ทำงานช้าโดนให้ออกจากงานมาทั้งหมด 11 ที่ จะแก้ไขยังไงดี

จขกท เพิ่งตกงานมาไม่นานเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เองค่ะ สาเหตุเนื่องมาจากบริษัทต้องการลดขนาดองค์กร จึงมีความจำเป็นต้องปลดพนักงานออกบางส่วน ซึ่ง 1 ในนั้นก็รวม จขกท ด้วย ซึ่งทางบริษัทก็จ่ายค่าชดเชยให้ไปตามระเบียบ วันนี้ก็เพิ่งไปทำเรื่องเงินชดเชยกับประกันตนเองที่ประกันสังคมมา พร้อมกับให้เขาช่วยหางานให้ด้วย แต่แม่บอกว่าอาจจะยากหน่อย เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ ปัญหาของ จขกท คือทำงานช้ามากค่ะ ถ้างานที่ง่ายๆไม่ซับซ้อนไม่มีปัญหา แต่ถ้างานที่ยากๆ ต้องใช้ความคิดหรือระบบที่มีความซับซ้อน จะเกิดปัญหาขึ้นทันทีเลยค่ะ อย่างเช่น ถ้าระบบงานที่คนอื่นสามารถเรียนรู้ได้ภายในอาทิตย์เดียว แต่ จขกท ต้องใช้เวลาเรียนรู้ 2-3 อาทิตย์ คือกว่าที่จะปรับตัวได้มันก็เกินระยะเวลาที่เขาต้องการไปแล้ว เลยทำให้ไม่ผ่านโปรเลย 10 ที่แรก มาผ่านที่ที่ 11 แต่ก็มีเหตุให้ออกอีกจนได้ คือพูดง่ายๆว่าทำงานช้า เรียนรู้ช้า ใช้เวลานานกว่าคนอื่นนั่นแหละค่ะ เคยลองปรึกษาปัญหานี้กับแม่ดูแล้ว แม่บอกเราอาจไม่ถนัดหรือทำงานออฟฟิศไม่ได้ ให้ลองสอนพิเศษดู จขกท ถนัดและชอบภาษาอังกฤษกับจีนค่ะ แต่ถ้าจะให้ไปสอนคน ก็ไม่รู้จะสอนจะเริ่มยังไงเหมือนกัน ใครพอจะมีแนวคิดดีๆขอคำแนะนำหน่อยนะคะ หรือใครที่ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ พอจะแนะนำได้บ้างไหมคะ ตอนนี้กลุ้มใจมาก แม่เครียดจนร้องไห้แล้วค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
นี่นอกจากมีปัญหาครอบครัวแล้วยังมีปัญหาเรื่องงานด้วยสินะคะ
ถ้างานที่สุดท้ายเป็นงานที่เหมาะ ก็น่าจะหางานแนวนั้นต่อไปนะคะ ส่วนถ้าไม่ได้จริงๆ...

ดูเหมือนจขกท.จะชอบภาษา แต่ในคห.บอกว่าได้ระดับปานกลาง อันนี้ก็ไม่รู้ว่าถ่อมตัวรึเปล่า แต่ถ้าไม่เก่งจริงๆ งานแปลยากแล้วค่ะ เพราะรับงานแปล ภาษาคุณต้องชัวร์ แล้วงานแปลฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่มีแต่ขอด่วนค่ะ ไม่มีชิวๆ นิ่งๆ ค่อยๆ ทำหรอกค่ะ จขกท.ก็ไม่น่าจะไหวอีก (นอกจากจะรับตรงจากสนพ.มีเวลาให้แปลเป็นเดือนก็อีกเรื่องนึง)
สอนพิเศษอาจจะดีก็ได้นะคะ ถึงเราไม่เก่งมากแต่เตรียมตัวก่อนสอนได้ สำคัญคือต้องมีวิธีให้นร.เข้าใจและจำได้ ซึ่งอาจจะเอาวิธีของตัวเองมาประยุกต์ ยิ่งถ้าเริ่มจากตัวต่อตัว เราจะปรับตามเด็กได้ค่ะ
ทั้งงานแปลและงานสอนพิเศษ เราเคยทำมาแล้วทั้งคู่ บอกเลยว่าถ้าหาลูกค้าหรือนร.เองไม่ได้ ไม่มีอันไหนได้เงินดีหรอกค่ะ
เพราะฉะนั้นควรเริ่มจากทางที่ไม่ต้องมีคนกลาง (เช่นหานร.แถวๆ ละแวกบ้าน) ถ้ารู้จักคนเยอะ มีคนแนะนำลูกค้า มีเพื่อนในวงการ ฯลฯ ก็พอจะช่วยให้เริ่มต้นได้ง่ายหน่อย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพงาน/การสอนของคุณเอง

ว่าไปแล้ว ไม่ลองเขียนนิยาย/บทความ/รีวิวดูเหรอคะ เราว่าจขกท.ภาษาไทยดี เห็นภาพ ดูมีจินตนาการ ลองหัดอะไรใหม่ๆ ดูค่ะ ไม่มีใครทำทุกอย่างได้มาตั้งแต่เกิด ถ้าไม่ลอง ไม่เริ่ม ไม่ฝึก ไม่มีทางเก่งขึ้นมาได้หรอกค่ะ ไม่แน่ว่างานเขียนอาจจะเหมาะกับจขกท.ก็ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่