...
ความเดิมจากตอนที่แล้ว เรื่องเล่าจากเวียดนาม
ตอนที่ 1 "ซาปา" :
http://ppantip.com/topic/35048194
ตอนที่ 2 "ฮาลองเบย์" :
http://ppantip.com/topic/35085935
หลังจากกลับจากฮาลองเบย์แล้วคณะของเราก็ย้อนกลับมานอนที่ฮานอย เป็นคืนสุดท้ายของทริปนี้ครับ ซึ่งเมื่อเรามาถึงฮานอยก็เป็นช่วงเย็นๆ ทางคณะของเราก็เลยได้มีโอกาส แวะช้อปปิ้ง และเดินเที่ยวในตัวเมืองกัน ซึ่งเด๋วขอไว้คุยกันในตอนสุดท้าย ภาพรวมเมืองฮานอยเลยละกันครับ
...
หลังจากพัก 1 คืน คณะของเราก็เตรียมพร้อมทานอาหารเช้าของ รร. เสร็จก็รวมตัวออกเดินทางกันครับ เส้นทางไปฮาลองบก นั้นระยะทางก็ห่างจากฮานอยประมาณ 100 กว่า กม. เท่านั้น ซึ่งเวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม. แล้วแต่ความเร็ว และปริมาณของรถครับ เนื่องจากเส้นทางไปฮาลองบกนั้น มีเส้นทางเดียว และถนน ยังเป็นขนาด 4 เลน ทำให้ทำเลในการเดินทางได้ยากครับ
เมื่อพวกเรามาถึง ไกค์ก็แนะนำขั้นตอนการเตรียมตัวลงเรือครับ สำหรับฮาลองบกนี้ ลักษณะการท่องเที่ยว คือล่องเรือเล็ก โดยมีชาวบ้านในพื้นเป็นผู้พาย พาเราลัดเลาะไปตามคลอง ที่ขนาบข้างไปด้วยวิถีชาวบ้าน ทั้งหมู่บ้าน และทุ่งนาที่ชาวบ้าน ทำการเกษตรริมคลอง ไปตลอด 2 ข้างทาง ซึ่งมีแบคกราวน์รับด้านหลังลำคลองทั้ง 2 ฝั่ง เป็นภูเขาหินสูงชัน
(ข้อมูลเพิ่มเติม : การล่องเรือของที่นี่ชาวบ้านเขาก็จะมีคิวชัดเจนเลยครับ จัดการโดยผู้บริหารของหมู่บ้าน และมีสิทธิ ส่งเรือได้ครอบครัวละ 1 ลำเท่านั้น ทุกลำจะมีหมายเลขกำหนดชัดเจนเรียงกันไปถึงคิวใครก็มานำเที่ยว ยังไม่ถึงคิวก็จอดเรือไว้ กลับไปทำงานที่บ้านก่อน)
การขึ้นเรือแต่ละลำ จะนั่งได้ 2-3 คนต่อลำนะครับ หลังจากขึ้นเสร็จ นายท้ายก็จะพายออกไปเลย ลำไหนพร้อมก่อนออกก่อน ลักษณะการพายของนายท้ายแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันครับ บางคนใช้มือ บางคนใช้เท้าถีบ เหมือนปั่นจักรยานเลยครับ พอออกจากท่า ช่วงแรกๆของลำคลองก็จะเป็น ชุมชน หมู่บ้านครับ พอพ้นจากสะพานข้ามคลองแล้ว (ช่วงแรกๆนี้ เมื่อเรือเราออก ก็จะมีเรือชาวบ้าน มาพายตีคู่ครับ ซื้อเป็นเรือของชาวบ้าน ที่มีอาชีพเป็นตากล้องครับ เขาก็จะมาถ่ายรูปเวลาเราอยู่บนเรือ เพื่อเอาไปปริ้น แล้วมาขายเราครับ รูปละ 20 บาท พอเราขึ้นจากเรือเท่านั้นแหละ โดนรุมเลยครับ “ยี่สิบ ยี่สิบ” จะโดนยื่นรูปมาให้เลือกดู แบบยัดใส่มือเลย อันนี้ก็อยู่ที่เราอีกแล้ว จะซื้อไหม ปล. ต้นทุนรูปนึงก็ประมาณ 3-5 บาท เพราะมีเคลือบให้ด้วยครับ)
...
ที่นี่พอผ่านจากเขตชุมชน ก็จะเข้าสู่พื้นที่ ที่เป็นธรรมชาติครับ เราก็จะได้เห็นวิวท้องทุ่งนา ตัดกลับแบคกราวน์อย่างที่บอกที่เป็นภูเขาหินสูงๆ บรรยากาศก็สวยดีครับ วิวชมได้เพลินๆ ต้นข้าวของที่นี่ ก็สามารถปลูกได้ตลอดปีครับ ทำให้เราได้เห็นท้องทุ่งสีเขียวไปตลอดทาง ระยะทางของคลอง ก็ยาวประมาณ 2 -3กม. ครับ ใช้เวลาก็เที่ยวก็ประมาณ 1.30 ชม. สำหรับคนชอบเที่ยวธรรมชาติ ก็เพลินดีครับ มีวิวถ่ายรูปได้ สวย มีถ้ำให้ลอดผ่าน 3 ถ้ำครับ เมื่อไปถึงปลายคลอง ก็จะเป็นอีกชุมชนครับ (คลองก็จะสิ้นสุด แล้วแยกเป็นซอยเล็กๆไป) ก็จะมีชาวบ้าน มาพายเรือขายของให้เรา ทั้งน้ำ ทั้งขนม ทั้งผลไม้ ก็อยู่ที่เราละครับ ว่าจะซื้อหรือไม่ พอหลังจากแวะพักกันสักพักนึง นายท้ายก็จะพายพาเรากลับไปที่ท่าเรือที่เราลงเรือมาครับ เมื่อมาถึงครับหลังโดนรุมขายรูปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงเที่ยงพอดี พวกเราก็เดินมากลับมาที่ร้านอาหารใกล้ๆท่าเรือ เพื่อกินข้าวเที่ยงกัน และเตรียมตัวขึ้นรถกลับฮานอย เพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้านกันครับ ซึ่งทริปของพวกเราก็จบเพิ่งแค่นี้ แต่เรื่องเล่า ยังไม่จบครับ ยังมีภาพรวมการเที่ยวในเมืองฮานอยตามต่อในคอมเม้นท์นะครับ
[CR] [เรื่องเล่าจากเวียดนาม ตอนที่ 3 : ฮาลองบก และ ฮานอย]
...
ความเดิมจากตอนที่แล้ว เรื่องเล่าจากเวียดนาม
ตอนที่ 1 "ซาปา" : http://ppantip.com/topic/35048194
ตอนที่ 2 "ฮาลองเบย์" : http://ppantip.com/topic/35085935
หลังจากกลับจากฮาลองเบย์แล้วคณะของเราก็ย้อนกลับมานอนที่ฮานอย เป็นคืนสุดท้ายของทริปนี้ครับ ซึ่งเมื่อเรามาถึงฮานอยก็เป็นช่วงเย็นๆ ทางคณะของเราก็เลยได้มีโอกาส แวะช้อปปิ้ง และเดินเที่ยวในตัวเมืองกัน ซึ่งเด๋วขอไว้คุยกันในตอนสุดท้าย ภาพรวมเมืองฮานอยเลยละกันครับ
...
หลังจากพัก 1 คืน คณะของเราก็เตรียมพร้อมทานอาหารเช้าของ รร. เสร็จก็รวมตัวออกเดินทางกันครับ เส้นทางไปฮาลองบก นั้นระยะทางก็ห่างจากฮานอยประมาณ 100 กว่า กม. เท่านั้น ซึ่งเวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม. แล้วแต่ความเร็ว และปริมาณของรถครับ เนื่องจากเส้นทางไปฮาลองบกนั้น มีเส้นทางเดียว และถนน ยังเป็นขนาด 4 เลน ทำให้ทำเลในการเดินทางได้ยากครับ
เมื่อพวกเรามาถึง ไกค์ก็แนะนำขั้นตอนการเตรียมตัวลงเรือครับ สำหรับฮาลองบกนี้ ลักษณะการท่องเที่ยว คือล่องเรือเล็ก โดยมีชาวบ้านในพื้นเป็นผู้พาย พาเราลัดเลาะไปตามคลอง ที่ขนาบข้างไปด้วยวิถีชาวบ้าน ทั้งหมู่บ้าน และทุ่งนาที่ชาวบ้าน ทำการเกษตรริมคลอง ไปตลอด 2 ข้างทาง ซึ่งมีแบคกราวน์รับด้านหลังลำคลองทั้ง 2 ฝั่ง เป็นภูเขาหินสูงชัน
(ข้อมูลเพิ่มเติม : การล่องเรือของที่นี่ชาวบ้านเขาก็จะมีคิวชัดเจนเลยครับ จัดการโดยผู้บริหารของหมู่บ้าน และมีสิทธิ ส่งเรือได้ครอบครัวละ 1 ลำเท่านั้น ทุกลำจะมีหมายเลขกำหนดชัดเจนเรียงกันไปถึงคิวใครก็มานำเที่ยว ยังไม่ถึงคิวก็จอดเรือไว้ กลับไปทำงานที่บ้านก่อน)
การขึ้นเรือแต่ละลำ จะนั่งได้ 2-3 คนต่อลำนะครับ หลังจากขึ้นเสร็จ นายท้ายก็จะพายออกไปเลย ลำไหนพร้อมก่อนออกก่อน ลักษณะการพายของนายท้ายแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันครับ บางคนใช้มือ บางคนใช้เท้าถีบ เหมือนปั่นจักรยานเลยครับ พอออกจากท่า ช่วงแรกๆของลำคลองก็จะเป็น ชุมชน หมู่บ้านครับ พอพ้นจากสะพานข้ามคลองแล้ว (ช่วงแรกๆนี้ เมื่อเรือเราออก ก็จะมีเรือชาวบ้าน มาพายตีคู่ครับ ซื้อเป็นเรือของชาวบ้าน ที่มีอาชีพเป็นตากล้องครับ เขาก็จะมาถ่ายรูปเวลาเราอยู่บนเรือ เพื่อเอาไปปริ้น แล้วมาขายเราครับ รูปละ 20 บาท พอเราขึ้นจากเรือเท่านั้นแหละ โดนรุมเลยครับ “ยี่สิบ ยี่สิบ” จะโดนยื่นรูปมาให้เลือกดู แบบยัดใส่มือเลย อันนี้ก็อยู่ที่เราอีกแล้ว จะซื้อไหม ปล. ต้นทุนรูปนึงก็ประมาณ 3-5 บาท เพราะมีเคลือบให้ด้วยครับ)
...
ที่นี่พอผ่านจากเขตชุมชน ก็จะเข้าสู่พื้นที่ ที่เป็นธรรมชาติครับ เราก็จะได้เห็นวิวท้องทุ่งนา ตัดกลับแบคกราวน์อย่างที่บอกที่เป็นภูเขาหินสูงๆ บรรยากาศก็สวยดีครับ วิวชมได้เพลินๆ ต้นข้าวของที่นี่ ก็สามารถปลูกได้ตลอดปีครับ ทำให้เราได้เห็นท้องทุ่งสีเขียวไปตลอดทาง ระยะทางของคลอง ก็ยาวประมาณ 2 -3กม. ครับ ใช้เวลาก็เที่ยวก็ประมาณ 1.30 ชม. สำหรับคนชอบเที่ยวธรรมชาติ ก็เพลินดีครับ มีวิวถ่ายรูปได้ สวย มีถ้ำให้ลอดผ่าน 3 ถ้ำครับ เมื่อไปถึงปลายคลอง ก็จะเป็นอีกชุมชนครับ (คลองก็จะสิ้นสุด แล้วแยกเป็นซอยเล็กๆไป) ก็จะมีชาวบ้าน มาพายเรือขายของให้เรา ทั้งน้ำ ทั้งขนม ทั้งผลไม้ ก็อยู่ที่เราละครับ ว่าจะซื้อหรือไม่ พอหลังจากแวะพักกันสักพักนึง นายท้ายก็จะพายพาเรากลับไปที่ท่าเรือที่เราลงเรือมาครับ เมื่อมาถึงครับหลังโดนรุมขายรูปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงเที่ยงพอดี พวกเราก็เดินมากลับมาที่ร้านอาหารใกล้ๆท่าเรือ เพื่อกินข้าวเที่ยงกัน และเตรียมตัวขึ้นรถกลับฮานอย เพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้านกันครับ ซึ่งทริปของพวกเราก็จบเพิ่งแค่นี้ แต่เรื่องเล่า ยังไม่จบครับ ยังมีภาพรวมการเที่ยวในเมืองฮานอยตามต่อในคอมเม้นท์นะครับ