เรากำลังท้องอยู่ 7 เดือนกว่าค่ะ บ้านมีฐานะปานกลาง ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงานทุกวัน เพราะนั่งรถแท็กซี่ไปกลับจะตกอยู่วันละ 500 บ. ไม่ไหวค่ะ ส่วนวินรถตู้อยู่ไกลมาก เดินไม่ไหวค่ะ เลยตัดสินใจเลือกนั่งรถเมล์ แต่เลือกไปนั่งที่อู่หรือต้นสายค่ะ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีใครลุกให้นั่ง ถึงมีคนลุกให้นั่ง เราก็แอบรู้สึกเกรงใจค่ะ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเย็นวันนี้ เราก็ขึ้นรถเมล์ตามปกติ ไม่ได้รีบร้อนอะไร มีคนนั่งตามที่นั่งปะปลาย เราเลยเลือกที่นั่งตรงข้ามประตูค่ะ เพราะมันว่างอยู่ นั่งมาสักพัก ก็มีผู้ชายคนนึง อายุน่าจะไม่เกิน 30 ปี เดินตรงปรี่มาที่เราแล้วพูดว่า
ผู้ชาย: "ขอที่นั่งสำรองให้คนพิการด้วยครับ" (พร้อมกับยื่นบัตรคนพิการ)
เรา : นั่งกระพริบตาสามที
ผู้ชาย: "นี่ที่นั่งคนพิการ ที่นั่งคนท้องอยู่ตรงนู้นครับ"พร้อมชี้นิ้วไป
เรางงเอ๋อ ไม่พูดอะไรสักคำ กำลังงง ลุกขึ้นยืนเกาะเสา หันไปมองที่นั่งคนท้อง เป็นเด็กนร.ผู้ชาย ม.ต้นได้ เกรงใจน้องเค้า ไม่กล้าขอที่นั่ง ยืนสักพัก ก็ไม่มีใครลุกให้นั่ง ผู้ชายที่บอกตัวเองพิการเลยลุกไปสะกิดน้องผู้ชายคนนั้น พร้อมบอกขอที่นั่งให้คนท้องด้วย เราถึงได้นั่ง
จากนั้นเราก็นั่งเครียดและอายมาตลอดทาง เพราะคนบนรถก็มองเรา เหมือนเราทำความผิดมาก ที่นั่งผิดที่ ??? ทั้งที่ตอนขึ้นรถมา มันเลือกที่นั่งไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ผิดหรอก ที่เรียกร้องสิทธิของเค้า แต่ต้องมาเรียกร้องสิทธินั้นกับคนท้องงั้นหรือ ตอนนี้คือคิดมาก ไม่เข้าใจ อยากร้องไห้ตามฮอร์โมนคนท้อง เฮ้อ!!!!
#แก้ไขข้อความเพิ่มเติมค่ะ ขอชี้แจงสิ่งที่เป็นประเด็นดังนี้ค่ะ
1. ไปนั่งรถต้นสายแล้ว ทำไมไม่นั่งที่คนท้องแต่แรก ที่นั่งคนท้องไม่ว่างค่ะ เลยเลือกที่นั่งใกล้ๆประตูจะได้ลงง่ายและท้องจะได้ไม่เบียดเสียดคนเวลาขึ้นลงค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้สังเกตด้วยว่าที่นั่งตรงนั้นเป็นที่นั่งของคนพิการ แม้คนปกติเวลาขึ้นรถเมล์ไป ถ้าที่นั่งสำรองว่างก็จะนั่งตรงนั้น วัฒนธรรมของประเทศเราเป็นเช่นนั้นค่ะ
2. เราไม่ตั้งใจเรียกร้องสิทธิ์จริงๆค่ะ แต่คำพูดเราที่สื่อออกไปอาจจะไม่ถูกกาลเทศะเท่าที่ควร ไม่ได้ตั้งใจมาโวยวายหรืออะไรทั้งนั้น ต้องขอโทษด้วย ขอโทษไปหลายๆครั้งแล้ว ก็ยังมีคนเข้ามาว่าอย่างต่อเนื่อง
3. เรื่องเบียดเบียนสิทธิ์คนพิการ คือเค้ามาทวงสิทธิ์เค้า เราก็ลุกให้เค้านะคะ บางคนหาเราเบียดเบียนสิทธิ์เค้าตรงที่ไปนั่งที่ของเค้า ซึ่งเราก็เรียนชี้แจงไปแล้วว่า เราไม่ทราบว่าเค้าเป็นคนพิการค่ะ เพราะเค้าเหมือนคนปกติค่ะ หากไม่แสดงบัตรคงไม่ทราบ
===> ข้อนี้อนุมานได้ว่า เรานั่งที่นั่งว่างตรงนั่งสำรองคนพิการ+ความไม่รู้ของเราว่าเค้าพิการ เนื่องจากร่างกายภายนอกเค้าปกติ+เค้าทวงสิทธิ์จากเรา+เราลุกให้นั่ง = เราเบียดเบียนสิทธิ์คนพิการ
แล้วนี่แหละค่ะ ที่ถามว่าเราอายและเครียดทำไมที่คนมอง เพราะเรารู้ว่าสังคมต้องมีคนคิดลบแบบนี้ไง
4. เรื่องที่ว่า จขกท. เยอะ คิดมาก ขอน้อมรับไว้ค่ะ เพราะเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เกิด
และสภาพการณ์ตอนนี้ทุกคนส่วนใหญ่เข้ามาว่ากล่าว เสียดสี แหนบแหนม กันเป็นจำนวนมากค่ะ ซึ่งทำให้เครียดมากหนักกว่าเดิมอีก แค่ความคิด ความเห็น หรือความรู้สึกของคนเราที่เจอกับเหตุการณ์หนึ่งไม่เหมือนกัน บางทีเราก็ไม่เข้าใจว่าต้องใช้คำพูดรุนแรงเพื่อว่าเราขนาดนั้นเลยหรอ ทั้งที่คุณบอกว่าเราไม่ผิด แต่คำพูดของพวกคุณเหมือนกับตอกย้ำความรู้สึกผิดของเราจมดินลงไป บางคนอ่านกระทู้ไม่ครบก็เข้ามาว่าแล้วค่ะ แต่ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ของจขกท.ค่ะ ว่าความเห็นของสังคมมีหลากหลายค่ะ ขึ้นอยู่ที่เราจะนำแง่คิดดีดีจากคอมเม้นท์ไหนมาปรับใช้ แต่เราไม่น่าเข้ามาตั้งกระทู้จริงๆเลยค่ะ เพราะรู้สึกแย่หนักกว่าเดิม
โดนคนพิการไล่ที่นั่งบนรถเมล์ ให้ไปนั่งที่สำรองคนท้องค่ะ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเย็นวันนี้ เราก็ขึ้นรถเมล์ตามปกติ ไม่ได้รีบร้อนอะไร มีคนนั่งตามที่นั่งปะปลาย เราเลยเลือกที่นั่งตรงข้ามประตูค่ะ เพราะมันว่างอยู่ นั่งมาสักพัก ก็มีผู้ชายคนนึง อายุน่าจะไม่เกิน 30 ปี เดินตรงปรี่มาที่เราแล้วพูดว่า
ผู้ชาย: "ขอที่นั่งสำรองให้คนพิการด้วยครับ" (พร้อมกับยื่นบัตรคนพิการ)
เรา : นั่งกระพริบตาสามที
ผู้ชาย: "นี่ที่นั่งคนพิการ ที่นั่งคนท้องอยู่ตรงนู้นครับ"พร้อมชี้นิ้วไป
เรางงเอ๋อ ไม่พูดอะไรสักคำ กำลังงง ลุกขึ้นยืนเกาะเสา หันไปมองที่นั่งคนท้อง เป็นเด็กนร.ผู้ชาย ม.ต้นได้ เกรงใจน้องเค้า ไม่กล้าขอที่นั่ง ยืนสักพัก ก็ไม่มีใครลุกให้นั่ง ผู้ชายที่บอกตัวเองพิการเลยลุกไปสะกิดน้องผู้ชายคนนั้น พร้อมบอกขอที่นั่งให้คนท้องด้วย เราถึงได้นั่ง
จากนั้นเราก็นั่งเครียดและอายมาตลอดทาง เพราะคนบนรถก็มองเรา เหมือนเราทำความผิดมาก ที่นั่งผิดที่ ??? ทั้งที่ตอนขึ้นรถมา มันเลือกที่นั่งไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ผิดหรอก ที่เรียกร้องสิทธิของเค้า แต่ต้องมาเรียกร้องสิทธินั้นกับคนท้องงั้นหรือ ตอนนี้คือคิดมาก ไม่เข้าใจ อยากร้องไห้ตามฮอร์โมนคนท้อง เฮ้อ!!!!
#แก้ไขข้อความเพิ่มเติมค่ะ ขอชี้แจงสิ่งที่เป็นประเด็นดังนี้ค่ะ
1. ไปนั่งรถต้นสายแล้ว ทำไมไม่นั่งที่คนท้องแต่แรก ที่นั่งคนท้องไม่ว่างค่ะ เลยเลือกที่นั่งใกล้ๆประตูจะได้ลงง่ายและท้องจะได้ไม่เบียดเสียดคนเวลาขึ้นลงค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้สังเกตด้วยว่าที่นั่งตรงนั้นเป็นที่นั่งของคนพิการ แม้คนปกติเวลาขึ้นรถเมล์ไป ถ้าที่นั่งสำรองว่างก็จะนั่งตรงนั้น วัฒนธรรมของประเทศเราเป็นเช่นนั้นค่ะ
2. เราไม่ตั้งใจเรียกร้องสิทธิ์จริงๆค่ะ แต่คำพูดเราที่สื่อออกไปอาจจะไม่ถูกกาลเทศะเท่าที่ควร ไม่ได้ตั้งใจมาโวยวายหรืออะไรทั้งนั้น ต้องขอโทษด้วย ขอโทษไปหลายๆครั้งแล้ว ก็ยังมีคนเข้ามาว่าอย่างต่อเนื่อง
3. เรื่องเบียดเบียนสิทธิ์คนพิการ คือเค้ามาทวงสิทธิ์เค้า เราก็ลุกให้เค้านะคะ บางคนหาเราเบียดเบียนสิทธิ์เค้าตรงที่ไปนั่งที่ของเค้า ซึ่งเราก็เรียนชี้แจงไปแล้วว่า เราไม่ทราบว่าเค้าเป็นคนพิการค่ะ เพราะเค้าเหมือนคนปกติค่ะ หากไม่แสดงบัตรคงไม่ทราบ
===> ข้อนี้อนุมานได้ว่า เรานั่งที่นั่งว่างตรงนั่งสำรองคนพิการ+ความไม่รู้ของเราว่าเค้าพิการ เนื่องจากร่างกายภายนอกเค้าปกติ+เค้าทวงสิทธิ์จากเรา+เราลุกให้นั่ง = เราเบียดเบียนสิทธิ์คนพิการ
แล้วนี่แหละค่ะ ที่ถามว่าเราอายและเครียดทำไมที่คนมอง เพราะเรารู้ว่าสังคมต้องมีคนคิดลบแบบนี้ไง
4. เรื่องที่ว่า จขกท. เยอะ คิดมาก ขอน้อมรับไว้ค่ะ เพราะเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เกิด
และสภาพการณ์ตอนนี้ทุกคนส่วนใหญ่เข้ามาว่ากล่าว เสียดสี แหนบแหนม กันเป็นจำนวนมากค่ะ ซึ่งทำให้เครียดมากหนักกว่าเดิมอีก แค่ความคิด ความเห็น หรือความรู้สึกของคนเราที่เจอกับเหตุการณ์หนึ่งไม่เหมือนกัน บางทีเราก็ไม่เข้าใจว่าต้องใช้คำพูดรุนแรงเพื่อว่าเราขนาดนั้นเลยหรอ ทั้งที่คุณบอกว่าเราไม่ผิด แต่คำพูดของพวกคุณเหมือนกับตอกย้ำความรู้สึกผิดของเราจมดินลงไป บางคนอ่านกระทู้ไม่ครบก็เข้ามาว่าแล้วค่ะ แต่ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ของจขกท.ค่ะ ว่าความเห็นของสังคมมีหลากหลายค่ะ ขึ้นอยู่ที่เราจะนำแง่คิดดีดีจากคอมเม้นท์ไหนมาปรับใช้ แต่เราไม่น่าเข้ามาตั้งกระทู้จริงๆเลยค่ะ เพราะรู้สึกแย่หนักกว่าเดิม