จันทร์ยังเต็มดวง
ยามเดือนเพ็ญ เห็นกระจ่าง สว่างใส
ลมไล่ไล้ ลู่เบน ไม้เอนไหว
เมื่อจันทร์ส่อง พิศก็ถ่อง ถึงทรวงใน
เมื่อไม้ไกว ใจก็เต้น เล่นตามลม
แต่นานเนิ่น เหินห่าง ทางขรุขระ
รอบปรุประ ระรอบ ไร้กรอบสม
ดำเนินคู่ อยู่วาง อย่างนิยม
เมื่อหวานขม ปนกัน มันชินชา
มิได้หวาน บานชื่น เหมือนตื่นเช้า
มิได้เคล้า คลออุ่น กรุ่นเกศา
มิได้ชิด ให้ชม สมอุรา
เมื่อใกล้ตา แต่ไกลกัน พลันโรยแรง
เมื่อจันทร์เสี้ยว เลี้ยวแบ่ง เป็นแหว่งเว้า
ไร้ลมเร้า เฝ้าแนบ ก็แอบแฝง
แสงจันทร์บาง พรางใจ ไม่แสดง
เคยเต้นแรง ลดแบ่งถอย พลอยลมเพ
ความทรงจำ..กับดวงดาว
ฑิฆัมพร ย้อนพราว วับวาวแสง
กระพริบแปร่ง แข่งขัน ประชันหมู่
เหมือนหยอกเฝ้า เร้าแนบ อิงแอบดู
พอเช้าตรู่ ครู่เพียง พลางลางเลือน
เมื่อแสงย้อน แยงดาว ที่พราวอยู่
เหมือนดาวรู้ ด้อยแรง มิแข่งเพื่อน
ให้ฟ้ากลบ ค่ำค่อยพบ สกาวเดือน
ยังมิเคลื่อน ยังคงอยู่ คู่นภา
ดาวขยิบ กระพริบตา ท่าจะเหมือน
ดั่งดาวเดือน ดวงใน หทยา
ยังคงอยู่ แม้ไม่เห็น เช่นสองตา
ทุกเวลา แดดย้อนแรง กลบแสงดาว
ณ ห้วงรัก หทยา ยังระยิบ
บ้างกระพริบ เพรียกคู่ ดูแสงขาว
ณ ห้วงห่าง หทัยแพรก แทรกดวงราว
กับดวงดาว พราวฟ้าลาง กลางทิวา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เช้าวันหนึ่ง
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในเช้าวันทำงาน หญิงสาวเอื้อมมือ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ตีห้าสามสิบ เธอคิดในใจ แล้วก็หลับตาลงต่อเพื่อ หวังจะตั้งสติ ปรับสายตา และไล่ความง่วงออกจากภวังค์
สิบนาทีต่อมา เธอก็ลุกขึ้นจัดที่นอน เตรียมตัวลงไปอาบน้ำ จัดอาหารที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ใส่ 2 กล่อง
แต่งองค์ทรงเครื่อง เสร็จ ก็เจ็ดโมงพอดี
เธอเดินมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน ไม่ถึงสิบห้านาที เสียงมอเตอร์ไซค์คันเดิม ขับเข้ามาในซอย
รถจอดตรงหน้าบ้านเธอ พร้อมชายหนุ่มที่กำลังยื่นถุงโจ๊ก 3 ถุง เข้ามาในรั้ว เธอยื่นข้าวกล่อง 2 กล่อง ออกไปให้
ชายหนุ่มรับเก็บไว้ใต้เบาะรถ 1 กล่อง แขวนไว้ที่หน้ารถอีกหนึ่งกล่อง
หญิงสาวรับโจ๊กมา วางไว้ที่โต๊ะกับข้าวในบ้าน หยิบหมวกกันน็อค แล้วเปิดประตูบ้านออกไป ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์
ชายหนุ่มหันมามอง กระโปรงสั้นๆ ของหญิงสาว เขาถอดเสื้อคลุมออกโยนให้ปิดขา แล้วก็พากันขี่ออกจากซอยไป
… เสียงเครื่องปรับอากาศในอาคารหยุดทำงาน หญิงสาวเงยหน้ามองนาฬิกา ห้าโมงสิบนาที เธอปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
เตรียมตัวไปยิม เพื่อไปออกกำลังกายตอนเย็น ระหว่างทาง เธอแวะที่ supermarket ใกล้ๆ เพื่อเตรียมซื้อ ผักผลไม้ ขนมปัง
ไว้ทำเป็นอาหารคลีน เพื่อของวันพรุ่งนี้
เมื่อออกกำลังกายเสร็จ ก็ทุ่มกว่าแล้ว เธอแวะ ซื้อ ก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย 5 ถุง และ นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปบ้านชายหนุ่ม
เพื่อเอาไปฝาก คุณแม่และพี่สาว 2 คน ของชายหนุ่มที่ขี่รถมารับเมื่อเช้า
เมื่อถึงบ้านชายหนุ่ม มีน้องหมาชิวาว่า 2 ตัว วิ่งปนกระโดด อยู่ในรั้ว เป็นการต้อนรับ หญิงสาวเปิดประตูเข้าบ้าน วางสัมภาระ
เตรียมอาหารสุนัข เล่นกะน้องหมา และนั่งเล่นโทรศัพท์รอ
สองทุ่มกว่าๆ เสียงรถยนต์ ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ชายหนุ่มขับรถมาพร้อมกับ คุณแม่ของเขา เธอวิ่งไปเปิดประตูรั้ว
ทั้งคู่ นั่งพักผ่อน ทานข้าว ต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์ ซักพัก น้องหมาทั้งสองตัว เดินเปิดประตูเข้ามา
ส่งสายตาวิงวอน พร้อมตด ปุ๋ง ๆ เป็นการบอกกลายๆ ว่าปวดท้องอึแล้ว ... หญิงสาวจึงไปหยิบสัมภาระ เตรียมตัวกลับบ้าน
เสียงรถยนต์จอดหน้าบ้าน หญิงสาว เธอเดินลงมาจากรถ พร้อมเสียงร้องหงิงๆ ของน้องหมา 2 ตัวที่อยากจะลงไปเที่ยวเล่นในบ้าน
เธอหันไปโบกมือลาน้องหมา เข้าบ้าน เตรียมอาหารสำหรับเช้าวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน
กดดูข้อความจาก Facebook ชายหนุ่มส่งมาว่าถึงบ้านแล้ว เธอก็ ผลอยหลับไป
เช้าวันเดิม
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในวันทำงาน ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปิด ขณะนั้นเวลา ตีสี่ครึ่ง เขาเดินลงจากบ้าน
มาเปิดประตูบ้านให้น้องหมาออกไปธุระส่วนตัว จากนั้นแต่งตัวออกไปวิ่ง ประมาณตีห้า จนถึง เกือบหกโมง
แวะซื้อโจ๊ก 6 ถุง ก่อนกลับเข้าบ้าน อาบน้ำแต่งตัว แล้วขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกจากบ้าน
เมื่อเจ็ดโมงกว่าๆ ชายหนุ่ม จอดรถ หน้าบ้านหญิงสาว ยื่นโจ๊ก 3 ถุง พร้อมกับรับกล่องข้าวมาเก็บไว้ใต้เบาะ
และแขวนไว้หน้ารถ อย่างละกล่อง
หันไปสำรวจความเรียบร้อยของหญิงสาว เมื่อเห็นว่า เธอใส่กระโปรงสั้น จึงถอดเสื้อคลุมให้เธอคลุมขาไว้
แล้วขับรถไปส่งเธอที่ทำงาน ...เวลาประมาณเกือบเก้าโมง ชายหนุ่ม จอดมอเตอร์ไซค์ รูดบัตรเข้าทำงาน
... เวลาห้าโมงตรง ชายหนุ่ม เก็บของเรียบร้อยรอรูดบัตรออกจากงาน เปลี่ยนจากรถมอเตอร์ไซค์ เป็นรถยนต์ที่จอดไว้ที่ที่ทำงานตั้งแต่เมื่อคืน
ขับรถไปรับคุณแม่ที่เคยเป็นอัมพฤกษ์ คุณแม่ท่านไปรักษาตัวทางความเชื่อส่วนตัว จากนั้น ก็ขับรถกลับมาที่บ้าน ก็สองทุ่มกว่า
เห็นหญิงสาวออกมาเปิดประตูรับ พักทานข้าวเล่นโทรศัพท์ ซักพัก น้องหมาสองตัว ก็มากดดัน ให้พาไปเดินเล่นนอกบ้าน
เค้าหยิบกุญแจรถ พร้อมกับ เอาน้องหมา 2 ตัวใส่กระเป๋าขึ้นรถ แวะสนามหญ้าข้างทาง ประมาณ 15 นาที เก็บอุจจาระน้องหมา
แล้วขับรถไปส่งหญิงสาว จากนั้น ก็ขับรถกลับไปจอดที่ทำงาน วางน้องหมาไว้ที่พักเท้า แล้วขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้าน เค้าส่งข้อความหาหญิงสาว อาบน้ำและเตรียมตัวนอน
... ในวันที่เราทั้งสายตาของทั้งคู่ เปลียนไป ไม่ได้มองกันเห็นกันและกัน เหมือนคนที่รักกัน
สิ่งที่เห็นคือ คนในครอบครัวคุณมีข้าวกินหรือยัง ... แถวที่ทำงานฉันมีของกินอร่อย เดี๋ยวซื้อไปให้ที่บ้านคุณทานนะ…
พี่ถึงรึยังคุณแม่รอนานแล้วนะ ... วันนี้พ่อแม่เธอขึ้นมาโรงพยาบาล ตอนกี่โมง เดี๋ยวพี่ลางานไปรับ
น้องหมากินข้าวรึยัง วันนี้ได้ไปเดินเล่นหรือยัง ฯลฯ
... ในวันที่ การมาหาคนรัก เปลี่ยนไปเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ
สิ่งที่เห็นคือ คนคนเดิม ผ่ารถติด ขี่รถมารับ คนคนเดิม ไปส่ง ทุกๆวัน ทำงาน อาจสายบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ....
… ในวันที่ความโรแมนติกเปลี่ยนไป
จากที่เคยเป็นดอกไม้ หรือ ของขวัญในครบรอบ กลายเป็น
สิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่เราทั้งคู่ทำให้กันทุกๆวันตลอดสิบสามปีที่ผ่านมา
... ในวันที่เราทั้งสองคนไม่ได้รักกัน
สิ่งที่เห็นคือ ความสัมพันธ์ของคนรัก เปลี่ยนไปเป็นสถานะมากกว่าเพื่อน แต่ไม่หวานเท่ากับแฟน
ไม่ได้เต็มใจทำทุกครั้งไป ที่ทำเพราะ คำว่า หน้าที่ และความเคยชิน ถ้าไม่ทำแต่อาจสายบ้าง ก็จะมีการทะเลาะกัน
แต่ถ้าไม่ทำเลย ก็จะมีคำว่า "ห่วง" ผุดขึ้นมาให้หงุดหงิดในใจอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่มองเห็นสิ่งเหล่านั้น ลึกๆ แล้ว แยกไม่ออกว่าน้ำตาที่ไหล มาจากความดีใจ หรือ เกิดจากความเหนื่อยกันแน่
แต่ที่แน่ๆ ณ ตอนนี้ เราทั้งสอง เหนื่อยกับ เรื่องเดิมๆ จึง เว้นระยะ ห่าง ให้ต่างคนต่างใช้ชีวิต... ออกมาค้นหาตัวเอง
ในขณะที่ตัวเรา มีความสุข ก็จะคิดถึง และห่วงว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างๆ
ในขณะที่ตัวเรา ลำบาก ก็จะนึกถึง ว่าถ้ามีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆกัน คงดีกว่านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บ้างครั้งก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่า ต้องการอะไรกันแน่
ในวันที่เราไม่ได้รักกันแล้ว
จันทร์ยังเต็มดวง
ยามเดือนเพ็ญ เห็นกระจ่าง สว่างใส
ลมไล่ไล้ ลู่เบน ไม้เอนไหว
เมื่อจันทร์ส่อง พิศก็ถ่อง ถึงทรวงใน
เมื่อไม้ไกว ใจก็เต้น เล่นตามลม
แต่นานเนิ่น เหินห่าง ทางขรุขระ
รอบปรุประ ระรอบ ไร้กรอบสม
ดำเนินคู่ อยู่วาง อย่างนิยม
เมื่อหวานขม ปนกัน มันชินชา
มิได้หวาน บานชื่น เหมือนตื่นเช้า
มิได้เคล้า คลออุ่น กรุ่นเกศา
มิได้ชิด ให้ชม สมอุรา
เมื่อใกล้ตา แต่ไกลกัน พลันโรยแรง
เมื่อจันทร์เสี้ยว เลี้ยวแบ่ง เป็นแหว่งเว้า
ไร้ลมเร้า เฝ้าแนบ ก็แอบแฝง
แสงจันทร์บาง พรางใจ ไม่แสดง
เคยเต้นแรง ลดแบ่งถอย พลอยลมเพ
ความทรงจำ..กับดวงดาว
ฑิฆัมพร ย้อนพราว วับวาวแสง
กระพริบแปร่ง แข่งขัน ประชันหมู่
เหมือนหยอกเฝ้า เร้าแนบ อิงแอบดู
พอเช้าตรู่ ครู่เพียง พลางลางเลือน
เมื่อแสงย้อน แยงดาว ที่พราวอยู่
เหมือนดาวรู้ ด้อยแรง มิแข่งเพื่อน
ให้ฟ้ากลบ ค่ำค่อยพบ สกาวเดือน
ยังมิเคลื่อน ยังคงอยู่ คู่นภา
ดาวขยิบ กระพริบตา ท่าจะเหมือน
ดั่งดาวเดือน ดวงใน หทยา
ยังคงอยู่ แม้ไม่เห็น เช่นสองตา
ทุกเวลา แดดย้อนแรง กลบแสงดาว
ณ ห้วงรัก หทยา ยังระยิบ
บ้างกระพริบ เพรียกคู่ ดูแสงขาว
ณ ห้วงห่าง หทัยแพรก แทรกดวงราว
กับดวงดาว พราวฟ้าลาง กลางทิวา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้