ข่าวสามเณรเอาข้าวก้นบาตเลี้ยงแม่ที่ป่วยอำพฤก

ผมไม่ขอลงลึกนะครับ สรุปได้ว่าสามเณร ได้เลี้ยงแม่ ที่เอาข้าวก้นบาตร เลี้ยงแม่ นั้นสังคมยกย่อง สามเณรว่าเป็นลูกกตัญญู ผมขอเห็นต่างครับ เท่าที่ดูข่าว สามเณรนั้น ก็ รู้สึกว่าอายุน่าจะ ใกล้ 20 แล้วล่ะ และในข่าวยังบอกด้วยว่า ซึ้งในพระธรรม จะบวช ไม่สึก นะครับ
    ผมมีความคิดต่างครับ คืองี้ ผมมองว่า เด็กคนนี้ ไม่รักแม่อย่ากปลีกตัว ไปสะบายเองมากกว่า เอ้าทำไม ผมพูกอย่างนั้น ก็ในเมื่อ แม่ท่านป่วย ท่านจะไป หลับหูหลับตาสวดมน บ่นพร อะไรนั่น แม่ท่านจะหายป่วยมั้ย เวลาท่านจะเข้าห้องน้ำ ห้องท่า ใครเป็นคนดูแล ท่านยังจะมีกะใจ บวชอีก ผมว่าใจท่านดำครับ ถึงเวลาเอาข้าวก้นบาตรมาให้แม่ แค่นี้ถือว่า แทนคุณแล้วหรือครับ สังคมไทย แม่เรานะครับ ย่อมเหนืออื่นใด ท่านจะบวช หรือจะเรียน อะไรก็แล้วแต่ ถ้าแม่ท่านขาดคนดูแล ท่านยังมีกะใจ บวชอีกผมว่าท่าน ใจด้านครับ สังคมไทย ผมว่าไปกันใหญ่ แม่พะงาบๆ บอกจะบวช แทนคุณ ผมรับไม่ได้ครับ ถ้าจะแทนคุณท่าน มาอยู่ดูแลท่านสิครับ อาบน้ำป้อนข้าว ดูแลเลี้ยงท่าน ให้สมกับท่านเลี้ยงเรามา ยามเจ็บใข้ได้ป่วย คนป่วยไม่ใช่ ต้องการ แค่อาหาร แต่ต้องการกำลังใจ ต้องการ การเอาใจ โดยฉะเพราะ ลูกถ้าอยู่ใกล้ท่าน จะนับว่าดีมาก นี่อะไร จะบวช ถึงเวลา เอาข้าวมาโยนให้ ผมว่สามันไม่ใช่นะครับ ผมได้ยินข่าวแบบนี้ มาน่าจะ หลายครั้งครับ พระบ้างมาอาน้ำ อุ้มแม่อาบน้ำ โอ้ยสังคมชมกันใหญ่ แต่ผมกับรู้สึกว่า เมื่อแม่ท่านเป็นอย่างนั้น มาอยู่กับท่านให้ท่านชื่นใจ เหอะครับ อย่ามัวหลงบุญ อยู่เลย
          ผมไม่เคยสอนให้ลูกผมทำแบบนี้ ผมสอนลูกว่า การทดแทนบุญคุณ พ่อ-แม่ คือการดูแล เมื่อ  พ่อ-แม่แก่ เฒ่า ทำกินทดแทนคุณแผ่นดิน เมื่อสะบายใจดีแล้ว พร้อมแล้ว ถ้าจะเข้าวัด ฟังธรรม บ้างน่าจะดี นะลูก และทำงานในหน้าที่ ให้ดีที่สุด อย่าหาเรื่อง หนักใจให้  พ่อ-แม่ นี่คือลาบอันประเสริฐแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่