สวัสดีครับ การรีวิวการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเดินทางไปกัน 4 คนพ่อแม่ ลูกชายอายุ 3 ขวบ 9 เดือน และลูกสาวอายุ 8 เดือน ไปตะลุยคาวากุจิโกะและโตเกียว
การเดินทางครั้งนี้ใช้บริการของเวียดนามแอร์ไลน์ สายการบินที่กำลังโด่งดังในหมู่คนไทยเพราะราคาไม่แพงและเป็น Full Service โหลดกระเป๋าได้ 30 กิโลกรัม ราคาที่ผมได้ช่วงสงกรานต์ไม่ใช่ราคาที่ถูกสุดแต่ก็พอรับได้เนื่องจากไปช่วงเทศกาล เพราะหลายคนที่เจอบนเครื่องได้ราคา 9000 กว่า แต่ผมได้ราคาผู้ใหญ่ที่ 14265 บาท ราคาเด็ก 11755 และทารก 1530 บาทครับ
เริ่มการเดินทางเลยนะครับ เรามาถึงสนามบินล่วงหน้า 3 ชั่วโมงแต่กระนั้นคิวก็ยาวมาก เนื่องจากมีเด็กเล็กเดินทางด้วย เจ้าหน้าที่จึงเรียกไป check in ช่อง Priority เมื่อได้ Boarding Pass และ Load กระเป๋าแล้ว ก็ไปเอา pocket wifi ที่เช่าไว้ แล้วไปใช้บริการ Wisdom lounge
แต่ตอนที่ไปยังเป็นเวลา 17.30 น.ยังไม่มีอาหารร้อนเพราะอาหารร้อนจะเริ่มตอน 18.30 น. แต่เราไม่ทันเพราะเป็นเวลา boarding แล้ว เลยทานได้แต่ของทานเล่นและไปทานบนเครื่องเอา Wisdom Lounge อยู่ concourse A แต่เรา board ที่ F2
ช่วงที่เดินทาง Citibank มีให้แลก Subway ฟรี พร้อมน้ำดื่ม เลยแวะไปแลกมาด้วยเก็บไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทาง (ร้าน Subway อยู่ตรง concourse B)
เรารีบเดินและเข็นรถมาที่เกต F2 เครื่องบินมารอเราแล้ว มีเวลาอีกนิดหน่อยก็ให้ลูกชายคนโตกินอาหารตรงใน Gate ก่อนจะ boarding
การเรียก boarding จะเรียกชั้นธุรกิจและผู้ที่เดินทางพร้อมเด็กกับ wheel chair ขึ้นเครื่องก่อน และการ boarding เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากกว่าจะเริ่ม board ก็เกือบทุ่มนึงแล้ว
Flight Information
Date: 10 APR 2016
Route: BKK-HAN
Airlines: Vietnam Airline
Flight: VN 612
From: Suvarnabhumi Airport (BKK)
To: Noi Bai International Airport (HAN)
Gate: F2
Depart Time: 19.05 (actual 19.20)
Arrive Time: 20:55 (actual 21.31)
Duration: 1h 50m
Aircraft: Airbus A321
Class: Economy Class
Seat: 29A 29B 29C
เครื่องบินแบบ A321 ก็ให้อารมณ์แบบนั่งบางกอกแอร์เพราะเป็นเบาะผ้า นั่งสบายดีครับ ขาออกไปฮานอยลูกชายหลับ แต่เราสั่ง Child meal ไว้เลยได้ก่อนแต่เจ้าตัวหลับ คุณแม่ผู้รอบคอบก็เตรียมอุปกรณ์ใส่อาหารมาเก็บไว้ให้
Child meal วันนี้มาจากครัวการบินไทยประกอบไปด้วยแฮมเบอร์เกอร์หมู chocolate cake ผลไม้และขนมปัง
อาหารปรกติมี 2 อย่างคือ ข้าวกับห่อหมกไก่ และบะหมี่กับเนื้อ เครื่องเตียงเป็นยำหมูย่าง ของหวานน่าจะเป็นตะโก้ครับ มาพร้อมขนมปัง
ลูกชายชอบกินข้าวก็เลยเอาข้าวของคุณแม่ใส่แล้วเอาแฮมเบอร์เกอร์โปะข้างบนให้กินที่สนามบินฮานอย
ลูกสาวคนเล็กไม่ยอมนอนเลยคุณแม่ต้องกินไปอุ้มไปและแบ่งมาให้ผมอุ้มบ้าง
บินไม่นานก็เตรียมตัวลงจอดที่ฮานอย แต่ก็มีเหตุอะไรไม่ทราบก่อนเครื่องจะลงกางล้อแล้วอยู่ดีๆ กัปตันก็ go around เร่งเครื่องขึ้นแล้วเชิดหัวขึ้นก่อนจะมาร่อนลงจอดอย่างปลอดภัย แต่ก็เบรคแรงมากเช่นกัน
เครื่องบินจอดที่หลุมจอดซึ่งเป็น Bus Gate เลยต้องหอบกันลงมาเป็นคนสุดท้ายทางประตูด้านหลัง
เมื่อรถบัสเข้าในอาคารก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 2 ซึ่งเป็น transit area และ immigration แต่วันนี้เราจอง VATC SleepPod ที่อยู่ด้านนอกไว้ เลยต้องมาติดต่อเอารถเข็นจาก counter transit area ซึ่งกว่าจะคุยกันรู้เรื่องและได้รถเข็นก็ปาเข้าไป 4 ทุ่มครึ่งทำให้เราไปถึง SleepPod ช้า
การไป VATC SleepPod เราต้องผ่าน immigration ออกมาครับ สำหรับคนไทยไม่มีปัญหาเพราะสามารถเข้าเวียดนามได้ 30 วัน หลังปั้ม passport ก็ลงลิฟท์มาที่รับกระเป๋าแต่เราไม่มีก็ผ่านมาเลย ผ่าน custom และออกมาขี้นลิฟท์มาชั้น 2 แล้วก็ไปทางขวาของสนามบินก็จะเจอ เราจองไว้ 2 ชั่วโมงแบบ Prepaid ไม่มีการคืนเงินนะครับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 600 บาท ก็ใช้เท่านั้น ในนั้นเหมือนกับตู้ capsule hotel หรือตู้รถไฟชั้น 1 แต่เล็กกว่าเป็นเตียง 2 ชั้นและมีทีเดินเล็กๆ ตอนแรกอากาศในห้องร้อนมากต้องเปิดประตูให้แอร์เข้ามา จนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้โทรบอกศูนย์ควบคุมให้เร่งแอร์ให้ สรุปลูกได้นอนไป 1 ชั่วโมง ในนั้นมีขนมเหมือน Euro custard กับ Choco pie ให้กินพร้อมน้ำดื่มขวดเล็ก 2 ขวด (ซึ่งผมสามารถเอาผ่านด่านตรวจไปได้ ดูเหมือนที่สนามบินนี้ไม่เคร่งครัดเรื่องของเหลวหรือเพราะมีเด็กด้วยก็ไม่ทราบ)
ตอนเที่ยงคืนกว่าเราก็เตรียมเก็บของเอาลูกออกมาใส่รถเข็น เข้าห้องน้ำและพาขึ้นไป departure hall ชั้น 3 เพื่อผ่าน immigration ไปขึ้นเครื่องที่ Gate 24 ไม่ไกลมาก
ที่หน้าเกตก็เอารถเข็นมาติด Tag เพื่อ Load ขึ้นเครื่องไปนาริตะ อีกคันเป็นแบบพับได้ใส่ใน cabin ได้ ก็พับแล้วหิ้วไป
เราได้ที่นั่งหน้าสุดคือแถว 5 เพราะขอ Bassinet ไว้ครับ ที่นั่งด้านหน้ามีทีวางขากว้างนั่งสบายมาก จริง Flight นี้ควรจะเป็น Boeing 787-9 แต่เนื่องจากคนเยอะมากน่าจะมีการเปลียนเป็น A330-200 ครับ Seat configuration เลยเป็น 2-4-2 เราได้ 3 ที่ เครื่องเต็มลำครับ มีเเต่คนไทยเกือบทั้งลำครับ
Flight Information
Date: 11 APR 2016
Route: HAN-NRT
Airlines: Vietnam Airline
Flight: VN 310
From: Noi Bai International Airport (HAN)
To: Narita International Airport (NRT)
Gate: 24
Depart Time: 01.05 (actual 01.00)
Arrive Time: 07:35 (actual 07.30)
Duration: 4h 30m
Aircraft: Airbus A330-200
Class: Economy Class
Seat: 5D 5E 5F (ตอนหลังแลกกับคน 5G เพราะ รูใส่ Bassinet ตรง 5D ใช้ไม่ได้)
ก่อนเครื่องขึ้นก็มีการแจกผ้าเย็นเป็นซองให้ ไม่ได้เป็นผ้าร้อนเหมือนสายการบินอื่น
เครื่องบินเเบบ A330-200 มี PTV ทุกที่นั่งนะครับ สำหรับไฟลต์กลางคืนก็จะมีผ้าห่มเเละหมอน พร้อมหูฟังให้บริการนะครับ
และหลังเครื่องบินขึ้นไม่นานก็ทำการเสริฟ์อาหารเลย โดยเที่ยวบินนี้ก็มีการแจกเมนูอาหารให้โดยมี 2 อย่างให้เลือกคือ Japanese style กับ Western Style ซึ่งเราเลือก Japanese ทั้งคู่เพราะ Western เป็น omelet ไม่มีใครชอบ เลยไม่มีรูป
ส่วน child meal นั้นเป็นข้าวต้มหมู มาพร้อมนมและน้ำส้ม
อาหารปรกติที่เป็นแบบญี่ปุ่นจะเป็นข้าวกับไก่ทอดราดซอสแบบญี่ปุ่น มาพร้อมเครื่องเคียงคือเต้าหู้ และผักดอง
Fried Chicken Japanese style, Steamed rice, simmered vegetables
Tofu with chopped chive, fish paste ,simmered white raddish
Croissant, butter and strawberry jam
Fresh fruit
สำหรับเด็กเล็กเค้าจะเอา Bassinet มาติดให้หลังเครื่องขึ้น เมื่อติดเสร็จก็เอาผ้าห่มปู และเมื่อเด็กหลับก็เอาแถบที่อยู่ด้านข้างมารูดซิปเป็นเข็มขัดให้กันหลุดลอยเวลาเครื่องตกหลุมอากาศครับ คนเล็กดูดนมหลับก่อนเครื่องขึ้นจนเครื่องลงที่นาริตะ
คนโตหลับหลังเครื่องขึ้นแป้บเดียว มื้อนี้พ่อแม่เลยทานสบายเลย เช่นเคยครับเรามีกระติกใส่อาหาร อันเดิม ก็เอามาใส่ข้าวต้มให้ลูกไปทานตอนเช้าได้อีกและเก็บนมกับน้ำส้มไว้ให้ด้วย
หลังจากเก็บถาดก็เหลือเวลาบินอีกเกือบ 3 ชั่วโมง เราก็หลับกันไปบ้างจนอีก 20 นาทีเครื่องลงแอร์ก็มาเก็บ Bassinet เเละเตรียมตัว landing ที่สนามบินนาริตะ เครื่องส่ายระหว่าง landing เพราะลมเเรงหรือไม่ก็ไม่ทราบเเต่ตอนเบรคก็เเรงพอสมควรครับ
เครื่องมาเทียบที่ North Wing Terminal 1 เเล้วเราก็ออกจากเครื่อง ก่อนจะไปเราขอรถเข็นที่หน้าประตูเครื่องเเต่เเอร์ยืนยันจะให้เอาที่ Baggage Claim ก็เลยต้องเสียงเเข็ง เเล้วก็เอา Tag ยื่นให้ แอร์ติดต่อ Ground staff เเล้วเราก็ได้รถเข็นมาพร้อมไปคาวากุจิโกะครับ
สรุปสายการบินเวียดนามเเอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่ดีเเต่เรื่องความปลอดภัยหละหลวมมาก การบริการดีระดับนึงเเต่การใส่ใจสู้แอร์ไทยไม่ได้ครับ
เครื่องบินมาญี่ปุ่นน่าจะเฉพาะโตเกียวดี เพราะบินเครื่องใหญ่ อาหารอร่อยสมราคาเเล้วครับ
ให้ 4 เต็ม 5 ครับ
ก่อนปิดท้ายรีวิวนี้ขอเเถมภาพที่ได้พาลูกๆไปเที่ยวมาด้วยนะครับ
Kawaguchiko station
Lake Kawaguchiko and Fuji San
Fuji San
Chureito pagoda
ซากุระที่ Fuji Reien
Lake Yamanakako
Thomas land ที่ Fuji Q
Odaiba
Ueno Zoo
จบสำหรับขาไปนะครับหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยนะครับสำหรับคนที่จะใช้เวียดนามเเอร์ไลน์ครับ
[CR] Review พาเด็กเล็กขึ้นเครื่อง VIETNAM AIRLINE เส้นทาง BKK-HAN-NRT แถมรีวิว VTAC SleepPod ที่สนามบินนอยไบ
สวัสดีครับ การรีวิวการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเดินทางไปกัน 4 คนพ่อแม่ ลูกชายอายุ 3 ขวบ 9 เดือน และลูกสาวอายุ 8 เดือน ไปตะลุยคาวากุจิโกะและโตเกียว
การเดินทางครั้งนี้ใช้บริการของเวียดนามแอร์ไลน์ สายการบินที่กำลังโด่งดังในหมู่คนไทยเพราะราคาไม่แพงและเป็น Full Service โหลดกระเป๋าได้ 30 กิโลกรัม ราคาที่ผมได้ช่วงสงกรานต์ไม่ใช่ราคาที่ถูกสุดแต่ก็พอรับได้เนื่องจากไปช่วงเทศกาล เพราะหลายคนที่เจอบนเครื่องได้ราคา 9000 กว่า แต่ผมได้ราคาผู้ใหญ่ที่ 14265 บาท ราคาเด็ก 11755 และทารก 1530 บาทครับ
เริ่มการเดินทางเลยนะครับ เรามาถึงสนามบินล่วงหน้า 3 ชั่วโมงแต่กระนั้นคิวก็ยาวมาก เนื่องจากมีเด็กเล็กเดินทางด้วย เจ้าหน้าที่จึงเรียกไป check in ช่อง Priority เมื่อได้ Boarding Pass และ Load กระเป๋าแล้ว ก็ไปเอา pocket wifi ที่เช่าไว้ แล้วไปใช้บริการ Wisdom lounge
แต่ตอนที่ไปยังเป็นเวลา 17.30 น.ยังไม่มีอาหารร้อนเพราะอาหารร้อนจะเริ่มตอน 18.30 น. แต่เราไม่ทันเพราะเป็นเวลา boarding แล้ว เลยทานได้แต่ของทานเล่นและไปทานบนเครื่องเอา Wisdom Lounge อยู่ concourse A แต่เรา board ที่ F2
ช่วงที่เดินทาง Citibank มีให้แลก Subway ฟรี พร้อมน้ำดื่ม เลยแวะไปแลกมาด้วยเก็บไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทาง (ร้าน Subway อยู่ตรง concourse B)
เรารีบเดินและเข็นรถมาที่เกต F2 เครื่องบินมารอเราแล้ว มีเวลาอีกนิดหน่อยก็ให้ลูกชายคนโตกินอาหารตรงใน Gate ก่อนจะ boarding
การเรียก boarding จะเรียกชั้นธุรกิจและผู้ที่เดินทางพร้อมเด็กกับ wheel chair ขึ้นเครื่องก่อน และการ boarding เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากกว่าจะเริ่ม board ก็เกือบทุ่มนึงแล้ว
Flight Information
Date: 10 APR 2016
Route: BKK-HAN
Airlines: Vietnam Airline
Flight: VN 612
From: Suvarnabhumi Airport (BKK)
To: Noi Bai International Airport (HAN)
Gate: F2
Depart Time: 19.05 (actual 19.20)
Arrive Time: 20:55 (actual 21.31)
Duration: 1h 50m
Aircraft: Airbus A321
Class: Economy Class
Seat: 29A 29B 29C
เครื่องบินแบบ A321 ก็ให้อารมณ์แบบนั่งบางกอกแอร์เพราะเป็นเบาะผ้า นั่งสบายดีครับ ขาออกไปฮานอยลูกชายหลับ แต่เราสั่ง Child meal ไว้เลยได้ก่อนแต่เจ้าตัวหลับ คุณแม่ผู้รอบคอบก็เตรียมอุปกรณ์ใส่อาหารมาเก็บไว้ให้
Child meal วันนี้มาจากครัวการบินไทยประกอบไปด้วยแฮมเบอร์เกอร์หมู chocolate cake ผลไม้และขนมปัง
อาหารปรกติมี 2 อย่างคือ ข้าวกับห่อหมกไก่ และบะหมี่กับเนื้อ เครื่องเตียงเป็นยำหมูย่าง ของหวานน่าจะเป็นตะโก้ครับ มาพร้อมขนมปัง
ลูกชายชอบกินข้าวก็เลยเอาข้าวของคุณแม่ใส่แล้วเอาแฮมเบอร์เกอร์โปะข้างบนให้กินที่สนามบินฮานอย
ลูกสาวคนเล็กไม่ยอมนอนเลยคุณแม่ต้องกินไปอุ้มไปและแบ่งมาให้ผมอุ้มบ้าง
บินไม่นานก็เตรียมตัวลงจอดที่ฮานอย แต่ก็มีเหตุอะไรไม่ทราบก่อนเครื่องจะลงกางล้อแล้วอยู่ดีๆ กัปตันก็ go around เร่งเครื่องขึ้นแล้วเชิดหัวขึ้นก่อนจะมาร่อนลงจอดอย่างปลอดภัย แต่ก็เบรคแรงมากเช่นกัน
เครื่องบินจอดที่หลุมจอดซึ่งเป็น Bus Gate เลยต้องหอบกันลงมาเป็นคนสุดท้ายทางประตูด้านหลัง
เมื่อรถบัสเข้าในอาคารก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 2 ซึ่งเป็น transit area และ immigration แต่วันนี้เราจอง VATC SleepPod ที่อยู่ด้านนอกไว้ เลยต้องมาติดต่อเอารถเข็นจาก counter transit area ซึ่งกว่าจะคุยกันรู้เรื่องและได้รถเข็นก็ปาเข้าไป 4 ทุ่มครึ่งทำให้เราไปถึง SleepPod ช้า
การไป VATC SleepPod เราต้องผ่าน immigration ออกมาครับ สำหรับคนไทยไม่มีปัญหาเพราะสามารถเข้าเวียดนามได้ 30 วัน หลังปั้ม passport ก็ลงลิฟท์มาที่รับกระเป๋าแต่เราไม่มีก็ผ่านมาเลย ผ่าน custom และออกมาขี้นลิฟท์มาชั้น 2 แล้วก็ไปทางขวาของสนามบินก็จะเจอ เราจองไว้ 2 ชั่วโมงแบบ Prepaid ไม่มีการคืนเงินนะครับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 600 บาท ก็ใช้เท่านั้น ในนั้นเหมือนกับตู้ capsule hotel หรือตู้รถไฟชั้น 1 แต่เล็กกว่าเป็นเตียง 2 ชั้นและมีทีเดินเล็กๆ ตอนแรกอากาศในห้องร้อนมากต้องเปิดประตูให้แอร์เข้ามา จนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้โทรบอกศูนย์ควบคุมให้เร่งแอร์ให้ สรุปลูกได้นอนไป 1 ชั่วโมง ในนั้นมีขนมเหมือน Euro custard กับ Choco pie ให้กินพร้อมน้ำดื่มขวดเล็ก 2 ขวด (ซึ่งผมสามารถเอาผ่านด่านตรวจไปได้ ดูเหมือนที่สนามบินนี้ไม่เคร่งครัดเรื่องของเหลวหรือเพราะมีเด็กด้วยก็ไม่ทราบ)
ตอนเที่ยงคืนกว่าเราก็เตรียมเก็บของเอาลูกออกมาใส่รถเข็น เข้าห้องน้ำและพาขึ้นไป departure hall ชั้น 3 เพื่อผ่าน immigration ไปขึ้นเครื่องที่ Gate 24 ไม่ไกลมาก
ที่หน้าเกตก็เอารถเข็นมาติด Tag เพื่อ Load ขึ้นเครื่องไปนาริตะ อีกคันเป็นแบบพับได้ใส่ใน cabin ได้ ก็พับแล้วหิ้วไป
เราได้ที่นั่งหน้าสุดคือแถว 5 เพราะขอ Bassinet ไว้ครับ ที่นั่งด้านหน้ามีทีวางขากว้างนั่งสบายมาก จริง Flight นี้ควรจะเป็น Boeing 787-9 แต่เนื่องจากคนเยอะมากน่าจะมีการเปลียนเป็น A330-200 ครับ Seat configuration เลยเป็น 2-4-2 เราได้ 3 ที่ เครื่องเต็มลำครับ มีเเต่คนไทยเกือบทั้งลำครับ
Flight Information
Date: 11 APR 2016
Route: HAN-NRT
Airlines: Vietnam Airline
Flight: VN 310
From: Noi Bai International Airport (HAN)
To: Narita International Airport (NRT)
Gate: 24
Depart Time: 01.05 (actual 01.00)
Arrive Time: 07:35 (actual 07.30)
Duration: 4h 30m
Aircraft: Airbus A330-200
Class: Economy Class
Seat: 5D 5E 5F (ตอนหลังแลกกับคน 5G เพราะ รูใส่ Bassinet ตรง 5D ใช้ไม่ได้)
ก่อนเครื่องขึ้นก็มีการแจกผ้าเย็นเป็นซองให้ ไม่ได้เป็นผ้าร้อนเหมือนสายการบินอื่น
เครื่องบินเเบบ A330-200 มี PTV ทุกที่นั่งนะครับ สำหรับไฟลต์กลางคืนก็จะมีผ้าห่มเเละหมอน พร้อมหูฟังให้บริการนะครับ
และหลังเครื่องบินขึ้นไม่นานก็ทำการเสริฟ์อาหารเลย โดยเที่ยวบินนี้ก็มีการแจกเมนูอาหารให้โดยมี 2 อย่างให้เลือกคือ Japanese style กับ Western Style ซึ่งเราเลือก Japanese ทั้งคู่เพราะ Western เป็น omelet ไม่มีใครชอบ เลยไม่มีรูป
ส่วน child meal นั้นเป็นข้าวต้มหมู มาพร้อมนมและน้ำส้ม
อาหารปรกติที่เป็นแบบญี่ปุ่นจะเป็นข้าวกับไก่ทอดราดซอสแบบญี่ปุ่น มาพร้อมเครื่องเคียงคือเต้าหู้ และผักดอง
Fried Chicken Japanese style, Steamed rice, simmered vegetables
Tofu with chopped chive, fish paste ,simmered white raddish
Croissant, butter and strawberry jam
Fresh fruit
สำหรับเด็กเล็กเค้าจะเอา Bassinet มาติดให้หลังเครื่องขึ้น เมื่อติดเสร็จก็เอาผ้าห่มปู และเมื่อเด็กหลับก็เอาแถบที่อยู่ด้านข้างมารูดซิปเป็นเข็มขัดให้กันหลุดลอยเวลาเครื่องตกหลุมอากาศครับ คนเล็กดูดนมหลับก่อนเครื่องขึ้นจนเครื่องลงที่นาริตะ
คนโตหลับหลังเครื่องขึ้นแป้บเดียว มื้อนี้พ่อแม่เลยทานสบายเลย เช่นเคยครับเรามีกระติกใส่อาหาร อันเดิม ก็เอามาใส่ข้าวต้มให้ลูกไปทานตอนเช้าได้อีกและเก็บนมกับน้ำส้มไว้ให้ด้วย
หลังจากเก็บถาดก็เหลือเวลาบินอีกเกือบ 3 ชั่วโมง เราก็หลับกันไปบ้างจนอีก 20 นาทีเครื่องลงแอร์ก็มาเก็บ Bassinet เเละเตรียมตัว landing ที่สนามบินนาริตะ เครื่องส่ายระหว่าง landing เพราะลมเเรงหรือไม่ก็ไม่ทราบเเต่ตอนเบรคก็เเรงพอสมควรครับ
เครื่องมาเทียบที่ North Wing Terminal 1 เเล้วเราก็ออกจากเครื่อง ก่อนจะไปเราขอรถเข็นที่หน้าประตูเครื่องเเต่เเอร์ยืนยันจะให้เอาที่ Baggage Claim ก็เลยต้องเสียงเเข็ง เเล้วก็เอา Tag ยื่นให้ แอร์ติดต่อ Ground staff เเล้วเราก็ได้รถเข็นมาพร้อมไปคาวากุจิโกะครับ
สรุปสายการบินเวียดนามเเอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่ดีเเต่เรื่องความปลอดภัยหละหลวมมาก การบริการดีระดับนึงเเต่การใส่ใจสู้แอร์ไทยไม่ได้ครับ
เครื่องบินมาญี่ปุ่นน่าจะเฉพาะโตเกียวดี เพราะบินเครื่องใหญ่ อาหารอร่อยสมราคาเเล้วครับ
ให้ 4 เต็ม 5 ครับ
ก่อนปิดท้ายรีวิวนี้ขอเเถมภาพที่ได้พาลูกๆไปเที่ยวมาด้วยนะครับ
Kawaguchiko station
Lake Kawaguchiko and Fuji San
Fuji San
Chureito pagoda
ซากุระที่ Fuji Reien
Lake Yamanakako
Thomas land ที่ Fuji Q
Odaiba
Ueno Zoo
จบสำหรับขาไปนะครับหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยนะครับสำหรับคนที่จะใช้เวียดนามเเอร์ไลน์ครับ