[CR] แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น(คันไซ)คนเดียวสไตล์เพื่อนไม่คบ 11 วัน 12 คืน ด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นดิ่งเหว ยัง!!!!ยังไม่เข็ด


กระทู้ภาคจบตามลิงค์ครับ ====>http://ppantip.com/topic/35138123

เพื่อน: เฮ้ย จะไปญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนมีนาคมใช่ปะ
ผม:ใช่ๆ ทำไมเรอะ
เพื่อน: ไปกับสายการบินไหนอะ ใช่ของสะตรู๊ด รึเปล่า มีกระทู้ในพันทิปจะให้ดู
ผมรับโทรศัพท์ไอโฟนเพื่อนมาดูด้วยอารมณ์ที่สงสัยเล็กน้อย ว่าชีวิตของชั้นมันจะไปเกี่ยวอะไรในเว็ปพันทิปฟระ คว้าหมับมาดูจอไอโฟนซึ่งว่าด้วยเรื่องของกระทู้ Over Booking ของสายการบินนักลอยแพผู้โดยสารในตำนาน
ผม:……………………………………….
เพื่อน:……………………………………… สรุปสายการบินนี้สินะ
……………………………………………………………………………………………………….
วันที่ออกเดินทางมาถึงสนามบินตั้งแต่ตีห้าเลยจร้า!!!!!!

                            บอกได้เลยว่าครั้งนี้นี้ความรู้เท่าเดิม แต่เพิ่มเติมคือความมั่นใจ(แบบผิดๆ)นั้นมาเต็ม จองตั๋วเครื่องบินไว้ร่วมครึ่งปี แต่อ้อยอิ่งๆไปเรื่อยๆด้วยความมั่นใจที่ว่า บัตร JR Kansai wide pass จะเป็นแบบบัตรเดียวเปรี้ยวได้ทั้งทริปเหมือนอย่างครั้งที่ไปคันโต ข้อมูลแทบไม่ได้หาเลยจ้า ซึ่งผลกรรมของการกระทำเป็นอย่างไร ตามมาดูกันโลด

            อนึ่ง : ถ้าท่านที่รับชมแล้วมีความรุ้สึกที่ว่า "เฮ้ย เจ๋งอะ อยากไปมั่ง" ขอยกความดีความชอบให้กับสถานที่และพนักงานที่ดูแล แต่ถ้าดูแล้วรู้สึกว่า "กากจังฟระ" ข้าพเจ้าขอน้อมรับความผิดในความอ่อนด๋อยของการใช้กล้องของข้าพเจ้าเอง
            อสอง : กระทู้นี้มีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนกล้าๆกลัวๆว่าพูดญี่ปุ่นไม่ได้ซักกะคำ จะไปญี่ปุ่นได้หรือไม่ ไปเถอะครับ มันไม่ใช่ปัญหาเลย ย้ำอีกครั้ง กระทู้สร้างแรงบันดาลใจเท่านั้น อย่าลอกนะเออ สุดยอดแห่งความเละเทะอยู่ในระดับหายนะ

            หลังจากแหกขี้ตาตื่นด้วยความหลอน Overbooking จัด ไปถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ตีห้า แต่สุดท้ายต้องรอเช็คอินเปิดตอนเจ็ดโมงกว่า ชูมือขึ้นฟ้าแบบผู้ชนะพร้อมตะโกนว่า "รอดแล้วเฟร้ย!!!!"  คนตอนต่อแถวรอเช็คอินว่าเยอะแล้ว แต่พอเครื่องลงที่ญี่ปุ่นตรงด่าน ตม. คนเยอะกว่าอีกจ้าาาาา เครื่องลงตอนสี่โมงครึ่ง แต่กว่าจะผ่าน ตม. มาได้ หกโมงเย็น ให้ตายเถอะ นี่ขนาดวิ่งสับขามากะว่าเป็นคนแรกแล้วๆนะเฟร้ย
[Night 1 30 มีนาคม 2559] : Osaka
            หลังจากผ่านกองทัพ Walking Dead ที่ตม.มาได้ ก็จะมาถึงที่ทางออก Terminal 1 ซึ่งทางด้านซ้านมือจะมีที่ขายตั๋วสำหรับเข้าเมืองทั้งค่าย JR และ ค่ายอื่นๆให้เลือกสรร แต่แน่นอน เราเชื่อใจค่ายคู่สร้างคู่สมกับเรามาตั้งแต่ทริปที่แล้ว JR ชั้นเลือกนาย!!! (1060 เยน) โดยทางเข้าชานชะลาอยู่ฝั่งตรงข้ามของที่ซื้อตั๋วครับ

            นั่งรถไฟไหลมาเรื่อยๆพร้อมกับสัมภาระ 7 กิโลถ้วนมาลงที่สถานี Shin-imamiya และเดินต่อเพื่อไปฝากกระเป๋าของเราในคืนนี้ก่อนที่จะไปท่องราตรีกัน เดินมาทะลุสถานีรถไฟใต้ดิน Dobutsuen mae ออกประตู 2 หรือ 4 ก็จะเจอกับ

เมื่อเจอป้ายแล้วจะรอช้าอยู่ไย เดินเข้าไปฝากของโลด ห๊ะ เดินเข้าโรงแรมไทโย ปล่าวๆ เดินเข้าซอยที่อยู่ถัดไปตะหาก (แล้วจะให้ดูรูปเพื่อ)


หลังจากปลดปล่อยพันธนาการจากกระเป๋าเป้แล้วก็ย้อนนั่งรถไฟกลับไปที่ Numba โดยทั้งนี้จะขอแนะนำไอเท็มสามัญประจำกระเป๋าสำหรับนักเดินทางสายซุย นั่นก็คือ อืออืออือออออออ

ICOCOA CARD
หรือบัตรกวิ้นนั่นเอง โดยคุณสมบัติของบัตรรูปเพนกวินที่แสนน่ารักและน่าชัง (ซึ่งออกจะไปทางน่าชังน่าตบกะบาลซะมากกว่า) ไม่สามารถใช้เป็นส่วนลดใดๆหรือไปเบ่งแสดงแสงยานุภาพกับใครได้ มีศักดิ์เท่ากับเงินสดโง่ๆธรรมดาๆทั่วไป เอ๊า!!! แล้วข้อดีของมันคืออะไรล่ะ ข้อดีสุดเลอค่าของมันคือคุณไม่จำเป็นต้องรู้ราคาค่าเดินทางในการเดินทางในแต่ละรอบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถเมล์ ขอแค่มั่นใจว่ามีเงินเหลือในบัตรมากพอ แค่เอาบัตรไปตื๊ดๆที่เครื่องกั้นหรือเครื่องอ่านบัตรบนรถเมลล์ให้หักเงินออกไปก็จบ ถือว่าเป็นมิตรกับนักดินทางสายซุยโดยแท้จริง..............หาซื้อมาครอบครองได้ที่เครื่องขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติใกล้บ้านท่าน
เมื่อเดินทางมากถึงสถานีนัมบะ (รถไฟใต้ดิน) ให้เดินออกประตู 14 และเดินขึ้นไปทางเหนือเราก็ก็จะพบกับมาสค็อทในตำนานของ OSAKA


ท่านเทพเจ้ารักแร้ หรือกุลิโกะแมนนั่นเอง โดยตรงที่อยู่ระหว่างป้ายท่านเทพเจ้ากับป้ายเบียร์อาซาฮีจะแท่นยืนกลมๆกลางแม่น้ำซึ่งถามว่าคนเยอะมั้ย..........................

คือมันเหมือนเป็นจุดที่แบบว่า “เฮ้ยแก เจอกันที่ไหนดี งั้นเจอกันที่ป้ายท่านเทพเจ้ารักแร้ไปละกัน” ผลลัพทธ์คือคนโคตรจะแน่นให้ตายเถอะ
จากนั้นเรามาสำรวจกัน โดยจุดตัดตรงที่ยืนกลางน้ำจะแบ่งถนนออกเป็นสองส่วนได้แก่

                  ชินไซบาชิ ถนนละลายทรัพย์แบบบ้าพลัง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า สุภาพสตรีใจไม่แข็งเข้าไปนี่ เข้าไปอย่างราชาออกมาอย่างยาจกแน่นอน แต่สำหรับผมแล้ว................ผ่าน!!!! ไม่สนใจหรอกเฟร้ย พร้อมหันหลังกลับมาดูป้ายของถนนที่อยู่อีกฝั่งของแท่นกลางน้ำ

                  ไอ้นี่ท่าทางจะน่าเดินกว่าแหะ หลังจากเดินเข้าไปตามทางเรื่อยๆจนมาถึงสี่แยกเราจะพบกับร้านของกินรายทางล้อมหน้าล้อมหลังล้อมซ้ายล้อมขวาล้อมพร้อมๆกัน โดยจุดขายของเวิ้งนี้คือไม่ต้องเดาว่าร้านไหนขายอะไร ดูมาสค็อทหน้าร้านนี่แหละ

จะจะจ จะจ จัมโบ้
ครั้นมาถึงนี่แล้วจะดูเฉยๆก็กะไรอยู่ เราต้องหาร้านฝากท้องบ้างล่ะ จนมาเจอกับร้านนี้

อะหรือ ขนาดร้านยืนกินคนยังแน่นขนาดนี้ มันต้องเป็นร้านพื้นเมืองอันโ่งดังของที่นี่แน่ๆ เพราะสภาพกังๆนี่ไม่น่าจะขายคนต่างชาติได้ ว่าแล้วก็สาวเท้าพร้วดๆเข้าไปหาที่ตู้เพื่อกดสั่งราเมน (ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามีร้านนี้อยู่ข้างในอีกหลายสาขา  แถมมีโต๊ะให้นั่งกินด้วย ==)

บร๊ะ มีรูปด้วย ช่างเป็นร้านที่เป็นมิตรกับสังคมจริงๆ ไม่ต้องไปตบตีกับคนขาย สบายตัวไปอีกหนึ่งมื้อ กระบวนการง่ายมาก ใส่เงิน กดเมนูที่ต้องการ รับคูปองกระดาษ แล้วเอาไปยื่นให้กับพนักงาน ยืนรอรับสารอาหารได้เลย ราคา 600 เยน แบบนุ่มนิ่มๆ

อร่อยอะ น้ำซุปรสเข้มข้น ออกรสไปทางจืดและเค็มอ่อนๆ ตาเหลือบไปเห็นถ้วยใส่ผักที่คนอื่นๆเข้าคีบใส่ชามราเม็งของตัวเอง เอามั่งดิ เรื่องตีกลืนกับคนพื้นเมืองนี่ถนัดนัก .........................................................โคตรเผ็ด บอกเลย แล้วทะลึ่งใส่มาซะเยอะให้ตายเถอะ
หลังจากยืนน้ำหูน้ำตาไหลเพราะความเผ็ดที่ดันมั่นใจกับความเข้าใจที่ว่าคนญี่ปุ่นไม่กินเผ็ดหรอก ก็เดินโซซัดโซเซด้วยดวงตาแดงก่ำมาเจอกับร้านนี้

อุต๊ะ!! ของกินที่กล่าวกันว่ามี้นกำเนิดมาจาก OSAKA ทาโกะยากินั่นเอง ว่าแล้วก็โดนมาซะ หกลูก 500 เยน

              ความรู้สึกที่กินเข้าไปครั้งแรกทั้งลูกแบบเต็มปากเต็มคำ.......................................เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ......................................"โฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!" ร้อนลวกปาก == พร้อมกับเสียงตะโกนดังมาข้างหลังจากร้านขายทาโกะยากิ "ฮอทโตะๆ" พนักงานขายทำมือเป่าปากเป็นท่าประกอบ ฮอทโตะอะไรเล่า ไม่ทันละเฮ้ย!!!! (หลังจากเรียกสติและเพดานปากกลับมาได้บ้าง ขอสรุปใจความได้ว่าทาโกะยากิที่นี่เนื้อเป็นเนื้อ ไส้เป็นไส้ และแป้งที่สุกอยู่ในระดับที่พอดี เข้ากันกับน้ำราดที่อยุ่ด้านบน หวานเค็มนำและซ่อนเปรี้ยวอ่อนๆพอให้มีความอยากอาหาร ใครผ่านมาแนะนำ ลอง ต้องกินให้ได้นะเออ)
               สำหรับใครที่มีเวลาเหลือสำหรับย่านนี้แนะนำให้เดินเลาะไปตามแม่น้ำเรื่อยๆครับ เมืองริมน้ำตอนกลางคืนสวยมากๆ อีกทั้งยังหาของกินรายทางได้เรื่อยๆ ไม่อดตายแน่นอน

หลังจากเดินมาเต็มอิ่ม(พร้อมกับแผลพองในปาก) ก็เดินทางกลับมาที่พัก มาลงที่สถานี Donbutsu mae
Park Inn Hotel

              เป็นโรงแรมห้องนอนเดี่ยว แต่ห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม อยู่ใกล้สาถนีรถไฟใต้ดินมากๆ ราคาก็ถือว่าถูกในระดับหนึ่งสำหรับห้องนอนเดี่ยวด้วยแล้ว รวมทุกอย่าง คืนละ 1800 เยน (ประมาณ เกือบๆ 600 บาทไทย) มีไวไฟให้นอนเล่นได้ในห้องตัวเอง
             ข้อดี
             1. อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินสถานี Donbutsu mae ชนิดที่เรียกว่าตำแหน่งที่ตั้งแทบจะคร่อมตัวสถานี
             2. ราคาขนาดนี้ ได้ห้องนอนเดี่ยวถือว่าไม่ธรรมดา
             3. ใกล้เฟมมิลี่มาร์ท ไม่อดตายแน่นอน
             4. พนักงานเป็นลุงคนนึงที่พูดภาษาอังกฤษพอได้บ้าง
             5. ไม่มีเวลาเคอฟิวส์ จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องมาเช็คอินก่อน 4 ทุ่มนะเออ หลังจากเช็คอินแล้วกลับตีหนึ่งตีสองก็ไม่มีปัญหา
             6. สูบบุหรี่ในห้องได้
             7. มีเครื่องขายเบียร์อยู่ที่ชั้นหนึ่ง (แต่แพงแฮะ แข็งใจเดินไปมินิมาร์ทเถอะ ถูกกว่าเยอะ)
             ข้อเสีย
             1. ห้องน้ำทั้งชั้นมีแค่สองห้อง เวลาเร่งด่วนนี่หน้าแทบสั่น
             2. ห้องน้ำรวมกำหนดเวลา ผู้ชาย 17.00 น. - 21.00 น. และผู้หญิง 21.00 - 23.00 น. ส่วนเวลาอื่น ต้องไปคุยกับลุงเอาเอง
             3. สูบบุหรี่ในห้องได้ ซึ่งไอ้ข้อนี้แหละ คนที่ไม่สูบบุหรี่แล้วมาอยู่ในห้องนะคุณเอ๋ย กลิ่นนี่คลุ้ง แทบจะเป็นหมูอบสมุนไพร
             4. ไม่มีเครื่องซักผ้านะจ๊ะ ต้องหิ้วไปที่ร้านซักรีดตรงปากซอย
             5. ไวไฟที่นี่เล่นซ่อนแอบ ให้ตายเถอะ นอนเล่นริมหน้าต่างห้องสัญญาณไม่มี ต้องกระดึ๊บๆตัวมาอยู่ฝั่งประตูแทน

อายุต่ำกว่า 18 ห้ามกด สัญญาแล้วนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พรุ่งนี้เตรียมพบกับ แมวเมาตะลุยคุราชิกิและโอคายาม่าม่าม่า
ชื่อสินค้า:   [center][img]http://f.ptcdn.info/801/041/000/o5mpor14f31ZE7fXvRN-o.jpg[/img][/center] เพื่อน: เฮ้ย จะไปญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนมีนาคมใช่ปะ ผม:ใช่ๆ ทำไมเรอะ เพื่อน: ไปกับสายการบินไหนอะ ใช่ของสะตรู๊ด รึเปล่า มีกระทู้ในพันทิปจะให้ดู ผมรับโทรศัพท์ไอโฟนเพื่อนมาดูด้วยอารมณ์ที่สงสัยเล็กน้อย ว่าชีวิตของชั้นมันจะไปเกี่ยวอะไรในเว็ปพันทิปฟระ คว้าหมับมาดูจอไอโฟนซึ่งว่าด้วยเรื่องของกระทู้ Over Booking ของสายการบินนักลอยแพผู้โดยสารในตำนาน ผม:………………………………………. เพื่อน:……………………………………… สรุปสายการบินนี้สินะ ………………………………………………………………………………………………………. วันที่ออกเดินทางมาถึงสนามบินตั้งแต่ตีห้าเลยจร้า!!!!!! บอกได้เลยว่าครั้งนี้นี้ความรู้เท่าเดิม แต่เพิ่มเติมคือความมั่นใจ(แบบผิดๆ)นั้นมาเต็ม จองตั๋วเครื่องบินไว้ร่วมครึ่งปี แต่อ้อยอิ่งๆไปเรื่อยๆด้วยความมั่นใจที่ว่า บัตร JR Kansai wide pass จะเป็นแบบบัตรเดียวเปรี้ยวได้ทั้งทริปเหมือนอย่างครั้งที่ไปคันโต ข้อมูลแทบไม่ได้หาเลยจ้า ซึ่งผลกรรมของการกระทำเป็นอย่างไร ตามมาดูกันโลด อนึ่ง : ถ้าท่านที่รับชมแล้วมีความรุ้สึกที่ว่า "เฮ้ย เจ๋งอะ อยากไปมั่ง" ขอยกความดีความชอบให้กับสถานที่และพนักงานที่ดูแล แต่ถ้าดูแล้วรู้สึกว่า "กากจังฟระ" ข้าพเจ้าขอน้อมรับความผิดในความอ่อนด๋อยของการใช้กล้องของข้าพเจ้าเอง อสอง : กระทู้นี้มีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนกล้าๆกลัวๆว่าพูดญี่ปุ่นไม่ได้ซักกะคำ จะไปญี่ปุ่นได้หรือไม่ ไปเถอะครับ มันไม่ใช่ปัญหาเลย ย้ำอีกครั้ง กระทู้สร้างแรงบันดาลใจเท่านั้น อย่าลอกนะเออ สุดยอดแห่งความเละเทะอยู่ในระดับหายนะ หลังจากแหกขี้ตาตื่นด้วยความหลอน Overbooking จัด ไปถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ตีห้า แต่สุดท้ายต้องรอเช็คอินเปิดตอนเจ็ดโมงกว่า ชูมือขึ้นฟ้าแบบผู้ชนะพร้อมตะโกนว่า "รอดแล้วเฟร้ย!!!!" คนตอนต่อแถวรอเช็คอินว่าเยอะแล้ว แต่พอเครื่องลงที่ญี่ปุ่นตรงด่าน ตม. คนเยอะกว่าอีกจ้าาาาา เครื่องลงตอนสี่โมงครึ่ง แต่กว่าจะผ่าน ตม. มาได้ หกโมงเย็น ให้ตายเถอะ นี่ขนาดวิ่งสับขามากะว่าเป็นคนแรกแล้วๆนะเฟร้ย [u][b][Night 1 30 มีนาคม 2559] : Osaka[/b][/u] หลังจากผ่านกองทัพ Walking Dead ที่ตม.มาได้ ก็จะมาถึงที่ทางออก Terminal 1 ซึ่งทางด้านซ้านมือจะมีที่ขายตั๋วสำหรับเข้าเมืองทั้งค่าย JR และ ค่ายอื่นๆให้เลือกสรร แต่แน่นอน เราเชื่อใจค่ายคู่สร้างคู่สมกับเรามาตั้งแต่ทริปที่แล้ว JR ชั้นเลือกนาย!!! (1060 เยน) โดยทางเข้าชานชะลาอยู่ฝั่งตรงข้ามของที่ซื้อตั๋วครับ [img]http://f.ptcdn.info/801/041/000/o5mqmmnfqIPFrFlhaiA-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/801/041/000/o5mqn1nh3jlq0Bh0n6q-o.jpg[/img] นั่งรถไฟไหลมาเรื่อยๆพร้อมกับสัมภาระ 7 กิโลถ้วนมาลงที่สถานี Shin-imamiya และเดินต่อเพื่อไปฝากกระเป๋าของเราในคืนนี้ก่อนที่จะไปท่องราตรีกัน เดินมาทะลุสถานีรถไฟใต้ดิน Dobutsuen mae ออกประตู 2 หรือ 4 ก็จะเจอกับ [center][img]http://f.ptcdn.info/801/041/000/o5mr93d845tbC1oYyiL-o.jpg[/img][/center] เมื่อเจอป้ายแล้วจะรอช้าอยู่ไย เดินเข้าไปฝากของโลด ห๊ะ เดินเข้าโรงแรมไทโย ปล่าวๆ เดินเข้าซอยที่อยู่ถัดไปตะหาก (แล้วจะให้ดูรูปเพื่อ) [img]http://f.ptcdn.info/802/041/000/o5mrbtgkyeR4ifPL6IW-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/802/041/000/o5mrgld81hb2Z3l3IEP-o.jpg[/img] หลังจากปลดปล่อยพันธนาการจากกระเป๋าเป้แล้วก็ย้อนนั่งรถไฟกลับไปที่ Numba โดยทั้งนี้จะขอแนะนำไอเท็มสามัญประจำกระเป๋าสำหรับนักเดินทางสายซุย นั่นก็คือ อืออืออือออออออ [center][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nunsuepwy2rWKdITm-o.jpg[/img][/center] ICOCOA CARD หรือบัตรกวิ้นนั่นเอง โดยคุณสมบัติของบัตรรูปเพนกวินที่แสนน่ารักและน่าชัง (ซึ่งออกจะไปทางน่าชังน่าตบกะบาลซะมากกว่า) ไม่สามารถใช้เป็นส่วนลดใดๆหรือไปเบ่งแสดงแสงยานุภาพกับใครได้ มีศักดิ์เท่ากับเงินสดโง่ๆธรรมดาๆทั่วไป เอ๊า!!! แล้วข้อดีของมันคืออะไรล่ะ ข้อดีสุดเลอค่าของมันคือคุณไม่จำเป็นต้องรู้ราคาค่าเดินทางในการเดินทางในแต่ละรอบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถเมล์ ขอแค่มั่นใจว่ามีเงินเหลือในบัตรมากพอ แค่เอาบัตรไปตื๊ดๆที่เครื่องกั้นหรือเครื่องอ่านบัตรบนรถเมลล์ให้หักเงินออกไปก็จบ ถือว่าเป็นมิตรกับนักดินทางสายซุยโดยแท้จริง..............หาซื้อมาครอบครองได้ที่เครื่องขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติใกล้บ้านท่าน เมื่อเดินทางมากถึงสถานีนัมบะ (รถไฟใต้ดิน) ให้เดินออกประตู 14 และเดินขึ้นไปทางเหนือเราก็ก็จะพบกับมาสค็อทในตำนานของ OSAKA [center][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nup1utc7bGs194pDm-o.jpg[/img][/center] [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nvrjib7QYRA7BFP55-o.jpg[/img] ท่านเทพเจ้ารักแร้ หรือกุลิโกะแมนนั่นเอง โดยตรงที่อยู่ระหว่างป้ายท่านเทพเจ้ากับป้ายเบียร์อาซาฮีจะแท่นยืนกลมๆกลางแม่น้ำซึ่งถามว่าคนเยอะมั้ย.......................... [center][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nupgnulA7yQWamfvd-o.jpg[/img][/center] คือมันเหมือนเป็นจุดที่แบบว่า “เฮ้ยแก เจอกันที่ไหนดี งั้นเจอกันที่ป้ายท่านเทพเจ้ารักแร้ไปละกัน” ผลลัพทธ์คือคนโคตรจะแน่นให้ตายเถอะ จากนั้นเรามาสำรวจกัน โดยจุดตัดตรงที่ยืนกลางน้ำจะแบ่งถนนออกเป็นสองส่วนได้แก่ [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nurxibgjneT66fH5t-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nuseufjILrie7IOOF-o.jpg[/img] ชินไซบาชิ ถนนละลายทรัพย์แบบบ้าพลัง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า สุภาพสตรีใจไม่แข็งเข้าไปนี่ เข้าไปอย่างราชาออกมาอย่างยาจกแน่นอน แต่สำหรับผมแล้ว................ผ่าน!!!! ไม่สนใจหรอกเฟร้ย พร้อมหันหลังกลับมาดูป้ายของถนนที่อยู่อีกฝั่งของแท่นกลางน้ำ [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nusvnu8qDS3oL1ZBZ-o.jpg[/img] ไอ้นี่ท่าทางจะน่าเดินกว่าแหะ หลังจากเดินเข้าไปตามทางเรื่อยๆจนมาถึงสี่แยกเราจะพบกับร้านของกินรายทางล้อมหน้าล้อมหลังล้อมซ้ายล้อมขวาล้อมพร้อมๆกัน โดยจุดขายของเวิ้งนี้คือไม่ต้องเดาว่าร้านไหนขายอะไร ดูมาสค็อทหน้าร้านนี่แหละ [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nutludba33qUDzNPQ-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nuu0nryftG59Z8E1v-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nuuaibjvmdmDF09Em-o.jpg[/img] จะจะจ จะจ จัมโบ้ ครั้นมาถึงนี่แล้วจะดูเฉยๆก็กะไรอยู่ เราต้องหาร้านฝากท้องบ้างล่ะ จนมาเจอกับร้านนี้ [img]http://f.ptcdn.info/810/041/000/o5nrsbh8EkLjuEIBw1-o.jpg[/img] อะหรือ ขนาดร้านยืนกินคนยังแน่นขนาดนี้ มันต้องเป็นร้านพื้นเมืองอันโ่งดังของที่นี่แน่ๆ เพราะสภาพกังๆนี่ไม่น่าจะขายคนต่างชาติได้ ว่าแล้วก็สาวเท้าพร้วดๆเข้าไปหาที่ตู้เพื่อกดสั่งราเมน (ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามีร้านนี้อยู่ข้างในอีกหลายสาขา แถมมีโต๊ะให้นั่งกินด้วย ==) [img]http://f.ptcdn.info/810/041/000/o5nrsw7itEIkvi4O1cj-o.jpg[/img] บร๊ะ มีรูปด้วย ช่างเป็นร้านที่เป็นมิตรกับสังคมจริงๆ ไม่ต้องไปตบตีกับคนขาย สบายตัวไปอีกหนึ่งมื้อ กระบวนการง่ายมาก ใส่เงิน กดเมนูที่ต้องการ รับคูปองกระดาษ แล้วเอาไปยื่นให้กับพนักงาน ยืนรอรับสารอาหารได้เลย ราคา 600 เยน แบบนุ่มนิ่มๆ [img]http://f.ptcdn.info/810/041/000/o5nrt57i5hwlOYoq5K1-o.jpg[/img] อร่อยอะ น้ำซุปรสเข้มข้น ออกรสไปทางจืดและเค็มอ่อนๆ ตาเหลือบไปเห็นถ้วยใส่ผักที่คนอื่นๆเข้าคีบใส่ชามราเม็งของตัวเอง เอามั่งดิ เรื่องตีกลืนกับคนพื้นเมืองนี่ถนัดนัก .........................................................โคตรเผ็ด บอกเลย แล้วทะลึ่งใส่มาซะเยอะให้ตายเถอะ หลังจากยืนน้ำหูน้ำตาไหลเพราะความเผ็ดที่ดันมั่นใจกับความเข้าใจที่ว่าคนญี่ปุ่นไม่กินเผ็ดหรอก ก็เดินโซซัดโซเซด้วยดวงตาแดงก่ำมาเจอกับร้านนี้ [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nv0m15rB9EcMfWdMp-o.jpg[/img] อุต๊ะ!! ของกินที่กล่าวกันว่ามี้นกำเนิดมาจาก OSAKA ทาโกะยากินั่นเอง ว่าแล้วก็โดนมาซะ หกลูก 500 เยน [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nv2vmg76p9TQBSnRa-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nv3817gMYh5OAKtZ3-o.jpg[/img] ความรู้สึกที่กินเข้าไปครั้งแรกทั้งลูกแบบเต็มปากเต็มคำ.......................................เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ......................................"โฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!" ร้อนลวกปาก == พร้อมกับเสียงตะโกนดังมาข้างหลังจากร้านขายทาโกะยากิ "ฮอทโตะๆ" พนักงานขายทำมือเป่าปากเป็นท่าประกอบ ฮอทโตะอะไรเล่า ไม่ทันละเฮ้ย!!!! (หลังจากเรียกสติและเพดานปากกลับมาได้บ้าง ขอสรุปใจความได้ว่าทาโกะยากิที่นี่เนื้อเป็นเนื้อ ไส้เป็นไส้ และแป้งที่สุกอยู่ในระดับที่พอดี เข้ากันกับน้ำราดที่อยุ่ด้านบน หวานเค็มนำและซ่อนเปรี้ยวอ่อนๆพอให้มีความอยากอาหาร ใครผ่านมาแนะนำ ลอง ต้องกินให้ได้นะเออ) สำหรับใครที่มีเวลาเหลือสำหรับย่านนี้แนะนำให้เดินเลาะไปตามแม่น้ำเรื่อยๆครับ เมืองริมน้ำตอนกลางคืนสวยมากๆ อีกทั้งยังหาของกินรายทางได้เรื่อยๆ ไม่อดตายแน่นอน [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nwd2ayx4ba1WJU54Z-o.jpg[/img][img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nwdlghrSRLUb8gpuO-o.jpg[/img] หลังจากเดินมาเต็มอิ่ม(พร้อมกับแผลพองในปาก) ก็เดินทางกลับมาที่พัก มาลงที่สถานี Donbutsu mae [b][u]Park Inn Hotel [/u][/b] [img]http://f.ptcdn.info/811/041/000/o5nwdxfiqxJH4bI4wFt-o.jpg[/img] เป็นโรงแรมห้องนอนเดี่ยว แต่ห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม อยู่ใกล้สาถนีรถไฟใต้ดินมากๆ ราคาก็ถือว่าถูกในระดับหนึ่งสำหรับห้องนอนเดี่ยวด้วยแล้ว รวมทุกอย่าง คืนละ 1800 เยน (ประมาณ เกือบๆ 600 บาทไทย) มีไวไฟให้นอนเล่นได้ในห้องตัวเอง [b][u]ข้อดี[/u][/b] 1. อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินสถานี Donbutsu mae ชนิดที่เรียกว่าตำแหน่งที่ตั้งแทบจะคร่อมตัวสถานี 2. ราคาขนาดนี้ ได้ห้องนอนเดี่ยวถือว่าไม่ธรรมดา 3. ใกล้เฟมมิลี่มาร์ท ไม่อดตายแน่นอน 4. พนักงานเป็นลุงคนนึงที่พูดภาษาอังกฤษพอได้บ้าง 5. ไม่มีเวลาเคอฟิวส์ จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องมาเช็คอินก่อน 4 ทุ่มนะเออ หลังจากเช็คอินแล้วกลับตีหนึ่งตีสองก็ไม่มีปัญหา 6. สูบบุหรี่ในห้องได้ 7. มีเครื่องขายเบียร์อยู่ที่ชั้นหนึ่ง (แต่แพงแฮะ แข็งใจเดินไปมินิมาร์ทเถอะ ถูกกว่าเยอะ) [u][b]ข้อเสีย[/b][/u] 1. ห้องน้ำทั้งชั้นมีแค่สองห้อง เวลาเร่งด่วนนี่หน้าแทบสั่น 2. ห้องน้ำรวมกำหนดเวลา ผู้ชาย 17.00 น. - 21.00 น. และผู้หญิง 21.00 - 23.00 น. ส่วนเวลาอื่น ต้องไปคุยกับลุงเอาเอง 3. สูบบุหรี่ในห้องได้ ซึ่งไอ้ข้อนี้แหละ คนที่ไม่สูบบุหรี่แล้วมาอยู่ในห้องนะคุณเอ๋ย กลิ่นนี่คลุ้ง แทบจะเป็นหมูอบสมุนไพร 4. ไม่มีเครื่องซักผ้านะจ๊ะ ต้องหิ้วไปที่ร้านซักรีดตรงปากซอย 5. ไวไฟที่นี่เล่นซ่อนแอบ ให้ตายเถอะ นอนเล่นริมหน้าต่างห้องสัญญาณไม่มี ต้องกระดึ๊บๆตัวมาอยู่ฝั่งประตูแทน อายุต่ำกว่า 18 ห้ามกด สัญญาแล้วนะ [spoil][img]http://f.ptcdn.info/812/041/000/o5nxh0ik52kdAcLMvuU-o.jpg[/img] สุดยอดเบียร์ที่ครองใจมาตั้งแต่ทริปที่แล้ว คิรินกระป๋องคลาสสิค มันไม่ใช่เบียร์ที่อร่อยที่สุด มันไม่ใช่เบียร์ที่หอมที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการเบียรที่ดี เบียร์ที่อร่อย เบียร์ที่หอม แล้วอยากหาจบได้ในกระป๋องเดียว ต้องกระป๋องนี้เลย ส่วนตัวผมชอบกลิ่นที่เหมือนกับแค่ได้กลิ่นก็ผ่อนคลาย มีความหวานกับความเปรียวที่กลมกล่อม ไม่มีรสไหนโดดเด่นเกินใคร ไม่ใช่เบียร์ที่กินแล้วสะใจ แต่เป็นเบียรที่เราพร้อมจะไหลไปกับมัน ย้วยยยยยยยยยย [/spoil] พรุ่งนี้เตรียมพบกับ แมวเมาตะลุยคุราชิกิและโอคายาม่าม่าม่าม่าม่าม่าม่า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่