ชาวเกาะพยามระนองล้มโครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะ
ชาวเกาะพยามระนองล้มโครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะ หลังมีโครงการเข้ามาโดยชาวบ้านไม่รู้มาก่อน และผู้ประกอบการไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน
วันนี้ (19 เม.ย. 2559) เวลา 10.00 น. ที่ศาลาประชาคมเกาะพยาม ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง นายพรประสิทธิ์ อิสริยะมงคล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง เป็นประธานในการประชุมชี้แจงโครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะแห่งแรกใจประเทศไทย หลังจากมีชาวเกาะพยามจำนวนหนึ่งได้ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม ถึงความไม่โปร่งใสและความไม่ชัดเจนในโครงการดังกล่าว โดยมี บริษัทสาธารณูปโภคเกาะพยาม จำกัด เข้าชี้แจง พร้อมด้วยนางอำภา แก้วยาว นายก อบต.เกาะพยาม กำนันตำบลเกาะพยาม ตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงประชาชน ผู้ประกอบการบนเกาะพยามร่วมรับฟังราว 150 คน
นายพรประสิทธิ์ อิสริยะมงคล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในวันนี้ได้เปิดการประชุมชี้แจงเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการพลังงานที่ไม่โปร่งใส และอาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จึงได้เชิญผู้ประกอบการ พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ได้มาซักถามและตอบข้อข้องใจในประเด็นต่าง ๆ
สำหรับบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ตัวแทนผู้ประกอบการได้ชี้แจงถึงเหตุผลในการนำโครงการพลังงานอัจฉริยะเข้ามาสู่เกาะพยามโดยบอกว่า ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรในการจำหน่ายไฟฟ้า แต่ต้องการสร้างโปรไฟล์หรือผลงานของบริษัท อีกทั้งต้องการให้เกาะพยามเป็นที่รู้จักและได้ประชาสัมพันธ์ได้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางความเป็นไปได้เท่านั้น ยังไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างแน่ชัดทั้งทางด้านเทคนิคและวิธีการแต่อย่างใดซึ่งในขณะนี้ทางบริษัท
ทางประชาชนผู้เข้าร่วมประชุมได้มีการตั้งคำถามหลายคำถามอาทิ สถานที่ตั้งโครงการ ขนาดของกังหันลม การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาในพื้นที่อย่างไร ความมีเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า มูลค่าการลงทุน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งด้านป่าไม้ สัตว์ป่าหายากที่เป็นจุดขายของเกาะพยามเช่น นกเงือก หรือที่อยู่ของเหยี่ยวแดง โดยผู้ประกอบการบอกเพียงว่าอยู่ในช่วงของการศึกษายังไม่สามารถระบุที่ตั้งได้ชัดเจน ส่วนการลงทุนนั้นมีมูลค่าราว 400 ล้านบาท และไม่ได้เน้นผลกำไรในการทำธุรกิจไฟฟ้า แต่ต้องการสร้างภาพลักษณ์และผลงานของบริษัทเท่านั้น
นอกจากนี้ทางชาวบ้านยังได้ยกข้อมูลทางเทคนิคมาแย้งกับการข้อมูลของผู้ประกอบการว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการให้ข้อมูลตั้งแต่ต้นไม่เป็นความจริง ทั้งเรื่องของจำนวนเสากังหันลม กำลังการผลิต รวมถึงความแรงของลมในพื้นที่ที่จะสามารถทำให้กังหันลมทำงานได้
โดยในช่วงท้ายหลังจากที่ผู้ประกอบการไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจนได้ ชาวบ้านจึงขอให้มีการยกมือโหวต และได้โหวตไม่เอาโครงการดังกล่าว และขอให้ทางภาครัฐเร่งรัดโครงการสายไฟฟ้าเคเบิ้ลใต้น้ำมาแทนที่ อีกทั้งยังบอกว่าชาวเกาะพยามไม่มีไฟฟ้าใช้มานานแล้วและยังอยู่กันได้ ซึ่งต่อไปก็คงจะรอโครงการของรัฐได้ อีกทั้งไม่อยากให้โครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะนี้มาทำลายสิ่งที่เป็นจุดขายของเกาะพยาม ทั้งความเป็นธรรมชาติ นกหายากหลายชนิด รวมถึงไม่ต้องการความเจริญอย่างเกาะภูเก็ต เกาะพงัน หรืออีกหลาย ๆ เกาะที่สร้างความเสียหายกับพื้นที่การท่องเที่ยวอย่างที่เห็นมา
ชาวบ้านเกาะพยามล้มโครงการพลังงาน อัจฉริยะแห่งแรกของประเทศไทย
ชาวเกาะพยามระนองล้มโครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะ หลังมีโครงการเข้ามาโดยชาวบ้านไม่รู้มาก่อน และผู้ประกอบการไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน
วันนี้ (19 เม.ย. 2559) เวลา 10.00 น. ที่ศาลาประชาคมเกาะพยาม ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง นายพรประสิทธิ์ อิสริยะมงคล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง เป็นประธานในการประชุมชี้แจงโครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะแห่งแรกใจประเทศไทย หลังจากมีชาวเกาะพยามจำนวนหนึ่งได้ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม ถึงความไม่โปร่งใสและความไม่ชัดเจนในโครงการดังกล่าว โดยมี บริษัทสาธารณูปโภคเกาะพยาม จำกัด เข้าชี้แจง พร้อมด้วยนางอำภา แก้วยาว นายก อบต.เกาะพยาม กำนันตำบลเกาะพยาม ตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงประชาชน ผู้ประกอบการบนเกาะพยามร่วมรับฟังราว 150 คน
นายพรประสิทธิ์ อิสริยะมงคล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในวันนี้ได้เปิดการประชุมชี้แจงเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการพลังงานที่ไม่โปร่งใส และอาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จึงได้เชิญผู้ประกอบการ พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ได้มาซักถามและตอบข้อข้องใจในประเด็นต่าง ๆ
สำหรับบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ตัวแทนผู้ประกอบการได้ชี้แจงถึงเหตุผลในการนำโครงการพลังงานอัจฉริยะเข้ามาสู่เกาะพยามโดยบอกว่า ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรในการจำหน่ายไฟฟ้า แต่ต้องการสร้างโปรไฟล์หรือผลงานของบริษัท อีกทั้งต้องการให้เกาะพยามเป็นที่รู้จักและได้ประชาสัมพันธ์ได้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางความเป็นไปได้เท่านั้น ยังไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างแน่ชัดทั้งทางด้านเทคนิคและวิธีการแต่อย่างใดซึ่งในขณะนี้ทางบริษัท
ทางประชาชนผู้เข้าร่วมประชุมได้มีการตั้งคำถามหลายคำถามอาทิ สถานที่ตั้งโครงการ ขนาดของกังหันลม การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาในพื้นที่อย่างไร ความมีเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า มูลค่าการลงทุน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งด้านป่าไม้ สัตว์ป่าหายากที่เป็นจุดขายของเกาะพยามเช่น นกเงือก หรือที่อยู่ของเหยี่ยวแดง โดยผู้ประกอบการบอกเพียงว่าอยู่ในช่วงของการศึกษายังไม่สามารถระบุที่ตั้งได้ชัดเจน ส่วนการลงทุนนั้นมีมูลค่าราว 400 ล้านบาท และไม่ได้เน้นผลกำไรในการทำธุรกิจไฟฟ้า แต่ต้องการสร้างภาพลักษณ์และผลงานของบริษัทเท่านั้น
นอกจากนี้ทางชาวบ้านยังได้ยกข้อมูลทางเทคนิคมาแย้งกับการข้อมูลของผู้ประกอบการว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการให้ข้อมูลตั้งแต่ต้นไม่เป็นความจริง ทั้งเรื่องของจำนวนเสากังหันลม กำลังการผลิต รวมถึงความแรงของลมในพื้นที่ที่จะสามารถทำให้กังหันลมทำงานได้
โดยในช่วงท้ายหลังจากที่ผู้ประกอบการไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจนได้ ชาวบ้านจึงขอให้มีการยกมือโหวต และได้โหวตไม่เอาโครงการดังกล่าว และขอให้ทางภาครัฐเร่งรัดโครงการสายไฟฟ้าเคเบิ้ลใต้น้ำมาแทนที่ อีกทั้งยังบอกว่าชาวเกาะพยามไม่มีไฟฟ้าใช้มานานแล้วและยังอยู่กันได้ ซึ่งต่อไปก็คงจะรอโครงการของรัฐได้ อีกทั้งไม่อยากให้โครงการเกาะพลังงานอัจฉริยะนี้มาทำลายสิ่งที่เป็นจุดขายของเกาะพยาม ทั้งความเป็นธรรมชาติ นกหายากหลายชนิด รวมถึงไม่ต้องการความเจริญอย่างเกาะภูเก็ต เกาะพงัน หรืออีกหลาย ๆ เกาะที่สร้างความเสียหายกับพื้นที่การท่องเที่ยวอย่างที่เห็นมา