ศาสนาพุทธในไทย กำลังแตกแยก เหมือนที่เกิดขึ้นในรามัญประเทศ(มอญ) เมื่อสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ ก็อาจเป็นได้

กระทู้สนทนา
สมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ศรีปิฎกธรขึ้นครองราชย์ในเมืองหงสาวดี รามัญประเทศ ในขณะนั้นพระสงฆ์ในเมืองมอญได้แตกแยกเป็น 6 คณะใหญ่ มีความหย่อนยานทางข้อปฏิบัติ และขาดความเป็นเอกภาพในคณะสงฆ์ ต่างรังเกียจไม่ยอมทำสังฆกรรมร่วมกัน และถือพิธีปฏิบัติผิดแผกกันออกไปตามคติความเห็นของแต่ละฝ่าย พระองค์ทรงวิตกว่า การถือปฏิบัติของพระสงฆ์ในกาลภายหน้าจะเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาเสื่อมถอยลง และจะเสื่อมสูญไปจากดินแดนมอญในที่สุด พระองค์ทรงประสงค์เพื่อที่จะชำระพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์และให้พระสงฆ์มอญถือวัตรปฏิบัติตามพระไตรปิฎกเป็นอย่างเดียวกัน จึงทรงฟื้นฟูใหม่ด้วยการให้คณาจารย์จาก 6 สำนักใหญ่มาประชุมกัน ขอร้องให้ไปอุปสมบทใหม่ในลังกา เพื่อให้เกิดความเสมอภาพและเป็นปึกแผ่นของคณะสงฆ์มอญ คณะสงฆ์จาก 6 สำนักก็เห็นชอบด้วย จึงทรงรับสั่งให้คณาจารย์ของแต่ละฝ่ายให้ไปรับการอุปสมบทจากพระสงฆ์ในลังกาทวีป เพื่อให้มีพระสงฆ์มอญ(รามัญ)ที่บริสุทธิ์เกิดขึ้นมาก่อน แล้วกลับมาให้การอุปสมบทแก่ลูกศิษย์ต่อไปเพื่อให้พระสงฆ์ในรามัญประเทศเป็นวงศ์เดียวกัน เพื่อปฏิรูปคณะสงฆ์ในรามัญประเทศให้ดำรงสืบต่อไปอย่างเป็นเอกภาพ

          พระองค์ส่งพระเถระ 22 รูป และพระอนุจรอีก 22 รูปไปรับการอุปสมบทในลังกาทวีป กษัตริย์ลังกาทรงอุปถัมภ์ด้วยดี ทรงนิมนต์พระมหาเถระชาวลังกา 3 รูป คือ พระธรรมกิตติ พระวันรัต และพระมังคละ และพระสงฆ์อีก 25 รูป ทำการอุปสมบทแก่พระสงฆ์มอญใหม่ เมื่อกลับมาสู่เมืองหงสาวดีแล้ว พระเจ้าธรรมเจดีย์ก็ได้ประกาศราชโองการให้พระสงฆ์ทั่วแผ่นดินสึกกันหมด แล้วบวชใหม่กับคณะสงฆ์ที่บวชจากลังกา ตามแบบของคณะมหาวิหารในลังกา ซึ่งเป็นนิกายเดียวที่เก่าแก่ที่สุด โดยเรียกคณะใหม่ว่าคณะกัลยาณี ในครั้งนั้นได้มีพระบวชในคณะกัลยาณีถึง 15,666 รูป คณะสงฆ์เมืองหงสาวดีก็กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง

          พระเจ้าธรรมเจดีย์ ปกครองอาณาจักรมอญหงสาวดีระหว่างปี พ.ศ. 2013 - 2035
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่