สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ปริมาณน้ำที่ไหลในท่อ จะมีองค์ประกอบอยู่สองตัวครับ คือ พื้นที่หน้าตัดของท่อและความเร็วของน้ำที่ไหลในท่อ
ถ้าขนาดท่อเท่ากันตัวที่จะทำให้น้ำไหลได้มากขึ้นก็คือความเร็วของน้ำ แต่ทั้งนี้น้ำยิ่งไหลเร็วมากเท่าไหร่ แรงเสียดสีของน้ำกับผนังท่อก็จะยิ่งมากขึ้น การเสียดสีทำให้เกิดเป็นแรงเสียดทาน แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจะทำให้แรงดันลดลง (โดยมีหน่วยเป็นเมตร)
๑.การคำนวณเขาจะไม่บอกแรงดันครับ แต่จะบอกว่าถ้าส่งที่อัตราการไหลตามตารางจะมีแรงดันสูญเสียจากแรงทานเกิดขึ้นกี่เมตร คนใช้งานจะต้องนำค่านี้ไปคำนวณต่อเอง
๒.ตารางตัวนี้เป็นตารางที่ผู้ผลิตท่อนำมาจากการคำนวณโดยสมการเพื่อช่วยผู้ใช้งานเลือกขนาดท่อได้เหมาะสมกับปริมาณการไหล โดยที่ในตารางจะต้องบอกด้วยว่าคิดที่ความเร็วของน้ำเท่าไหร่ เช่น ๑ เมตรต่อวินาที , ๑.๕ เมตรต่อวินาที , ๒ เมตรต่อวินาที ในท่อขนาดเดียวกันปั๊มที่แรงดันมากกว่าจะส่งน้ำได้มากกว่าครับเพราะว่าความเร็วน้ำจะมากกว่า แต่มากกว่าเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นและความยาวท่อที่ใช้ครับ
โดยปกติแล้วในการออกแบบระบบเรามักจะนิยมใช้ความเร็วน้ำ ๑ - ๒ เมตรต่อวินาที เพราะถ้ามากกว่านี้จะทำให้การสูญเสียเนื่องแรงเสียดทานเกิดขึ้นมากทำให้แรงดันตกและทำให้เสี่ยงในการเกิด water Hammer ในท่อ ซึ่งจะทำให้ข้อต่อต่างๆ หลุดหรือเสียหายได้ง่าย ถ้าระยะส่งไม่ไกลมากอาจจะใช้ที่ ๒ เมตรต่อวินาทีเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเป็นงานส่งระยะไกลจะนิยมใช้ที่ ๑ เมตรต่อวินาทีครับเพื่อลดการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทาน
ดังนั้นในการออกแบบระบบท่อและปั๊ม ปั๊มจะคิดหลังสุดจากที่เราได้อัตราการไหลที่ต้องการ ได้ขนาดท่อเหมาะสม และได้แรงดันที่ต้องการแล้ว
ลองดูในแผนภูมินะครับ ท่อขนาด ๑" ที่ความเร็วของน้ำต่างๆ กัน ปริมาณน้ำที่ไหลได้ในท่อก็จะต่างกันด้วย และยิ่งความเร็วมากขึ้นค่าการสูญเสียแรงเสียดทานก็จะมากขึ้นด้วย (แกนตั้งทางด้านซ้ายของแผนภูมิ) เช่น ท่อถ้าต้องการส่งน้ำปริมาณ ๖ ลบ.ม.ต่อชั่วโมงระยะทาง ๑๐๐ เมตร โดยใช้ท่อ ๑" จากแผนภูมิพบว่าจะต้องใช้ความเร็วของน้ำ ๔ เมตรต่อวินาที และมีการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานประมาณ ๖๐ เมตร ซึ่งถ้าไปเลือกปั๊มก็ต้องเลือกปั๊มที่มีเฮดมากกว่า ๖๐ เมตร
แต่ถ้าจะส่งน้ำ ๖ ลบ.ม.ต่อชั่วโมง ระยะส่ง ๑๐๐ เมตร โดยใช้ท่อ ๑ ๑/๒" พบว่าจะใช้ความเร็วประมาณ ๑.๔ เมตรต่อชั่วโมง และมีการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานประมาณ ๕ เมตร ซึ่งถ้าไปเลือกปั๊มก็ต้องเลือกปั๊มที่มีเฮดมากกว่า ๕ เมตร
จากตัวอย่างท่อ ๒ ขนาด ปริมาณน้ำที่ส่งเท่ากัน แต่พบว่าความเร็วของน้ำต่างกันมาก และการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานก็ต่างกันอย่างมาก เวลาเลือกขนาดท่อจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำหรืออัตราการไหล ซึ่งจะให้ง่ายในการเลือกปั๊มด้วย
อธิบายยาวไปหน่อยอาจจะดูงงๆ ยังไงก็เดี๋ยวรอท่านอื่นมาช่วยตอบครับ
ถ้าขนาดท่อเท่ากันตัวที่จะทำให้น้ำไหลได้มากขึ้นก็คือความเร็วของน้ำ แต่ทั้งนี้น้ำยิ่งไหลเร็วมากเท่าไหร่ แรงเสียดสีของน้ำกับผนังท่อก็จะยิ่งมากขึ้น การเสียดสีทำให้เกิดเป็นแรงเสียดทาน แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจะทำให้แรงดันลดลง (โดยมีหน่วยเป็นเมตร)
๑.การคำนวณเขาจะไม่บอกแรงดันครับ แต่จะบอกว่าถ้าส่งที่อัตราการไหลตามตารางจะมีแรงดันสูญเสียจากแรงทานเกิดขึ้นกี่เมตร คนใช้งานจะต้องนำค่านี้ไปคำนวณต่อเอง
๒.ตารางตัวนี้เป็นตารางที่ผู้ผลิตท่อนำมาจากการคำนวณโดยสมการเพื่อช่วยผู้ใช้งานเลือกขนาดท่อได้เหมาะสมกับปริมาณการไหล โดยที่ในตารางจะต้องบอกด้วยว่าคิดที่ความเร็วของน้ำเท่าไหร่ เช่น ๑ เมตรต่อวินาที , ๑.๕ เมตรต่อวินาที , ๒ เมตรต่อวินาที ในท่อขนาดเดียวกันปั๊มที่แรงดันมากกว่าจะส่งน้ำได้มากกว่าครับเพราะว่าความเร็วน้ำจะมากกว่า แต่มากกว่าเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นและความยาวท่อที่ใช้ครับ
โดยปกติแล้วในการออกแบบระบบเรามักจะนิยมใช้ความเร็วน้ำ ๑ - ๒ เมตรต่อวินาที เพราะถ้ามากกว่านี้จะทำให้การสูญเสียเนื่องแรงเสียดทานเกิดขึ้นมากทำให้แรงดันตกและทำให้เสี่ยงในการเกิด water Hammer ในท่อ ซึ่งจะทำให้ข้อต่อต่างๆ หลุดหรือเสียหายได้ง่าย ถ้าระยะส่งไม่ไกลมากอาจจะใช้ที่ ๒ เมตรต่อวินาทีเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเป็นงานส่งระยะไกลจะนิยมใช้ที่ ๑ เมตรต่อวินาทีครับเพื่อลดการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทาน
ดังนั้นในการออกแบบระบบท่อและปั๊ม ปั๊มจะคิดหลังสุดจากที่เราได้อัตราการไหลที่ต้องการ ได้ขนาดท่อเหมาะสม และได้แรงดันที่ต้องการแล้ว
ลองดูในแผนภูมินะครับ ท่อขนาด ๑" ที่ความเร็วของน้ำต่างๆ กัน ปริมาณน้ำที่ไหลได้ในท่อก็จะต่างกันด้วย และยิ่งความเร็วมากขึ้นค่าการสูญเสียแรงเสียดทานก็จะมากขึ้นด้วย (แกนตั้งทางด้านซ้ายของแผนภูมิ) เช่น ท่อถ้าต้องการส่งน้ำปริมาณ ๖ ลบ.ม.ต่อชั่วโมงระยะทาง ๑๐๐ เมตร โดยใช้ท่อ ๑" จากแผนภูมิพบว่าจะต้องใช้ความเร็วของน้ำ ๔ เมตรต่อวินาที และมีการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานประมาณ ๖๐ เมตร ซึ่งถ้าไปเลือกปั๊มก็ต้องเลือกปั๊มที่มีเฮดมากกว่า ๖๐ เมตร
แต่ถ้าจะส่งน้ำ ๖ ลบ.ม.ต่อชั่วโมง ระยะส่ง ๑๐๐ เมตร โดยใช้ท่อ ๑ ๑/๒" พบว่าจะใช้ความเร็วประมาณ ๑.๔ เมตรต่อชั่วโมง และมีการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานประมาณ ๕ เมตร ซึ่งถ้าไปเลือกปั๊มก็ต้องเลือกปั๊มที่มีเฮดมากกว่า ๕ เมตร
จากตัวอย่างท่อ ๒ ขนาด ปริมาณน้ำที่ส่งเท่ากัน แต่พบว่าความเร็วของน้ำต่างกันมาก และการสูญเสียเนื่องจากแรงเสียดทานก็ต่างกันอย่างมาก เวลาเลือกขนาดท่อจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำหรืออัตราการไหล ซึ่งจะให้ง่ายในการเลือกปั๊มด้วย
อธิบายยาวไปหน่อยอาจจะดูงงๆ ยังไงก็เดี๋ยวรอท่านอื่นมาช่วยตอบครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอถามเรื่องปริมาณการไหลของน้ำในท่อนะครับท่าน?
..
เรียนถามท่านผู้รู้ครับ
จากตารางนี้ ซึ่งเป็นคู่มือแสดงปริมาณน้ำผ่านท่อ pvc ของผู้ผลิต
ผมสงสัยว่า ปริมาณดังกล่าว เช่น ท่อ 1 นิ้ว น้ำไหลสูงสุด 3,819/ช.ม. ท่อ 2 นิ้ว น้ำไหลสูงสุด 12,460 ลิตร/ช.ม.
โดยมาตรฐานเขาคำนวณจากแรงดันที่เท่าใดครับ (ในตารางไม่ได้แสดงไว้)
และถ้าปั้มน้ำมีแรงดันมากขึ้น ปริมาณน้ำผ่านท่อจะมากกว่าตารางนี้หรือไม่ครับ?
ขอขอบคุณครับ