มาถึงตอน 30 กันแล้วนะครับ
เอาจริงตอนนี้เป็นตอนที่ตัดน้อยมากเลยแฮะ เนื้อหาหลักๆ ตอนนี้คงเดิมไว้เกือบหมด เว้นแต่พวกเนื้อหายิบย่อยที่เขียนไว้ในฉบับมังงะ (แต่ไม่จำเป็นต้องเอามาเล่าในภาคอนิเม เช่น ฉากฮะกุเม็งปลอมตัวเป็นเจียเม่ยไปหลอกคนอื่นนอกจากอาซึซาวะ ฯลฯ) หรือพวกตัวละครที่ไม่สำคัญต่อบทอย่างลุงสรยุทธ์ (นักข่าวที่ตามเจาะข่าวพวกเจ้าโอะมาตลอดช่วงหลังของเรื่อง...จริงๆ แกไม่ได้ชื่อสรยุทธ์หรอก แค่สปอยล์เล่มจบสมัยก่อนเรียกแบบนั้นผมเลยเผลอเรียกตาม) นอกจากนั้นยังมีการปรับบทบางส่วนให้สมจริงขึ้นอีกต่างหาก
เรียกว่าเป็นตอนที่เกลาให้เนื้อหาเรียบขึ้นก็ว่าได้...ถึงไอ้ส่วนที่เกลาออกไปจะทำให้อ่านสนุกสู้ต้นฉบับแรกไม่ได้ก็เถอะ
แถมภาพลุงสรยุทธ์ นักข่าวที่ตามข่าวเรื่องเจ้าโอะกับโทร่าอยู่ตลอด
เดิมทีลุงแกจะมีบทช่วยเจ้าโอะให้ไปหาพวก HAMMR ในตอนนี้ และได้มีบทไปรายงานสดภาคสนามในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับฮะกุเม็งด้วย แต่ในภาคอนิเมตัดบทลุงแกหมด...ซึ่งก็เข้าใจแฮะ เพราะมันจะทำให้บทยืดยาดเกินกว่าจะทำอนิเมได้
ฉากสำคัญในตอนนี้
เริ่มจากฉากแรก
ฮะกุเม็งปลอมตัวเป็นเจียเม่ยมาหลอกอาซึซาวะให้ส่งกองเรือดำน้ำไปทำลายเสาหินที่แม่เจ้าโอะอยู่เพื่อทำลายผนึกให้หลุดเร็วขึ้น
ฉากที่สอง
ฉากนางาเระปรากฏตัวมาขวางรถฮัมวีของกองกำลังป้องกันตนเองที่เจ้าโอะนั่งไปหาลุงนักวิทย์ H.A.M.M.R. (เล็กน้อยเกี่ยวกับบทตรงนี้ ตามเรื่องเดิมในมังงะลุงนักข่าวจะเป็นคนพาเจ้าโอะไปหา อันนี้เปลี่ยนบทให้ทางพวกลุงนักวิทย์ส่งคนมารับตัวเจ้าโอะถึงบ้านเลย)
ฉากนี้จำได้ว่าตอนอ่านทีแรกเล่นเอาอึ้งหน่อยๆ เหมือนกัน เพราะเรียกว่าพลิกล็อคกันหัวทิ่มเลยที่ตัวละครสายลูกพี่ที่เจ้าโอะนับถือกลายมาเป็นศัตรูดื้อๆ แบบนี้ (ถึงโดยส่วนตัวแอบคิดว่าบทของนางาเระนี่ดูแถไม่เนียนยังไงชอบกลก็เถอะ แต่ก็พอมองว่าสมเหตุสมผลได้บ้าง ถึงจะมีจุดที่ยังไงก็ตะหงิดๆ อยู่ดีก็เถอะ)
ฉากที่สาม
การปรากฏตัวอีกครั้งของลุงๆ นักวิทย์แห่ง H.A.M.M.R. ที่ปัจจุบันมาร่วมมือกับหน่วยรับมือภัยพิบัติเหนือธรรมชาติของกองกำลังป้องกันตนเองแล้ว
ฉากนี้ตอนอ่านทีแรกนี่หลอนเลยแฮะ กับพวกแก๊งค์ภูตพรายที่สุมๆ บนหัวลุงแกนั่น
จุดแก้บทสำคัญของเรื่อง
ในเรื่องเดิมจะให้พวกนักบวชนิกายโคฮะร่ายเวททำให้ตัวเองเป็นหินเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองโดนภูตพรายกินความทรงจำของตัวเอง
แต่ในภาคอนิเมมีการแก้ไขบทใหม่ให้พวกนักบวชทุกคนโดนภูตพรายกินความทรงจำจนลืมเรื่องเจ้าโอะกับโทร่าเช่นกัน เลยเกิดสิ้นหวังจนใช้เวทผนึกตัวให้เป็นหินเพื่อนกันไม่ให้ฮะกุเม็งได้ความกลัวของพวกตัวเองไปบัฟพลังจนกว่าจะถึงวันต่อสู้ครั้งสุดท้าย
เครื่องสั่นอนุภาคคิลเลี่ยนขนาดยักษ์
คีย์ไอเทมสำคัญสำหรับศึกปราบฮะกุเม็งในครั้งนี้
ไอเทมสำคัญอีกชิ้นที่เจ้าโอะได้มาจากลุงนักวิทย์
เกราะที่ปีศาจตะขาบหินเคยสิงสู่ (ปีศาจตายไปแล้วแต่เกราะยังมีฤทธิ์อยู่ พวกลุงนักวิทย์เลยเอามาดัดแปลงจนใช้เป็นเกราะให้เจ้าโอะใส่ได้)
ฉากแอบฮาในตอนนี้
ลุงนักวิทย์ท้าชกเจ้าโอะเคลียร์บัญชีที่เคยมีเรื่องกันครั้งก่อนหลังปราบฮะกุเม็งเสร็จ
ฉากสำคัญอีกฉากในตอนนี้
อาซาโกะหนีออกจากโรงพยาบาลมาตามหาเจ้าโอะในเมือง
อันนี้เป็นฉากสำคัญเหมือนกันแฮะ อยากรู้ว่าใครจะมาเจออาซาโกะแทนแก๊งค์เด็กมหาลัยที่โดนตัดไป (ในฉบับมังงะอาซาโกะจะได้คาตายาม่า คางามิ กับอายูมิ แก๊งค์เด็กมหาลัยที่เจอระหว่างทางไปฮอกไกโดช่วยไว้ แต่ในอนิเมแก๊งค์นี้โดนตัดบทไปแล้ว ไม่รู้จะหาใครมาแทนเหมือนกัน)
ศัตรูใหม่ที่พวกเจ้าโอะต้องเจอหลังจากกลับบ้านมาเอาของจัดของให้เรียบร้อย
ภูตพรายโคคุเอ็นรุ่นใหม่ที่สามารถยิงเลเซอร์ได้เหมือนเบต้าชั้นเลเซอร์คลาส รุนแรงขนาดทำลายรูปปั้นหินอาซาฟุเซะจนราบได้ในพริบตา
สร้างความลำบากให้กับเจ้าโอะกับโทร่าเป็นอย่างมาก
แต่พอเจอเจ้าโอะติดเกราะเทพเข้าไป สถานการณ์ก็พลิกกลับทันควัน
อนึ่ง เกราะใหม่นี่เหมาะกับเจ้าโอะดีแฮะ เพราะเดิมทีเจ้าโอะนี่คล่องตัว พลังโจมตีสูง อัตรา Regen สูงก็จริง แต่พลังป้องกันต่ำโคตรๆ ได้เกราะเบาแต่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันเยอะๆ แถมยังติดอบิลิตี้ช่วยโจมตีศัตรูที่เข้าใกล้ได้แบบนี้ค่อยปิดจุดอ่อนเรื่องพลังป้องกันต่ำได้หน่อย (เสียดายตัดฉากโชว์ความแกร่งสะท้อนเลเซอร์ของพวกเลเซอร์คลาสไป)
พวกเลเซอร์คลาสเลยเปลี่ยนวิธีสู้ใหม่ ใช้หนามแหลมที่สามารถชอนไชเข้าไประหว่างเกราะได้เข้าสู้จนเจ้าโอะกระดิกตัวไม่ออก
โดนอัดจวนจะแพ้อยู่แล้ว เดชะบุญพวกอาซาฟุเซะที่นึกว่าตายไปแล้วกลายร่างเป็นเกราะใหม่ให้โทร่าสวมใส่ ยิงถล่มพวกเลเซอร์คลาสจนเละในชุดเดียว
อนึ่ง ถ้าเกราะเจ้าโอะเพิ่มพลังป้องกัน เกราะอาซาฟุเซะของโทร่านี่ก็เหมือนเกราะบัฟพลังโจมตีเลยแฮะ บัฟทั้งพลังโจมตี พลังเวท พลังจิตต่อสู้ แถมมีท่าพิเศษของอาซาฟุเซะให้ใช้อีกต่างหาก
ของสำคัญประจำตัวเจ้าโอะ
ลด + เปลี่ยนไปเยอะเลยแฮะ
เวอร์ชั่นใหม่ (ภาพวาดเรย์โกะ (ไม่ได้อยู่ในภาพนี้แต่มีอยู่), มือถือของเล่นของทัตสึยะ เด็กที่เจอกันตอนสู้กับอายาคาชิที่ทะเล, ซองขนมปังครีมที่ผู้เฒ่าอสูรตะวันออกให้มาหลังกินหมด, เสื้อกับรองเท้าที่ได้มาจากแม่เจียเม่ยตอนย้อนอดีตหอก)
เวอร์ชั่นเดิม (ภามวาดเรย์โกะ, วิทยุของทัตสึยะ, ข้าวปั้นไม่มีวันหมด + ไม่บูดไม่เสียที่ได้จากผู้เฒ่าอสูรตะวันออก, เสื้อโค้ทของลุงยากูซ่าตอนสู้กับหมอกปีศาจ, เสื้อกับรองเท้าที่ได้มาจากแม่เจียเม่ย)
เห็นแบบนี้แล้วได้แต่คิดว่าอะไรๆ มันก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุค + ความเหมาะสมละนะ
และฉากที่ฮาที่สุดในตอนนี้
ฉากจำอวดคั่นเวลาในห้องใต้ดินของเจ้าโอะกับโทร่า
ดูเผินๆ เหมือนเขียนมาเพื่ออะไร แต่พอมาอ่านเอาตอนนี้แล้วแอบรู้สึกแฮะ ว่าฉากนี้มันสื่อถึงความเชื่อใจและความรู้ใจที่เจ้าโอะกับโทร่ามีให้กันได้ชัดเจนเลย
หลังกลับมาจัดการทุกอย่างที่เหลืออยู่ในบ้านจนเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ก้าวไปสู่หนทางที่ไม่อาจถอยหลังด้วยใจมุ่งมั่นอีกครั้ง
ไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติมแล้วแฮะ เพราะพูดไปข้างบนกับในเนื้อหาเกือบหมดแล้ว
เอาเป็นว่าตอนหน้ามารอดูละกันครับว่าในตอนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใครจะเป็นตัวกลางพาอาซาโกะไปเจอกับพวกลุงนักวิทย์แทนพวกแก๊งค์เด็กมหาวิทยาลัย ก่อนจะไปเจอเจ้าโอะก่อนเรือดำน้ำออกอีกที จนเป็นที่มาของฉากนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"อาซาโกะ ซารังแฮ"
คงต้องรอดูตอนหน้า
"สู่ท้องทะเลอันบ้าคลั่ง" ละครับ
[Spoil] ล่าอสูรกาย ภาคอนิเมทีวี #30 - หนทางที่ไม่อาจถอยหลังกลับ
มาถึงตอน 30 กันแล้วนะครับ
เอาจริงตอนนี้เป็นตอนที่ตัดน้อยมากเลยแฮะ เนื้อหาหลักๆ ตอนนี้คงเดิมไว้เกือบหมด เว้นแต่พวกเนื้อหายิบย่อยที่เขียนไว้ในฉบับมังงะ (แต่ไม่จำเป็นต้องเอามาเล่าในภาคอนิเม เช่น ฉากฮะกุเม็งปลอมตัวเป็นเจียเม่ยไปหลอกคนอื่นนอกจากอาซึซาวะ ฯลฯ) หรือพวกตัวละครที่ไม่สำคัญต่อบทอย่างลุงสรยุทธ์ (นักข่าวที่ตามเจาะข่าวพวกเจ้าโอะมาตลอดช่วงหลังของเรื่อง...จริงๆ แกไม่ได้ชื่อสรยุทธ์หรอก แค่สปอยล์เล่มจบสมัยก่อนเรียกแบบนั้นผมเลยเผลอเรียกตาม) นอกจากนั้นยังมีการปรับบทบางส่วนให้สมจริงขึ้นอีกต่างหาก
เรียกว่าเป็นตอนที่เกลาให้เนื้อหาเรียบขึ้นก็ว่าได้...ถึงไอ้ส่วนที่เกลาออกไปจะทำให้อ่านสนุกสู้ต้นฉบับแรกไม่ได้ก็เถอะ
แถมภาพลุงสรยุทธ์ นักข่าวที่ตามข่าวเรื่องเจ้าโอะกับโทร่าอยู่ตลอด
เดิมทีลุงแกจะมีบทช่วยเจ้าโอะให้ไปหาพวก HAMMR ในตอนนี้ และได้มีบทไปรายงานสดภาคสนามในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับฮะกุเม็งด้วย แต่ในภาคอนิเมตัดบทลุงแกหมด...ซึ่งก็เข้าใจแฮะ เพราะมันจะทำให้บทยืดยาดเกินกว่าจะทำอนิเมได้
ฉากสำคัญในตอนนี้
เริ่มจากฉากแรก
ฮะกุเม็งปลอมตัวเป็นเจียเม่ยมาหลอกอาซึซาวะให้ส่งกองเรือดำน้ำไปทำลายเสาหินที่แม่เจ้าโอะอยู่เพื่อทำลายผนึกให้หลุดเร็วขึ้น
ฉากที่สอง
ฉากนางาเระปรากฏตัวมาขวางรถฮัมวีของกองกำลังป้องกันตนเองที่เจ้าโอะนั่งไปหาลุงนักวิทย์ H.A.M.M.R. (เล็กน้อยเกี่ยวกับบทตรงนี้ ตามเรื่องเดิมในมังงะลุงนักข่าวจะเป็นคนพาเจ้าโอะไปหา อันนี้เปลี่ยนบทให้ทางพวกลุงนักวิทย์ส่งคนมารับตัวเจ้าโอะถึงบ้านเลย)
ฉากนี้จำได้ว่าตอนอ่านทีแรกเล่นเอาอึ้งหน่อยๆ เหมือนกัน เพราะเรียกว่าพลิกล็อคกันหัวทิ่มเลยที่ตัวละครสายลูกพี่ที่เจ้าโอะนับถือกลายมาเป็นศัตรูดื้อๆ แบบนี้ (ถึงโดยส่วนตัวแอบคิดว่าบทของนางาเระนี่ดูแถไม่เนียนยังไงชอบกลก็เถอะ แต่ก็พอมองว่าสมเหตุสมผลได้บ้าง ถึงจะมีจุดที่ยังไงก็ตะหงิดๆ อยู่ดีก็เถอะ)
ฉากที่สาม
การปรากฏตัวอีกครั้งของลุงๆ นักวิทย์แห่ง H.A.M.M.R. ที่ปัจจุบันมาร่วมมือกับหน่วยรับมือภัยพิบัติเหนือธรรมชาติของกองกำลังป้องกันตนเองแล้ว
ฉากนี้ตอนอ่านทีแรกนี่หลอนเลยแฮะ กับพวกแก๊งค์ภูตพรายที่สุมๆ บนหัวลุงแกนั่น
จุดแก้บทสำคัญของเรื่อง
ในเรื่องเดิมจะให้พวกนักบวชนิกายโคฮะร่ายเวททำให้ตัวเองเป็นหินเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองโดนภูตพรายกินความทรงจำของตัวเอง
แต่ในภาคอนิเมมีการแก้ไขบทใหม่ให้พวกนักบวชทุกคนโดนภูตพรายกินความทรงจำจนลืมเรื่องเจ้าโอะกับโทร่าเช่นกัน เลยเกิดสิ้นหวังจนใช้เวทผนึกตัวให้เป็นหินเพื่อนกันไม่ให้ฮะกุเม็งได้ความกลัวของพวกตัวเองไปบัฟพลังจนกว่าจะถึงวันต่อสู้ครั้งสุดท้าย
เครื่องสั่นอนุภาคคิลเลี่ยนขนาดยักษ์
คีย์ไอเทมสำคัญสำหรับศึกปราบฮะกุเม็งในครั้งนี้
ไอเทมสำคัญอีกชิ้นที่เจ้าโอะได้มาจากลุงนักวิทย์
เกราะที่ปีศาจตะขาบหินเคยสิงสู่ (ปีศาจตายไปแล้วแต่เกราะยังมีฤทธิ์อยู่ พวกลุงนักวิทย์เลยเอามาดัดแปลงจนใช้เป็นเกราะให้เจ้าโอะใส่ได้)
ฉากแอบฮาในตอนนี้
ลุงนักวิทย์ท้าชกเจ้าโอะเคลียร์บัญชีที่เคยมีเรื่องกันครั้งก่อนหลังปราบฮะกุเม็งเสร็จ
ฉากสำคัญอีกฉากในตอนนี้
อาซาโกะหนีออกจากโรงพยาบาลมาตามหาเจ้าโอะในเมือง
อันนี้เป็นฉากสำคัญเหมือนกันแฮะ อยากรู้ว่าใครจะมาเจออาซาโกะแทนแก๊งค์เด็กมหาลัยที่โดนตัดไป (ในฉบับมังงะอาซาโกะจะได้คาตายาม่า คางามิ กับอายูมิ แก๊งค์เด็กมหาลัยที่เจอระหว่างทางไปฮอกไกโดช่วยไว้ แต่ในอนิเมแก๊งค์นี้โดนตัดบทไปแล้ว ไม่รู้จะหาใครมาแทนเหมือนกัน)
ศัตรูใหม่ที่พวกเจ้าโอะต้องเจอหลังจากกลับบ้านมาเอาของจัดของให้เรียบร้อย
ภูตพรายโคคุเอ็นรุ่นใหม่ที่สามารถยิงเลเซอร์ได้เหมือนเบต้าชั้นเลเซอร์คลาส รุนแรงขนาดทำลายรูปปั้นหินอาซาฟุเซะจนราบได้ในพริบตา
สร้างความลำบากให้กับเจ้าโอะกับโทร่าเป็นอย่างมาก
แต่พอเจอเจ้าโอะติดเกราะเทพเข้าไป สถานการณ์ก็พลิกกลับทันควัน
อนึ่ง เกราะใหม่นี่เหมาะกับเจ้าโอะดีแฮะ เพราะเดิมทีเจ้าโอะนี่คล่องตัว พลังโจมตีสูง อัตรา Regen สูงก็จริง แต่พลังป้องกันต่ำโคตรๆ ได้เกราะเบาแต่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันเยอะๆ แถมยังติดอบิลิตี้ช่วยโจมตีศัตรูที่เข้าใกล้ได้แบบนี้ค่อยปิดจุดอ่อนเรื่องพลังป้องกันต่ำได้หน่อย (เสียดายตัดฉากโชว์ความแกร่งสะท้อนเลเซอร์ของพวกเลเซอร์คลาสไป)
พวกเลเซอร์คลาสเลยเปลี่ยนวิธีสู้ใหม่ ใช้หนามแหลมที่สามารถชอนไชเข้าไประหว่างเกราะได้เข้าสู้จนเจ้าโอะกระดิกตัวไม่ออก
โดนอัดจวนจะแพ้อยู่แล้ว เดชะบุญพวกอาซาฟุเซะที่นึกว่าตายไปแล้วกลายร่างเป็นเกราะใหม่ให้โทร่าสวมใส่ ยิงถล่มพวกเลเซอร์คลาสจนเละในชุดเดียว
อนึ่ง ถ้าเกราะเจ้าโอะเพิ่มพลังป้องกัน เกราะอาซาฟุเซะของโทร่านี่ก็เหมือนเกราะบัฟพลังโจมตีเลยแฮะ บัฟทั้งพลังโจมตี พลังเวท พลังจิตต่อสู้ แถมมีท่าพิเศษของอาซาฟุเซะให้ใช้อีกต่างหาก
ของสำคัญประจำตัวเจ้าโอะ
ลด + เปลี่ยนไปเยอะเลยแฮะ
เวอร์ชั่นใหม่ (ภาพวาดเรย์โกะ (ไม่ได้อยู่ในภาพนี้แต่มีอยู่), มือถือของเล่นของทัตสึยะ เด็กที่เจอกันตอนสู้กับอายาคาชิที่ทะเล, ซองขนมปังครีมที่ผู้เฒ่าอสูรตะวันออกให้มาหลังกินหมด, เสื้อกับรองเท้าที่ได้มาจากแม่เจียเม่ยตอนย้อนอดีตหอก)
เวอร์ชั่นเดิม (ภามวาดเรย์โกะ, วิทยุของทัตสึยะ, ข้าวปั้นไม่มีวันหมด + ไม่บูดไม่เสียที่ได้จากผู้เฒ่าอสูรตะวันออก, เสื้อโค้ทของลุงยากูซ่าตอนสู้กับหมอกปีศาจ, เสื้อกับรองเท้าที่ได้มาจากแม่เจียเม่ย)
เห็นแบบนี้แล้วได้แต่คิดว่าอะไรๆ มันก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุค + ความเหมาะสมละนะ
และฉากที่ฮาที่สุดในตอนนี้
ฉากจำอวดคั่นเวลาในห้องใต้ดินของเจ้าโอะกับโทร่า
ดูเผินๆ เหมือนเขียนมาเพื่ออะไร แต่พอมาอ่านเอาตอนนี้แล้วแอบรู้สึกแฮะ ว่าฉากนี้มันสื่อถึงความเชื่อใจและความรู้ใจที่เจ้าโอะกับโทร่ามีให้กันได้ชัดเจนเลย
หลังกลับมาจัดการทุกอย่างที่เหลืออยู่ในบ้านจนเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ก้าวไปสู่หนทางที่ไม่อาจถอยหลังด้วยใจมุ่งมั่นอีกครั้ง
ไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติมแล้วแฮะ เพราะพูดไปข้างบนกับในเนื้อหาเกือบหมดแล้ว
เอาเป็นว่าตอนหน้ามารอดูละกันครับว่าในตอนหน้า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จนเป็นที่มาของฉากนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คงต้องรอดูตอนหน้า "สู่ท้องทะเลอันบ้าคลั่ง" ละครับ