อยากสูง อยากสวย-หล่อ หุ่นดี เริ่มกันเลย ! (เริ่มเร็วยิ่งดี)
เกริ่นกันก่อน
คิดว่าคงจะเป็นความหวังของพ่อแม่ทุกคนครับ ที่อยากให้ลูกของเราโตขึ้นมาแข็งแรง ฉลาด และดูดี วันนี้ก็เกิดแรงบัลดาลใจมาแบ่งปันความรู้เรื่องนี้กันอีกครั้ง มาเริ่มกันเลยดีกว่า
หลักการ วิธีเลี้ยงลูกให้ดีจริงๆตามหลักคือต้องเริ่มตั้งแต่เล็กที่สุดครับ
ช่วงระหว่างอยู่ในครรภ์ จนถึง 3 ขวบ เป็นช่วงวัยที่ต้องซีเรียสเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่สมองพัฒนาสูงสุด ความฉลาดของเด็กจะพัฒนาในช่วงเวลานี้ครับ สิ่งสำคัญก็คือ อาหาร และการให้เด็กได้วิ่งเล่น พัฒนาประสาทสัมผัสทั้ง 5 เรื่องอาหารนี้ สิ่งที่ซีเรียสคือ"คนไทยมักจะขาด
โปรตีน " โดยที่
โปรตีนเนี่ยสำคัญที่สุดในทุกๆพัฒนาการครับ เพราะเป็นสิ่งเสริมสร้างกระดูก(กระดูกอ่อนสร้างจากโปรตี แต่แคลเซียมจะมาเสริมที่หลัง) และเป็นส่วนประกอบสำคัญฮอร์โมนต่างๆทั้งหมดของร่างกาย
ปัญหาหนึ่งที่คนเป็นพ่อแม่กังวลที่สุดคือ
การที่ลูกไม่กินข้าว เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกเราจะไม่เจริญเติบโตอย่างควร และขาดสารอาหารที่จะไปสร้างเสริมพัฒนาการในวัยเด็ก โดยปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวนั้นคนเป็นพ่อแม่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน คนเป็น
การเลี้ยงลูกให้เด็กสูงใหญ่นั้น เนื้อ นม ไข่ อาหารประเภทโปรตีนเอาให้ครบ โดยเฉพาะนม เพราะเป็นสิ่งที่เด็กดื่มง่าย และถ้าเลี้ยงลูกให้มีนิสัยรักการดื่มนมได้ จะยิ่งดีเลย เพราเขาจะดื่มเองไปจนวัยรุ่น และพกพาไปที่ต่างๆได้ และทำให้ร่างกายสูงใหญ่ ดูดี โดยในวัยแรกเกิดนั้นนมแม่ถือเป็นนมที่ดีที่สุด แต่ก็สามารถเลือกนมผงได้ เพราะเป็นนมที่ปรับโครงสร้างสารอาหารให้ใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด แต่คำถามยอดฮิตอันหนึ่งคือลูก 1 ขวบกินนมอะไรดี คำตอบคือนมนำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไปนั้น สามมารถดื่มนมกล่อง UHT หรือพาสเจอร์ไรส์ได้ตามปกติ
การส่วนการออกกำลังกาย ถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมากๆของความสูง
การออกกำลังกายที่มีผลดีต่อความสูงที่สุดคือการกระโดดแนวดิ่ง นั่นคือการกระโดดขึ้นให้สูงๆ และลงมา แต่ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุและการลงผิดท่าด้วย โดยทั่วไปอาจจะส่งเสริมเด็กให้นิยมชูทบาสเล่นๆ จนติดเป็นนิสัย โดยอาจจะติดแป้นบาสไว้ที่บ้าน และเมื่อลูกๆเรากระโดดแนวดิ่งบ่อยๆตั้งแต่เล้กๆ เด็กก็จะค่อยๆสูงขึ้นเอง
สูงยาว เข่าดี ทำยังไง ?
ความสูงของลูก ประเด็นสำคัญที่สุด
หลักพื้นฐานของความสูง คือเรื่องของ"โปรตีน"ล้วนๆ บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของแคลเซี่ยม แต่จริงๆไม่ใช่ (แคลเซี่ยมเกี่ยวน้อยกับความสูง แต่การที่กินนมแล้วสูง ตัวที่มีอิทธิพลคือโปรตีนจากนม - โดยเคซีนในนม เป็นหนึ่งในโปรตีนที่ดูดซึมดีที่สุด) , บางคนบอกว่า พันธุกรรมกำหนด ก็ตอบว่า ใช่ เป็นเช่นนั้น แต่มันไม่ได้กำหนดตายตัวว่าคุณต้องสูง 170 เท่านั้น หรือ สูง180 เท่านั้น แต่ธรรมชาติมันกำหนดเป็นช่วง เช่น คุณอาจสูงได้ 165-175 และมันเสริมสร้างกันได้
"โปรตีน" สารอาหารที่สำคัญที่สุดในเรื่องความสูง
กระดูกท่อนต่างๆ - มันขึ้นรูปด้วยโปรตีน และถูกฉาบที่หลังด้วยแคลเซี่ยม ( เปรียบโปรตีนเหมือนโครงเหล็กของเสา และแคลเซี่ยมเหมือนปูนที่ฉีดทับ ) กระดูกของมนุษย์นั้นจะเติบโตจากส่วน"กระดูกอ่อน" ที่เป็น"คอลลาเจน" และมันคือโปรตีนชนิดหนึ่ง , ส่วนปลายของข้อกระดูกอ่อนจะยืดออกๆ-และขยายตัวตามวัยจนถึงอายุ 18-25 , ถ้าเป็นผู้หญิงจะหยุดสูงเร็วกว่าผู้ชาย ดังนั้นผมจึงสรุปว่า ความสูงของลูกคุณนั้น ขึ้นอยู่กับฝีมือให้การให้อาหารของคุณนั่นเอง
คนไทยขาดโปรตีน
คนไทยมักจะขาดโปรตีน เพราะกินข้าวเป็นอาหารหลัก , จากการสำรวจข้าวเจ้านั้นมีโปรตีนน้อยมาก คือราวๆ 2.3 - 3 ในปริมาณ 100 g เทียบกับแป้งสาลีที่มีโปรตีนถึง 8-9 ใน 100 g (นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งเลยตัวสูงใหญ่กว่า และนี่ยังไม่รวมเนื้อสัตว์อีก) , แต่การกินคาร์โบไอเดรตนั้นอย่าให้มาก เพราะมันทำให้อ้วนได้ ควรกินขนมปังให้มื้อละ 1 - 2 แผ่นก็พอ แต่ที่ดีที่สุด ผมแนะนำเป็นถั่วต่างๆ เช่น ถั่วดำ-ถั่วแดง -ถั่วเขียว แช่น้ำต้มรวมกันก็ได้ หรือจะเปนเส้นสปาเก็ทตี้ก็ได้ เดี๋ยวนี้มีแบบเส้นเล็กๆ angle hair เอามาใส่น้ำ เข้าเวฟ 3-4 นาทีเส้นก็สุกกินดี
คาร์โบไฮเดรตแบบไหน มีโปรตีนมากน้อยเท่าไหร่
แต่ก็ต้องระวังเรื่องแคลอรี่ด้วยนะ (ทั้งนี้ ก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนผสมของไข่ จะมีโปรตีนสูงขึ้นนะ)
ข้อมูลของสารอาหาร
จาก
http://nutritiondata.self.com/facts/baked-products/4872/2
กินนม ทำให้สูง
ประเด็นนี้อาจจะยากนิดนึง เพราะการสอนให้เด็กกินนม คุณต้องหาวิธีเอาเอง ให้ลูกคุณชอบดื่มนมให้ได้ ดีกว่ากินของหวานอื่นๆ เพราะของทุกอย่างมีดี-มีเสีย , แต่เชื่อเหอะครับ การกินนมตั้งแต่เด็กๆ มันทำให้สูงได้ดีทีเดียว การเลือกกินนมก็ได้หมดทุกยี่ห้อ ที่สะดวกก็คือนม UHT เราต้องการแโปรตีนและแคลเซี่ยมจากนมเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันก็มีการเติมสารอาหารต่างๆในนม UHT สำหรับเด็ก ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะทำงานยุ่ง จนไม่สามารถเตรียมสารอาหารให้ลูกอย่างครบครันในทุกๆวัน
ปัจจุบันมีนม UHT สำหรับหลายรุ่น ที่เสริมสารอาหารให้ครบถ้วน
เช่นโฟร์โมสต์ โอเมก้า
ปลา เนื้อ นม ไข่ จัดให้ครบ
ในวัยเด็กนั้น แน่นอนลูกๆจะกินอาหารตามที่พ่อแม่จัดให้ คุณควรจะจัดเนื้อ ไข่ ให้มากๆ โดยเฉพาะในมื้อเช้า , จะกินแบบฝรั่งก็ไม่ว่ากัน แต่ควรให้เป็นเนื้อหรือไก่ที่ไม่ผ่านการแปรรูป โปรตีนจากปลา โดยเฉพาะปลาทะเล เช่นปลาทู หรือปลาซาบะก็เป็นสิ่งที่ราคาถูกและดีมาก เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 เยอะ ช่วยพัฒนาสมองและดีต่อหลอดเลือดด้วย แต่ก็อย่าบีบคั้นเด็กมากเกินไป เพราะจะทำให้เด็กเกลียดอาหารนั้นๆ , แต่โดยปกติเด็กทุกคนชอบกินเนื้อ โดยเฉพาะน่องไก่ ไม่ว่าจะนึ่ง ย่าง ทอด เด็กๆทุกคนชอบมัน อยู่ที่พ่อแม่ว่าจะให้จัดให้ได้แค่ไหน , ผมแนะนำว่า จัดไป วันละ 2-3 น่อง ซื้อติดตู้เย็นไว้เลยก็ดี , ไข่ดาว เป็นอีกเมนูที่ทุกคนชอบ จัดไป 2 ฟองก็ดี หรือไข่ต้มอาจจะดีกว่า
ระวังของหวาน !
ในวัยเด็ก เราจะชอบของหวาน , ควรควบคุมให้ดี "อย่าซื้อติดตู้เย็น" เพราะไม่งั้นหมดแน่ๆ ควรจะกำหนดเป็นช่วงๆ หรือพาไปกินเป็นครั้งๆ ซื้อมาแค่ต่อวัน-อย่าตุน , เรื่องน้ำอัดลม พยายามเลี่ยง แต่อย่าห้ามจนเด็กเก็บกด ไม่งั้นพอขึ้น ม.ต้นเมื่อไหร่ เด็กเขาจะซัดแน่ๆ (ประสบการณ์ตรง) , และอย่าลืมผัก ถ้าเด็กไม่ชอบกินผัก ก็อย่าท้อ ถ้ามันไม่ชอบผักกาด เราก็เอาบล็อกคอรี่มา มันไม่ชอบอีก ก็เอาอย่างอื่นมา ๆ ๆ ให้หมด จนครบผักทุกชนิดบนโลก มันต้องมีสัก 2-3 ชนิดแน่ๆที่เด็กชอบ
ให้ความรู้เด็กด้วย
ควรให้ความรู้กับลูกเรื่องอาหารอย่างต่อเนื่องเมื่ออายุได้ 10-13 ปี เพื่อให้เด็กรู้ว่ากินอะไรดี-ไม่ดีอย่างไร รู้จนเข้าใจ และจำได้ , เพราะ
เมื่อเด็กอายุ 15 ปีแล้ว สัญชาตญาณรักสวยรักงามจะเข้ามาทำงานเอง เด็กๆที่มีความรู้เป็นพื้นฐาน ก็จะเลือกกินอย่างถูกต้อง(เพราะห่วงหล่อห่วงสวย) โดยที่เราไม่ต้องไปควบคุมอีก เผลอๆมันจะควบคุมอาหารจนเราเครียดแทนก็เป็นได้ -*-
..............
สรปุเคล็ด 1 คือ โปรตีน จำสารตัวนี้ไว้เลย
"โปรตีน ๆ"
เด็กทารก(อายุ1-3ขวบ) ต้องการโปรตีนอยู่ที่ 1.2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หรือประมาณ 15 กรัมต่อวัน
หรือเนื้อสัตว์ประมาณ 0.7 ขีด
เด็กเล็ก(อายุ3-7ขวบ) ต้องการโปรตีนอยู่ที่ 1.1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หรือประมาณ 26 กรัมต่อวัน
หรือเนื้อสัตว์ประมาณ 1.3 ขีด
ความสูงเกิดด้วยสิ่ง 3 ประการ
1 คือพันธุกรรม
2 คืออาหาร
3 คือการออกกำลังกาย
เรื่องพันธุกรรม ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราจึงต้องมาใส่กับอีก 2 ประการที่เหลือ
เรื่องการกินพูดไปแล้ว มาตอนนี้คือ
"การออกกำลังกาย"
ขยายจากปลายข้อ
ท่อนกระดูกของคนเรานั้น"ขยายตัวจากส่วยปลายข้อ" เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อสะโพก และข้อสันหลัง , โ
ดยส่วนปลายข้อนี้ คือคอลลาเจนอันเป็น"โปรตีน"ชนิดหนึ่ง , แต่ไม่ต้องไปกินคอลลาเจนเสริมนะ อันนั้นไม่ใช่ ให้กินจากอาหาร เพื่อที่ร่างกายจะเอามาเป็นวัตถุดิบ - อ่อ เกือบลืม วิตามิน C ก็ขาดไม่ได้ เพราะมันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคอลลาเจน
กระตุ้นที่ปลายข้อ
ทุกสิ่งขยายตัวจากแรงกระตุ้นครับ เช่น เวลาคนเป็นแผล รางกายจะสร้างคอลลาเจนส่วนเกินมาสร้างเสริมรอยแผลนั้นที่เรียกว่าคีลอยด์ เรื่องของข้อกระดูกก็หลักการเดียวกันครับ มันต้องกระตุ้นๆๆ แล้วมันจะขยายตัว ยืดตัวออก ,
การกระตุ้นนั้นหลักการก็ง่ายๆ คือการสร้างแรงกระแทกลงไป และถ้าจะให้สูงขึ้น ก็ต้องสร้างแรงกระแทกแนวตั้ง แบบนี้ ^ ไม่ใช้แบบนี้ >
.....
การกระโดดสุดเอื้อม และย่อตัวลงมา
การทำให้เด็กวัยรุ่นมีข้อกระดูกที่ยาวขึ้นๆ ก็คือการบริหารโดยการกระโดดยืดตัว แตะผนังสูงๆ โดยต้องซ้ำๆวันละ 30-90 ครั้งก็ได้ แบ่งเป็นยกๆ เช่น 20ครั้ง 3 ยก อะไรก็ว่าไป .... แต่ทว่าในทางปฏิบัติวิธีนี้มันยาก เพราะไอการจะสอนให้เด็กกระโดดทุกวัน มันจะน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นจึงควรให้เด็กสนุกกับมัน ด้วยการทำเป็นกีฬา , มีกีฬา 2 ชนิดที่ตอบโจทย์ คือบาสเก็ตบอล และวอลเลย์บอล ถ้าคุณสงเสริมให้ลูกชอบกีฬา 2 ชนิดนี้ได้ตั้งแต่เด็ก ก็จะเป็นการดี
ทำแป้นบาสฯติดบ้าน
การสร้างส่วนสูงมันไม่ใช่งาน Project ที่จะทำครั้งเดียวแล้วจะเห็นผลครับ แต่มันคืองาน Routine ที่ต้องทำทุกวัน ทำซ้ำๆ ทำอยู่อย่างนั้น ดังนั้นการไปสอนลูกว่า "ถ้าเธออยากสูงให้กระโดด" มันจะได้ผลถ้าต่อเมื่อลูกของคุณมี Passion ในการอยากสูงแล้ว เช่น ในเด็กอายุ 15-16 ที่เริ่มห่วงเรื่องรูปร่างแล้ว อาจจะยอมทนทำทุกวันๆ , แต่กับเด็กอายุ 10-13 เขาคงอยากเล่นเกมมากกว่า เพราะเขาไม่มี Passion ที่จะอยากสูงอะไรมาก ดังนั้นในทางปฏิบัติมันอาจจะไม่เวิร์ก ... ผมจึงแนะนำง่ายๆ ให้คุณติดแป้นบาสสูงๆไว้ที่บ้าน เพื่อที่ลูกของคุณจะได้เล่น Shoot บาสเอาสนุกๆ , คือการซู้ทบาสมันเป็นกิจกรรมที่มีเป้าหมาย มันสนุกกว่าการกระโดดเตะผนังเฉยๆน่ะ เช่น ถ้าสัปดาห์นี้ลูกซูตได้ 100 แต้ม จะพาไปซื้อของเล่น กินขนม อะไรก็ว่าไป หรืออาจจะแนะนำให้ลูกดูการ์ตูน Slamdunk ก็แล้วแต่วิธีของคุณ
พบคำอธิบายจากคุณหมอ
เอาละ ผมบอกหลักการและไอเดียไปแล้ว ที่นี้ถ้าใครอยากรู้แบบละเอียดๆ ชมคลิ๊ป Youtube ของคุณหมอท่านนี้ , ให้รายละเอียดพร้อมหลักการ งานวิจัยได้ ... แกอาร์ตนิดนึงนะ อย่าตกใจ
เพิ่มความสูง ตอน 1/4 มี 4 ตอนนะ
อาจจะดูติสท์ๆนิดนึง แต่เป็นหมอจริงๆนะครับ
แบ่งปันเคล็ดลับ วิธีเลี้ยงลูกให้โตมาตัวสูง แข็งแรง หล่อ สวย (มีลูกเล็กๆต้องอ่าน วัยรุ่นก็ยังอ่านทัน)
อยากสูง อยากสวย-หล่อ หุ่นดี เริ่มกันเลย ! (เริ่มเร็วยิ่งดี)
เกริ่นกันก่อน
คิดว่าคงจะเป็นความหวังของพ่อแม่ทุกคนครับ ที่อยากให้ลูกของเราโตขึ้นมาแข็งแรง ฉลาด และดูดี วันนี้ก็เกิดแรงบัลดาลใจมาแบ่งปันความรู้เรื่องนี้กันอีกครั้ง มาเริ่มกันเลยดีกว่า หลักการ วิธีเลี้ยงลูกให้ดีจริงๆตามหลักคือต้องเริ่มตั้งแต่เล็กที่สุดครับ ช่วงระหว่างอยู่ในครรภ์ จนถึง 3 ขวบ เป็นช่วงวัยที่ต้องซีเรียสเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่สมองพัฒนาสูงสุด ความฉลาดของเด็กจะพัฒนาในช่วงเวลานี้ครับ สิ่งสำคัญก็คือ อาหาร และการให้เด็กได้วิ่งเล่น พัฒนาประสาทสัมผัสทั้ง 5 เรื่องอาหารนี้ สิ่งที่ซีเรียสคือ"คนไทยมักจะขาดโปรตีน " โดยที่โปรตีนเนี่ยสำคัญที่สุดในทุกๆพัฒนาการครับ เพราะเป็นสิ่งเสริมสร้างกระดูก(กระดูกอ่อนสร้างจากโปรตี แต่แคลเซียมจะมาเสริมที่หลัง) และเป็นส่วนประกอบสำคัญฮอร์โมนต่างๆทั้งหมดของร่างกาย
ปัญหาหนึ่งที่คนเป็นพ่อแม่กังวลที่สุดคือการที่ลูกไม่กินข้าว เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกเราจะไม่เจริญเติบโตอย่างควร และขาดสารอาหารที่จะไปสร้างเสริมพัฒนาการในวัยเด็ก โดยปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวนั้นคนเป็นพ่อแม่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน คนเป็น การเลี้ยงลูกให้เด็กสูงใหญ่นั้น เนื้อ นม ไข่ อาหารประเภทโปรตีนเอาให้ครบ โดยเฉพาะนม เพราะเป็นสิ่งที่เด็กดื่มง่าย และถ้าเลี้ยงลูกให้มีนิสัยรักการดื่มนมได้ จะยิ่งดีเลย เพราเขาจะดื่มเองไปจนวัยรุ่น และพกพาไปที่ต่างๆได้ และทำให้ร่างกายสูงใหญ่ ดูดี โดยในวัยแรกเกิดนั้นนมแม่ถือเป็นนมที่ดีที่สุด แต่ก็สามารถเลือกนมผงได้ เพราะเป็นนมที่ปรับโครงสร้างสารอาหารให้ใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด แต่คำถามยอดฮิตอันหนึ่งคือลูก 1 ขวบกินนมอะไรดี คำตอบคือนมนำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไปนั้น สามมารถดื่มนมกล่อง UHT หรือพาสเจอร์ไรส์ได้ตามปกติ
การส่วนการออกกำลังกาย ถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมากๆของความสูง
การออกกำลังกายที่มีผลดีต่อความสูงที่สุดคือการกระโดดแนวดิ่ง นั่นคือการกระโดดขึ้นให้สูงๆ และลงมา แต่ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุและการลงผิดท่าด้วย โดยทั่วไปอาจจะส่งเสริมเด็กให้นิยมชูทบาสเล่นๆ จนติดเป็นนิสัย โดยอาจจะติดแป้นบาสไว้ที่บ้าน และเมื่อลูกๆเรากระโดดแนวดิ่งบ่อยๆตั้งแต่เล้กๆ เด็กก็จะค่อยๆสูงขึ้นเอง
ความสูงของลูก ประเด็นสำคัญที่สุด
หลักพื้นฐานของความสูง คือเรื่องของ"โปรตีน"ล้วนๆ บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของแคลเซี่ยม แต่จริงๆไม่ใช่ (แคลเซี่ยมเกี่ยวน้อยกับความสูง แต่การที่กินนมแล้วสูง ตัวที่มีอิทธิพลคือโปรตีนจากนม - โดยเคซีนในนม เป็นหนึ่งในโปรตีนที่ดูดซึมดีที่สุด) , บางคนบอกว่า พันธุกรรมกำหนด ก็ตอบว่า ใช่ เป็นเช่นนั้น แต่มันไม่ได้กำหนดตายตัวว่าคุณต้องสูง 170 เท่านั้น หรือ สูง180 เท่านั้น แต่ธรรมชาติมันกำหนดเป็นช่วง เช่น คุณอาจสูงได้ 165-175 และมันเสริมสร้างกันได้
"โปรตีน" สารอาหารที่สำคัญที่สุดในเรื่องความสูง
กระดูกท่อนต่างๆ - มันขึ้นรูปด้วยโปรตีน และถูกฉาบที่หลังด้วยแคลเซี่ยม ( เปรียบโปรตีนเหมือนโครงเหล็กของเสา และแคลเซี่ยมเหมือนปูนที่ฉีดทับ ) กระดูกของมนุษย์นั้นจะเติบโตจากส่วน"กระดูกอ่อน" ที่เป็น"คอลลาเจน" และมันคือโปรตีนชนิดหนึ่ง , ส่วนปลายของข้อกระดูกอ่อนจะยืดออกๆ-และขยายตัวตามวัยจนถึงอายุ 18-25 , ถ้าเป็นผู้หญิงจะหยุดสูงเร็วกว่าผู้ชาย ดังนั้นผมจึงสรุปว่า ความสูงของลูกคุณนั้น ขึ้นอยู่กับฝีมือให้การให้อาหารของคุณนั่นเอง
คนไทยขาดโปรตีน
คนไทยมักจะขาดโปรตีน เพราะกินข้าวเป็นอาหารหลัก , จากการสำรวจข้าวเจ้านั้นมีโปรตีนน้อยมาก คือราวๆ 2.3 - 3 ในปริมาณ 100 g เทียบกับแป้งสาลีที่มีโปรตีนถึง 8-9 ใน 100 g (นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งเลยตัวสูงใหญ่กว่า และนี่ยังไม่รวมเนื้อสัตว์อีก) , แต่การกินคาร์โบไอเดรตนั้นอย่าให้มาก เพราะมันทำให้อ้วนได้ ควรกินขนมปังให้มื้อละ 1 - 2 แผ่นก็พอ แต่ที่ดีที่สุด ผมแนะนำเป็นถั่วต่างๆ เช่น ถั่วดำ-ถั่วแดง -ถั่วเขียว แช่น้ำต้มรวมกันก็ได้ หรือจะเปนเส้นสปาเก็ทตี้ก็ได้ เดี๋ยวนี้มีแบบเส้นเล็กๆ angle hair เอามาใส่น้ำ เข้าเวฟ 3-4 นาทีเส้นก็สุกกินดี
คาร์โบไฮเดรตแบบไหน มีโปรตีนมากน้อยเท่าไหร่
แต่ก็ต้องระวังเรื่องแคลอรี่ด้วยนะ (ทั้งนี้ ก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนผสมของไข่ จะมีโปรตีนสูงขึ้นนะ)
ข้อมูลของสารอาหาร
จาก http://nutritiondata.self.com/facts/baked-products/4872/2
กินนม ทำให้สูง
ประเด็นนี้อาจจะยากนิดนึง เพราะการสอนให้เด็กกินนม คุณต้องหาวิธีเอาเอง ให้ลูกคุณชอบดื่มนมให้ได้ ดีกว่ากินของหวานอื่นๆ เพราะของทุกอย่างมีดี-มีเสีย , แต่เชื่อเหอะครับ การกินนมตั้งแต่เด็กๆ มันทำให้สูงได้ดีทีเดียว การเลือกกินนมก็ได้หมดทุกยี่ห้อ ที่สะดวกก็คือนม UHT เราต้องการแโปรตีนและแคลเซี่ยมจากนมเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันก็มีการเติมสารอาหารต่างๆในนม UHT สำหรับเด็ก ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะทำงานยุ่ง จนไม่สามารถเตรียมสารอาหารให้ลูกอย่างครบครันในทุกๆวัน
เช่นโฟร์โมสต์ โอเมก้า
ปลา เนื้อ นม ไข่ จัดให้ครบ
ในวัยเด็กนั้น แน่นอนลูกๆจะกินอาหารตามที่พ่อแม่จัดให้ คุณควรจะจัดเนื้อ ไข่ ให้มากๆ โดยเฉพาะในมื้อเช้า , จะกินแบบฝรั่งก็ไม่ว่ากัน แต่ควรให้เป็นเนื้อหรือไก่ที่ไม่ผ่านการแปรรูป โปรตีนจากปลา โดยเฉพาะปลาทะเล เช่นปลาทู หรือปลาซาบะก็เป็นสิ่งที่ราคาถูกและดีมาก เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 เยอะ ช่วยพัฒนาสมองและดีต่อหลอดเลือดด้วย แต่ก็อย่าบีบคั้นเด็กมากเกินไป เพราะจะทำให้เด็กเกลียดอาหารนั้นๆ , แต่โดยปกติเด็กทุกคนชอบกินเนื้อ โดยเฉพาะน่องไก่ ไม่ว่าจะนึ่ง ย่าง ทอด เด็กๆทุกคนชอบมัน อยู่ที่พ่อแม่ว่าจะให้จัดให้ได้แค่ไหน , ผมแนะนำว่า จัดไป วันละ 2-3 น่อง ซื้อติดตู้เย็นไว้เลยก็ดี , ไข่ดาว เป็นอีกเมนูที่ทุกคนชอบ จัดไป 2 ฟองก็ดี หรือไข่ต้มอาจจะดีกว่า
ระวังของหวาน !
ในวัยเด็ก เราจะชอบของหวาน , ควรควบคุมให้ดี "อย่าซื้อติดตู้เย็น" เพราะไม่งั้นหมดแน่ๆ ควรจะกำหนดเป็นช่วงๆ หรือพาไปกินเป็นครั้งๆ ซื้อมาแค่ต่อวัน-อย่าตุน , เรื่องน้ำอัดลม พยายามเลี่ยง แต่อย่าห้ามจนเด็กเก็บกด ไม่งั้นพอขึ้น ม.ต้นเมื่อไหร่ เด็กเขาจะซัดแน่ๆ (ประสบการณ์ตรง) , และอย่าลืมผัก ถ้าเด็กไม่ชอบกินผัก ก็อย่าท้อ ถ้ามันไม่ชอบผักกาด เราก็เอาบล็อกคอรี่มา มันไม่ชอบอีก ก็เอาอย่างอื่นมา ๆ ๆ ให้หมด จนครบผักทุกชนิดบนโลก มันต้องมีสัก 2-3 ชนิดแน่ๆที่เด็กชอบ
ให้ความรู้เด็กด้วย
ควรให้ความรู้กับลูกเรื่องอาหารอย่างต่อเนื่องเมื่ออายุได้ 10-13 ปี เพื่อให้เด็กรู้ว่ากินอะไรดี-ไม่ดีอย่างไร รู้จนเข้าใจ และจำได้ , เพราะเมื่อเด็กอายุ 15 ปีแล้ว สัญชาตญาณรักสวยรักงามจะเข้ามาทำงานเอง เด็กๆที่มีความรู้เป็นพื้นฐาน ก็จะเลือกกินอย่างถูกต้อง(เพราะห่วงหล่อห่วงสวย) โดยที่เราไม่ต้องไปควบคุมอีก เผลอๆมันจะควบคุมอาหารจนเราเครียดแทนก็เป็นได้ -*-
..............
เด็กทารก(อายุ1-3ขวบ) ต้องการโปรตีนอยู่ที่ 1.2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หรือประมาณ 15 กรัมต่อวัน หรือเนื้อสัตว์ประมาณ 0.7 ขีด
เด็กเล็ก(อายุ3-7ขวบ) ต้องการโปรตีนอยู่ที่ 1.1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
หรือประมาณ 26 กรัมต่อวัน หรือเนื้อสัตว์ประมาณ 1.3 ขีด
ความสูงเกิดด้วยสิ่ง 3 ประการ
1 คือพันธุกรรม
2 คืออาหาร
3 คือการออกกำลังกาย
เรื่องพันธุกรรม ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราจึงต้องมาใส่กับอีก 2 ประการที่เหลือ
เรื่องการกินพูดไปแล้ว มาตอนนี้คือ
ขยายจากปลายข้อ
ท่อนกระดูกของคนเรานั้น"ขยายตัวจากส่วยปลายข้อ" เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อสะโพก และข้อสันหลัง , โดยส่วนปลายข้อนี้ คือคอลลาเจนอันเป็น"โปรตีน"ชนิดหนึ่ง , แต่ไม่ต้องไปกินคอลลาเจนเสริมนะ อันนั้นไม่ใช่ ให้กินจากอาหาร เพื่อที่ร่างกายจะเอามาเป็นวัตถุดิบ - อ่อ เกือบลืม วิตามิน C ก็ขาดไม่ได้ เพราะมันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคอลลาเจน
กระตุ้นที่ปลายข้อ
ทุกสิ่งขยายตัวจากแรงกระตุ้นครับ เช่น เวลาคนเป็นแผล รางกายจะสร้างคอลลาเจนส่วนเกินมาสร้างเสริมรอยแผลนั้นที่เรียกว่าคีลอยด์ เรื่องของข้อกระดูกก็หลักการเดียวกันครับ มันต้องกระตุ้นๆๆ แล้วมันจะขยายตัว ยืดตัวออก , การกระตุ้นนั้นหลักการก็ง่ายๆ คือการสร้างแรงกระแทกลงไป และถ้าจะให้สูงขึ้น ก็ต้องสร้างแรงกระแทกแนวตั้ง แบบนี้ ^ ไม่ใช้แบบนี้ >
.....
การกระโดดสุดเอื้อม และย่อตัวลงมา
การทำให้เด็กวัยรุ่นมีข้อกระดูกที่ยาวขึ้นๆ ก็คือการบริหารโดยการกระโดดยืดตัว แตะผนังสูงๆ โดยต้องซ้ำๆวันละ 30-90 ครั้งก็ได้ แบ่งเป็นยกๆ เช่น 20ครั้ง 3 ยก อะไรก็ว่าไป .... แต่ทว่าในทางปฏิบัติวิธีนี้มันยาก เพราะไอการจะสอนให้เด็กกระโดดทุกวัน มันจะน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นจึงควรให้เด็กสนุกกับมัน ด้วยการทำเป็นกีฬา , มีกีฬา 2 ชนิดที่ตอบโจทย์ คือบาสเก็ตบอล และวอลเลย์บอล ถ้าคุณสงเสริมให้ลูกชอบกีฬา 2 ชนิดนี้ได้ตั้งแต่เด็ก ก็จะเป็นการดี
ทำแป้นบาสฯติดบ้าน
การสร้างส่วนสูงมันไม่ใช่งาน Project ที่จะทำครั้งเดียวแล้วจะเห็นผลครับ แต่มันคืองาน Routine ที่ต้องทำทุกวัน ทำซ้ำๆ ทำอยู่อย่างนั้น ดังนั้นการไปสอนลูกว่า "ถ้าเธออยากสูงให้กระโดด" มันจะได้ผลถ้าต่อเมื่อลูกของคุณมี Passion ในการอยากสูงแล้ว เช่น ในเด็กอายุ 15-16 ที่เริ่มห่วงเรื่องรูปร่างแล้ว อาจจะยอมทนทำทุกวันๆ , แต่กับเด็กอายุ 10-13 เขาคงอยากเล่นเกมมากกว่า เพราะเขาไม่มี Passion ที่จะอยากสูงอะไรมาก ดังนั้นในทางปฏิบัติมันอาจจะไม่เวิร์ก ... ผมจึงแนะนำง่ายๆ ให้คุณติดแป้นบาสสูงๆไว้ที่บ้าน เพื่อที่ลูกของคุณจะได้เล่น Shoot บาสเอาสนุกๆ , คือการซู้ทบาสมันเป็นกิจกรรมที่มีเป้าหมาย มันสนุกกว่าการกระโดดเตะผนังเฉยๆน่ะ เช่น ถ้าสัปดาห์นี้ลูกซูตได้ 100 แต้ม จะพาไปซื้อของเล่น กินขนม อะไรก็ว่าไป หรืออาจจะแนะนำให้ลูกดูการ์ตูน Slamdunk ก็แล้วแต่วิธีของคุณ
พบคำอธิบายจากคุณหมอ
เอาละ ผมบอกหลักการและไอเดียไปแล้ว ที่นี้ถ้าใครอยากรู้แบบละเอียดๆ ชมคลิ๊ป Youtube ของคุณหมอท่านนี้ , ให้รายละเอียดพร้อมหลักการ งานวิจัยได้ ... แกอาร์ตนิดนึงนะ อย่าตกใจ
เพิ่มความสูง ตอน 1/4 มี 4 ตอนนะ
อาจจะดูติสท์ๆนิดนึง แต่เป็นหมอจริงๆนะครับ