อัร-ริบา (ดอกเบี้ย)
มุหัมมัด อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
บทบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินครอบคลุมสามด้าน คือ ความยุติธรรม ความเพิ่มพูน และความอธรรม ที่ยุติธรรมก็คือการซื้อขาย ที่เพิ่มพูนก็คือการบริจาค ส่วนที่อธรรมก็คือ ริบา (ดอกเบี้ย) เป็นต้น
ริบา คือการเกินเลยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างสิ่งสองสิ่งที่มีสาเหตุริบาอยู่ในตัวของมัน
หุก่มของริบา
1- ริบาถือเป็นบาปใหญ่ประเภทหนึ่ง และมันเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในทุกศาสนาที่เป็นศาสนาแห่งฟากฟ้า(ศาสนาที่มีคัมภีร์จากพระผู้เป็นเจ้าซึ่งรวมศาสนายูดายของยิว ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม) เนื่องจากมันแฝงไปด้วยความเสียหายที่ใหญ่หลวง มันเป็นต้นเหตุของการเป็นศัตรูกันระหว่างมนุษย์ มันนำไปสู่การงอกเงยของทรัพย์สินผ่านการขูดรีดจากทรัพย์สินของคนจน มันเป็นการอธรรมต่อผู้ที่มีความจำเป็น ทำให้คนรวยกดขี่คนยากจน ปิดหนทางการบริจาคและการทำดีต่อผู้อื่น และทำลายความรู้สึกเมตตาสงสารต่อเพื่อนมนุษย์
อัลลอฮ์ ตะอาลาตรัสว่า
"และอัลลอฮฺทรงอนุมัติการซื้อขาย และทรงห้ามริบา(ดอกเบี้ย) ดังนั้นผู้ใดที่การตักเตือนจากพระเจ้าของเขาได้มายังเขา แล้วเขาก็เลิก(จากสิ่งที่ถูกห้าม) สิ่งที่ล่วงแล้วมาก็เป็นสิทธิของเขา(ไม่ต้องคืนหรือชดใช้) และเรื่องราวของเขานั้นมอบให้เป็นภาระของอัลลอฮฺ(ที่จะทรงพิจารณาเขา) และผู้ใดวกกลับไป(กระทำ)อีก ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล"
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 275)
2- ริบาเป็นการกินทรัพย์สินของเพื่อนมนุษย์โดยมิชอบ ทำให้การหารายได้ การทำธุรกิจ และการผลิตที่มนุษย์มีความต้องการเกิดการชะงักงัน ผู้ที่รับดอกเบี้ยทรัพย์ของเขาเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย ทำให้เขาละทิ้งการทำธุรกิจ และการทำประโยชน์ที่มนุษย์จะได้ประโยชน์จากมัน จุดจบของผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับริบาทุกคนคือความถดถอยของทรัพย์สินเงินทอง
บทลงโทษเกี่ยวกับริบา
ริบาเป็นบาปใหญ่ และแท้จริงแล้วอัลลอฮฺได้ประกาศสงครามกับผู้ที่กินและผู้ที่ให้ริบา ซึ่งต่างจากบาปอื่นๆ
1-อัลลอฮ์ ตรัสว่า
"บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงละเว้นดอกเบี้ยที่ยังเหลืออยู่เสียหากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา และ ถ้าพวกเจ้ามิได้ปฏิบัติตาม ก็พึงรับรู้ถึงสงครามจากอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์(หมายถึงอัลลอฮฺและศาสนทูตประกาศเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจนกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย) และหากพวกเจ้าสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวแล้ว สำหรับพวกเจ้าก็คือต้นทุนแห่งทรัพย์ของพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอธรรม”
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 278-279)
2- รายงานจากท่าน ญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
لَعَنَ رَسُولُ الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم آكِلَ الرِّبَا، وَمُوْكِلَـهُ وَكَاتِبَـهُ، وَشَاهِدَيْـهِ، وَقَالَ: هُـمْ سَوَاءٌ. أخرجه مسلم.
"ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ประณามผู้ที่กินริบา ผู้ให้กิน ผู้บันทึก และผู้เป็นพยานทั้งสองคน และท่านกล่าวว่า พวกเขาอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน(ในบาป)"
(บันทึกโดย มุสลิม 1598)
3- รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«اجْتَنِبُوا السَّبْعَ المُوبِقَاتِ» قَالُوا: يَا رَسُولَ الله، وَمَا هُنَّ؟ قَالَ: «الشِّرْكُ بِالله، وَالسِّحْرُ، وَقَتْلُ النَّفْسِ الَّتِي حَرَّمَ الله إلَّا بِالحَقِّ، وأكلُ الرِّبَا، وأكلُ مَالِ اليَتِيمِ، وَالتَّوَلِّي يَوْمَ الزَّحْفِ، وَقَذْفُ المُـحْصَنَاتِ المُؤْمِنَاتِ الغَافِلاتِ». متفق عليه.
“พวกท่านจงออกห่างจากสิ่งที่ทำให้หายนะ (บาปใหญ่) เจ็ดอย่าง”
พวกเขา(บรรดาเศาะหาบะฮฺ)ได้ถามว่า “โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ มันคืออะไรบ้าง?”
ท่านจึงกล่าวว่า “(มันคือ) ♦ การตั้งภาคีกับอัลลอฮฺ ♦ การใช้เวทมนต์ไสยศาสตร์ ♦ การฆ่าชีวิตหนึ่งที่พระองค์ทรงห้ามเว้นแต่ด้วยความชอบธรรม ♦ การกินริบา(ดอกเบี้ย) ♦ การกินทรัพย์สินของเด็กกำพร้า ♦ การถอยหนีในวันแห่งการเผชิญหน้ากับศัตรู ♦ และการใส่ความหญิงหนึ่งที่ดีที่เป็นผู้มีศรัทธาและบริสุทธิ์”
(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หมายเลข 2766 และสำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน และมุสลิม หมายเลข 89)
ว่าด้วยอัล-ริบา(ดอกเบี้ย)กับคำสอนศาสนาอิสลาม
มุหัมมัด อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
บทบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินครอบคลุมสามด้าน คือ ความยุติธรรม ความเพิ่มพูน และความอธรรม ที่ยุติธรรมก็คือการซื้อขาย ที่เพิ่มพูนก็คือการบริจาค ส่วนที่อธรรมก็คือ ริบา (ดอกเบี้ย) เป็นต้น
ริบา คือการเกินเลยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างสิ่งสองสิ่งที่มีสาเหตุริบาอยู่ในตัวของมัน
หุก่มของริบา
1- ริบาถือเป็นบาปใหญ่ประเภทหนึ่ง และมันเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในทุกศาสนาที่เป็นศาสนาแห่งฟากฟ้า(ศาสนาที่มีคัมภีร์จากพระผู้เป็นเจ้าซึ่งรวมศาสนายูดายของยิว ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม) เนื่องจากมันแฝงไปด้วยความเสียหายที่ใหญ่หลวง มันเป็นต้นเหตุของการเป็นศัตรูกันระหว่างมนุษย์ มันนำไปสู่การงอกเงยของทรัพย์สินผ่านการขูดรีดจากทรัพย์สินของคนจน มันเป็นการอธรรมต่อผู้ที่มีความจำเป็น ทำให้คนรวยกดขี่คนยากจน ปิดหนทางการบริจาคและการทำดีต่อผู้อื่น และทำลายความรู้สึกเมตตาสงสารต่อเพื่อนมนุษย์
อัลลอฮ์ ตะอาลาตรัสว่า
"และอัลลอฮฺทรงอนุมัติการซื้อขาย และทรงห้ามริบา(ดอกเบี้ย) ดังนั้นผู้ใดที่การตักเตือนจากพระเจ้าของเขาได้มายังเขา แล้วเขาก็เลิก(จากสิ่งที่ถูกห้าม) สิ่งที่ล่วงแล้วมาก็เป็นสิทธิของเขา(ไม่ต้องคืนหรือชดใช้) และเรื่องราวของเขานั้นมอบให้เป็นภาระของอัลลอฮฺ(ที่จะทรงพิจารณาเขา) และผู้ใดวกกลับไป(กระทำ)อีก ชนเหล่านี้แหละคือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล"
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 275)
2- ริบาเป็นการกินทรัพย์สินของเพื่อนมนุษย์โดยมิชอบ ทำให้การหารายได้ การทำธุรกิจ และการผลิตที่มนุษย์มีความต้องการเกิดการชะงักงัน ผู้ที่รับดอกเบี้ยทรัพย์ของเขาเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย ทำให้เขาละทิ้งการทำธุรกิจ และการทำประโยชน์ที่มนุษย์จะได้ประโยชน์จากมัน จุดจบของผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับริบาทุกคนคือความถดถอยของทรัพย์สินเงินทอง
บทลงโทษเกี่ยวกับริบา
ริบาเป็นบาปใหญ่ และแท้จริงแล้วอัลลอฮฺได้ประกาศสงครามกับผู้ที่กินและผู้ที่ให้ริบา ซึ่งต่างจากบาปอื่นๆ
1-อัลลอฮ์ ตรัสว่า
"บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงละเว้นดอกเบี้ยที่ยังเหลืออยู่เสียหากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา และ ถ้าพวกเจ้ามิได้ปฏิบัติตาม ก็พึงรับรู้ถึงสงครามจากอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์(หมายถึงอัลลอฮฺและศาสนทูตประกาศเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจนกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย) และหากพวกเจ้าสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวแล้ว สำหรับพวกเจ้าก็คือต้นทุนแห่งทรัพย์ของพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอธรรม”
(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 278-279)
2- รายงานจากท่าน ญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
لَعَنَ رَسُولُ الله صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم آكِلَ الرِّبَا، وَمُوْكِلَـهُ وَكَاتِبَـهُ، وَشَاهِدَيْـهِ، وَقَالَ: هُـمْ سَوَاءٌ. أخرجه مسلم.
"ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ประณามผู้ที่กินริบา ผู้ให้กิน ผู้บันทึก และผู้เป็นพยานทั้งสองคน และท่านกล่าวว่า พวกเขาอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน(ในบาป)"
(บันทึกโดย มุสลิม 1598)
3- รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«اجْتَنِبُوا السَّبْعَ المُوبِقَاتِ» قَالُوا: يَا رَسُولَ الله، وَمَا هُنَّ؟ قَالَ: «الشِّرْكُ بِالله، وَالسِّحْرُ، وَقَتْلُ النَّفْسِ الَّتِي حَرَّمَ الله إلَّا بِالحَقِّ، وأكلُ الرِّبَا، وأكلُ مَالِ اليَتِيمِ، وَالتَّوَلِّي يَوْمَ الزَّحْفِ، وَقَذْفُ المُـحْصَنَاتِ المُؤْمِنَاتِ الغَافِلاتِ». متفق عليه.
“พวกท่านจงออกห่างจากสิ่งที่ทำให้หายนะ (บาปใหญ่) เจ็ดอย่าง”
พวกเขา(บรรดาเศาะหาบะฮฺ)ได้ถามว่า “โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ มันคืออะไรบ้าง?”
ท่านจึงกล่าวว่า “(มันคือ) ♦ การตั้งภาคีกับอัลลอฮฺ ♦ การใช้เวทมนต์ไสยศาสตร์ ♦ การฆ่าชีวิตหนึ่งที่พระองค์ทรงห้ามเว้นแต่ด้วยความชอบธรรม ♦ การกินริบา(ดอกเบี้ย) ♦ การกินทรัพย์สินของเด็กกำพร้า ♦ การถอยหนีในวันแห่งการเผชิญหน้ากับศัตรู ♦ และการใส่ความหญิงหนึ่งที่ดีที่เป็นผู้มีศรัทธาและบริสุทธิ์”
(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หมายเลข 2766 และสำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน และมุสลิม หมายเลข 89)