จึงเป็นที่มาของความสงสัย นั่นแปลว่า อนาคตถูกกำหนด ?

ตอบ ตามความเข้าใจของผม

เป็นการสรุป แบบง่ายๆเอาแพะมาชนแกะ
การรู้อนาคต มันไม่จำเป็นต้องมี ฌาน เท่านั้น
การมี ฌาน ก็ไม่ต้องรู้อนาคตทุกเรื่อง

คุณรู้ไหม พยากรณ์ได้ไหม ว่าพรุ่งนี้ ตัวคุณจะตื่นตอนเช้า จะไปทำงานอะไร จะนอนอะไร
ผมแน่ใจว่าถ้าไม่เจาะจงในรายละเอียด  และเป็นช่วงเวลาปรกติ
คุณทำนาย สิงที่เกิดกับตัวคุณเองได้ ไม่ต้องใช้ วิชาทำนาย ไม่ต้องใช้  ฌาน
แต่ถ้านานๆไปหรือในเหตุที่ไม่ปรกติ อาจจะทำนายไม่ได้ และถ้าทำนายอาจไม่เกิดตามนั้น

การมีสมาธิมากกว่าปรกติจะทำให้ใช้สมองได้ละเอียดรอบครอบขึ้น ถ้ามีข้อมูลมากพอก็ทำนายอะไรได้หลายอย่าง
และการทำนาย ไม่ได้กำหนดเด็ดขาดว่าจะต้องเกิดแบบนั้นๆ และส่วนใหญ่ไม่เกิดหรอก
ทำนายผิดนั้นละ
เพราะเรื่องทั่วๆไปเขาไม่เรียกทำนาย แต่ ถ้านับเรื่องทั่วๆไปเป็นการทำนายการทำนายส่วนมากจะถูกมากกว่าผิด

แต่การทำนาย ในการใช้วิชา ใช้ฌาน  มันจะใช้ และ มีผลเมื่อหนทางชีวิตมันตันไม่รู้จะทำยังไง ก็ทำนายให้มีทางไป
______________________________________________________________________
ในส่วนที่เป็น

พุทธพยากรณ์ ว่า อะไรก็ตามลองคิดดีๆจะเห็นว่าเป็นการ พยากรณ์ คาดการณ์ ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเกิดตามนั้น
แต่ พุทธเจ้าท่านมีการ พยากรณ์ คาดการณ์ ที่ดีมากๆอาจเพราะท่านละเอียดแและคนบันทึกจดแต่สิ่งที่คาดการณ์ ถูกต้อง

ขอ ยกตัวอย่างเรื่องที่บอกว่าท่าน  พยากรณ์ คาดการณ์ แล้วผลไม่ได้ตามนั้น
ก็คือเรื่องที่ท่านเสียเวลาไปสอนคนอื่นหลายพวกแล้ว ก็จบไม่ได้บวชไม่เป็น พุทธบริษัท
คือถ้า คาดการณ์ แต่แรกว่าเป็นบัวใต้น้ำท่านจะเสียเวลาไปโปรดทำไม จะโปรดก็ต้องดูว่า คนที่ท่านสอนมีโอกาสเข้าใจธรรมของท่าน
และส่วนใหญ่เข้าใจ ยอมเป็นพุทธบริษัท
แต่เพราะ คาดว่าน่าจะคุยรู้เรื่อง แต่พอสอนแล้วไม่รู้เรื่อง คือคาดไม่ถูก จึงไม่ได้ พุทธบริษัท
ถ้าศึกษาเพิ่มลองหาๆอ่านดูในปิฎกมีหลายกรณีเหมือนกัน ที่สอนไม่สำเร็จ
______________________________________________________

ตอบข้ออื่นรวมๆ

ยกตัวอย่าง

คนเรียนจบหมอ มีแนวโน้มไปรักษาคนไข้ได้มาก
คนเรียนจบบัญชี มีแนวโน้มไปรักษาคนไข้ได้น้อย

ดังนั้นถ้าจะต้องทำนายอนาคต ก็น่าจะทำนายได้ว่าไครไปทำอะไร

คนเรียนจบหมอ ไปรักษาคนไข้
คนเรียนจบบัญชี ไม่ไปรักษาคนไข้

แต่ถ้าระยะเวลาผ่านไปอีกสิบปีหลังจบ ด้วยข้อมูลแค่การเรียนจบอะไรอาจจะใช้ทำนายไม่ได้แล้ว
ดังนั้นการตัดสินใจ เลือก จะทำอะไรจึงมีผลในอนาคตเสมอแต่แนวโน้ม นิสัย สิ่งแวดล้อม แก้ไขยาก
แต่แก้ได้ การใช้ ฌาน เห็นไม่ได้แปลว่ารู้ทุกอย่าง และ ถึงรู้ก็ไม่ได้กำหนดได้ว่าจะเกิดตามนั้น ตรงๆ
ยิ่งนานวันยิ่งมีโอกาส คลาดเคลือนหรือตีความผิดได้

ดังนั้นหนทางชีวิต ต้องพยายามปรับเอง ถ้าไม่อยากเป็นไปตามแนวโน้มที่จะเกิดได้ในปัจจุบัน
หรือถ้าอยากให้เป็นไปตาม แนวโน้มที่จะเกิดได้ในปัจจุบัน ก็ต้องรักษาจุดมุ่งหมายแล้วพยายามเดินให้ดี
โอกาสที่เป้นผลจากตัวเองมาก จากสิ่งแวดล้อมก็มีเหมือนกัน
เลือกให้ถูกทาง เป็น ทางใน อริยมรรค เป็น สัมมา ก็จะได้ผลดี