สวัสดีคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา เขียนขึ้นมาเพื่อแชร์เรื่องราวของเราให้เพื่อนๆอ่าน และเก็บความทรงจำดีๆไว้
เริ่มกันเลย!!! เราใช้ชื่อ แทนตัวเอง ว่า “บี” และรุ่นพี่ที่เราชอบว่า “พี่เอ”
เราก็เป็นเด็ก ม.ปลาย คนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตทั่วไป ขณะนั้น เรากำลังอยู่ ม.5 เราเป็นคนชอบออกกำลังกาย และกำลังลดน้ำหนัก ลดหุ่น วันหนึ่งมีพี่ผู้หญิงห้องพี่รหัสที่สนิทมาชวนเราไปวิ่งมินิมาราธอน เราก็เอ้อน่าสนดี ตกลงปลงใจพากันไปวิ่งสองสาว เราก็วิ่งกันไปเรื่อยๆ เมื่อถึง 5 กิโลเมตรแรกซึ่งเป็นจุดกลับตัว เราก็ต้องรับยางรัดข้อมือ จาก นศท ที่มาแจก แต่เอ๊ะ นศท คนนั้นหน้าคุ้นมาๆ (เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันนั้นแหละ) และหน้าตาดีด้วย{เป็นคนตัวสูง ขาว ร่างบาง ผิวดีมา ก แต่หน้าเป็นสิวนิดนึง ดัดฟัน ยิ้มหวาน} -//- พอกลับตัวปุ๊บ ก็วิ่งมารอพี่ที่มาด้วยกัน เราก็หันหลังกลับไปดู เอิ่ม พี่นศท เค้ามองแบบอึ้งๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าเค้ามองตามมา แบบมองเหลียวหลังอะ (มั่นหน้ามากพูดเลย55555) แถมยิ้มได้น่ากินมากคะ แล้วนาทีนั้นที่สบตากัน คือเข้าใจคำว่าโลกหยุดหมุนเลยวะ คนข้างๆเบลอไปหมดเลยอะ นี่ไม่ได้เว่อร์เลยนะ แล้วนี่แหละก็เป็นครั้งแรกที่เราเจอและเป็นจุดเริ่มต้นที่จะรู้จักพี่เอ
เล่าก่อนว่าเราและพี่เอ เรียนโรงเรียนเดียวกัน เรียนห้องโครงการพิเศษเหมือนกัน และตึกเดียวกัน แถมอยู่สีเดียวกัน แต่เราก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลย จนมาช่วงกีฬาสี พี่ ม.6 ก็ทำงานกีฬาสี เราเป็นรุ่นน้อง แถมเรียนโครงการเหมือนกันเลยช่วยๆกัน เราอยู่ฝ่ายทำขบวนพาเหรด อยู่ศึกษางานจากพี่ๆ ทำงานมาเรื่อยๆจนวันจันทร์หลังจาก เราไปวิ่งมินิมาราธอน ขณะเรานั่งเย็บผ้าซึ่งจะทำเป็นธงเสลี่ยงเรือ (ซึ่งพี่เอขึ้นเสลียงนี้)กับพี่ๆผู้หญิง แต่มีพี่คนนึงเย็บผ้าไม่ค่อยเป็น พี่เอก็เดินมาแซวว่า |ฝึกเย็บผ้าไว้ดิ ได้เย็บผ้าอ้อมให้ลูก| จริงๆมันอาจเป็นคำพูดธรรมดา แต่เรารู้สึกว่า เห้ยยังมีผู้ชายคิดแบบนี้อีกนะ เราก็พอไปได้เรื่องเย็บผ้าเลยอาสาสอนพี่เค้า พี่เอก็ยืนมองอยู่ (แบบเขิน
) จากนั้นพี่เอก็ไปทำงานของตัวเอง ต่อมาพี่ผู้หญิงเริ่มหายกลับบ้านไป พี่เอก็เข้ามาทัก เอ้อน้องเป็นยังไงบ้างไปวิ่งมา? จากนั้นเราก็คุยกันสองคนเรื่อยๆขณะทำงาน (พูดเลย รู้สึกดีอะ ) แล้วก็มีพี่เค้าพูดขึ้นมาว่า “เอทำไมไม่ช่วยน้องเย็บผ้า” พี่เอก็ตอบว่า “นั่งให้กำลังใจอยู่นี่ไง” แล้วก็ลุกไปทำงานของตัวเอง แล้วกลับมาพร้อมขนม แต่เราไม่กิน ไดเอทอยู่ไง พี่เอก็บอก ว่า “แกจะไดเอททำไม แกก็ผอมหนิ” ณ จุดๆนี้ ฟินมากคะ จากนั้นก็เจอทุกวัน
จนถึงวันเดินพาเหรดนัดแต่งหน้ากันแต่เช้ามืดเลยจ้ะ -*- เราก็ไปหาอะไรกินในเซเว่น พอกำลังจะออก ปุ๊บ อ๊าว พี่เอมาพร้อมกับพี่เอ็ม(พี่เอ็มเป็นพี่ผู้หญิงที่เราค่อนข้างสนิท) ก็ทักทายกันนิดหน่อย จากนั้นก็ไปโรงเรียน เราแต่งหน้าแยกกับเพื่อน เราเลยต้องเข้าโรงเรียนคนเดียว เป็นเรื่องเศร้ามาก แต่ขณะเดินเข้าโรงเรียน พี่เอ็มก็ทักเรา ถามว่า ไมเดินคนเดียว แล้วก็ชวนไปเดินด้วยกัน (พี่เอ็ม พี่เอ บี) รอแต่งหน้า เวลานี่ก็ผ่านไป 2 ชม. ละ ยังไม่ได้แต่งเลย ในใจเราคือกลัวเค้าแต่งรีบแล้วหน้าเละไง แต่พอได้แต่งเท่านั้นแหละ ร้องไห้หนักมากคะ
หน้าลอย คือเราอะเป็นคนผิวเข้ม แต่หน้าคม แต่นี้คือรองพื้นผิดเบอร์ป่ะเจ้ นั่งทำใจพักนึง ก็ไม่รู้จะนั่งกับใครอีก เลยมานั่งกับพี่เอ็ม แล้วพี่เอก็นั่งอยู่เวย (ว๊ายยยย ตื่นเต้นจนลืมไปเลยว่าเคยหน้าลอย) สักพักพี่เค้าก็เรียกไปแก้หน้า หูว โล่งไปนิดนึง
คราวนี้ผู้หญิงแต่งเสร็จก็เรียกรวมมานั่งตามตำแหน่ง ถึงตาผู้ชายแต่งบ้างหละ พี่เอจ้า ตัวเด่น เจ้กระเทยเรียกไปแต่งด้านหน้าที่เรานั่งรวมเลย คือหน้าพี่เออะขาดความมั่นใจมาก เพราะ เสื้อนางแขนพอง แต่งเป็นกัปตันเรือ ประมาณโคลัมบัส แต่มันดูดีมากไงเพราะพี่เอร่างบางพอใส่เสื้อพองๆแล้วดูมีน้ำมีนวล แล้วเราก็หันหน้าเข้าหากันพอดี บีเลยยิ้มให้กำลังใจพี่เอ แล้วพี่เอก็ถามว่า “เป็นไงบ้าง” ตอบเลยไม่ต้องคิด “หล่อมากๆคะ”
เดินพาเหรดจบก็เออน่าจะไม่มีไฮไลท์อะไรละ จะไม่ได้เจออีกแล้ว “พี่เอ ถ่ายรูปกันหน่อย” แล้วนี่คือรูปคู่รูปแรกของเรา
มีต่อ...
กาลครั้งนั้นยังอบอุ่นในใจ
เริ่มกันเลย!!! เราใช้ชื่อ แทนตัวเอง ว่า “บี” และรุ่นพี่ที่เราชอบว่า “พี่เอ”
เราก็เป็นเด็ก ม.ปลาย คนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตทั่วไป ขณะนั้น เรากำลังอยู่ ม.5 เราเป็นคนชอบออกกำลังกาย และกำลังลดน้ำหนัก ลดหุ่น วันหนึ่งมีพี่ผู้หญิงห้องพี่รหัสที่สนิทมาชวนเราไปวิ่งมินิมาราธอน เราก็เอ้อน่าสนดี ตกลงปลงใจพากันไปวิ่งสองสาว เราก็วิ่งกันไปเรื่อยๆ เมื่อถึง 5 กิโลเมตรแรกซึ่งเป็นจุดกลับตัว เราก็ต้องรับยางรัดข้อมือ จาก นศท ที่มาแจก แต่เอ๊ะ นศท คนนั้นหน้าคุ้นมาๆ (เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันนั้นแหละ) และหน้าตาดีด้วย{เป็นคนตัวสูง ขาว ร่างบาง ผิวดีมา ก แต่หน้าเป็นสิวนิดนึง ดัดฟัน ยิ้มหวาน} -//- พอกลับตัวปุ๊บ ก็วิ่งมารอพี่ที่มาด้วยกัน เราก็หันหลังกลับไปดู เอิ่ม พี่นศท เค้ามองแบบอึ้งๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าเค้ามองตามมา แบบมองเหลียวหลังอะ (มั่นหน้ามากพูดเลย55555) แถมยิ้มได้น่ากินมากคะ แล้วนาทีนั้นที่สบตากัน คือเข้าใจคำว่าโลกหยุดหมุนเลยวะ คนข้างๆเบลอไปหมดเลยอะ นี่ไม่ได้เว่อร์เลยนะ แล้วนี่แหละก็เป็นครั้งแรกที่เราเจอและเป็นจุดเริ่มต้นที่จะรู้จักพี่เอ
เล่าก่อนว่าเราและพี่เอ เรียนโรงเรียนเดียวกัน เรียนห้องโครงการพิเศษเหมือนกัน และตึกเดียวกัน แถมอยู่สีเดียวกัน แต่เราก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลย จนมาช่วงกีฬาสี พี่ ม.6 ก็ทำงานกีฬาสี เราเป็นรุ่นน้อง แถมเรียนโครงการเหมือนกันเลยช่วยๆกัน เราอยู่ฝ่ายทำขบวนพาเหรด อยู่ศึกษางานจากพี่ๆ ทำงานมาเรื่อยๆจนวันจันทร์หลังจาก เราไปวิ่งมินิมาราธอน ขณะเรานั่งเย็บผ้าซึ่งจะทำเป็นธงเสลี่ยงเรือ (ซึ่งพี่เอขึ้นเสลียงนี้)กับพี่ๆผู้หญิง แต่มีพี่คนนึงเย็บผ้าไม่ค่อยเป็น พี่เอก็เดินมาแซวว่า |ฝึกเย็บผ้าไว้ดิ ได้เย็บผ้าอ้อมให้ลูก| จริงๆมันอาจเป็นคำพูดธรรมดา แต่เรารู้สึกว่า เห้ยยังมีผู้ชายคิดแบบนี้อีกนะ เราก็พอไปได้เรื่องเย็บผ้าเลยอาสาสอนพี่เค้า พี่เอก็ยืนมองอยู่ (แบบเขิน) จากนั้นพี่เอก็ไปทำงานของตัวเอง ต่อมาพี่ผู้หญิงเริ่มหายกลับบ้านไป พี่เอก็เข้ามาทัก เอ้อน้องเป็นยังไงบ้างไปวิ่งมา? จากนั้นเราก็คุยกันสองคนเรื่อยๆขณะทำงาน (พูดเลย รู้สึกดีอะ ) แล้วก็มีพี่เค้าพูดขึ้นมาว่า “เอทำไมไม่ช่วยน้องเย็บผ้า” พี่เอก็ตอบว่า “นั่งให้กำลังใจอยู่นี่ไง” แล้วก็ลุกไปทำงานของตัวเอง แล้วกลับมาพร้อมขนม แต่เราไม่กิน ไดเอทอยู่ไง พี่เอก็บอก ว่า “แกจะไดเอททำไม แกก็ผอมหนิ” ณ จุดๆนี้ ฟินมากคะ จากนั้นก็เจอทุกวัน
จนถึงวันเดินพาเหรดนัดแต่งหน้ากันแต่เช้ามืดเลยจ้ะ -*- เราก็ไปหาอะไรกินในเซเว่น พอกำลังจะออก ปุ๊บ อ๊าว พี่เอมาพร้อมกับพี่เอ็ม(พี่เอ็มเป็นพี่ผู้หญิงที่เราค่อนข้างสนิท) ก็ทักทายกันนิดหน่อย จากนั้นก็ไปโรงเรียน เราแต่งหน้าแยกกับเพื่อน เราเลยต้องเข้าโรงเรียนคนเดียว เป็นเรื่องเศร้ามาก แต่ขณะเดินเข้าโรงเรียน พี่เอ็มก็ทักเรา ถามว่า ไมเดินคนเดียว แล้วก็ชวนไปเดินด้วยกัน (พี่เอ็ม พี่เอ บี) รอแต่งหน้า เวลานี่ก็ผ่านไป 2 ชม. ละ ยังไม่ได้แต่งเลย ในใจเราคือกลัวเค้าแต่งรีบแล้วหน้าเละไง แต่พอได้แต่งเท่านั้นแหละ ร้องไห้หนักมากคะ หน้าลอย คือเราอะเป็นคนผิวเข้ม แต่หน้าคม แต่นี้คือรองพื้นผิดเบอร์ป่ะเจ้ นั่งทำใจพักนึง ก็ไม่รู้จะนั่งกับใครอีก เลยมานั่งกับพี่เอ็ม แล้วพี่เอก็นั่งอยู่เวย (ว๊ายยยย ตื่นเต้นจนลืมไปเลยว่าเคยหน้าลอย) สักพักพี่เค้าก็เรียกไปแก้หน้า หูว โล่งไปนิดนึง
คราวนี้ผู้หญิงแต่งเสร็จก็เรียกรวมมานั่งตามตำแหน่ง ถึงตาผู้ชายแต่งบ้างหละ พี่เอจ้า ตัวเด่น เจ้กระเทยเรียกไปแต่งด้านหน้าที่เรานั่งรวมเลย คือหน้าพี่เออะขาดความมั่นใจมาก เพราะ เสื้อนางแขนพอง แต่งเป็นกัปตันเรือ ประมาณโคลัมบัส แต่มันดูดีมากไงเพราะพี่เอร่างบางพอใส่เสื้อพองๆแล้วดูมีน้ำมีนวล แล้วเราก็หันหน้าเข้าหากันพอดี บีเลยยิ้มให้กำลังใจพี่เอ แล้วพี่เอก็ถามว่า “เป็นไงบ้าง” ตอบเลยไม่ต้องคิด “หล่อมากๆคะ”
เดินพาเหรดจบก็เออน่าจะไม่มีไฮไลท์อะไรละ จะไม่ได้เจออีกแล้ว “พี่เอ ถ่ายรูปกันหน่อย” แล้วนี่คือรูปคู่รูปแรกของเรา
มีต่อ...