เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2559 ได้เกิดเหตุรถยนต์บรรทุกขยะได้ชนรถจักรยายนต์ของคุณพ่อ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตคือคนซ้อนท้ายรถคุณพ่อ ขอสรุปแบบคราวๆว่า มีรถขยะ2คันได้แข่งกันมาเหมือนกับคนเมา  หนึ่งในสองคันได้ชนรถมอเตอร์ไซต์ของคุณพ่อขนาดจะกลับรถ ซึ่งผู้ขับรถขยะได้ยอมรับว่าตนเองประมาทและมีการลงบันทึกประจำวันไว้ยังสถานที่ตำรวจแล้ว ขนาดเกิดเหตุดิฉันซึ่งเป็นลูกไม่ได้อยู่ในประเทศไทยส่วนคุณพ่อไม่มีความรู้อ่านหนังสือไม่ออก และมีอาการเจ็บที่ซี่โครงเป็นอย่างมากแต่ด้วยความตกใจและเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตจึงยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลและบวกกับไม่มีความรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จนกระทั่งเมื่อบริษัทประกันของคู่กรณีมาก้อไม่เคยที่จะถามถึงความเจ็บป่วยใดๆเลย และไม่เคยช่วยเหลือในด้านการรักษาซึ่งในความเห็นของดิฉันคิดว่าอย่างน้อยน่าจะพาคุณพ่อไปส่งโรงพยาบาลและดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้แต่ไม่มีเลย จนกระทั่งดิฉันได้เดินทางกลับมาอีก 3 วันต่อมาได้ไปสอบถามยังสถานนี้ตำรวจถึงความคืบหน้า ทางสารวัตรแจ้งว่าผู้ต้องหาทางบริษัทประกันได้มาประกันตัวผู้ต้องหาไปแล้ว และนัดทำการเจรจาค่าเสียหายให้รวมถึงผู้เสียชีวิตด้วย คุณพ่อได้ทำการเบิกเงินจาก พรบ.ให้ผู้เสียชีวิตทำการจัดงานศพเป็นเงิน 35,000- แต่ทางบริษัทประกันหรือแม้กระทั่งพรบ.ฝั่งผู้ที่ชนไม่เคยติดต่อมาเลย และในวันที่ดิฉันกลับมาได้พาคุณพ่อไปพบแพทย์ปรากฏว่าคุณพ่อ ซี่โครงหัก4 ซี่ หมอบอกว่าทำไมเพิ่งมาดีนะที่ซี่โครงไม่หักทิ่มปอด พอคนเป็นลูกฟังแล้วรู้สึกตกใจมาก (เพราะคุณพ่อแยกทางกับคุณแม่นานแล้ว จึงทำให้ท่านอยู่คนเดียว) จนกระทั่งถึงวันที่นัดหมายทางบริษัทประกันให้นำหลักฐานต่างๆมาให้เรียกร้องค่าสินไหม เนื่องด้วยคุณพ่อทำอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจที่ท่าพระจันทร์ซึ่งจำหน่ายเทวรูปต่าง ๆ เปิดเวลา 7.00-18.00 น. ซึ่งทางร้านได้ทำการหยุดกิจการมาเป็นเวลา9 วัน และจากหนังสือรับรองเงินเดือนซึ่งทางร้านได้ทำระบบบัญชีคุณพ่อมีเงินเดือนประจำทุกเดือนคือ 45,000- ซึ่งคุณหมอให้หยุดงานเป็นเวลา 2 เดือนจากใบรับรองแพทย์ นอกจากนี้แล้วรถมอเตอร์ไซต์ของพ่อยังต้องใช้ในการส่งสินค้าไปยังสายใต้ใหม่ทุกวันร่วมทั้งยังต้องใช้ในการเดินทางอีกด้วยทำให้ทางร้านต้องใช้รถจากข้างนอกในการไปส่งสินค้าเนื่องจากรถมอเตอร์ไซต์พัง และในขณะที่คุณพ่อเจ็บป่วยอยู่นี้ทำให้ต้องจ้างคนมาดูแลยังที่บ้านเนื่องจากไม่สามารถขยับอะไรได้มากเพราะกลัวซี่โครงไปทิ่มปอด ไม่ว่าจะการเดินเข้าห้องน้ำ การไปซื้ออาหารการกิน  ถึงแม้ในขณะนี้ใบรับรองแพทย์ยังให้คุณพ่อรักษาตัวไปจนถึง20 พค 59 เป็นเหตุให้ไม่สามารถไปเปิดกิจการได้จึงเป็นจำเป็นที่ต้องจ้างหลานชายมาดูแลกิจการแทนซึ่งหลานชายต้องออกจากงานตัวเอง ซึ่งจากที่กล่าวมานั่นอยากทราบว่าทางบริษัทศรีอยุธยา นำกฏเกฑณ์ใดมาประกอบการพิจารณาที่จะชดใช้สินไหมให้เป็นเงิน 30,000-และอยากทราบว่าท่านอื่นมีความเหตุยังไงบ้างคะ เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาทางเราใช้ประกันอุบัติเหตุของตัวเอง รวมทั้งการซ่อมรถทางเราต้องเป็นฝ่ายเดินเรื่องให้มีการจัดซ่อมรถซึ่งปัจจุบันก้อยังไม่แล้วเสร็จและไม่มีการติดต่อใดๆ