เมื่อเกิดกระเป๋าเดินทางเกิดปัญหาระหว่างการเดินทาง ต้องทำอย่างไร

ก่อนเดินทาง
เดินทางด้วยสายการบินใด
ซื้อตั๋วโดยสารด้วยบัตรเครดิตใด
ซื้อประกันการเดินทางไว้หรือไม่

มี 3 ประเด็น คือ
1. กระเป๋าสัมภาระล่าช้า
2. กระเป๋าสัมภาระสูญหาย
3. กระเป๋าสัมภาระเสียหาย

หากกระเป๋าสัมภาระของท่านไม่ออกมาบนสายพาน สิ่งที่ต้องทำคือ

1. แจ้งเรื่องไว้ที่เคาน์เตอร์บริการกระเป๋าสัมภาระ (baggage services counter หรือ lost and found หรือ lost baggage claim) ที่ตั้งอยู่ภายในส่วนผู้โดยสารขาเข้า โดยแสดงป้ายระบุสัมภาระ (baggage tag) ที่ได้รับตอนเช็คอิน เจ้าหน้าที่จะออกตามหาว่ากระเป๋าตกหล่นตรงไหน หากเจออยู่ในสนามบินนั้นก็รับกระเป๋า จบ หากไม่เจอไปที่ข้อ 2

2. กรอกเอกสารแบบฟอร์มกับเจ้าหน้าที่ แล้วจะได้รับ หมายเลข property irregularity report (PIR) เพื่อใช้ตรวจสอบสถานะของกระเป๋าสัมภาระ ผู้โดยสารก็ไปเข้าที่พักได้ หากเจอหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะส่งไปให้ผู้โดยสารตามที่อยู่ที่ระบุใน PIR

3. กรณีได้รับกระเป๋าสัมภาระภายใน 21 วัน ถือว่า “ล่าช้า (delayed)”
3.1 ข้อกำหนดจะได้รับการชดเชยค่าเสียหาย (interim relief, IR) ในกรณีกระเป๋าล่าช้า
ยกตัวอย่าง
Air Asia (กรณีซื้อประกันเดินทางกับแอร์เอเชีย) จ่าย 2,000 บาท ในทุก ๆ 6 ชั่วโมง ที่กระเป๋าเดินทางมาถึงล่าช้า แต่ไม่เกิน 6,000 บาท
สายการบิน full service อื่น ๆ จ่ายแตกต่างกันตามระดับการเดินทาง Economy/Business/First = 50/60/70 USD จ่ายไม่เกิน 3 วัน
3.2 มีข้อยกเว้นหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น เส้นทางที่บินกลับไทย ผู้โดยสารเป็นคนที่มีที่อยู่ถาวร (permanent address) ในไทย ไม่ได้รับชดเชย

4. กรณีได้รับกระเป๋าสัมภาระหลังจาก 21 วัน ถือว่า “สูญหาย (missing)”
4.1 ข้อกำหนดจะได้รับการชดเชยในกรณีกระเป๋าสูญหาย

5. กระเป๋าสัมภาระเสียหาย
เมื่อท่านรับกระเป๋าสัมภาระที่สายพาน แล้วตรวจพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น (ควรตรวจสอบทันทีที่รับกระเป๋า ไม่เช่นนั้นทางสายการบินอาจจะปัดความรับผิดชอบได้)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่