ขอเพิ่มเติมจากข้อมูลที่ให้มาเพิ่มนะครับ









จากกราฟนะครับจะเห็นว่าที่ flow rate 60 m^3/hr หรือ 1000 lpm กราฟจะไม่ไปตัดที่ 2นิ้วครับ คือจริงๆถ้าเราใส่สูตรการคำนวณ pressure ก็ได้ครับอาจจะไปถึง 70-80 m/100m ซึ่งเยอะมาก ในที่นี้กราฟตัดขนาดท่อที่เป็นไปได้เล็กที่สุดคือ 2นิ้วครึ่งครับ นั้นหมายความว่า จากการคำนวณตัด 2นิ้วทิ้งไปได้เลย "ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม"

ตามหลักการออกเเบบเเล้ว เรามักจะใช้ความเร็วในการออกเเบบอยู่ในช่วง 1.2-2.4 m/s (อ้างอิงจาก plumbing code หรือหนังสือการออกเเบบระบบท่อ ของอ.วฤทธิ์ อึ้งภากร) ครับ เนื่องจากว่าถ้าเราดูจากกราฟที่ผมเเนบไว้จะเห็นว่ายิ่งความเร็วสูงค่า pressure drop จะสูงเเบบก้าวกระโดด

เเละอีกประการนึงคือ ในพวก office โรงเเรม หรือ ตึกสูง ถ้าความเร็วในท่อสูงจะส่งเสียงรบกวนต่อผุ้อยุ่อาศัย ดังนั้นเค้าจึงเเนะนำว่าให้ความเร็วของของไหลในท่ออยู่ในช่วง 1.2-2.4 m/s

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ใช้ความเร็วที่นอกเหนือจาก 2.4 m/s ไม่ได้ .... ทั้งหมดทั้งปวงก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเจ้าของด้วยครับว่าจะเลือกอะไร

ok ถ้าเอาความเร็วเยอะ ท่อขนาดเล็กลง เเต่ว่า ปั๊มต้องมี static ที่สูงขึ้น(หมายถึงเเรงดันปั๊ม)

หรือจะเลือกปั๊มเล็กลง เเต่ขนาดท่อที่ใหญ่ขึ้น ...ต้องลองไปคำนวณงบประมาณดูพวกจุดคุ้มทุน

ปล.ถ้าให้ผมเเนะนำ ตอนนี้มีปั๊มอยู่เเล้วลองเลือกเป็น ท่อ HDPE ดูไหมครับ loss ค่อนข้างน้อย เชื่อมท่อทีละ 100m ไม่เปลือง fitting ประหยัดค่าเเรงติดตั้ง เเถมน่าจะไม่ต้องซื้อปั๊มใหม่(ต้องลองคำนวณ lossที่เกิดขึ้น ถ้าเราจะให้ HDPE) เเต่จากการประเมินผมว่า น่าจะใช้ได้

กระเพรา...