เช้านี้มีข่าวว่าลีมินโฮย้ายต้นสังกัด จาก Starhaus Entertainmen ไปอยู่ MYM ซึ่งวงในรายงานว่าบริษัทใหม่นี้จะมีผู้บริหารสองคนคือ จางยองฮุน CEO จาก Starhaus และ ลียูนจอง CEO จาก Euphoria Seoul [ซึ่งเป็นพี่สาวของลีมินโฮเองค่ะ] ทั้งสองจะร่วมกันบริหารงานในบริษัท MYM Entertainment ซึ่งมีนักแสดงในสังกัดคือ ลีมินโฮ และทีมงานทั้งหมดที่เคยร่วมงานกับลีมินโฮที่บริษัทเก่าก็จะย้ายมาทำงานด้วยกันทั้งหมดเหมือนเดิม
โดยพื้นฐานแล้วครอบครัวลีมินโฮค่อนข้างมีฐานะอยู่แล้ว คุณพ่อเป็นผู้บริหารบริษัท{สังเกตว่าครอบครัวเขาจะสนิทกันมากมีทริปไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยมากๆ ย้ำว่าไปบ่อยมาก ตัวคุณแม่เอาใจใส่ดูแลลูกชายทุกๆอย่าง สนับสนุนทุกอย่างที่ลูกอยากทำ พี่สาวเขาก็เช่นกัน คือขุ่นแม่มินโฮเนี่ยถ้าอยู่ไทยคงได้ออกรายการบางกอกกระซิบทุกวัน 5555 ขุ่นแม่ไฮโซ ยังสาวและสวยมากกกก}
ในส่วนของเงินลงทุนในครั้งนี้เราคิดว่าน่าจะมาจากตัวลีมินโฮเองด้วย แต่ทั้งนี้พี่สาวเขาก็เป็น CEO จาก Euphoria Seoul ซึ่งบริษัทบันเทิงที่ตั้งอยู่ในย่านคังนัมเปิดมา 6 ปีแล้ว [พี่สาวมินโฮก็ยังเด็กมากๆนะ เด็กมากแต่เป็น CEO มานานแล้ว ทั้งเก่งและสวยมาก]
การลงทุนครั้งใหญ่ในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นธุรกิจให้มินโฮไปในตัวเพราะเราเข้าใจว่าเขาอาจจะจ้างพี่สาวมาเป็น CEO อีกที หรือพี่สาวอาจจะอยากลงทุนด้วยและก็จะได้ถือโอกาสดูแลการรับงานต่างๆของน้องชายไปด้วย เรื่องเงินลงทุนด้วยความที่บริษัทบันเทิงมันค่าใช้จ่ายสูงมากๆ มูลค่าอย่างน้อยก็ต้องหลักหมื่นล้านวอนขึ้นไปเราก็เชื่อว่ามินโฮก็น่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่ลงทุนไปด้วยเหมือนกัน [กำลังคิดว่าเมื่อก่อนสมมติมินโฮทำเงินได้สามพันล้านบาทต่อปี อาจจะได้ส่วนแบ่งประมาณนึงเท่านั้น แต่พอมีพี่สาวเป็นผู้บริหารน่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนแบ่งน่าจะมากขึ้นด้วยและก็ได้ทำงานร่วมกับทีมงานเก่าๆที่ไว้ใจได้]
โปรเจคส์สำคัญก่อนเข้ากรมก็คือโปรโมตหนัง bounty hunter ทั่วเอเชีย [ลุ้นมากว่าจะฉายที่ไทยวันไหน และจะมาโปรโมตไหม รอฟังข่าวอีกที] แล้วก็น่าจะรับเล่นซีรี่ย์กับจอนจีฮยอนทิ้งทวนก่อนเข้ากรม หลังจากนี้คงจะคิดถึงมากๆ
ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีกับการทำธุรกิจกับครอบครัวนะ ฝากเป็นกำลังใจให้มินโฮเยอะๆนะคะ เราเชื่อว่าในอนาคตถ้ามินโฮอายุมากกว่านี้ก็อาจจะขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้บริหารเช่นกัน เอาใจช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นและสมหวังนะ เดินไปอย่างมั่นคง อายุยังน้อย เพราะเขาก็ไม่ได้แค่ตั้งเป้าว่าในอนาคตจะรับงานแค่ในตลาดจีนหรือเอเชีย แต่เขามุ่งมั่นไปที่ฮอลลีวู๊ด ก็เชื่อว่าถ้ามุ่งมั่นแบบนี้ เราว่าไปถึงแน่ๆ สิบปีที่อดทนมากว่าจะมาเป็นพระเอกที่มีค่าตัวสูงระดับเอเชียได้ ก็ไม่ได้มาง่ายๆนะ [ถึงแม้เวลานี้เนติเซนจะมาบอกว่าที่ลีมินโฮได้ซูจีมาเป็นแฟนเพราะชาติที่แล้วนางไปกู้ชาติมาแน่ๆ อิป้าก็นอนยันว่าเขามีทุกวันนี้ได้เพราะอดทนและพยายามอย่างหนักที่จะเป็นมินโฮที่เก่งขึ้นของแฟนๆ คืออย่ามาหาว่าได้ดีชาตินี้เพราะชาติที่แล้วเคยกู้ชาติ ไม่ใช่ๆ 555555 ได้ดีเพราะเขฝ่าฟันทุกอย่างมาอย่างลำบากนะ ทุกวันนี้ก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จริงไหม เพราะลีมินโฮถือเป็นพระเอกคนนึงที่ทำลายทุกสถิติการว่าจ้างนะ ทั้งเงินค่าโฆษณา ค่าตัวออกรายการโทรทัศน์ หรืองานคอนเสิร์ต เขามีสถิติที่ดีให้กับตัวเองเพราะเขาไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคอะไรก็ตาม และก็เป็นพระเอกนิสัยดีมากๆ กับเเฟนๆนี่น่ารักเสมอ ยิ้มเก่งไม่มีอีโก้เหมือนพระเอกเกาหลีบางคนที่หน้าบูด และไม่ใส่ใจแฟนคลับนะ]
ในที่สุดลีมินโฮ ก็จะย้ายไปอยู่ต้นสังกัดใหม่ที่มีพี่สาวของเขาเป็น CEO
โดยพื้นฐานแล้วครอบครัวลีมินโฮค่อนข้างมีฐานะอยู่แล้ว คุณพ่อเป็นผู้บริหารบริษัท{สังเกตว่าครอบครัวเขาจะสนิทกันมากมีทริปไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยมากๆ ย้ำว่าไปบ่อยมาก ตัวคุณแม่เอาใจใส่ดูแลลูกชายทุกๆอย่าง สนับสนุนทุกอย่างที่ลูกอยากทำ พี่สาวเขาก็เช่นกัน คือขุ่นแม่มินโฮเนี่ยถ้าอยู่ไทยคงได้ออกรายการบางกอกกระซิบทุกวัน 5555 ขุ่นแม่ไฮโซ ยังสาวและสวยมากกกก}
ในส่วนของเงินลงทุนในครั้งนี้เราคิดว่าน่าจะมาจากตัวลีมินโฮเองด้วย แต่ทั้งนี้พี่สาวเขาก็เป็น CEO จาก Euphoria Seoul ซึ่งบริษัทบันเทิงที่ตั้งอยู่ในย่านคังนัมเปิดมา 6 ปีแล้ว [พี่สาวมินโฮก็ยังเด็กมากๆนะ เด็กมากแต่เป็น CEO มานานแล้ว ทั้งเก่งและสวยมาก]
การลงทุนครั้งใหญ่ในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นธุรกิจให้มินโฮไปในตัวเพราะเราเข้าใจว่าเขาอาจจะจ้างพี่สาวมาเป็น CEO อีกที หรือพี่สาวอาจจะอยากลงทุนด้วยและก็จะได้ถือโอกาสดูแลการรับงานต่างๆของน้องชายไปด้วย เรื่องเงินลงทุนด้วยความที่บริษัทบันเทิงมันค่าใช้จ่ายสูงมากๆ มูลค่าอย่างน้อยก็ต้องหลักหมื่นล้านวอนขึ้นไปเราก็เชื่อว่ามินโฮก็น่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่ลงทุนไปด้วยเหมือนกัน [กำลังคิดว่าเมื่อก่อนสมมติมินโฮทำเงินได้สามพันล้านบาทต่อปี อาจจะได้ส่วนแบ่งประมาณนึงเท่านั้น แต่พอมีพี่สาวเป็นผู้บริหารน่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนแบ่งน่าจะมากขึ้นด้วยและก็ได้ทำงานร่วมกับทีมงานเก่าๆที่ไว้ใจได้]
โปรเจคส์สำคัญก่อนเข้ากรมก็คือโปรโมตหนัง bounty hunter ทั่วเอเชีย [ลุ้นมากว่าจะฉายที่ไทยวันไหน และจะมาโปรโมตไหม รอฟังข่าวอีกที] แล้วก็น่าจะรับเล่นซีรี่ย์กับจอนจีฮยอนทิ้งทวนก่อนเข้ากรม หลังจากนี้คงจะคิดถึงมากๆ
ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีกับการทำธุรกิจกับครอบครัวนะ ฝากเป็นกำลังใจให้มินโฮเยอะๆนะคะ เราเชื่อว่าในอนาคตถ้ามินโฮอายุมากกว่านี้ก็อาจจะขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้บริหารเช่นกัน เอาใจช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นและสมหวังนะ เดินไปอย่างมั่นคง อายุยังน้อย เพราะเขาก็ไม่ได้แค่ตั้งเป้าว่าในอนาคตจะรับงานแค่ในตลาดจีนหรือเอเชีย แต่เขามุ่งมั่นไปที่ฮอลลีวู๊ด ก็เชื่อว่าถ้ามุ่งมั่นแบบนี้ เราว่าไปถึงแน่ๆ สิบปีที่อดทนมากว่าจะมาเป็นพระเอกที่มีค่าตัวสูงระดับเอเชียได้ ก็ไม่ได้มาง่ายๆนะ [ถึงแม้เวลานี้เนติเซนจะมาบอกว่าที่ลีมินโฮได้ซูจีมาเป็นแฟนเพราะชาติที่แล้วนางไปกู้ชาติมาแน่ๆ อิป้าก็นอนยันว่าเขามีทุกวันนี้ได้เพราะอดทนและพยายามอย่างหนักที่จะเป็นมินโฮที่เก่งขึ้นของแฟนๆ คืออย่ามาหาว่าได้ดีชาตินี้เพราะชาติที่แล้วเคยกู้ชาติ ไม่ใช่ๆ 555555 ได้ดีเพราะเขฝ่าฟันทุกอย่างมาอย่างลำบากนะ ทุกวันนี้ก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จริงไหม เพราะลีมินโฮถือเป็นพระเอกคนนึงที่ทำลายทุกสถิติการว่าจ้างนะ ทั้งเงินค่าโฆษณา ค่าตัวออกรายการโทรทัศน์ หรืองานคอนเสิร์ต เขามีสถิติที่ดีให้กับตัวเองเพราะเขาไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคอะไรก็ตาม และก็เป็นพระเอกนิสัยดีมากๆ กับเเฟนๆนี่น่ารักเสมอ ยิ้มเก่งไม่มีอีโก้เหมือนพระเอกเกาหลีบางคนที่หน้าบูด และไม่ใส่ใจแฟนคลับนะ]