หลังจาก SCBLIF ออกจากตลาดไป เราก็เหลือเพียงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการประกันชีวิตอยู่เพียง 2 ตัว
BLA (อันนี้มีพฤติกรรมแปลกๆจากข่าว)

THREL ตัวนี้รับประกันภัยต่อ จากบริษัทประกันชีวิตทั่วประเทศอีกทีหนึ่งก็เท่ากับว่าเหมือนมีลูกค้าเป็นบริษัท ไม่ใช่ consumer
ดูจากงบการเงินแล้วก็สวยใช้ได้ และ อนาคตการขยายตัวในอนาคตก็ยังดี เพราะคนไทยถือกรรมธรรม์ประกันชีวิตเพียง 30%+ ของประชากรทั้งหมด
การเข้าสู่ Aging society ความกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลในอนาคต ก็น่าจะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตได้อีกมาก

ประกอบกับ THREL Market cap. ขนาดยังเล็กมากเมื่อเทียบกับ BLA จึงน่าจะมีโอกาสเติบโตได้เป็นเท่าตัว
แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่า เงินออม ของคนในชาติเราตอนนี้ จะยังมีเหลือให้แบ่งมาทำประกันไหม, รัฐจะสนับสนุนนโยบาลลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตอีกนานไหม (ผมคิดว่านานเพราะจะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระแก่รัฐ) ล้วนเป็นปัจจัยการเติบโตของธุรกิจนี้อย่างมาก

แต่โดยส่วนตัวคิดว่า THREL ราคาลงมาจนถึงจุดที่ นลท น่าเข้ามาวิแคะให้จริงจังแล้วนะครับ
มาช่วยกันสู้แบบเม่ากันครับ สู้ๆ