มาแชร์ความแตกต่างระหว่าง "ความคิดในวัยเด็ก vs ความคิดวัยผู้ใหญ่"ของตัวเองกันค่ะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ จขกท.อยู่ปี1 กำลังจะขึ้นปี2
จขกท.ได้รู้ว่าชีวิตมหาลัยแค่ปีเดียวมันทำให้จขกท.โตขึ้นมาจริงๆ ความคิดในตอนนี้แตกต่างจากตอนเด็กๆเยอะมาก
พอโตขึ้น แล้วก็รู้ว่า
-คนที่รักเรามากที่สุดคือ พ่อ แม่ และตัวเอง
-ไม่คาดหวังอะไรจากคนอื่นแล้ว เพราะเวลาคาดหวังแล้วไม่เป็นดังที่หวังบ่อยๆก็จะรู้สึกเจ็บ พอเจ็บบ่อยๆก็จะชินชา ดังนั้นเลยเลิกคาดหวังกับคนอื่น
เลิกเรียกร้องต้องการอะไรจากใคร เช่น เราไม่คาดหวังให้เพื่อนในกลุ่มไม่นินทาเรา แบบแกอยากนินทาลับหลังอะไรก็ทำไป แต่เรายังเกาะกลุ่มกัน ให้ชั้นพอมีสังคมมหาลัยเอาไว้ทำงานกลุ่ม ตามทันข่าวสารโลก ไม่โลกแคบก็พอ
-ไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาเข้าสังคม
เช่น ความคิดบางอย่างก็แสดงออกมาไม่ได้เพราะรู้ว่าพูดออกไป ผลลัพธ์ก็มีแต่เสียต้องกล้ำกลืน โอนอ่อน ผ่อนตาม

-อยากเป็นตัวของตัวเอง เป็นได้เฉพาะตอนอยู่ในห้องเท่านั้น
-ได้รู้ว่าต่อให้เราแย่ เบื่อ ทุกข์ใจแค่ไหน ปัญหานั้นก็อยู่ที่เราคนเดียว ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกคนอื่น คนอื่นไม่มีใครช่วยได้ไม่อยากช่วย มีแค่ตัวเราเองที่ช่วยตัวเองได้
-เชื่อคำพูดใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น เพราะบางทีคำชมก็อาจเป็นเพียงคำโกหก เขาไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ
เชื่อตัวเองดีที่สุด


สมัยก่อนเราเคยอ่านเจอคำว่า สังคมหน้ากากของพวกผู้ใหญ่ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่พอตอนนี้ เราคิดว่า เราเข้าใจคำนี้อย่างลึกซึ้ง
เพราะพอเราเป็นผู้ใหญ่ เราจำเป็นต้องสวมหน้ากากถึงแม้จะไม่อยากใส่ก็ต้องใส่ เพื่อดิ้นรนเอาชีวิตของเราให้รอด ที่ที่จะถอดหน้ากากได้คือที่บ้านที่เราอยู่คนเดียว เป็นใบหน้าที่แท้จริง
ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราอารมณ์เสีย เราไม่สามารถทำหน้าบูดบึ้งได้ พอไปมหาลัย เจอเพื่อนๆเราก็ต้องยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม เพราะถ้าเราทำหน้าบูด คนก็อาจจะไม่ชอบเรา เราก็จะไม่มีสังคม เราเลยเข้าใจว่า
ทำไมผู้ใหญ่กับคนที่มีเงิน ดูมีผลประโยชน์ก็มักจะยิ้มให้เป็นมิตร แต่ทำไมกับคนที่ด้อยกว่าคือดูคนละชั้น ดูไม่มีผลประโยชน์อะไร เช่น ลูกน้อง ถึงกล้าทำดุ ตะคอก บึ้งตึงใส่ <<<ทำให้เราเข้าใจว่า ยิ้มนั้นก็แค่หน้ากาก เพื่อผลประโยชน์ ส่วนใบหน้าที่แท้จริงก็เปิดเผยเมื่อไม่มีผลประโยชน์ก็เท่านั้น

-พอเราเจอคนมากๆก็รู้ว่า สุดท้ายชีวิตเราก็มีแค่ตัวเราเองนี่แหละที่รักและเข้าใจตัวเราเองที่สุด คนอื่นๆไม่มีหรอก อย่าคาดหวังเลย มีแค่ตัวเราเองเท่านันอะ มันทำให้เราทำทกวิถีทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง
เราเลยเข้าใจว่า ทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาเงินมากๆ ก็เพื่อเอามาให้ความสุขกับตัวเอง

-พอยิ่งโตก็ยิ่งเหงา เหมือน มันมีอยู่สองอย่างที่แบ่งแยกในชีวิตชัดเจนคือ
1.ตัวเราเอง 2.คนอื่น



ใครมีประสบการณ์อะไรอยากแชร์ก็แชร์เลยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่