายไว้ได้ระหว่างที่เดินอยู่กลางป่า อยู่ห่างจากระยะที่ถ่ายประมาณ 150 เมตร
จากครั้งก่อนได้นำเสนอความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ ในอำเภอลี้ ซึ่งได้เน้นไปที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ครั้งนี้ได้มีโอกาสกลับไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้มีโอกาสไปเยือนทุ่งกิ๊กอันเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติที่อยู่ใจกลางป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ การเข้ามาเยือนที่ทุ่งกิ๊กนั้นเหมือนเข้ามาอยู่อีกโลกหนึ่ง ที่นี่เงียบสงบ เป็นสถานที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูนกหัวขวาน โดยนกชนิดอื่น ๆ ก็สามารถพบได้เช่นกัน
นอกเหนือจากนกแล้ว ที่ทุ่งกิ๊กอันโอบล้อมไปด้วยป่าที่สมบูรณ์ ยังมีสัตว์อื่น ๆ อาศัยอยู่อย่างเช่น ละองละมั่ง และสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างเนื้อทราย (นอกเหนือจากที่ห้วยขาแข้งและภูเขียว) อีกทั้งระบบนิเวศน์ที่นี่ยังสมบูรณ์ครบวงจร สำหรับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่สามารถพบได้ที่นี่ ได้แก่ เม่น ไก่ป่า หมูป่า ฯลฯ จึงนับได้ว่าที่นี่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมาก
อุทยานแห่งชาติแม่ปิงมีน้ำตกที่สวยงามถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ น้ำตกก้อหลวง น้ำตกก้อน้อย และน้ำตกตาดสะดอ จากน้ำตกจึงไหลสู่ลำธารเป็นเส้นเลือดคอยหล่อเลี้ยงป่า แต่เนื่องจากเวลาจำกัดจึงสามารถเก็บความสวยงามของสถานที่แห่งนี้มาฝากกันได้พอสังเขป
ภาพทางเข้าสู่ทุ่งกิ๊กซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยาน 11 กิโลเมตร
มีหลักกิโลเมตรคอยบอกตำแหน่งตลอด
ภาพทุ่งหญ้าบริเวณทุ่งกิ๊ก ยามเย็นจะเห็นเหล่าละองละมั่งและเนื้อทรายออกมากินหญ้า
ที่ทุ่งกิ๊กมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนโดยจองบ้านพักอุทยานหรือสามารถกางเต็นท์ได้ บริเวณทุ่งหญ้านี้ สาเหตุที่ไม่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ในบริเวณทุ่งหญ้าก็เนื่องมาจากบริเวณชั้นดินของทุ่งหญ้านี้เต็มไปด้วยหิน และยังเป็นที่มาของชื่อทุ่งกิ๊กด้วย เพราะเวลาลงจอบแล้วจะเจอกับชั้นหินจนดังกิ๊ก จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง
หลังจากที่จัดเตรียมของเพื่อเดินสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณแล้ว เนื่องจากช่วงที่เวลาที่ไปถึงนั้นเป็นเที่ยงวัน โอกาสที่จะเห็นนกหัวขวานนั้นน้อยมาก ทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าต้องมาช่วงเช้า ๆ หรือต้องรอช่วงเย็น จึงต้องรอโอกาสครั้งต่อไปซึ่งคงได้มาเยือนอีกเป็นแน่
ผมเดินย้อนกลับเข้าไปด้านหลังของทุ่งกิ๊กซึ่งเป็นป่าเต็งรังสลับป่าเบญจพรรณ ช่วงนี้เป็นช่วงแล้งจัด น้ำในลำธารที่ควรจะมีจึงแห้งขอด เหลือเป็นแอ่งน้ำเป็นช่วง ๆ ซึ่งสัตว์จะมาใช้พื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายสามเป็นต้นไป จะไม่กระจายไปทั่วป่าเหมือนช่วงฤดูน้ำสมบูรณ์
สภาพของป่าในวันที่แล้งจัดเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า
ลำธารแห้งเหือดคงต้องรอน้ำในฤดูฝน
แอ่งน้ำเล็ก ๆ และบริเวณโดยรอบเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าผีเสื้อ ถ้าตกบ่ายเหล่าสัตว์ชนิดอื่นก็จะมาเช่นกัน
ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงนั้นนับได้ว่าเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีนกหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกหัวขวาน ซึ่งนกหัวขวานใหญ่สีดำยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติแม่ปิงแห่งนี้อีกด้วย ผมได้ถ่ายภาพชีวิตของสัตว์ในช่วงแล้งมาฝากพอสังเขป
ไม่พบนกหัวขวานแต่พบกับเหยี่ยวกิ้งก่าสีดำแทน
นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง
มีเสื้อเป็นจำนวนมากมารวมตัวกัน
ภาพของละองในมุมหันมาทางกล้องจะเห็นได้ว่าเขาด้านขวาหักไป ตอนที่พบนั้นอยู่กับละมั่งอีก 2 ตัว แต่เพียงแค่ได้กลิ่นคนก็วิ่งหนีหายเข้าไปในป่า จึงได้มาแค่ภาพจากระยะไกลครับ
ละองละมั่ง สำหรับในตัวผู้จะเรียกว่าละอง ส่วนตัวเมียจะเรียกว่าละมั่ง ตัวผู้มีเขาสวยงามมาก ละองละมั่งจะอาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งหญ้าไปจนถึงป่าเต็งรัง เนื่องจากเขาที่ยาวจะพันกับไม้เถาได้หากอยู่ในป่าชั้นที่ลึกเกินไป ในเวลากลางวันจะอาศัยอยู่ในป่า ส่วนตอนเย็นจะออกมากินหญ้าและพักผ่อนบริเวณทุ่งกิ๊กให้เห็นในระยะไกล ๆ การที่เราไม่เห็นสัตว์ป่าไม่ได้หมายความว่า ป่าแห่งนั้นไม่มีสัตว์ป่านะครับ มนุษย์นับได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สัตว์ป่ากลัวที่สุดแล้ว ขนาดเสือได้กลิ่นคนยังหนี สัตว์ป่าที่นี่ไม่คุ้นชินคน ต่างจากที่เขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติอื่น ๆ เนื่องจากยังไม่มีพฤติกรรมแย่ ๆ ของนักท่องเที่ยวทีให้อาหารสัตว์ป่าจนเสียนิสัย ที่นี่มีบทลงโทษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ให้อาหารสัตว์เช่นกัน เวลาไปควรตระหนักและศึกษากฏระเบียบให้ดีและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วยครับ
ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่สวยงามอีกเช่น ผาแดงหลวงจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ แก่งก้อมีจุดชมดวงอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม เป็นต้น ซึ่งผมเองกำลังวางแผนที่จะกลับมาอีกครั้งเพื่อมาตามเก็บสถานที่ท่องเที่ยวที่ตนเองยังพลาดไม่ได้มาเยี่ยมเยือนอีกหลายแห่ง
สำหรับการเดินทาง หากเดินทางจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์หรือจะไปทางเลี่ยงเมืองเส้นทางเลียบรถไฟไปก็ได้ เมื่อถึงตัวเมืองลำพูนให้ตัดไปเส้นทางหลวงหมายเลข 106 ไปอำเภอป่าซาง บ้านโฮ่ง จนถึงอำเภอลี้ รวมระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเส้นทางผ่านช่วงป่าซางรถจะเยอะมาก และถนนก็แคบ ควรวางแผนเผื่อเวลาไว้ด้วยครับ รวมเวลาที่ใช้ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมง
ลากันไปกับภาพของน้ำตกก้อหลวง และน้ำตกตาดสะดอในช่วงน้ำสมบูรณ์สวยงามที่สุด
น้ำตกก้อหลวง
น้ำตกตาดสะดอ
ทุ่งกิ๊กแดนมหัศจรรย์ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
จากครั้งก่อนได้นำเสนอความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ ในอำเภอลี้ ซึ่งได้เน้นไปที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ครั้งนี้ได้มีโอกาสกลับไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้มีโอกาสไปเยือนทุ่งกิ๊กอันเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติที่อยู่ใจกลางป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ การเข้ามาเยือนที่ทุ่งกิ๊กนั้นเหมือนเข้ามาอยู่อีกโลกหนึ่ง ที่นี่เงียบสงบ เป็นสถานที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูนกหัวขวาน โดยนกชนิดอื่น ๆ ก็สามารถพบได้เช่นกัน
นอกเหนือจากนกแล้ว ที่ทุ่งกิ๊กอันโอบล้อมไปด้วยป่าที่สมบูรณ์ ยังมีสัตว์อื่น ๆ อาศัยอยู่อย่างเช่น ละองละมั่ง และสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างเนื้อทราย (นอกเหนือจากที่ห้วยขาแข้งและภูเขียว) อีกทั้งระบบนิเวศน์ที่นี่ยังสมบูรณ์ครบวงจร สำหรับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่สามารถพบได้ที่นี่ ได้แก่ เม่น ไก่ป่า หมูป่า ฯลฯ จึงนับได้ว่าที่นี่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมาก
อุทยานแห่งชาติแม่ปิงมีน้ำตกที่สวยงามถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ น้ำตกก้อหลวง น้ำตกก้อน้อย และน้ำตกตาดสะดอ จากน้ำตกจึงไหลสู่ลำธารเป็นเส้นเลือดคอยหล่อเลี้ยงป่า แต่เนื่องจากเวลาจำกัดจึงสามารถเก็บความสวยงามของสถานที่แห่งนี้มาฝากกันได้พอสังเขป
มีหลักกิโลเมตรคอยบอกตำแหน่งตลอด
ภาพทุ่งหญ้าบริเวณทุ่งกิ๊ก ยามเย็นจะเห็นเหล่าละองละมั่งและเนื้อทรายออกมากินหญ้า
ที่ทุ่งกิ๊กมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนโดยจองบ้านพักอุทยานหรือสามารถกางเต็นท์ได้ บริเวณทุ่งหญ้านี้ สาเหตุที่ไม่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ในบริเวณทุ่งหญ้าก็เนื่องมาจากบริเวณชั้นดินของทุ่งหญ้านี้เต็มไปด้วยหิน และยังเป็นที่มาของชื่อทุ่งกิ๊กด้วย เพราะเวลาลงจอบแล้วจะเจอกับชั้นหินจนดังกิ๊ก จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง
หลังจากที่จัดเตรียมของเพื่อเดินสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณแล้ว เนื่องจากช่วงที่เวลาที่ไปถึงนั้นเป็นเที่ยงวัน โอกาสที่จะเห็นนกหัวขวานนั้นน้อยมาก ทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าต้องมาช่วงเช้า ๆ หรือต้องรอช่วงเย็น จึงต้องรอโอกาสครั้งต่อไปซึ่งคงได้มาเยือนอีกเป็นแน่
ผมเดินย้อนกลับเข้าไปด้านหลังของทุ่งกิ๊กซึ่งเป็นป่าเต็งรังสลับป่าเบญจพรรณ ช่วงนี้เป็นช่วงแล้งจัด น้ำในลำธารที่ควรจะมีจึงแห้งขอด เหลือเป็นแอ่งน้ำเป็นช่วง ๆ ซึ่งสัตว์จะมาใช้พื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายสามเป็นต้นไป จะไม่กระจายไปทั่วป่าเหมือนช่วงฤดูน้ำสมบูรณ์
ลำธารแห้งเหือดคงต้องรอน้ำในฤดูฝน
แอ่งน้ำเล็ก ๆ และบริเวณโดยรอบเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าผีเสื้อ ถ้าตกบ่ายเหล่าสัตว์ชนิดอื่นก็จะมาเช่นกัน
ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงนั้นนับได้ว่าเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีนกหลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกหัวขวาน ซึ่งนกหัวขวานใหญ่สีดำยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติแม่ปิงแห่งนี้อีกด้วย ผมได้ถ่ายภาพชีวิตของสัตว์ในช่วงแล้งมาฝากพอสังเขป
นกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง
มีเสื้อเป็นจำนวนมากมารวมตัวกัน
ภาพของละองในมุมหันมาทางกล้องจะเห็นได้ว่าเขาด้านขวาหักไป ตอนที่พบนั้นอยู่กับละมั่งอีก 2 ตัว แต่เพียงแค่ได้กลิ่นคนก็วิ่งหนีหายเข้าไปในป่า จึงได้มาแค่ภาพจากระยะไกลครับ
ละองละมั่ง สำหรับในตัวผู้จะเรียกว่าละอง ส่วนตัวเมียจะเรียกว่าละมั่ง ตัวผู้มีเขาสวยงามมาก ละองละมั่งจะอาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งหญ้าไปจนถึงป่าเต็งรัง เนื่องจากเขาที่ยาวจะพันกับไม้เถาได้หากอยู่ในป่าชั้นที่ลึกเกินไป ในเวลากลางวันจะอาศัยอยู่ในป่า ส่วนตอนเย็นจะออกมากินหญ้าและพักผ่อนบริเวณทุ่งกิ๊กให้เห็นในระยะไกล ๆ การที่เราไม่เห็นสัตว์ป่าไม่ได้หมายความว่า ป่าแห่งนั้นไม่มีสัตว์ป่านะครับ มนุษย์นับได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สัตว์ป่ากลัวที่สุดแล้ว ขนาดเสือได้กลิ่นคนยังหนี สัตว์ป่าที่นี่ไม่คุ้นชินคน ต่างจากที่เขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติอื่น ๆ เนื่องจากยังไม่มีพฤติกรรมแย่ ๆ ของนักท่องเที่ยวทีให้อาหารสัตว์ป่าจนเสียนิสัย ที่นี่มีบทลงโทษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ให้อาหารสัตว์เช่นกัน เวลาไปควรตระหนักและศึกษากฏระเบียบให้ดีและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วยครับ
ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่สวยงามอีกเช่น ผาแดงหลวงจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ แก่งก้อมีจุดชมดวงอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม เป็นต้น ซึ่งผมเองกำลังวางแผนที่จะกลับมาอีกครั้งเพื่อมาตามเก็บสถานที่ท่องเที่ยวที่ตนเองยังพลาดไม่ได้มาเยี่ยมเยือนอีกหลายแห่ง
สำหรับการเดินทาง หากเดินทางจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์หรือจะไปทางเลี่ยงเมืองเส้นทางเลียบรถไฟไปก็ได้ เมื่อถึงตัวเมืองลำพูนให้ตัดไปเส้นทางหลวงหมายเลข 106 ไปอำเภอป่าซาง บ้านโฮ่ง จนถึงอำเภอลี้ รวมระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเส้นทางผ่านช่วงป่าซางรถจะเยอะมาก และถนนก็แคบ ควรวางแผนเผื่อเวลาไว้ด้วยครับ รวมเวลาที่ใช้ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมง
ลากันไปกับภาพของน้ำตกก้อหลวง และน้ำตกตาดสะดอในช่วงน้ำสมบูรณ์สวยงามที่สุด
น้ำตกตาดสะดอ