คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
30 บาทรักษาทุกโรค
เมาแล้วขับ อุบัติเหตุรักษาฟรี
เมาแล้ววิวาท แทงกัน ยิงกัน รักษาฟรี
นักเลง โจร ก่อเรื่องบาดเจ็บ รักษาฟรี
เสริมสวยทำนมทำจู๋ เน่า รักษาฟรี
แก็งค์แข่งซิ่งถนนหลวง อุบัติเหตุรักษาฟรี
และอีกเยอะ
รักษาฟรีโดยภาษีประชาชน สุดยอดดดดดดดดดดดดดด
เมาแล้วขับ อุบัติเหตุรักษาฟรี
เมาแล้ววิวาท แทงกัน ยิงกัน รักษาฟรี
นักเลง โจร ก่อเรื่องบาดเจ็บ รักษาฟรี
เสริมสวยทำนมทำจู๋ เน่า รักษาฟรี
แก็งค์แข่งซิ่งถนนหลวง อุบัติเหตุรักษาฟรี
และอีกเยอะ
รักษาฟรีโดยภาษีประชาชน สุดยอดดดดดดดดดดดดดด
สมาชิกหมายเลข 3185627 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 1140524 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 1171324 ขำกลิ้ง, hootho สยอง, สการ์เล็ต โอเวอร์คิล ขำกลิ้ง, แตงไท ทึ่ง, Lady1412 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 2816997 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 3137767 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 1390251 สยองรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ยังขอยืนยันคำนี้
ขอบคุณสำหรับโครงการ "30 บาทรักษาทุกโรค" ทั้งผู้ริเริ่มแนวคิด ผู้ผลักดันทำให้โครงการนี้สำเร็จ และผู้สนับสนุนทุกท่าน
การเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างสะดวกเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงได้รับ
ขอให้โครงการดีๆ เพื่อคนยากจนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้คงอยู่ตลอดไปค่ะ
ขอตอบข้อโต้แย้งคุณรูปแมว 2814236 โดยสรุป ดังนี้ค่ะ
1. นโยบายนี้มีพื้นฐานแนวคิดของความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้เป็นที่ตั้ง และการช่วยเหลือคนยากจนให้ได้มีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาบาล เป็นรัฐสวัสดิการอย่างหนึ่งที่ประชาชนควรได้รับ
2. สำหรับที่คุณรูปแมว 2814236 บอกว่า แล้วพวก เมาแล้วขับ ทะเลาะวิวาท นักเลงก่อเรื่อง ฯลฯ ได้สิทธิตรงนี้ นั่นทำให้คุณต่อต้านโครงการนี้เหรอคะ แล้วคุณได้คิดถึงกลุ่มคนอื่นอีกหรือไม่ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ เราว่าคิดเป็นสัดส่วนมากมายกว่าคนเหล่านี้นัก ได้คิดถึงคนยากจนที่ไม่มีเงินจะรักษาไหม ได้คิดถึงเหยื่อของพวกเมาแล้วขับไหม ได้คิดถึงผู้ได้รับบาดเจ็บจากนักเลงหัวไม้ไหม ทำไมคุณถึงเอาร้ายไม่กี่คนมาขัดขวางนโยบายดีๆ เพื่อประชาชนคะ อย่าว่าแต่เรื่องเมาแล้วขับ นักเลงพวกนั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดการค่ะ คุณต้องไปจี้เอากับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มีความเป็นธรรมในการตัดสินโทษ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เอามาปนกับนโยบายตรงนี้ได้อย่างไร
3. เหมือนคุณจะเสียดายภาษีประชาชนในเรื่องนี้ เราและคนไทยทุกคนก็เสียภาษี และคนยากจนทั้งหลายเขาก็เสียภาษีในรูปมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว หากเขาจะได้รับสวัสดิการตรงนี้คืนแปลกตรงไหน หากใช้ตรรกะคุณ ประเทศไม่ต้องพัฒนา ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เด็กมหาวิทยาลัยปิดใช้เงินรัฐอุดหนุนหรือไม่ ต้องมาคิดไหมว่าเดี๋ยวลูกนักการเมืองโกงมาใช้สิทธิตรงนี้ เดี๋ยวลูกโจรมาใช้สิทธิตรงนี้ จะสร้างอะไรสักอย่างไม่คิดเหรอว่าเดี๋ยวคนเลวมาใช้งาน แล้วชาว กทม.น่ะ ใช้ภาษีของพี่น้องต่างจังหวัดในเรื่องสาธารณูปโภค infrastructure ต่างๆ มากกว่าคนต่างจังหวัดเท่าไร เรื่องสุขภาพที่เป็นปัจจัย 4 ของคนจนทำไมจึงได้มีปัญหากันนัก
4. คุณกล่าวหาว่ามาอวยแม้ว ก็ในเมื่อมีผลงานที่ดีเป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ให้อวย หรือจะให้อวยมาร์ค อวยเทือก ที่ไม่ได้ทำผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากสร้างวาทกรรมทำลายประเทศ หากไม่ใช่นายกทักษิณที่ผลักดันจนโครงการนี้แต่เป็นนายอภิสิทธิ์หรือใครก็ตาม สามารถทำจนประสบความสำเร็จ เราว่าก็เป็นผลงานที่น่าชื่นชม เราว่าคนฝ่ายประชาธิปไตยแยกแยะได้นะ
5. จากความเห็นนี้ของคุณ
ความคิดเห็นที่ 5-9
มีตรรกกะกันใหญ่
ทู้นี้ ทวดเล่นเอาแต่ด้านดีฝั่งตน มาเทียบกับอีกฝั่งด้านที่แย่ๆ สนุกกันใหญ่
พอเอาด้านที่แย่ๆมาให้เห็น รับกันไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยย ขำ
แย่ก็ต้องยอมรับและแก้ไข มันแค่นี้เอง แต่ว่าในคอกแม้วแม้วดีทุกเรื่อง ห้ามแตะ น่าสงสาร
เราว่าคุณเข้าใจอะไรผิดแล้วค่ะ สิ่งที่คุณว่ามาไม่ใช่แนวทางแก้ไข และไม่ได้มีใครว่าแม้วดีทุกเรื่อง ห้ามแตะ แต่ตรรกะของคุณในเรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคนี้มันพิสดารจริงๆ จะให้คนอื่นเห็นตามคุณจึงจะถูกอย่างนั้นเหรอคะ หากคุณคิดว่ากระทู้ท่านทวดเอาแต่ข้อดีฝ่ายนี้มาเขียน คุณก็ตั้งกระทู้เขียนข้อดีทางฝ่ายมาร์ค หรือเทือก หรือรัฐบาลที่คุณชอบ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นเป็นความรู้สิคะ ไม่มีใครห้าม
6. เราเสียดายภาษีที่ต้องเสียให้กับบรรดาข้าราชการที่ไม่มีจิตรับใช้ประชาชน หรือองค์กรอิสระทั้งหลายที่เข้ามาล้มรัฐบาลที่มาจากประชาชน หรือบรรดาหมอที่จบมาแล้วไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ปล่อยความเกลียดชังครอบงำจนแบ่งพวกพ้องในการรักษา หรือพวกกินภาษีประชาชนแต่มาจำกัดริดรอนสิทธิของประชาชนมากมายยิ่งนัก
(แก้คำผิด)
ขอบคุณสำหรับโครงการ "30 บาทรักษาทุกโรค" ทั้งผู้ริเริ่มแนวคิด ผู้ผลักดันทำให้โครงการนี้สำเร็จ และผู้สนับสนุนทุกท่าน
การเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างสะดวกเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงได้รับ
ขอให้โครงการดีๆ เพื่อคนยากจนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้คงอยู่ตลอดไปค่ะ
ขอตอบข้อโต้แย้งคุณรูปแมว 2814236 โดยสรุป ดังนี้ค่ะ
1. นโยบายนี้มีพื้นฐานแนวคิดของความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้เป็นที่ตั้ง และการช่วยเหลือคนยากจนให้ได้มีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาบาล เป็นรัฐสวัสดิการอย่างหนึ่งที่ประชาชนควรได้รับ
2. สำหรับที่คุณรูปแมว 2814236 บอกว่า แล้วพวก เมาแล้วขับ ทะเลาะวิวาท นักเลงก่อเรื่อง ฯลฯ ได้สิทธิตรงนี้ นั่นทำให้คุณต่อต้านโครงการนี้เหรอคะ แล้วคุณได้คิดถึงกลุ่มคนอื่นอีกหรือไม่ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ เราว่าคิดเป็นสัดส่วนมากมายกว่าคนเหล่านี้นัก ได้คิดถึงคนยากจนที่ไม่มีเงินจะรักษาไหม ได้คิดถึงเหยื่อของพวกเมาแล้วขับไหม ได้คิดถึงผู้ได้รับบาดเจ็บจากนักเลงหัวไม้ไหม ทำไมคุณถึงเอาร้ายไม่กี่คนมาขัดขวางนโยบายดีๆ เพื่อประชาชนคะ อย่าว่าแต่เรื่องเมาแล้วขับ นักเลงพวกนั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดการค่ะ คุณต้องไปจี้เอากับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มีความเป็นธรรมในการตัดสินโทษ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เอามาปนกับนโยบายตรงนี้ได้อย่างไร
3. เหมือนคุณจะเสียดายภาษีประชาชนในเรื่องนี้ เราและคนไทยทุกคนก็เสียภาษี และคนยากจนทั้งหลายเขาก็เสียภาษีในรูปมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว หากเขาจะได้รับสวัสดิการตรงนี้คืนแปลกตรงไหน หากใช้ตรรกะคุณ ประเทศไม่ต้องพัฒนา ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เด็กมหาวิทยาลัยปิดใช้เงินรัฐอุดหนุนหรือไม่ ต้องมาคิดไหมว่าเดี๋ยวลูกนักการเมืองโกงมาใช้สิทธิตรงนี้ เดี๋ยวลูกโจรมาใช้สิทธิตรงนี้ จะสร้างอะไรสักอย่างไม่คิดเหรอว่าเดี๋ยวคนเลวมาใช้งาน แล้วชาว กทม.น่ะ ใช้ภาษีของพี่น้องต่างจังหวัดในเรื่องสาธารณูปโภค infrastructure ต่างๆ มากกว่าคนต่างจังหวัดเท่าไร เรื่องสุขภาพที่เป็นปัจจัย 4 ของคนจนทำไมจึงได้มีปัญหากันนัก
4. คุณกล่าวหาว่ามาอวยแม้ว ก็ในเมื่อมีผลงานที่ดีเป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ให้อวย หรือจะให้อวยมาร์ค อวยเทือก ที่ไม่ได้ทำผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากสร้างวาทกรรมทำลายประเทศ หากไม่ใช่นายกทักษิณที่ผลักดันจนโครงการนี้แต่เป็นนายอภิสิทธิ์หรือใครก็ตาม สามารถทำจนประสบความสำเร็จ เราว่าก็เป็นผลงานที่น่าชื่นชม เราว่าคนฝ่ายประชาธิปไตยแยกแยะได้นะ
5. จากความเห็นนี้ของคุณ
ความคิดเห็นที่ 5-9
มีตรรกกะกันใหญ่
ทู้นี้ ทวดเล่นเอาแต่ด้านดีฝั่งตน มาเทียบกับอีกฝั่งด้านที่แย่ๆ สนุกกันใหญ่
พอเอาด้านที่แย่ๆมาให้เห็น รับกันไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยย ขำ
แย่ก็ต้องยอมรับและแก้ไข มันแค่นี้เอง แต่ว่าในคอกแม้วแม้วดีทุกเรื่อง ห้ามแตะ น่าสงสาร
เราว่าคุณเข้าใจอะไรผิดแล้วค่ะ สิ่งที่คุณว่ามาไม่ใช่แนวทางแก้ไข และไม่ได้มีใครว่าแม้วดีทุกเรื่อง ห้ามแตะ แต่ตรรกะของคุณในเรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคนี้มันพิสดารจริงๆ จะให้คนอื่นเห็นตามคุณจึงจะถูกอย่างนั้นเหรอคะ หากคุณคิดว่ากระทู้ท่านทวดเอาแต่ข้อดีฝ่ายนี้มาเขียน คุณก็ตั้งกระทู้เขียนข้อดีทางฝ่ายมาร์ค หรือเทือก หรือรัฐบาลที่คุณชอบ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นเป็นความรู้สิคะ ไม่มีใครห้าม
6. เราเสียดายภาษีที่ต้องเสียให้กับบรรดาข้าราชการที่ไม่มีจิตรับใช้ประชาชน หรือองค์กรอิสระทั้งหลายที่เข้ามาล้มรัฐบาลที่มาจากประชาชน หรือบรรดาหมอที่จบมาแล้วไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ปล่อยความเกลียดชังครอบงำจนแบ่งพวกพ้องในการรักษา หรือพวกกินภาษีประชาชนแต่มาจำกัดริดรอนสิทธิของประชาชนมากมายยิ่งนัก
(แก้คำผิด)
Watusi ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 738449 ถูกใจ, Phoenixนิลมังกร ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1232462 ถูกใจ, MrAtom ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1140524 ถูกใจ, พบแต่สิ่งที่ดีงาม ถูกใจ, สการ์เล็ต โอเวอร์คิล ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3010442 ถูกใจ, ลุงโก๊ะ หลงรักรวมถึงอีก 14 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 10
" เรื่องของชาย 2 คน--------------------------------ทวดเอง "
- ชายคนแรก สร้าง...
ส่วนชายอีกคน ทำลาย...
คนทำลายประเทศเรามีมากแล้ว พอเถอะ อภิสิทธิ์ สุเทพ ชวน... พอเถอะประชาธิปัตย์...
พอเถอะ อำมาตย์ อำมาตยาธิปไตย ให้ประชาชนได้ปกครองกันเอง เลิกปั่นหัวสลิ่มด้วยการโฆษณาชวนเชื่อเสียที
ครับ...
- ชายคนแรก สร้าง...
ส่วนชายอีกคน ทำลาย...
คนทำลายประเทศเรามีมากแล้ว พอเถอะ อภิสิทธิ์ สุเทพ ชวน... พอเถอะประชาธิปัตย์...
พอเถอะ อำมาตย์ อำมาตยาธิปไตย ให้ประชาชนได้ปกครองกันเอง เลิกปั่นหัวสลิ่มด้วยการโฆษณาชวนเชื่อเสียที
ครับ...
Watusi ถูกใจ, Phoenixนิลมังกร ถูกใจ, พบแต่สิ่งที่ดีงาม ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3010442 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1229019 ถูกใจ, ชื่อนี้ใช้แล้วมีความสุข ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, my skye ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 842519 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3147196 ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 13
สิทธิบัตรทองคุ้มครองค่าใช้จ่ายประเภทใดบ้าง ?
- บริการวางแผนครอบครัว ได้แก่ ให้คำแนะนำปรึกษาคู่สมรส บริการคุมกำเนิด
- การคลอดบุตร รวมกันไม่เกิน 2 ครั้ง (กรณีที่บุตรมีชีวิตอยู่)
- ดูแลสุขภาพหญิงมีครรภ์ ทารกแรกเกิด พัฒนาการของเด็ก
- วัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามนโยบายรัฐ
- คัดกรองความเสี่ยง เช่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจมะเร็งปากมดลูก / มะเร็งเต้านม
- ยาต้านไวรัสเอดส์เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก
- บริการทันตกรรม
- การตรวจ วินิจฉัย และรักษา โรคทั่วไปเช่น ไข้หวัด จนถึงโรคเรื้อรัง / โรคเฉพาะทางเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง(เช่น ผ่าตัด, ฉายแสง, เคมีบำบัด) ไตวายเรื้อรัง(เช่น ล้างไตผ่านทางช่องท้อง, ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม, ผ่าตัดปลูกถ่ายไต) เอดส์ ผ่าตัดตา ต้อกระจก ผ่าตัดหัวใจ เป็นต้น รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- ค่ายาและเวชภัณฑ์ ตามกรอบบัญชียาหลักแห่งชาติ และยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ตามประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
- ค่าอาหารและค่าห้อง ระหว่างพักรักษาตัว ณ หน่วยบริการ
- การจัดการส่งต่อผู้ป่วย
- บริการแพทย์แผนไทย
- บริการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ เช่น กายภาพบำบัด จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด กิจกรรมบำบัด ฟื้นฟูการได้ยิน / การมองเห็น และรับอุปกรณ์เครื่องช่วยตามประเภทความพิการได้ตามเกณฑ์ที่ สปสช.กำหนด
กรณีไหนบ้างที่ไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ ?
- รักษาภาวะมีบุตรยาก / ผสมเทียม
- เปลี่ยนเพศ / การกระทำใดๆเพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้จากแพทย์
- การตรวจวินิจฉัย และรักษา ที่เกินความจำเป็นจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- การรักษาที่อยู่ระหว่างค้นคว้าทดลอง
- การบาดเจ็บจากการประสบภัยจากรถ เฉพาะส่วนที่บริษัท หรือกองทุนตามกฎหมายนั้นต้องเป็นผู้จ่าย
- การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาและสารเสพติด ยกเว้นผู้ติดเฮโลอีนที่สมัครใจเข้ารับการรักษา และไม่ต้องโทษคดียาเสพติด ให้ได้รับสารทดแทนยาเสพติด (เมทาโดน) จากหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนได้
- โรคเดียวกันที่ต้องรักษาในฐานะผู้ป่วยในเกินกว่า 180 วัน ยกเว้น กรณีต้องรักษาต่อเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนหรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- การเปลี่ยนอวัยวะ(Organ Transplantation) ยกเว้น การปลูกถ่ายหัวใจ , ปลูกถ่ายไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และปลูกถ่ายตับในเด็ก(อายุไม่เกิน 18 ปี) ที่เป็นโรคท่อน้ำดีตีบตันแต่กำเนิด
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.eldercareinthai.com/2015/03/21/10-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/
เพิ่มเติมในกรณีคลอดบุตร
ขยายสิทธิบัตรทองคลอดบุตรไม่จำกัด เริ่ม1ต.ค.
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 03 สิงหาคม 2558, 16:31
บอร์ดสปสช. เห็นชอบขยายสิทธิบัตรทองคลอดบุตรได้ไม่จำกัดครั้ง เริ่ม1ต.ค.58 เพิ่มคลินิกปฐมภูมิให้คนกทม.อีกราว 400 แห่ง
ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) กล่าวว่า บอร์ดสปสช.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง ปีงบประมาณ 2559 สำหรับหมวดงบเหมาจ่ายรายหัวที่ได้รับอนุมัติในปี 2559 จำนวน 3,028 บาทต่อคนต่อปี มีผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 48.7 ล้านคน รวมเป็นงบประมาณ 147,772 ล้านบาท หักเงินเดือนภาครัฐ ประมาณ 40,143 ล้านบาท เหลือเป็นงบค่ารักษาพยาบาลที่แท้จริง 107,629 ล้านบาท จะมีส่วนปรับเกณฑ์การจัดสรรใหม่ ได้แก่ หมวดย่อยผู้ป่วยนอก จะเพิ่มเติมหน่วยบริการปฐมภูมิรองรับผู้ใช้สิทธิบัตรทองในกรุงเทพฯอีกอย่างน้อย 400แห่ง เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ใช้สิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ
หมวดย่อยผู้ป่วยใน จะมีการขยายสิทธิ์ในการคลอดบุตรให้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จากเดิมที่รองรับสิทธิ์เพียงการคลอดบุตรมีชีวิตอยู่รอด 2 ครั้งเท่านั้น โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 นอกจากนี้ หมวดย่อยสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้มีการจัดหาวัคซีนโปลิโอชนิดฉีดแทนชนิดหยอด ทั้งนี้ วัคซีนต้องได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติก่อนหมวดย่อยค่าบริการทางกาแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุนหรืองบค่าเสื่อมจากการบริการ ที่ครม.ให้ชะลอการซ่อมแซมและก่อสร้างอาคารในปี 2559ไปก่อน บอร์ดจะมีการส่งหนังสือสอบถามไปยังครม.อีกครั้งหนึ่ง
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวอีกว่า บอร์ดสปสช.ยังเห็นชอบเกณฑ์การบริหารงบที่อยู่นอกงบเหมาจ่ายรายหัวด้วย คือ หมวดบริการผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่ปี 2559 ได้รับเพิ่ม 200 ล้านบาท เป็นเงินประมาณ 3,011 ล้านบาท หมวดค่าบริการสุขภาพผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ได้รับเพิ่ม 1,070 ล้านบาท เป็นเงิน 6,318 ล้านบาท หมวดค่าบริการควบคุมป้องกันความรุนแรงของโรคเรื้อรัง ได้รับเพิ่ม 50 ล้านบาทเป็นเงิน 959 ล้านบาท หมวดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้รับเพิ่ม 1,025 ล้านบาท เป็นเงิน 1,490 ล้านบาท และหมวดค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ซึ่งเพิ่งมีเพิ่มเป็นงบประมาณปีแรก จำนวน 600 ล้านบาท
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/659291
- บริการวางแผนครอบครัว ได้แก่ ให้คำแนะนำปรึกษาคู่สมรส บริการคุมกำเนิด
- การคลอดบุตร รวมกันไม่เกิน 2 ครั้ง (กรณีที่บุตรมีชีวิตอยู่)
- ดูแลสุขภาพหญิงมีครรภ์ ทารกแรกเกิด พัฒนาการของเด็ก
- วัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามนโยบายรัฐ
- คัดกรองความเสี่ยง เช่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจมะเร็งปากมดลูก / มะเร็งเต้านม
- ยาต้านไวรัสเอดส์เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก
- บริการทันตกรรม
- การตรวจ วินิจฉัย และรักษา โรคทั่วไปเช่น ไข้หวัด จนถึงโรคเรื้อรัง / โรคเฉพาะทางเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง(เช่น ผ่าตัด, ฉายแสง, เคมีบำบัด) ไตวายเรื้อรัง(เช่น ล้างไตผ่านทางช่องท้อง, ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม, ผ่าตัดปลูกถ่ายไต) เอดส์ ผ่าตัดตา ต้อกระจก ผ่าตัดหัวใจ เป็นต้น รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- ค่ายาและเวชภัณฑ์ ตามกรอบบัญชียาหลักแห่งชาติ และยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ตามประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
- ค่าอาหารและค่าห้อง ระหว่างพักรักษาตัว ณ หน่วยบริการ
- การจัดการส่งต่อผู้ป่วย
- บริการแพทย์แผนไทย
- บริการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ เช่น กายภาพบำบัด จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด กิจกรรมบำบัด ฟื้นฟูการได้ยิน / การมองเห็น และรับอุปกรณ์เครื่องช่วยตามประเภทความพิการได้ตามเกณฑ์ที่ สปสช.กำหนด
กรณีไหนบ้างที่ไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ ?
- รักษาภาวะมีบุตรยาก / ผสมเทียม
- เปลี่ยนเพศ / การกระทำใดๆเพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้จากแพทย์
- การตรวจวินิจฉัย และรักษา ที่เกินความจำเป็นจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- การรักษาที่อยู่ระหว่างค้นคว้าทดลอง
- การบาดเจ็บจากการประสบภัยจากรถ เฉพาะส่วนที่บริษัท หรือกองทุนตามกฎหมายนั้นต้องเป็นผู้จ่าย
- การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาและสารเสพติด ยกเว้นผู้ติดเฮโลอีนที่สมัครใจเข้ารับการรักษา และไม่ต้องโทษคดียาเสพติด ให้ได้รับสารทดแทนยาเสพติด (เมทาโดน) จากหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนได้
- โรคเดียวกันที่ต้องรักษาในฐานะผู้ป่วยในเกินกว่า 180 วัน ยกเว้น กรณีต้องรักษาต่อเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนหรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- การเปลี่ยนอวัยวะ(Organ Transplantation) ยกเว้น การปลูกถ่ายหัวใจ , ปลูกถ่ายไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และปลูกถ่ายตับในเด็ก(อายุไม่เกิน 18 ปี) ที่เป็นโรคท่อน้ำดีตีบตันแต่กำเนิด
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.eldercareinthai.com/2015/03/21/10-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/
เพิ่มเติมในกรณีคลอดบุตร
ขยายสิทธิบัตรทองคลอดบุตรไม่จำกัด เริ่ม1ต.ค.
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 03 สิงหาคม 2558, 16:31
บอร์ดสปสช. เห็นชอบขยายสิทธิบัตรทองคลอดบุตรได้ไม่จำกัดครั้ง เริ่ม1ต.ค.58 เพิ่มคลินิกปฐมภูมิให้คนกทม.อีกราว 400 แห่ง
ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) กล่าวว่า บอร์ดสปสช.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง ปีงบประมาณ 2559 สำหรับหมวดงบเหมาจ่ายรายหัวที่ได้รับอนุมัติในปี 2559 จำนวน 3,028 บาทต่อคนต่อปี มีผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 48.7 ล้านคน รวมเป็นงบประมาณ 147,772 ล้านบาท หักเงินเดือนภาครัฐ ประมาณ 40,143 ล้านบาท เหลือเป็นงบค่ารักษาพยาบาลที่แท้จริง 107,629 ล้านบาท จะมีส่วนปรับเกณฑ์การจัดสรรใหม่ ได้แก่ หมวดย่อยผู้ป่วยนอก จะเพิ่มเติมหน่วยบริการปฐมภูมิรองรับผู้ใช้สิทธิบัตรทองในกรุงเทพฯอีกอย่างน้อย 400แห่ง เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ใช้สิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ
หมวดย่อยผู้ป่วยใน จะมีการขยายสิทธิ์ในการคลอดบุตรให้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จากเดิมที่รองรับสิทธิ์เพียงการคลอดบุตรมีชีวิตอยู่รอด 2 ครั้งเท่านั้น โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 นอกจากนี้ หมวดย่อยสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้มีการจัดหาวัคซีนโปลิโอชนิดฉีดแทนชนิดหยอด ทั้งนี้ วัคซีนต้องได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติก่อนหมวดย่อยค่าบริการทางกาแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุนหรืองบค่าเสื่อมจากการบริการ ที่ครม.ให้ชะลอการซ่อมแซมและก่อสร้างอาคารในปี 2559ไปก่อน บอร์ดจะมีการส่งหนังสือสอบถามไปยังครม.อีกครั้งหนึ่ง
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวอีกว่า บอร์ดสปสช.ยังเห็นชอบเกณฑ์การบริหารงบที่อยู่นอกงบเหมาจ่ายรายหัวด้วย คือ หมวดบริการผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่ปี 2559 ได้รับเพิ่ม 200 ล้านบาท เป็นเงินประมาณ 3,011 ล้านบาท หมวดค่าบริการสุขภาพผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ได้รับเพิ่ม 1,070 ล้านบาท เป็นเงิน 6,318 ล้านบาท หมวดค่าบริการควบคุมป้องกันความรุนแรงของโรคเรื้อรัง ได้รับเพิ่ม 50 ล้านบาทเป็นเงิน 959 ล้านบาท หมวดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้รับเพิ่ม 1,025 ล้านบาท เป็นเงิน 1,490 ล้านบาท และหมวดค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ซึ่งเพิ่งมีเพิ่มเป็นงบประมาณปีแรก จำนวน 600 ล้านบาท
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/659291
Phoenixนิลมังกร ถูกใจ, MrAtom ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1140524 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3010442 ถูกใจ, ชื่อนี้ใช้แล้วมีความสุข ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, my skye ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 842519 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3147196 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2956085 ถูกใจรวมถึงอีก 8 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
เรื่องของชาย 2 คน--------------------------------ทวดเอง
ส่วนชายอีกคน สร้างได้แต่เสาโรงพักเสาแฟลตตำรวจ
ชายคนแรก คนจนเข้าคิวเพื่อรักษาตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค
ส่วนชายอีกคน ทำให้คนรวยคนจนต้องต่อคิวซื้อน้ำมันปาล์มคนละขวด
ชายคนแรก เมียซื้อที่ดินต้องผ่านการประมูล
ส่วนชายอีกคน แจกที่ สปก.4.01 ให้กับพรรคพวก
ชายคนแรก ถูกยึดอำนาจ
ส่วนชายอีกคน ถูกยึดที่เขาแพง
ชายคนแรก ส่งเครื่องบินไปรับคนไทยคราวเกิดจลาจลที่เขมร
ส่วนชายอีกคน สั่งยิงประชาชนกลางเมืองหลวง
ชายคนแรก กัมพูชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ
ส่วนชายอีกคน หอบเอกสารไปกินแกงเลียง เขาไม่คุยด้วย
ชายคนแรก ก่อตั้งมูลนิธิไทยคม เพื่อเป็นประโยชน์การศึกษาให้กับเด็กชนบทที่ยากไร้
ส่วนชายอีกคน รับบริจาคคนมีคุณภาพ เพื่อเป็นทุนในการชัตดาวน์กรุงเทพ
ชายคนแรก ประกาศชัดเจนจะชนะการเลือกตั้ง เพื่ออยู่ต่ออีก 4 ปี
ส่วนชายอีกคน ประกาศชัดเจนแพ้การเลือกตั้ง จะขุดรูอยู่
ชายคนแรก ได้รับเสียงโหวตอย่างท่วมท้นในสภา
ส่วนชายอีกคน เอากระทรวงไปแลกเสียงโหวตในค่ายทหาร
ชายคนแรก ยอมยุบสภาคืนอำนาจ เมื่อประชาชนชุมนุมต่อต้าน
ส่วนชายอีกคน ใช้กระสุนจริงกับคนคิดเห็นต่าง เพื่อรักษาอำนาจ
ชายคนแรก เชิญชวนคนไทยร่วมกันพับนกกระดาษ เพื่อส่งสันติภาพให้กับชายแดนภาคใต้
ส่วนชายอีกคน อาศัยผังล้มเจ้ากำมะลอจัดการกับคนที่คิดเห็นต่าง
ชายคนแรก ทำให้นานาชาติยกย่องประเทศไทยมีประชาธิปไตยระดับต้นๆของเอเชีย
ส่วนชายอีกคน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประเทศไม่มีประชาธิปไตย
ชายคนแรก ทำให้ประเทศไทยพัฒนาจนใกล้จะเป็นเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย
ส่วนชายอีกคน ทำความวุ่นวาย จนประเทศกำลังเดินตามหลังพม่า
และสุดท้าย ชายคนแรก ถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมจากปฏิปักษ์
ส่วนชายอีกคน ทุกข้อหากลับได้รับการดูแลจาก...................พวกเดียวกัน