เคยเห็นมีการเรียกร้องให้แก้กฎหมายลงโทษประหารกับคนที่ข่มขืนฆ่า เลยอยากจะบอกว่า ที่ผ่านมาเท่าที่เคยดูข่าว ศาลลงโทษประหารเยอะแยะ แต่แทบจะไม่เคยมีการประหารตามที่ศาลตัดสิน กฎหมายมีอยู่แล้วแต่คนใช้กฎหมาย กับคนปฏิบัติตามกฎหมาย ต่างหาก ที่ไม่ใช้กฎหมายอย่างที่ควรจะเป็น ....ความผิดลักษณะนี้มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตอยู่แล้วครับ...ศาลสามารถลงโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตได้...แต่ที่ผ่านมาหากจำเลยรับสารภาพศาลจะลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก ๒๕ ปี ถึง ๕๐ ปี....บางกรณีศาลเห็นว่ารับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานศาลก็ไม่ลดโทษเลยก็ได้ คงให้ประหารชีวิต แต่น้อยครับ ส่วนใหญ่จะลดโทษ....อันนี้ก็ปัญหาหนึ่ง...แต่ปัญหาสำคัญที่อยากจะบอกและให่ช่วยกันพิจารณาไม่ได้อยู่ที่การตัดสินของศาล.....อยู่ที่หลังศาลตัดสินต่างหาก....เรื่องการอภัยโทษ....ประเทศไทยมีการอภัยโทษบ่อยมากเกือบทุกปี การอภัยโทษเกิดจากความต้องการของนักการเมืองที่เป็นรัฐบาลตราเป็นกฎหมาย..โดยมาจากการชงของกรมเรือนจำที่อ้างนักโทษล้นคุก..ในกฎหมายกำหนดชั้นนักโทษว่าต้องเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นเยี่ยม ฯลฯ ....แล้วการจะเป็นนักโทษชั้นดีเยี่ยมทราบไหมว่าใครคัดเลือก ก็เจ้าหน้าที่ในเรือนจำไงล่ะ...คัดเลือกเองโดยไม่มีการตรวจสอบจากองค์กรภายนอกที่เกี่ยวข้อง ...บางคร้งเราอาจเห็นผู้คุมรวยอู้ฟู่(ผู้คุมดีก็มีจึงต้องแยกแยะ)...หลังจากจัดชั้นนักโทษแล้ว เรือนจำจึงมาทำบัญชีรายชื่อนักโทษที่ได้รับอภัยโทษ เสนอให้กรรมการพิจารณา...ซึ่งปลายเหตุแล้ว...จึงเท่ากับลบล้างผลการตัดสินของศาลเกือบทั้งหมด ..นี่ยังไม่นับถึงการพักการลงโทษของเรือนจำอีกนะ.เราจึงได้เห็นว่าศาลลงโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต แต่จริงๆติดคุกเพียงไม่กี่ปี ..ไม่เกิน ๑๕ ปี ด้วยมั้ง..ยกตัวอย่างคดีหมอฆ่าเมียทั้งหลาย คดีฆ่าผู้ว่า ฯลฯ ไปค้นหาดูได้....อีกอย่างบ้านเราแทบจะไม่เห็นมีการประหารนักโทษ ขั้นตอนเยอะ อาจเพราะเหตุผลด้านมนุษยธรรม หรือสุภาษิตว่า "เขาเป็นฆาตกร แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นฆาตกรเหมือนเขา" การอภัยโทษรัฐบาลควรทำเฉพาะอภิมหาวโรกาสสำคัญจริงๆ ไม่ใช่ทำทุกปีเพื่อคะแนนเสียงหรือเหตุผลนักโทษล้นคุก มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่าตำรวจเสี่ยงชีวิตจับกุมคนทำผิดแทบตาย อัยการ ศาล ตรวจสอบหลักฐานสืบพยานเอาเป็นเอาตาย แต่หารู้ไม่เรือนจำคือคนกำหนดโทษที่แท้จริง...นี่กม.เรือนจำใหม่ก็กำลังจะออกข่าวว่าเรือนจำทำได้เยอะกว่านี้อีก ...กม.ถึงไม่เป็น กม.งัยครับ...ซะงั้น
โทษประหารมีจริงหรือ