จริงๆ ทฤษฎีของอีเลียต คนนี้ มันใช้ได้มากเลยนะ กับอะไรก็ตามที่เกิดจากการกระทำของคนหมู่มาก ไม่ได้โดนปั่นหรือลากแบบไม่เป็นธรรมชาติ จากพฤติกรรมความโลภและความกลัว
นั่นคือ ในหุ้นใหญ่ ดัชนี มันน่าจะ apply ได้หมด แต่ทีนี้ สิ่งที่ยากคือ การตีความทฤษฎีของแก
ก้าวแรกที่ผมลองใช้ ผมบอกเลย งงมาก
เรารู้ว่ามี 5 คลื่น 3 คลื่น คลื่นปรับมีกี่แบบ คลื่นยืด คลื่นหด แต่พอเห็นกราฟจริงๆ ไม่มีใครมาบอก เราอยู่ตรงไหน
ทฤษฎีอีเลียต เหมือนกับให้แผนที่ป่าดงดิบมา แล้วให้เราไปยืนกลางป่า
แว๊บแรกที่เอาแผนที่มาดู บอกได้มั้ย เราอยู่ตรงไหร แยกไหนของป่า ดงไพรไหน ไม่ได้หรอก
ผมหลงทางมามาก แบบที่คราวก่อน บอกว่าคลื่น 5 เป็นคลื่น B
เป้าแค่ 1392 จุด และสุดท้ายความจริงกระจ่าง ว่าทีลงจาก 1416 มา 1352 คือคลื่น 4 และคลื่นที่วิ่งไป 1432 คือคลื่น 5
ถามว่าผมขาดทุนมั้ย บอกได้เลยยับ
แต่สิ่งที่จะโต้คลื่นได้ คือ การนับใหม่ให้ถูก
ทฤษฎีไม่เคย Fix ตายตัวว่าจะต้องออกมาเลขเท่านี้ แต่เป็น Roadmap เท่านั้น ว่า Outcome มีได้กี่แบบ แต่ละแบบ มีเป้าราคายังไงเท่าไร
ดังนั้นต้อง Adapt ตัวเองไปกับสถานการณ์ได้เสมอ ที่สำคัญ เอาตัวเลขฟีโบมาพยายามหาความสัมพันธ์ ถ้าจับได้ จะยิ่งชัวร์ขึ้น
ไม่ต้องเอาเคสหลายวัน เอาวันนี้ก็ได้ ที่ผมบอกให้ย่อ L ตอน 1415 จุด จนมันลงมาแล้ว 7 จุดจากตำหน่งนั้น
ผมเอาคลื่นจับใหม่ เอาฟีโบไปจับคลื่นย่อยใหม่ ผมบอกได้เลย พรุ่งนี้เขียวแน่ เป้าหมายก็แนวต้านวันศุกร์ 1422 จุด
ภาพตอนแรก อาจจะไม่ชัด แต่พอภาพเริ่มมา อะไรๆ จะชัดขึ้น (บางคลื่นเล็กก็ไม่ชัดนะ อันนี้ทำใจ แต่ภาพใหญ่มันชัดกว่าและนานกว่า)
(เปิดกราฟ SET 15 นาที กางฟีโบจาก 1432 ไป 1407 จะพบเลยว่า 1422 และ 1416 จะอยู่บนแนวฟีโบ)
ถ้าตอนนี้เป็นคลื่น A จริงๆ น่าจะลงไปทดสอบ 1350 จุดอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์
แต่ทฤษฎีบอกว่า คลื่น A ก็มี 1 2 3 4 5 และ 3 จะต้องยาวมาก 1 ไม่ยาว
ดังนั้นผม Expect คลื่น 2 เลยว่าจะมาแน่ๆ และมันต้องเด้งขึ้น
ยังไงก็ตาม ผมก็ไม่ประมาทนะ เพราะผมอาจจะนับผิด บางทีตอนนี้อาจเข้าคลื่น 3 ของ A แล้วก็ได้
ก็ต้องคิดไว้ ถ้าเป็นเคสนี้จริง ตรงไหนคือ SL ถ้า L มา แนวรับอาจจะไปหาอีกทีทีหลังก็ได้
ถ้าจะนับคลื่นจริงๆ ต้องทุ่มเป็นหน้ากระดาษ ลงละเอียด เห็นยึกยัก 5 คลื่นแล้วลากเลยย่อมผิดแน่นอน
ถ้าไม่มีเวลานับ ก็อย่าใช้ และอย่าต่อว่า เพราะเราเข้าถึงทฤษฎีไม่ลึกพอ
อย่าลืมนะครับ พื้นฐานทฤษฎีคือ "จิตวิทยามนุษย์ที่เกิดซ้ำๆ History Repeats Itself"
ข้อผิดพลาด ของคนบอก นับเวฟ มั่วซั่ว นับผิดตลอด ทฤษฎีห่วย
นั่นคือ ในหุ้นใหญ่ ดัชนี มันน่าจะ apply ได้หมด แต่ทีนี้ สิ่งที่ยากคือ การตีความทฤษฎีของแก
ก้าวแรกที่ผมลองใช้ ผมบอกเลย งงมาก
เรารู้ว่ามี 5 คลื่น 3 คลื่น คลื่นปรับมีกี่แบบ คลื่นยืด คลื่นหด แต่พอเห็นกราฟจริงๆ ไม่มีใครมาบอก เราอยู่ตรงไหน
ทฤษฎีอีเลียต เหมือนกับให้แผนที่ป่าดงดิบมา แล้วให้เราไปยืนกลางป่า
แว๊บแรกที่เอาแผนที่มาดู บอกได้มั้ย เราอยู่ตรงไหร แยกไหนของป่า ดงไพรไหน ไม่ได้หรอก
ผมหลงทางมามาก แบบที่คราวก่อน บอกว่าคลื่น 5 เป็นคลื่น B
เป้าแค่ 1392 จุด และสุดท้ายความจริงกระจ่าง ว่าทีลงจาก 1416 มา 1352 คือคลื่น 4 และคลื่นที่วิ่งไป 1432 คือคลื่น 5
ถามว่าผมขาดทุนมั้ย บอกได้เลยยับ
แต่สิ่งที่จะโต้คลื่นได้ คือ การนับใหม่ให้ถูก
ทฤษฎีไม่เคย Fix ตายตัวว่าจะต้องออกมาเลขเท่านี้ แต่เป็น Roadmap เท่านั้น ว่า Outcome มีได้กี่แบบ แต่ละแบบ มีเป้าราคายังไงเท่าไร
ดังนั้นต้อง Adapt ตัวเองไปกับสถานการณ์ได้เสมอ ที่สำคัญ เอาตัวเลขฟีโบมาพยายามหาความสัมพันธ์ ถ้าจับได้ จะยิ่งชัวร์ขึ้น
ไม่ต้องเอาเคสหลายวัน เอาวันนี้ก็ได้ ที่ผมบอกให้ย่อ L ตอน 1415 จุด จนมันลงมาแล้ว 7 จุดจากตำหน่งนั้น
ผมเอาคลื่นจับใหม่ เอาฟีโบไปจับคลื่นย่อยใหม่ ผมบอกได้เลย พรุ่งนี้เขียวแน่ เป้าหมายก็แนวต้านวันศุกร์ 1422 จุด
ภาพตอนแรก อาจจะไม่ชัด แต่พอภาพเริ่มมา อะไรๆ จะชัดขึ้น (บางคลื่นเล็กก็ไม่ชัดนะ อันนี้ทำใจ แต่ภาพใหญ่มันชัดกว่าและนานกว่า)
(เปิดกราฟ SET 15 นาที กางฟีโบจาก 1432 ไป 1407 จะพบเลยว่า 1422 และ 1416 จะอยู่บนแนวฟีโบ)
ถ้าตอนนี้เป็นคลื่น A จริงๆ น่าจะลงไปทดสอบ 1350 จุดอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์
แต่ทฤษฎีบอกว่า คลื่น A ก็มี 1 2 3 4 5 และ 3 จะต้องยาวมาก 1 ไม่ยาว
ดังนั้นผม Expect คลื่น 2 เลยว่าจะมาแน่ๆ และมันต้องเด้งขึ้น
ยังไงก็ตาม ผมก็ไม่ประมาทนะ เพราะผมอาจจะนับผิด บางทีตอนนี้อาจเข้าคลื่น 3 ของ A แล้วก็ได้
ก็ต้องคิดไว้ ถ้าเป็นเคสนี้จริง ตรงไหนคือ SL ถ้า L มา แนวรับอาจจะไปหาอีกทีทีหลังก็ได้
ถ้าจะนับคลื่นจริงๆ ต้องทุ่มเป็นหน้ากระดาษ ลงละเอียด เห็นยึกยัก 5 คลื่นแล้วลากเลยย่อมผิดแน่นอน
ถ้าไม่มีเวลานับ ก็อย่าใช้ และอย่าต่อว่า เพราะเราเข้าถึงทฤษฎีไม่ลึกพอ
อย่าลืมนะครับ พื้นฐานทฤษฎีคือ "จิตวิทยามนุษย์ที่เกิดซ้ำๆ History Repeats Itself"