คือจริงๆอยากระบายมากกว่าค่ะ จะเล่าให้ใครฟังก็ไม่ได้ เล่าให้แม่เราฟังก็กลัวไม่สบายใจ คือมันอึดอัดมากค่ะ อึดอัดสุดๆ ตอนนี้อึดอัดเข้าขั้นเกลียดเลยค่ะ เกลียดยันเงา เกลียดยันเสียง จริงๆมันมีที่มานะคะ ไม่ใช่เอะอะก็เกลียด
คือเรากับสามีแต่งงานกันแล้วสามีย้ายเข้ามาอยู่บ้านเราด้วยเหตุผลเราทั้งคู่ไปทำงานสะดวกกว่าค่ะ บ้านเรากับบ้านสามีห่างกันประมาณ 10 กม. ไปมาหาสู่กันง่ายค่ะ สามีเราเป็นลูกคนโตค่ะอายุ 30 ปี แม่สามีอายุ 45 ปี ส่วนเราอายุ 27 ปี แม่เราอายุ 47 ปี (ดูเหมือนวัยครอบครัวเรากับครอบครัวสามีน่าจะราบรื่น เข้ากันได้ดี) แรกๆแต่งงานใหม่ๆ แม่สามีมาที่บ้านบ่อยมากค่ะ 2-3 วันก็มาครั้งหนึ่ง ทั้งๆที่เรากับสามีจะกลับไปนอนบ้านเขาอาทิตย์ละครั้งไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์ วันธรรมดาเราทั้งคู่ทำงานค่ะ คือแรกๆเราก็ไม่อะไรค่ะ อาจมีรำคาญบ้าง แต่คิดว่าคงเป็นปกติของแม่เขา เป็นคนซื่อๆ ขี้น้อยใจ อยากดูแลลูกกลัวลูกเหงาอะไรประมาณนั้น (บ้าปะลูกเป็นหนุ่มมีเมียแล้วด้วยนะ)
จนกระทั่งเราจะมีน้องค่ะ ช่วงนั้นเราแพ้ท้อง แพ้มากจริงๆจนต้องแอดมิดหลายรอบมาก ทุกครั้งที่เราแอดมิดแม่สามีชอบบอกว่าอาสาจะมาเฝ้า คือเราเหนื่อย เราอยากอยู่กับแม่เราอยู่กับสามีมากกว่าคือมันง๊องแง๊งได้ไม่ต้องคอยเกรงใจ แม่สามีบอกให้แม่เรากลับบ้านนางจะเฝ้าเอง วันแรกที่นางมานางเอาลูกคนเล็กมาด้วย (คนเล็กอายุ 6 ขวบ) คือเรานอนห้องพิเศษ นางหอบลูกนางมานางแทบไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย มัวแต่ดูแลลูกตัวเอง เดี๋ยวลูกจะกินนู่นกินนี่ เดี๋ยวจะเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวจะอาบน้ำ เดี๋ยวจะนอน แม่เราก็อยู่เรากับแม่มองหน้ากันแล้วส่ายหัวเลย ไม่รู้จะมาช่วยหรือจะมาเพิ่มภาระ แม่เราเลยตัดสินใจไม่กลับบ้าน นอนเฝ้ากันหมดนี้แหละรวมสามีกับก็ 5 คน คือนางเป็นคนขี้น้อยใจ ซื่อๆซื่อมาก ซื่อจนตีความเวลาคนพูดอ้อมๆไม่เป็น เราบอกตรงๆก็ไม่ได้เราเกรงใจเดี๋ยวคนจะหาว่าเป็นลูกสะใภ้ใจดำอีก เราแอดมิดกี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งจนเราเริ่มเบื่อ เราเริ่มไม่ชอบ แต่เราก็ยังทนคิดว่าคงเป็นเพราะฮอร์โมนคนท้องหรือเปล่าที่รำคาญง่าย จนกระทั่งคลอด ลูกเราเป็นหลานคนแรกทั้งฝั่งบ้านเราและบ้านเขา มหกรรมเห่อหลานก็มา พ่อกับแม่ก็แบบเห่อนะแต่ไม่เวอร์อ่ะ คือหลานร้องก็เอามาให้อุ้มให้กล่อม แต่แม่สามีถ้าหลานร้องก็จะไม่ยอมให้คนอื่นอุ้ม นางจะอุ้มเองกล่อมเอง คือบางทีเด็กเล็กๆหิวนมกล่อมเท่าไหร่ก็ไม่เงียบหรอก ลูกก็ร้องจนนางหมดหนทางถึงเอามาให้เราเอาลูกเข้าเต้า นางก็ยังมาที่บ้านบ่อยเหมือนเดิม เราสงสารแม่เรา แม่เราต้องทำงานอีกดูแลแขกอีก กลางคืนก็เก็บกวาดบ้านอีก เราก็ยังทนเราถามแม่เรา แม่เราบอกไม่เป็นไรแขกมาบ้านต้องดูแล แต่เราไม่เคยเล่าให้แม่เราฟังนะว่าเรารู้สึกยังไง ก็พยายามปรับตัวให้รับนิสัยเขาให้ได้
จนจุดแตกหักของความรู้สึกเรามาถึง ช่วงนั้นลูกเราอายุ 4 เดือนกว่าเราไปทำงาน ตอนเย็นกลับจากทำงานก่อนถึงบ้านแม่เราโทรมาบอกว่าให้แวะรับลูกที่บ้านแม่สามีด้วย (เรากับสามีทำงานคนละที่ ดังนั้นเวลากลับก็ต่างคนต่างกลับ) ตอนนั้นที่แม่เราโทรบอก เรารู้สึกโกรธมากเลย คือเขาจะมาเอาลูกเราไปทำไมไม่บอกเราซักคำ ถ้าแม่เราไม่โทรบอกเราก็ไม่รู้ว่านางมารับลูกเราไป (เราจ้างพี่เลี้ยงซึ่งเขาไปรับมาจากพี่เลี้ยง แล้วพี่เลี้ยงไปบอกแม่เราอีกที) เราไม่หวงนะ แต่เราเป็นแม่อ่ะ บอกเราซักคำก็ได้ เราโกรธมากโกรธจนร้องไห้ ที่ร้องไห้เพราะเจ็บใจที่เราทำอะไรไม่ได้ เรากลับบ้านไปรับแม่เราให้ไปบ้านแม่สามีด้วยกัน เพื่อที่ว่าขากลับจะได้ช่วยอุ้มลูกเรา กลางคืนเราระบายให้สามีฟัง ว่าเราน้อยใจนะ ลูกเราทั้งคนมาเอาทำไมไม่บอกแม่ สามีเรารับฟังก็เข้าใจรับปากว่าจะบอกพ่อแม่เขาให้ว่าเวลาจะมารับหลานให้โทรบอกเราก่อน เราก็โอเคจบกันไป จนหลายวันผ่านไป พ่อสามีโทรมาหาเราบอกว่ามีเรื่องต้องเคลียร์ แม่เขามีเรื่องอยากจะเคลียร์ เราก็ตกใจ เขาก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บอกว่าถ้าไม่อยากให้เขาเล่นกับหลานก็บอกตรงๆวันหลังจะไม่ต้องอุ้ม เรางงเลย เขาบอกว่าสามีเราไปบอกเขาว่าเวลามารับหลานให้โทรบอกเราด้วย (แต่เขาตีความว่าเราไม่ให้ไปเอา เราหวง) มีการบอกว่าเขารักและเอ็นดูเราเหมือนลูกสาว ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้ คือวันนั้นเราดูเป็นนางร้ายไปเลย คือวันนั้นคุยกันยาว เราก็ขอโทษเขาไป บอกว่าไม่มีอะไร เรื่องมันเล็กนิดเดียว เราไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็กลายเป็นเปิดใจคุยกัน เราบอกเขาไปตรงๆว่าเราเป็นคนสบาย ไม่ต้องคอยเอาใจเรามาก เราไม่ชอบให้ใครวุ่นวายกับเรามาก เขาก็โอเคเข้าใจ แต่เขาไปพูดให้คนอื่นฟังว่าเราประชดเขา เราหวงลูก เราไม่อยากให้เขาเล่นกับหลาน ซึ่งคนที่เขาไปเล่าให้ฟังดันทำงานที่เดียวกับเรา จริงๆเราก็ฟังหูไว้หู แต่มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกลียดคนแบบนี้
พักหลังๆเวลาไปบ้านสามี เราเป็นคนพูดน้อยลง ไม่จำเป็นก็จะไม่พูดอะไร สามีก็ถามทำไมพูดน้อย เราบอกตรงๆว่าเราไม่อยากพูด พูดเยอะเดี๋ยวคนอื่นตีความเป็นแบบอื่น เสียความรู้สึกเปล่าๆ เราเคยบอกเขาตรงๆว่าเรื่องที่เราเคยพูด ทำไมเล่าให้คนอื่นฟังแบบอื่น เขาบอกว่าที่เคลียร์กันวันนั้นนึกว่าเราประชด ปัจจุบันนี้เขามาที่บ้านเราน้อยลง (สบายใจขึ้นเยอะ) แต่เวลาเราไปที่บ้านเขา แม่เขาจะไม่สนใจอะไรเลย งานบงงานบ้านไม่ทำ เล่นกับหลานอย่างเดียว มีการไปบอกชาวบ้านแถวนั้นนะซึ่งเราได้ยินเอง บอกว่าถ้าขับรถเองได้จะไปรับหลานมาเล่นทุกวัน แรกๆเราก็ช่วยเก็บกวาดบ้านนะ หลังๆเราไม่ชอบแล้ว เราขี้เกียจ บ้านใครก็เก็บเอง เราไปอาทิตย์ละครั้งก็ไปตามมารยาท ทุกวันนี้เราก็อยู่เพราะหน้าที่ คือเราเสียความรู้สึกไปแล้ว มันเสียแบบยับเยินเลย ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่เคยเล่าให้แม่เราฟังเลยกลัวแม่ไม่สบายใจ จริงๆมีอีกหลายเรื่องที่เขาทำให้เสียความรู้สึก เช่น ชอบจุ้นจ้านเวลาเพื่อนเรามาที่บ้านชอบถามนู่นถามนี่ ชอบซอกแซกถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนเรา ทั้งๆที่เรายังไม่เคยทำขนาดนั้น เรื่องของเราเขาก็ชอบยุ่ง พ่อกับแม่เรายังไม่ยุ่งขนาดนั้นเลย
เฮ้อ.....รู้สึกโล่งเลยได้ระบาย เรารู้ว่ามีอีกหลายคนที่เจอเรื่องแม่สามีลูกสะใภ้มากกว่าเราอีก ทุกคนจัดการกับความรู้สึกนั้นยังไงบ้างคะ
ขอบคุณพันทิบที่ให้พื้นที่เราระบาย เพราะไม่มีใครรู้จัก มันเล่าได้อย่างสบายใจ 😊
ใครมีปัญหาแม่สามีลูกสะใภ้บ้าง จัดการกับความรู้สึกนั้นยังไง?
คือเรากับสามีแต่งงานกันแล้วสามีย้ายเข้ามาอยู่บ้านเราด้วยเหตุผลเราทั้งคู่ไปทำงานสะดวกกว่าค่ะ บ้านเรากับบ้านสามีห่างกันประมาณ 10 กม. ไปมาหาสู่กันง่ายค่ะ สามีเราเป็นลูกคนโตค่ะอายุ 30 ปี แม่สามีอายุ 45 ปี ส่วนเราอายุ 27 ปี แม่เราอายุ 47 ปี (ดูเหมือนวัยครอบครัวเรากับครอบครัวสามีน่าจะราบรื่น เข้ากันได้ดี) แรกๆแต่งงานใหม่ๆ แม่สามีมาที่บ้านบ่อยมากค่ะ 2-3 วันก็มาครั้งหนึ่ง ทั้งๆที่เรากับสามีจะกลับไปนอนบ้านเขาอาทิตย์ละครั้งไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์ วันธรรมดาเราทั้งคู่ทำงานค่ะ คือแรกๆเราก็ไม่อะไรค่ะ อาจมีรำคาญบ้าง แต่คิดว่าคงเป็นปกติของแม่เขา เป็นคนซื่อๆ ขี้น้อยใจ อยากดูแลลูกกลัวลูกเหงาอะไรประมาณนั้น (บ้าปะลูกเป็นหนุ่มมีเมียแล้วด้วยนะ)
จนกระทั่งเราจะมีน้องค่ะ ช่วงนั้นเราแพ้ท้อง แพ้มากจริงๆจนต้องแอดมิดหลายรอบมาก ทุกครั้งที่เราแอดมิดแม่สามีชอบบอกว่าอาสาจะมาเฝ้า คือเราเหนื่อย เราอยากอยู่กับแม่เราอยู่กับสามีมากกว่าคือมันง๊องแง๊งได้ไม่ต้องคอยเกรงใจ แม่สามีบอกให้แม่เรากลับบ้านนางจะเฝ้าเอง วันแรกที่นางมานางเอาลูกคนเล็กมาด้วย (คนเล็กอายุ 6 ขวบ) คือเรานอนห้องพิเศษ นางหอบลูกนางมานางแทบไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย มัวแต่ดูแลลูกตัวเอง เดี๋ยวลูกจะกินนู่นกินนี่ เดี๋ยวจะเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวจะอาบน้ำ เดี๋ยวจะนอน แม่เราก็อยู่เรากับแม่มองหน้ากันแล้วส่ายหัวเลย ไม่รู้จะมาช่วยหรือจะมาเพิ่มภาระ แม่เราเลยตัดสินใจไม่กลับบ้าน นอนเฝ้ากันหมดนี้แหละรวมสามีกับก็ 5 คน คือนางเป็นคนขี้น้อยใจ ซื่อๆซื่อมาก ซื่อจนตีความเวลาคนพูดอ้อมๆไม่เป็น เราบอกตรงๆก็ไม่ได้เราเกรงใจเดี๋ยวคนจะหาว่าเป็นลูกสะใภ้ใจดำอีก เราแอดมิดกี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งจนเราเริ่มเบื่อ เราเริ่มไม่ชอบ แต่เราก็ยังทนคิดว่าคงเป็นเพราะฮอร์โมนคนท้องหรือเปล่าที่รำคาญง่าย จนกระทั่งคลอด ลูกเราเป็นหลานคนแรกทั้งฝั่งบ้านเราและบ้านเขา มหกรรมเห่อหลานก็มา พ่อกับแม่ก็แบบเห่อนะแต่ไม่เวอร์อ่ะ คือหลานร้องก็เอามาให้อุ้มให้กล่อม แต่แม่สามีถ้าหลานร้องก็จะไม่ยอมให้คนอื่นอุ้ม นางจะอุ้มเองกล่อมเอง คือบางทีเด็กเล็กๆหิวนมกล่อมเท่าไหร่ก็ไม่เงียบหรอก ลูกก็ร้องจนนางหมดหนทางถึงเอามาให้เราเอาลูกเข้าเต้า นางก็ยังมาที่บ้านบ่อยเหมือนเดิม เราสงสารแม่เรา แม่เราต้องทำงานอีกดูแลแขกอีก กลางคืนก็เก็บกวาดบ้านอีก เราก็ยังทนเราถามแม่เรา แม่เราบอกไม่เป็นไรแขกมาบ้านต้องดูแล แต่เราไม่เคยเล่าให้แม่เราฟังนะว่าเรารู้สึกยังไง ก็พยายามปรับตัวให้รับนิสัยเขาให้ได้
จนจุดแตกหักของความรู้สึกเรามาถึง ช่วงนั้นลูกเราอายุ 4 เดือนกว่าเราไปทำงาน ตอนเย็นกลับจากทำงานก่อนถึงบ้านแม่เราโทรมาบอกว่าให้แวะรับลูกที่บ้านแม่สามีด้วย (เรากับสามีทำงานคนละที่ ดังนั้นเวลากลับก็ต่างคนต่างกลับ) ตอนนั้นที่แม่เราโทรบอก เรารู้สึกโกรธมากเลย คือเขาจะมาเอาลูกเราไปทำไมไม่บอกเราซักคำ ถ้าแม่เราไม่โทรบอกเราก็ไม่รู้ว่านางมารับลูกเราไป (เราจ้างพี่เลี้ยงซึ่งเขาไปรับมาจากพี่เลี้ยง แล้วพี่เลี้ยงไปบอกแม่เราอีกที) เราไม่หวงนะ แต่เราเป็นแม่อ่ะ บอกเราซักคำก็ได้ เราโกรธมากโกรธจนร้องไห้ ที่ร้องไห้เพราะเจ็บใจที่เราทำอะไรไม่ได้ เรากลับบ้านไปรับแม่เราให้ไปบ้านแม่สามีด้วยกัน เพื่อที่ว่าขากลับจะได้ช่วยอุ้มลูกเรา กลางคืนเราระบายให้สามีฟัง ว่าเราน้อยใจนะ ลูกเราทั้งคนมาเอาทำไมไม่บอกแม่ สามีเรารับฟังก็เข้าใจรับปากว่าจะบอกพ่อแม่เขาให้ว่าเวลาจะมารับหลานให้โทรบอกเราก่อน เราก็โอเคจบกันไป จนหลายวันผ่านไป พ่อสามีโทรมาหาเราบอกว่ามีเรื่องต้องเคลียร์ แม่เขามีเรื่องอยากจะเคลียร์ เราก็ตกใจ เขาก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บอกว่าถ้าไม่อยากให้เขาเล่นกับหลานก็บอกตรงๆวันหลังจะไม่ต้องอุ้ม เรางงเลย เขาบอกว่าสามีเราไปบอกเขาว่าเวลามารับหลานให้โทรบอกเราด้วย (แต่เขาตีความว่าเราไม่ให้ไปเอา เราหวง) มีการบอกว่าเขารักและเอ็นดูเราเหมือนลูกสาว ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้ คือวันนั้นเราดูเป็นนางร้ายไปเลย คือวันนั้นคุยกันยาว เราก็ขอโทษเขาไป บอกว่าไม่มีอะไร เรื่องมันเล็กนิดเดียว เราไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็กลายเป็นเปิดใจคุยกัน เราบอกเขาไปตรงๆว่าเราเป็นคนสบาย ไม่ต้องคอยเอาใจเรามาก เราไม่ชอบให้ใครวุ่นวายกับเรามาก เขาก็โอเคเข้าใจ แต่เขาไปพูดให้คนอื่นฟังว่าเราประชดเขา เราหวงลูก เราไม่อยากให้เขาเล่นกับหลาน ซึ่งคนที่เขาไปเล่าให้ฟังดันทำงานที่เดียวกับเรา จริงๆเราก็ฟังหูไว้หู แต่มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกลียดคนแบบนี้
พักหลังๆเวลาไปบ้านสามี เราเป็นคนพูดน้อยลง ไม่จำเป็นก็จะไม่พูดอะไร สามีก็ถามทำไมพูดน้อย เราบอกตรงๆว่าเราไม่อยากพูด พูดเยอะเดี๋ยวคนอื่นตีความเป็นแบบอื่น เสียความรู้สึกเปล่าๆ เราเคยบอกเขาตรงๆว่าเรื่องที่เราเคยพูด ทำไมเล่าให้คนอื่นฟังแบบอื่น เขาบอกว่าที่เคลียร์กันวันนั้นนึกว่าเราประชด ปัจจุบันนี้เขามาที่บ้านเราน้อยลง (สบายใจขึ้นเยอะ) แต่เวลาเราไปที่บ้านเขา แม่เขาจะไม่สนใจอะไรเลย งานบงงานบ้านไม่ทำ เล่นกับหลานอย่างเดียว มีการไปบอกชาวบ้านแถวนั้นนะซึ่งเราได้ยินเอง บอกว่าถ้าขับรถเองได้จะไปรับหลานมาเล่นทุกวัน แรกๆเราก็ช่วยเก็บกวาดบ้านนะ หลังๆเราไม่ชอบแล้ว เราขี้เกียจ บ้านใครก็เก็บเอง เราไปอาทิตย์ละครั้งก็ไปตามมารยาท ทุกวันนี้เราก็อยู่เพราะหน้าที่ คือเราเสียความรู้สึกไปแล้ว มันเสียแบบยับเยินเลย ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่เคยเล่าให้แม่เราฟังเลยกลัวแม่ไม่สบายใจ จริงๆมีอีกหลายเรื่องที่เขาทำให้เสียความรู้สึก เช่น ชอบจุ้นจ้านเวลาเพื่อนเรามาที่บ้านชอบถามนู่นถามนี่ ชอบซอกแซกถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนเรา ทั้งๆที่เรายังไม่เคยทำขนาดนั้น เรื่องของเราเขาก็ชอบยุ่ง พ่อกับแม่เรายังไม่ยุ่งขนาดนั้นเลย
เฮ้อ.....รู้สึกโล่งเลยได้ระบาย เรารู้ว่ามีอีกหลายคนที่เจอเรื่องแม่สามีลูกสะใภ้มากกว่าเราอีก ทุกคนจัดการกับความรู้สึกนั้นยังไงบ้างคะ
ขอบคุณพันทิบที่ให้พื้นที่เราระบาย เพราะไม่มีใครรู้จัก มันเล่าได้อย่างสบายใจ 😊