ในชีวิตที่ล่วงเลยมา
ไม่กี่คนที่ฉันให้ใจ
ให้กุมมือ .... อยากฝากชีวิต
"และหนึ่งในนั้นก็คือเธอคนนี้" ใช่หนึ่งในไม่กี่คนก็คือ "เธอ" นั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่รู้ ทั้ง ๆ ที่คาดได้ว่าวันไหนวันหนึ่งที่ร่ำลากันมันอาจจะกลายเป็นการโบกมือลาครั้งสุดท้ายก็ได้ แม้จะมีน้ำตา แม้จะมีความกังวลและเป็นห่วงมากเท่าใด มันกลับกลายเป็นกำลังใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์เชื่อมโยงและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นเมื่อทั้งเขาและเธอก็ตัดสินใจที่จะร่วมเคียงข้างเดินทางร่วมกันไปโดยมุ่งมั่นที่จะรักษาสัญญาอย่างแน่วแน่ "เขา" จะพยายามจนสุดชีวิตเพื่อรอดกลับมาหาเธอ และ "เธอ" ก็จะใช้ชีวิตอย่างดีเป็นเบื้องหลังที่เข้มแข็ง "พร้อมเป็นที่พึ่ง" ในเวลาที่เขาต้องการ
ถึงแม้จะรู้อยู่บ้างแล้ว
แต่เมื่อ "ครั้งสุดท้าย" มาถึงจริง ๆ
ภายในสมอง และ ดวงตาของเธอ
เหลือเพียง "ความว่างเปล่า"
เหมือนโลกจะหยุดหมุน และ สรรพสิ่งจะหยุดเคลื่อนไหวไปพักหนึ่ง เขาจากไปแล้ว ... จริงหรือ เป็นเช่นนั้นหรือ ไหนเขาว่าอะไรนะก่อนหน้านั้น ภารกิจสามเดือนใช่ไหม เธอพูดอะไรไปบ้างนะคืนวันนั้น เธอร้องไห้รึเปล่า เธอบอกเขาว่าอะไร ทุกอย่างวนเวียนอยู่ในหัว กระดาษแผ่นหนึ่งยับย่นอยู่ในอุ้งมือชื้นเหงื่อ เธอวิ่งออกไปตอนไหนก็ไม่ทราบได้ น้ำเสียงละล่ำละลักไต่ถามออกไปนั่นเสียงของใครกันราวกับไม่ใช่ตัวเธอเอง น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่มีวันหมดสิ้นมีที่มาจากไหนกันนะ จากความเจ็บปวดทรมานที่กลางอกนี่รึเปล่า ? ช่างน่าประหลาดเหลือเกินคังโมยอนมารู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง กลายเป็นเธอและยุนมยองจูนั่งอยู่ตรงนั้นตรงบันไดกับน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหล ท่ามกลางแสงแดดสดจ้าแจ่มใสของวันธรรมดาวันหนึ่ง
ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสไร้เมฆ
ทำไมถึงต้องเป็นวันแบบนี้ ... มันไม่ควรนี่
หลังจากนั้นต่างหาก ... คือความทุกข์ทรมานอย่างแท้จริง "แฟนทหาร" ชะตากรรมของพวกเธอคือแบบนี้สินะ เธอยังมีชีวิตอยู่ได้ ร่างของเธอไม่ได้กลวงหรือว่างเปล่า หัวใจของเธอก็ยังมีจิตวิญญาณ ดำเนินชีวิตไปได้อย่างดีและปกติเท่าที่เธอจะทำให้มันเป็นได้ เขาตัดสินใจคบกับเธอเพราะรู้ว่าเมื่อวันแบบนี้มาถึงเธอจะต้องผ่านมันไปได้ เขาเคยลังเลเมื่อคิดถึงจุด ๆ นี้นี่นะแล้วเธอจะทำให้เขาผิดหวังได้อย่างไรเล่า ถึงจะล้มลุกคลุกคลานและน่าสมเพชสักหน่อย เธอก็จะไม่ตายเพราะเรื่องแบบนี้ ใช่ไหม หรือ ไม่ใช่ ? ทุกสิ่งทุกอย่างดูดีเว้นแต่เมื่อ "ความคิดถึง" จู่โจมเข้ามา
กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เธอเห็นภาพเขา ยามล้มตัวลงนอน มันต้องเจ็บปวดถึงขั้นไหนกันที่วันไหนวันหนึ่งคืนไหนคืนหนึ่ง เธอมโนภาพนั่งลงพูดจากับภาพสะท้อน พูดคุยเรื่องสัพเพเหระส่งต่อความคิดถึง ครั้นเมื่อสติกลับมาเยือนสมองอีกครั้ง โซฟาตัวนั้น เก้าอี้ข้างหน้าต่างที่เคยมีเจ้าของกลับกลายเป็นความว่างเปล่า กี่ครั้งที่ความเหงาเปล่าดายถึง "หนึ่งในไม่กี่คน" สร้างภาพมายาดึงเธอเข้าไปในห้วงสุขและอีกไม่กี่วินาทีก็ฟาดฟันทำร้ายฉุดเธอลงไปในห้วงทุกข์ และ กี่ครั้งที่เธอต่อสู้และลุกขึ้นมาใหม่ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับคน ๆ นั้น วนเวียนตั้งแต่วันที่จากลา
แบบนี้รึเปล่าที่เขาเรียกว่าเวลาไม่ได้ทำให้ลืม
แต่ทำให้ "ชา และ ชิน" ไปเอง
บัดนี้เธอกลับมาทำงานอาสาอีกครั้ง ที่นี่ทำให้เธอคิดถึง "อุรุค" ดินแดนที่ทำให้ฟูมฟักเมล็ดพันธุ์ความรักให้เกิดต้นกล้าอ่อน ก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปนะ ตัวเธอเมื่อดูจากภายนอกก็แทบไม่มีสิ่งใดผิดแผกจากเมื่อก่อน คงมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ถึงความชาและชินรวมถึงความแตกร้าวบางประการภายในจิตใจ น้ำตายังคงมีบ้างนาน ๆ ครั้ง มโนภาพก็เกิดขึ้นนาน ๆ ทีเมื่อยามต้องการน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ แม้เมื่อมโนภาพจางไปจะทิ้งไว้ซึ่งรอยขมที่นานช้าก็ยินยอม ก็กาลเวลาส่งหนทางเยียวยามอบภูมิคุ้มกันให้เจ็บและชินไปเองจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ
อ่อ หินก้อนนั้น ... พาเธอกลับมาที่นี่อีกจนได้ จะเรียกว่าปาฏิหาริย์หรือเปล่านะ เธอสงสัย ... แต่แล้วเสียง ๆ นั้น จากวิทยุสื่อสาร เสียงเรียกที่คุ้นเคยขอให้เธอหันไปมองข้างหลัง คังโมยอนได้แต่นิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น และ เมื่อหันไป ใครกันที่ขอบฟ้าลิบ ๆ นั่น เพราะน้ำตารึเปล่าที่ทำให้เธอเห็นอะไรไม่ชัดเจน ขาที่อ่อนแทบจะก้าวไม่ออกเริ่มออกเดิน เพื่อจะมองภาพให้ชัดขึ้น ขาที่เริ่มออกเดินกลายเป็นวิ่ง เพื่อให้เห็นชัดกว่าเดิม หากเธอล้มลงเขาจะหายไปไหมนะ นี่คือความจริงหรือมโนภาพครั้งใหญ่ที่สุดและร้ายกาจที่สุดนับตั้งแต่เขาจากไป
แต่แล้วอ้อมกอดแบบนั้น สัมผัสแบบนั้น ทำเอาเธอพูดอะไรไม่ออก จริงหรือ ? เธอพูดได้แต่คำนี้ คุณยังมีชีวิตอยู่หรือ ? ยังอยู่สินะ ยังมีชีวิตอยู่ คังโมยอนพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปแล้ว เหมือนตุ๊กตาที่ลานขาดไปเฉย ๆ ใบหน้าที่แนบกับบ่ากว้างผิวสัมผัสที่คุ้นเคย ริมฝีปากที่แนบอยู่กับริมขมับ ... นี่เรื่องจริงใช่ไหม ? บัดนี้คังโมยอนหลับตาลง คำขอโทษที่ดังก้องริมหูนั่นล่ะ เรื่องจริงหรือ ? ได้โปรดอย่าทำร้ายกันมากกว่านี้เลยนะ หากลืมตาแล้วเขาลับลอยหายไป ครั้งนี้เธออาจจะใช้ชีวิตอยู่ดีตามที่สัญญากับเขาไม่ได้อีกแล้ว
หากตอนนี้ขอหลับตาไว้แบบนี้ ตักตวงความสุขนี้เอาไว้หากมันจะเลือนหายไป ให้เป็นเรื่องหลังจากลืมตาเถอะนะ
และหนึ่งในนั้นก็คือเธอคนนี้ ที่ฉันนั้นโชคดีที่เราได้พบกัน
จากหนึ่งในร้อย หนึ่งจากในล้าน ได้มาร่วมทางเดิน
ให้คนอย่างฉันได้เจอกับรักดี ๆ
อยากบอกว่าฉัน ... รักเธออีกครั้ง ... คนดี
Descendants of the Sun (กึ่งรีวิวตอนที่ 15) : หนึ่งในไม่กี่คน
ไม่กี่คนที่ฉันให้ใจ
ให้กุมมือ .... อยากฝากชีวิต
"และหนึ่งในนั้นก็คือเธอคนนี้" ใช่หนึ่งในไม่กี่คนก็คือ "เธอ" นั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่รู้ ทั้ง ๆ ที่คาดได้ว่าวันไหนวันหนึ่งที่ร่ำลากันมันอาจจะกลายเป็นการโบกมือลาครั้งสุดท้ายก็ได้ แม้จะมีน้ำตา แม้จะมีความกังวลและเป็นห่วงมากเท่าใด มันกลับกลายเป็นกำลังใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์เชื่อมโยงและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นเมื่อทั้งเขาและเธอก็ตัดสินใจที่จะร่วมเคียงข้างเดินทางร่วมกันไปโดยมุ่งมั่นที่จะรักษาสัญญาอย่างแน่วแน่ "เขา" จะพยายามจนสุดชีวิตเพื่อรอดกลับมาหาเธอ และ "เธอ" ก็จะใช้ชีวิตอย่างดีเป็นเบื้องหลังที่เข้มแข็ง "พร้อมเป็นที่พึ่ง" ในเวลาที่เขาต้องการ
แต่เมื่อ "ครั้งสุดท้าย" มาถึงจริง ๆ
ภายในสมอง และ ดวงตาของเธอ
เหลือเพียง "ความว่างเปล่า"
เหมือนโลกจะหยุดหมุน และ สรรพสิ่งจะหยุดเคลื่อนไหวไปพักหนึ่ง เขาจากไปแล้ว ... จริงหรือ เป็นเช่นนั้นหรือ ไหนเขาว่าอะไรนะก่อนหน้านั้น ภารกิจสามเดือนใช่ไหม เธอพูดอะไรไปบ้างนะคืนวันนั้น เธอร้องไห้รึเปล่า เธอบอกเขาว่าอะไร ทุกอย่างวนเวียนอยู่ในหัว กระดาษแผ่นหนึ่งยับย่นอยู่ในอุ้งมือชื้นเหงื่อ เธอวิ่งออกไปตอนไหนก็ไม่ทราบได้ น้ำเสียงละล่ำละลักไต่ถามออกไปนั่นเสียงของใครกันราวกับไม่ใช่ตัวเธอเอง น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่มีวันหมดสิ้นมีที่มาจากไหนกันนะ จากความเจ็บปวดทรมานที่กลางอกนี่รึเปล่า ? ช่างน่าประหลาดเหลือเกินคังโมยอนมารู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง กลายเป็นเธอและยุนมยองจูนั่งอยู่ตรงนั้นตรงบันไดกับน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหล ท่ามกลางแสงแดดสดจ้าแจ่มใสของวันธรรมดาวันหนึ่ง
ทำไมถึงต้องเป็นวันแบบนี้ ... มันไม่ควรนี่
หลังจากนั้นต่างหาก ... คือความทุกข์ทรมานอย่างแท้จริง "แฟนทหาร" ชะตากรรมของพวกเธอคือแบบนี้สินะ เธอยังมีชีวิตอยู่ได้ ร่างของเธอไม่ได้กลวงหรือว่างเปล่า หัวใจของเธอก็ยังมีจิตวิญญาณ ดำเนินชีวิตไปได้อย่างดีและปกติเท่าที่เธอจะทำให้มันเป็นได้ เขาตัดสินใจคบกับเธอเพราะรู้ว่าเมื่อวันแบบนี้มาถึงเธอจะต้องผ่านมันไปได้ เขาเคยลังเลเมื่อคิดถึงจุด ๆ นี้นี่นะแล้วเธอจะทำให้เขาผิดหวังได้อย่างไรเล่า ถึงจะล้มลุกคลุกคลานและน่าสมเพชสักหน่อย เธอก็จะไม่ตายเพราะเรื่องแบบนี้ ใช่ไหม หรือ ไม่ใช่ ? ทุกสิ่งทุกอย่างดูดีเว้นแต่เมื่อ "ความคิดถึง" จู่โจมเข้ามา
กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เธอเห็นภาพเขา ยามล้มตัวลงนอน มันต้องเจ็บปวดถึงขั้นไหนกันที่วันไหนวันหนึ่งคืนไหนคืนหนึ่ง เธอมโนภาพนั่งลงพูดจากับภาพสะท้อน พูดคุยเรื่องสัพเพเหระส่งต่อความคิดถึง ครั้นเมื่อสติกลับมาเยือนสมองอีกครั้ง โซฟาตัวนั้น เก้าอี้ข้างหน้าต่างที่เคยมีเจ้าของกลับกลายเป็นความว่างเปล่า กี่ครั้งที่ความเหงาเปล่าดายถึง "หนึ่งในไม่กี่คน" สร้างภาพมายาดึงเธอเข้าไปในห้วงสุขและอีกไม่กี่วินาทีก็ฟาดฟันทำร้ายฉุดเธอลงไปในห้วงทุกข์ และ กี่ครั้งที่เธอต่อสู้และลุกขึ้นมาใหม่ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับคน ๆ นั้น วนเวียนตั้งแต่วันที่จากลา
แต่ทำให้ "ชา และ ชิน" ไปเอง
บัดนี้เธอกลับมาทำงานอาสาอีกครั้ง ที่นี่ทำให้เธอคิดถึง "อุรุค" ดินแดนที่ทำให้ฟูมฟักเมล็ดพันธุ์ความรักให้เกิดต้นกล้าอ่อน ก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปนะ ตัวเธอเมื่อดูจากภายนอกก็แทบไม่มีสิ่งใดผิดแผกจากเมื่อก่อน คงมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ถึงความชาและชินรวมถึงความแตกร้าวบางประการภายในจิตใจ น้ำตายังคงมีบ้างนาน ๆ ครั้ง มโนภาพก็เกิดขึ้นนาน ๆ ทีเมื่อยามต้องการน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ แม้เมื่อมโนภาพจางไปจะทิ้งไว้ซึ่งรอยขมที่นานช้าก็ยินยอม ก็กาลเวลาส่งหนทางเยียวยามอบภูมิคุ้มกันให้เจ็บและชินไปเองจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ
อ่อ หินก้อนนั้น ... พาเธอกลับมาที่นี่อีกจนได้ จะเรียกว่าปาฏิหาริย์หรือเปล่านะ เธอสงสัย ... แต่แล้วเสียง ๆ นั้น จากวิทยุสื่อสาร เสียงเรียกที่คุ้นเคยขอให้เธอหันไปมองข้างหลัง คังโมยอนได้แต่นิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น และ เมื่อหันไป ใครกันที่ขอบฟ้าลิบ ๆ นั่น เพราะน้ำตารึเปล่าที่ทำให้เธอเห็นอะไรไม่ชัดเจน ขาที่อ่อนแทบจะก้าวไม่ออกเริ่มออกเดิน เพื่อจะมองภาพให้ชัดขึ้น ขาที่เริ่มออกเดินกลายเป็นวิ่ง เพื่อให้เห็นชัดกว่าเดิม หากเธอล้มลงเขาจะหายไปไหมนะ นี่คือความจริงหรือมโนภาพครั้งใหญ่ที่สุดและร้ายกาจที่สุดนับตั้งแต่เขาจากไป
แต่แล้วอ้อมกอดแบบนั้น สัมผัสแบบนั้น ทำเอาเธอพูดอะไรไม่ออก จริงหรือ ? เธอพูดได้แต่คำนี้ คุณยังมีชีวิตอยู่หรือ ? ยังอยู่สินะ ยังมีชีวิตอยู่ คังโมยอนพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปแล้ว เหมือนตุ๊กตาที่ลานขาดไปเฉย ๆ ใบหน้าที่แนบกับบ่ากว้างผิวสัมผัสที่คุ้นเคย ริมฝีปากที่แนบอยู่กับริมขมับ ... นี่เรื่องจริงใช่ไหม ? บัดนี้คังโมยอนหลับตาลง คำขอโทษที่ดังก้องริมหูนั่นล่ะ เรื่องจริงหรือ ? ได้โปรดอย่าทำร้ายกันมากกว่านี้เลยนะ หากลืมตาแล้วเขาลับลอยหายไป ครั้งนี้เธออาจจะใช้ชีวิตอยู่ดีตามที่สัญญากับเขาไม่ได้อีกแล้ว
และหนึ่งในนั้นก็คือเธอคนนี้ ที่ฉันนั้นโชคดีที่เราได้พบกัน
จากหนึ่งในร้อย หนึ่งจากในล้าน ได้มาร่วมทางเดิน
ให้คนอย่างฉันได้เจอกับรักดี ๆ
อยากบอกว่าฉัน ... รักเธออีกครั้ง ... คนดี