สวัสดีนี่เป็นกระทู้แรกของเรานะ อย่างแรกเราจะบอกก่อนเลยว่าแต่ก่อนเราไม่ชอบพวกทหารตำรวจเลย (ถึงขั้นไม่ชอบมากๆ) อะเข้าเรื่องเลยละกัน เราเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาเรียน มอปลาย ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ในทุกๆปีโรงเรียนเราจะมีกีฬาประเพณีกับนักเรียนเตรียมทหาร ปีแรกเป็นปีที่เรายังงงๆ ว่ามันคืองานอะไร
พอถึงวันงาน เพื่อนก็พาเราเดินไปนั้นไปนี้ในงาน จนถึงกลางวันเราต้องไปทำฟัน ก็เลยขอตัวออกมาก่อน แต่เย็นๆเราก็เข้าไปหาเพื่อนใหม่ ขณะกำลังคุยกับเพื่อนนั้น มีคนมาขอเฟสจ้าา 555 เพื่อนเราแซวกันใหญ่ เรานี้ทำไรไม่ถูกเลย
555
วันนั้นผ่านไป ก็มีนตทแอดเฟสมาเรื่อยๆ มีทักมาคุยบ้าง ทักมาๆหายๆ เราก็งงๆมากว่าทำไมมาๆไปๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และแล้ววันหนึ่ง ก็มี(เราขอใช้ชื่อย่อว่าโอนะ) ทักมา เราก็คิดว่าโอคงเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมาแล้วมันก็จริง เพราะโอมาๆหายๆทักมาบ้าง หายไปบ้าง เรานี้เข้าใจจนเริ่มชินไปแล้วจนคิดไปว่า นตท มันก็เหมือนกันทุกคนนั้นล่ะ จนถึงวันปิดเทอมของโอ โอก็ทักเรามาคุยเรื่อยๆ เพราะเหมือนช่วงนั้นโออกหักก็เลยทักมาคุยกับเรา แต่เราก็คุยกับ นตท คนหนึ่งอยู่ซึ่งนตทคนนี้(เราขอใช้ชื่อย่อว่านอนะ) เขาจะโทรมาหาเราบ่อยมาก จากโรงเรียนนะ จนเพื่อนเรามันอิจฉากันหมด นอโทรมาบ่อยมากจนเราเริ่มรู้สึกดีกับเขา เพราะเพื่อนก็เชียร์อยู่ เราก็บอกนอไปว่า โอทักมาคุยนะ นอก็ไม่พูดอะไรนะ ก็อึ้งไปเลย ทุกครั้งที่โอทักมาเราจะบอกนอเสมอ เพราะเราไม่อยากปิดบัง ซึ่งการมารู้อะไรที่หลังมันเจ็บกว่า นอก็เข้าใจนะ แล้วนอก็เริ่มเปลี่ยนไป เราเปิดใจคุยกับนอมากนะ เราเป็นคนหนึ่งที่จะไม่ยอมให้ใครรู้จักตัวตนจริงๆ ตอนคุยกับนอ เราไม่เคยเปิดใจให้โอเลย จนวันหนึ่งนอทิ้งเราไป แบบหายไปเลย เรางงมาก แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนะ กลัวว่าจะรบกวนเขามากเกินไป ช่วงนั้นโอเข้ามาคุยแบบเข้าใจเรามาก เราก็เลยคุยกับโอมากขึ้น ยิ่งคุยยิ่งรู้เลยว่านี้ล่ะที่เข้ากับเราได้ เราคุยกันมาประมาณ 1 ปี โอก็ขอเราเป็นแฟน เราก็ตกลงนะ เพราะคุยกันมานานมาก และโอก็มาหาเราที่เชียงใหม่
บอกเลยว่าโอในความคิดกับตัวจริงนี้ต่างกันมาก 555 คือนิสัยยังเหมือนเดิม คนอะไรชอบทำอะไรแปลกๆ
แต่เราก็ชอบนะแปลกๆ ตอนโอมาเชียงใหม่ โอบอกว่ายังไม่ลืมที่คุยกันใช่ไหม(คุยกันตั้งแต่ก่อนโอจะมาว่าจะพาเที่ยว) วันแรกที่เจอโอเรามาสายไปครึ่งชั่วโมง เพราะเราไปกล้ามาเจอ บอกเลยว่ารู้สึกกลัวมาก พอตัวสินใจมา พอมาถึงโอจัดเราชุดใหญ่เลย เขาไม่ด่านะ แต่ใช้คำพูดแบบผู้ใหญ่คุยกับเด็ก เรานี้นั่งเงียบรอรับผลการกระทำอย่างเดียว 555 แต่เป็นการว่าที่เราสะใจเรามาก55 คือเรารู้ตัวเองไงว่าสายมันไม่ดี แต่เข้าใจไหมว่าไม่กล้ามา กลัวเขาไม่ชอบเรานั้นนู้นนี่ พอเจอแล้วอาจจะไม่เหมือนเดิม กลัวหมด วันนั้นการมาสายของเราทำให้เราพพลาดอะไรหลายๆอย่างไปมาก จากที่นัดกันจะไปสุเทพกัน ก็ไม่ได้ไป เราก็เลยไปนั่งกินข้าวกันแทน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เราก็นั่งกินของเราไป โอจ้องเราไม่ละสายตาเลย เราก็ไม่กล้าสบตา แล้วโอก็ถามเรานั้นนู้นนี้ไปเรื่อยๆ เรานี้ไม่กล้าถามเลย เรานั่งฟังไปพับทิชชู่ไป โอถามว่าทำอะไร เราบอกว่าพับทิชชู่ค่ะ โอก็บอกว่า อ่ะ งั้นพับแข่งกัน เราพับเป็นรูปหัวใจ ส่วนโอพับอยู่สักพัก แล้วโอก็ถามว่า รู้ไหมว่าโอพับเป็นอะไร เราส่ายหัว (เหมือนเด็กน้อยทำตาบ้องแบ้ว) แล้วโอก็เอาขึ้นมา 5555 มันเป็นกุหลาบบ โอก็บอกว่า อ่ะ ให้ เรางงเล็กน้อยบวกเขิล
และแล้วก็จบวันแรกของการเจอกัน
วันต่อมาเรานัดกันเที่ยงๆ เรามารอโอก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง วันนี้เรานัดกันว่าจะไปกินไอติมกัน แล้วก็ไปเที่ยววัดในเชียงใหม่กัน เราก็พาโอไปกินไอติมซึ่งโอบอกว่าอร่อยมาก แล้วเราก็ขับรถไปวัดกันไปไหว้พระทำบุญกัน โอถามเราว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็บอกว่าสบายใจมากค่ะ เราจบตอนเย็นด้วยการไปยืนคุยกันที่สะพาน ดูสายน้ำธรรมชาติกัน เราก็คุยกันถึงเรื่องชีวิตของนตท มันทำให้เราเข้าใจนตทมากขึ้น แล้วเพื่อนโอก็โทรมาบอกว่ามีธุระด่วน โอบอกเราว่าเพื่อนบอกให้ไปตอนนี้ เราก็โอเค แต่โอบอกว่าคุยกันก่อนอย่าเพิ่งไป เราก็คุยต่อโอก็บอกว่า วันนี้โอยอมไปช้าเพื่อที่จะอยู่กับเรา มันทำให้เรารู้สึกถึงคุณค่าของเวลามาก ตอนนั้นเพื่อนโอโทรมาเป็น 10 สาย แต่โอก็ยังคุยกับเราต่อไป ทั้งๆที่โอเป็นคนตรงเวลามาก วันนั้นโอทะเลาะกับเพื่อนเพราะเรา เรารู้สึกผิดมาก มาก คืนนั้นเราได้แชทคุยกันนิดหน่อยเพราะโอมีธุระ
วันต่อมา วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่โอจะอยู่เชียงใหม่ เพราต้องรีบกลับ วันนี้เราไปเที่ยวสวนสัตว์กัน แล้วก็ไปดอยสุเทพ พอถึงสวนสัตว์เราก็เดินไปคุยไปเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนบ้าง เราแลกกันร้องเพลงมาร์ชโรงเรียน แล้วโอก็ขอจับมือเราตอนนั้นก็จับมือไปเดินไป ร้องเพลงไป 555 มันเป็นการรู้จักกันแบบแปลก แล้วก็รู้สึกดีมาก โอจะชอบนั่งใกล้เรา แล้วก็เหมือนจะอ้อนเราในบางครั้ง โอน่ารักมากๆ ตอนนั้นเราทำไรไม่ถูกสักอย่าง ได้แต่เขิล พอเที่ยวสวนสัตว์เสร็จก็ขึ้นไปดอยสุเทพต่อ เราบอกโอว่าเราจะขับรถให้เพราะเราไปบ่อย โอบอกไม่ต้องโอจะขับเอง เราก็ขับรถขึ้นไปคุยกันไป จนถึงข้างบนเราก็ไปไหว้พระกัน แล้วไปยืนชมวิว เราคุยกันถึงสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันคือเมืองเชียงใหม่ โอบอกโอชอบเชียงใหม่มาก เพราะอากาศดี เราคุยกันถึงความทุกข์ความสุขของกันและกัน แต่ตอนนั้นฝนก็ดันจะมาตกแล้วโอก็ต้องรีบกลับ เราก็เลยรีบลงมา เราตากฝนขับรถกันลงมา 555 เราถามโอว่าหนาวไหม โอบอกไม่ โอก็ถามเราว่า ทำไมไม่เห็นกอดเลย เรานี้อึ้งงง มาก ก็เพิ่งเจอกัน จะกอดเลยหรอ555 ก็อยากทำอยู่ละนะ เราก็เลยจับเอวโอ ฝนก็ไม่ได้ตกเยอะเท่าไหร่พอชุ่มชื้น ระหว่างนั้นเราก็แวะพักที่จุดพักรถ มันจะมีจุดชมวิวอยู่ เราเลยเดินไปคุยกันตรงนั้น โอบอกว่า ขอมือเราหน่อย แล้วถอดแหวนที่มือเขาใส่ให้เรามันเป็นแหวนญาติ แล้วโอก็บอกว่า นิ้วเล็กนะนี่ สงสัยคงต้องสั่งพิเศษ เราก็อ่าๆ คือ ตกใจอยู่ว่าเฮ้ย อะไรร 555 เขิลมาก เรานี้ได้แต่ยิ้ม
แล้วโอก็ถอดคืนไป แล้วโอก็บอกว่าไปได้แล้ว เพราะต้องรีบกลับ เราไปส่งโอขึ้นรถกลับ เราก็นั่งคุยกันได้สักพัก แล้วโอก็บอกว่ามีอะไรจะให้ โอบอกว่ารอตรงนี้นะ แล้วโอก็เดินไป เราก็คิดในใจว่าอะไรนี่ แล้วสักพักโอก็เดินมาพร้อมกับกล่องอะไรสักอย่าง โอก็ยื่นให้ เราก็ถามว่าอะไรค่ะ โอบอกว่า มันคือตุ๊กตาทหาร... เราก็อ่อค่ะ เอาไว้ดูตอนคิดถึงโอนะ 555 โอน่ารักจริงๆ
ก่อนเรากลับโอกอดเราท่ามกลางผู้คนมากมายย เราก็ไม่ว่าอะไรนะ แต่ก็มีคนมองมาเยอะเหมือนกัน โอบอกว่าโอไม่เคยกอดใครแบบนี้ เราก็ได้แต่ยื่นอึ้งๆ ตอนนั้นเราชอบโอมาก ทุกๆอย่างเราเข้ากันได้ คุยกันได้ทุกๆเรื่อง โอเป็นคนใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั้งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เราพูดกันตรงๆมีอะไรไม่เคยไม่พูดกัน หลังจากโอกลับ ทุกๆวันเราคุยกันได้มากกว่าเดิม สิ่งที่เรากลัวตอนแรก คือเราคิดไปเองทั้งนั้น โอบอกโอชอบที่เราเป็นเรา เราคุยกันทุกวัน พอโอเปิดเทอม เราก็คุยกันบางอาทิตย์ เราไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว บางครั้งไม่ได้คุยกันเป็นหลายเดือน แต่เรากับโอจะชอบส่งรูปหรือเล่าเรื่องราวต่างๆที่เจอในแต่ละวันลงไปในแชท มันทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่ใกล้กัน ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อ่านเป็นเดือนๆ แต่พอว่าง โอจะอ่านทุกคำที่เราพิมไป แล้วคุยกันปกติ เหมือนเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน แล้วเราก็ส่งจดหมายไปหาโอที่โรงเรียน เพราะโอบอกว่าอยากเห็นตัวหนังสือ เราเป็นคนที่ใส่ใจและชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เราทำกล่อง ซองจดหมาย เอง
เพราะเราคิดว่า คุณค่าของอะไรสักอย่างมันไม่ได้อยู่ที่ปริมาณหรือความแพง แต่มันมันอยู่ที่ใจของคนที่จะให้ว่าอยากให้มากแค่ไหน โอบอกว่าโอชอบสิ่งที่เราส่งไปให้มาก โอเก็บทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี พอวันไหนที่โอออกโรงเรียนโอจะพาเราไปเที่ยวนั้นนู้นนี่ แต่เป็นการพาเที่ยวที่น่ารักมาก เพราะเราไกลกัน โอไปที่ไหนโอจะถ่ายรูปมาให้ แล้วถามว่าไปกัน คือเหมือนเดินอยู่ข้างๆกัน ถึงแม้ในความจริงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม เราบอกโอว่าเราชอบนะที่คุยกันแบบนี้
จนวันหนึ่ง เราก็เลิกกัน (ไม่ขอบอกเหตุผลนะ) เราคอลคุยกัน แล้วโอก็ร้องไห้ โอทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้เรากลับไป โอเอาแหวนขึ้นมาแล้วบอกว่านี้มันเป็นแหวนของเรานะ โอจะให้เราตอนเจอกันอีกครั้ง เราร้องไห้ โอก็ร้องไห้ แล้วโอก็บอกว่า โอตามใจเราละกัน เราก็เลิกกัน ตอนที่คบกับโอเราไม่คุยกับใครสักคน เพราะเรามีเหตุผลบางอย่าง พอเลิกกับโอเราเงียบกว่าเดิม เราทรมานนะ มากๆ เราอยากจะทักไปบอกโอว่าเราไม่โอเค แต่เรากลัวไปกวนโอ จนวันหนึ่งโอทักเรามาหลังจากไปฝึก โอบอกว่า โอคิดถึงเรามากตอนที่ฝึกมันยิ่งคิดถึง เราก็บอกว่าเราก็คิดถึงโอมาก จนร้องเพลงมาร์ชที่หน้าเสาธงทุกวัน คือ เกือบจะร้องไห้ เราคุยกันแบบนี้เกือบทุกวัน ทุกครั้งที่เราคุยมันเศร้ามาก เรานั่งร้องไห้ด้วยกัน แต่มันเป็นการร้องไห้ที่มีความสุขมากเหลือเกิน หลายเดือนที่ผ่านมามันทำให้เรารู้ว่าเรารักโอมากแค่ไหน รักมากๆ เราก็บอกทุกอย่างกับโอว่าตั้งแต่เลิกกันไปเราไม่สบายใจมาก แล้วเรารักโอมาก โอก็บอกเราว่า โอก็คิดถึงเรามาก เราสองคนมีอาการที่เหมือนกัน คือมันจุกออกอ่ะ หายใจไม่ออก เรานี่ไม่เป็นอันทำอะไร ทั้งๆที่บางครั้งเราร้องไห้แต่เรายังนั่งทำงานต่อได้เลย แต่นี้มันความรู้สึกอะไร เราก็เพิ่งมาเป็นกับโอนี่ละนะ โอก็บอกว่าโอก็เป็นเหมือนกัน เราอยากทำนู้นนี่ด้วยกัน เราจิตนาการถึงกัน ทุกครั้งที่เราไปที่ที่ไปกับโอเรามีความสุขนะ แล้วก็คิดถึงโอด้วย แล้วเราก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม
แต่ยังไม่ใช่ในสถานะแฟน เราคุยกันเหมือนเดิมในทุกๆอย่าง บางครั้งโอบ่นเรา เราก็เข้าใจ แล้วเราก็พูดกับโอเสมอว่า เมื่อเวลามีน้อย จะมามัวทะเลาะกันทำไม เราเลยไม่ทะเลาะกันมาจนถึงทุกวันนี้ บางครั้งยอมรับเลยว่าอึดอัด แต่เราก็ต้องเข้าใจกันและกัน ว่าต่างตนต่างต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง เราไม่เคยไม่ไว้ใจโอ เราไม่เคยระแวงเรื่องโอกับคนอื่น เพราะเราจะบอกกันทุกครั้งว่ามีใครทักมาแล้วคุยอะไร เราก็จะบอกโอเช่นกันว่ามีใครทักมา คุยอะไร เรากับโอเป็นคนพูดตรงมาก แบบชนิดที่ว่า ตรงจนเจ็บจึก แต่มันก็แค่ตอนนั้น ที่รู้สึกเจ็บ (เพราะเราจะฟังเหตุผลของกันและกัน) เราชอบรับฟังโอนะ แล้วเราก็จะไม่ตั้งคำถามกับโอมาก เพราะเราจะรับรู้ในส่วนที่ว่าโอจะบอกเราแค่ไหน เราเรียนรู้เราเปิดใจคุยกันจนเข้าใจกัน แต่มันมีเหตุบางอย่างที่เรากลับมาคบกันยังไม่ได้ .............
เมื่อเคยมีแฟนเป็น "นักเรียนเตรียมทหาร"
พอถึงวันงาน เพื่อนก็พาเราเดินไปนั้นไปนี้ในงาน จนถึงกลางวันเราต้องไปทำฟัน ก็เลยขอตัวออกมาก่อน แต่เย็นๆเราก็เข้าไปหาเพื่อนใหม่ ขณะกำลังคุยกับเพื่อนนั้น มีคนมาขอเฟสจ้าา 555 เพื่อนเราแซวกันใหญ่ เรานี้ทำไรไม่ถูกเลย 555
วันนั้นผ่านไป ก็มีนตทแอดเฟสมาเรื่อยๆ มีทักมาคุยบ้าง ทักมาๆหายๆ เราก็งงๆมากว่าทำไมมาๆไปๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และแล้ววันหนึ่ง ก็มี(เราขอใช้ชื่อย่อว่าโอนะ) ทักมา เราก็คิดว่าโอคงเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมาแล้วมันก็จริง เพราะโอมาๆหายๆทักมาบ้าง หายไปบ้าง เรานี้เข้าใจจนเริ่มชินไปแล้วจนคิดไปว่า นตท มันก็เหมือนกันทุกคนนั้นล่ะ จนถึงวันปิดเทอมของโอ โอก็ทักเรามาคุยเรื่อยๆ เพราะเหมือนช่วงนั้นโออกหักก็เลยทักมาคุยกับเรา แต่เราก็คุยกับ นตท คนหนึ่งอยู่ซึ่งนตทคนนี้(เราขอใช้ชื่อย่อว่านอนะ) เขาจะโทรมาหาเราบ่อยมาก จากโรงเรียนนะ จนเพื่อนเรามันอิจฉากันหมด นอโทรมาบ่อยมากจนเราเริ่มรู้สึกดีกับเขา เพราะเพื่อนก็เชียร์อยู่ เราก็บอกนอไปว่า โอทักมาคุยนะ นอก็ไม่พูดอะไรนะ ก็อึ้งไปเลย ทุกครั้งที่โอทักมาเราจะบอกนอเสมอ เพราะเราไม่อยากปิดบัง ซึ่งการมารู้อะไรที่หลังมันเจ็บกว่า นอก็เข้าใจนะ แล้วนอก็เริ่มเปลี่ยนไป เราเปิดใจคุยกับนอมากนะ เราเป็นคนหนึ่งที่จะไม่ยอมให้ใครรู้จักตัวตนจริงๆ ตอนคุยกับนอ เราไม่เคยเปิดใจให้โอเลย จนวันหนึ่งนอทิ้งเราไป แบบหายไปเลย เรางงมาก แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนะ กลัวว่าจะรบกวนเขามากเกินไป ช่วงนั้นโอเข้ามาคุยแบบเข้าใจเรามาก เราก็เลยคุยกับโอมากขึ้น ยิ่งคุยยิ่งรู้เลยว่านี้ล่ะที่เข้ากับเราได้ เราคุยกันมาประมาณ 1 ปี โอก็ขอเราเป็นแฟน เราก็ตกลงนะ เพราะคุยกันมานานมาก และโอก็มาหาเราที่เชียงใหม่
บอกเลยว่าโอในความคิดกับตัวจริงนี้ต่างกันมาก 555 คือนิสัยยังเหมือนเดิม คนอะไรชอบทำอะไรแปลกๆ แต่เราก็ชอบนะแปลกๆ ตอนโอมาเชียงใหม่ โอบอกว่ายังไม่ลืมที่คุยกันใช่ไหม(คุยกันตั้งแต่ก่อนโอจะมาว่าจะพาเที่ยว) วันแรกที่เจอโอเรามาสายไปครึ่งชั่วโมง เพราะเราไปกล้ามาเจอ บอกเลยว่ารู้สึกกลัวมาก พอตัวสินใจมา พอมาถึงโอจัดเราชุดใหญ่เลย เขาไม่ด่านะ แต่ใช้คำพูดแบบผู้ใหญ่คุยกับเด็ก เรานี้นั่งเงียบรอรับผลการกระทำอย่างเดียว 555 แต่เป็นการว่าที่เราสะใจเรามาก55 คือเรารู้ตัวเองไงว่าสายมันไม่ดี แต่เข้าใจไหมว่าไม่กล้ามา กลัวเขาไม่ชอบเรานั้นนู้นนี่ พอเจอแล้วอาจจะไม่เหมือนเดิม กลัวหมด วันนั้นการมาสายของเราทำให้เราพพลาดอะไรหลายๆอย่างไปมาก จากที่นัดกันจะไปสุเทพกัน ก็ไม่ได้ไป เราก็เลยไปนั่งกินข้าวกันแทน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เราก็นั่งกินของเราไป โอจ้องเราไม่ละสายตาเลย เราก็ไม่กล้าสบตา แล้วโอก็ถามเรานั้นนู้นนี้ไปเรื่อยๆ เรานี้ไม่กล้าถามเลย เรานั่งฟังไปพับทิชชู่ไป โอถามว่าทำอะไร เราบอกว่าพับทิชชู่ค่ะ โอก็บอกว่า อ่ะ งั้นพับแข่งกัน เราพับเป็นรูปหัวใจ ส่วนโอพับอยู่สักพัก แล้วโอก็ถามว่า รู้ไหมว่าโอพับเป็นอะไร เราส่ายหัว (เหมือนเด็กน้อยทำตาบ้องแบ้ว) แล้วโอก็เอาขึ้นมา 5555 มันเป็นกุหลาบบ โอก็บอกว่า อ่ะ ให้ เรางงเล็กน้อยบวกเขิล และแล้วก็จบวันแรกของการเจอกัน
วันต่อมาเรานัดกันเที่ยงๆ เรามารอโอก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง วันนี้เรานัดกันว่าจะไปกินไอติมกัน แล้วก็ไปเที่ยววัดในเชียงใหม่กัน เราก็พาโอไปกินไอติมซึ่งโอบอกว่าอร่อยมาก แล้วเราก็ขับรถไปวัดกันไปไหว้พระทำบุญกัน โอถามเราว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็บอกว่าสบายใจมากค่ะ เราจบตอนเย็นด้วยการไปยืนคุยกันที่สะพาน ดูสายน้ำธรรมชาติกัน เราก็คุยกันถึงเรื่องชีวิตของนตท มันทำให้เราเข้าใจนตทมากขึ้น แล้วเพื่อนโอก็โทรมาบอกว่ามีธุระด่วน โอบอกเราว่าเพื่อนบอกให้ไปตอนนี้ เราก็โอเค แต่โอบอกว่าคุยกันก่อนอย่าเพิ่งไป เราก็คุยต่อโอก็บอกว่า วันนี้โอยอมไปช้าเพื่อที่จะอยู่กับเรา มันทำให้เรารู้สึกถึงคุณค่าของเวลามาก ตอนนั้นเพื่อนโอโทรมาเป็น 10 สาย แต่โอก็ยังคุยกับเราต่อไป ทั้งๆที่โอเป็นคนตรงเวลามาก วันนั้นโอทะเลาะกับเพื่อนเพราะเรา เรารู้สึกผิดมาก มาก คืนนั้นเราได้แชทคุยกันนิดหน่อยเพราะโอมีธุระ
วันต่อมา วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่โอจะอยู่เชียงใหม่ เพราต้องรีบกลับ วันนี้เราไปเที่ยวสวนสัตว์กัน แล้วก็ไปดอยสุเทพ พอถึงสวนสัตว์เราก็เดินไปคุยไปเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนบ้าง เราแลกกันร้องเพลงมาร์ชโรงเรียน แล้วโอก็ขอจับมือเราตอนนั้นก็จับมือไปเดินไป ร้องเพลงไป 555 มันเป็นการรู้จักกันแบบแปลก แล้วก็รู้สึกดีมาก โอจะชอบนั่งใกล้เรา แล้วก็เหมือนจะอ้อนเราในบางครั้ง โอน่ารักมากๆ ตอนนั้นเราทำไรไม่ถูกสักอย่าง ได้แต่เขิล พอเที่ยวสวนสัตว์เสร็จก็ขึ้นไปดอยสุเทพต่อ เราบอกโอว่าเราจะขับรถให้เพราะเราไปบ่อย โอบอกไม่ต้องโอจะขับเอง เราก็ขับรถขึ้นไปคุยกันไป จนถึงข้างบนเราก็ไปไหว้พระกัน แล้วไปยืนชมวิว เราคุยกันถึงสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันคือเมืองเชียงใหม่ โอบอกโอชอบเชียงใหม่มาก เพราะอากาศดี เราคุยกันถึงความทุกข์ความสุขของกันและกัน แต่ตอนนั้นฝนก็ดันจะมาตกแล้วโอก็ต้องรีบกลับ เราก็เลยรีบลงมา เราตากฝนขับรถกันลงมา 555 เราถามโอว่าหนาวไหม โอบอกไม่ โอก็ถามเราว่า ทำไมไม่เห็นกอดเลย เรานี้อึ้งงง มาก ก็เพิ่งเจอกัน จะกอดเลยหรอ555 ก็อยากทำอยู่ละนะ เราก็เลยจับเอวโอ ฝนก็ไม่ได้ตกเยอะเท่าไหร่พอชุ่มชื้น ระหว่างนั้นเราก็แวะพักที่จุดพักรถ มันจะมีจุดชมวิวอยู่ เราเลยเดินไปคุยกันตรงนั้น โอบอกว่า ขอมือเราหน่อย แล้วถอดแหวนที่มือเขาใส่ให้เรามันเป็นแหวนญาติ แล้วโอก็บอกว่า นิ้วเล็กนะนี่ สงสัยคงต้องสั่งพิเศษ เราก็อ่าๆ คือ ตกใจอยู่ว่าเฮ้ย อะไรร 555 เขิลมาก เรานี้ได้แต่ยิ้ม แล้วโอก็ถอดคืนไป แล้วโอก็บอกว่าไปได้แล้ว เพราะต้องรีบกลับ เราไปส่งโอขึ้นรถกลับ เราก็นั่งคุยกันได้สักพัก แล้วโอก็บอกว่ามีอะไรจะให้ โอบอกว่ารอตรงนี้นะ แล้วโอก็เดินไป เราก็คิดในใจว่าอะไรนี่ แล้วสักพักโอก็เดินมาพร้อมกับกล่องอะไรสักอย่าง โอก็ยื่นให้ เราก็ถามว่าอะไรค่ะ โอบอกว่า มันคือตุ๊กตาทหาร... เราก็อ่อค่ะ เอาไว้ดูตอนคิดถึงโอนะ 555 โอน่ารักจริงๆ
ก่อนเรากลับโอกอดเราท่ามกลางผู้คนมากมายย เราก็ไม่ว่าอะไรนะ แต่ก็มีคนมองมาเยอะเหมือนกัน โอบอกว่าโอไม่เคยกอดใครแบบนี้ เราก็ได้แต่ยื่นอึ้งๆ ตอนนั้นเราชอบโอมาก ทุกๆอย่างเราเข้ากันได้ คุยกันได้ทุกๆเรื่อง โอเป็นคนใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั้งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เราพูดกันตรงๆมีอะไรไม่เคยไม่พูดกัน หลังจากโอกลับ ทุกๆวันเราคุยกันได้มากกว่าเดิม สิ่งที่เรากลัวตอนแรก คือเราคิดไปเองทั้งนั้น โอบอกโอชอบที่เราเป็นเรา เราคุยกันทุกวัน พอโอเปิดเทอม เราก็คุยกันบางอาทิตย์ เราไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว บางครั้งไม่ได้คุยกันเป็นหลายเดือน แต่เรากับโอจะชอบส่งรูปหรือเล่าเรื่องราวต่างๆที่เจอในแต่ละวันลงไปในแชท มันทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่ใกล้กัน ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อ่านเป็นเดือนๆ แต่พอว่าง โอจะอ่านทุกคำที่เราพิมไป แล้วคุยกันปกติ เหมือนเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน แล้วเราก็ส่งจดหมายไปหาโอที่โรงเรียน เพราะโอบอกว่าอยากเห็นตัวหนังสือ เราเป็นคนที่ใส่ใจและชอบทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เราทำกล่อง ซองจดหมาย เอง เพราะเราคิดว่า คุณค่าของอะไรสักอย่างมันไม่ได้อยู่ที่ปริมาณหรือความแพง แต่มันมันอยู่ที่ใจของคนที่จะให้ว่าอยากให้มากแค่ไหน โอบอกว่าโอชอบสิ่งที่เราส่งไปให้มาก โอเก็บทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี พอวันไหนที่โอออกโรงเรียนโอจะพาเราไปเที่ยวนั้นนู้นนี่ แต่เป็นการพาเที่ยวที่น่ารักมาก เพราะเราไกลกัน โอไปที่ไหนโอจะถ่ายรูปมาให้ แล้วถามว่าไปกัน คือเหมือนเดินอยู่ข้างๆกัน ถึงแม้ในความจริงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม เราบอกโอว่าเราชอบนะที่คุยกันแบบนี้
จนวันหนึ่ง เราก็เลิกกัน (ไม่ขอบอกเหตุผลนะ) เราคอลคุยกัน แล้วโอก็ร้องไห้ โอทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้เรากลับไป โอเอาแหวนขึ้นมาแล้วบอกว่านี้มันเป็นแหวนของเรานะ โอจะให้เราตอนเจอกันอีกครั้ง เราร้องไห้ โอก็ร้องไห้ แล้วโอก็บอกว่า โอตามใจเราละกัน เราก็เลิกกัน ตอนที่คบกับโอเราไม่คุยกับใครสักคน เพราะเรามีเหตุผลบางอย่าง พอเลิกกับโอเราเงียบกว่าเดิม เราทรมานนะ มากๆ เราอยากจะทักไปบอกโอว่าเราไม่โอเค แต่เรากลัวไปกวนโอ จนวันหนึ่งโอทักเรามาหลังจากไปฝึก โอบอกว่า โอคิดถึงเรามากตอนที่ฝึกมันยิ่งคิดถึง เราก็บอกว่าเราก็คิดถึงโอมาก จนร้องเพลงมาร์ชที่หน้าเสาธงทุกวัน คือ เกือบจะร้องไห้ เราคุยกันแบบนี้เกือบทุกวัน ทุกครั้งที่เราคุยมันเศร้ามาก เรานั่งร้องไห้ด้วยกัน แต่มันเป็นการร้องไห้ที่มีความสุขมากเหลือเกิน หลายเดือนที่ผ่านมามันทำให้เรารู้ว่าเรารักโอมากแค่ไหน รักมากๆ เราก็บอกทุกอย่างกับโอว่าตั้งแต่เลิกกันไปเราไม่สบายใจมาก แล้วเรารักโอมาก โอก็บอกเราว่า โอก็คิดถึงเรามาก เราสองคนมีอาการที่เหมือนกัน คือมันจุกออกอ่ะ หายใจไม่ออก เรานี่ไม่เป็นอันทำอะไร ทั้งๆที่บางครั้งเราร้องไห้แต่เรายังนั่งทำงานต่อได้เลย แต่นี้มันความรู้สึกอะไร เราก็เพิ่งมาเป็นกับโอนี่ละนะ โอก็บอกว่าโอก็เป็นเหมือนกัน เราอยากทำนู้นนี่ด้วยกัน เราจิตนาการถึงกัน ทุกครั้งที่เราไปที่ที่ไปกับโอเรามีความสุขนะ แล้วก็คิดถึงโอด้วย แล้วเราก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม
แต่ยังไม่ใช่ในสถานะแฟน เราคุยกันเหมือนเดิมในทุกๆอย่าง บางครั้งโอบ่นเรา เราก็เข้าใจ แล้วเราก็พูดกับโอเสมอว่า เมื่อเวลามีน้อย จะมามัวทะเลาะกันทำไม เราเลยไม่ทะเลาะกันมาจนถึงทุกวันนี้ บางครั้งยอมรับเลยว่าอึดอัด แต่เราก็ต้องเข้าใจกันและกัน ว่าต่างตนต่างต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง เราไม่เคยไม่ไว้ใจโอ เราไม่เคยระแวงเรื่องโอกับคนอื่น เพราะเราจะบอกกันทุกครั้งว่ามีใครทักมาแล้วคุยอะไร เราก็จะบอกโอเช่นกันว่ามีใครทักมา คุยอะไร เรากับโอเป็นคนพูดตรงมาก แบบชนิดที่ว่า ตรงจนเจ็บจึก แต่มันก็แค่ตอนนั้น ที่รู้สึกเจ็บ (เพราะเราจะฟังเหตุผลของกันและกัน) เราชอบรับฟังโอนะ แล้วเราก็จะไม่ตั้งคำถามกับโอมาก เพราะเราจะรับรู้ในส่วนที่ว่าโอจะบอกเราแค่ไหน เราเรียนรู้เราเปิดใจคุยกันจนเข้าใจกัน แต่มันมีเหตุบางอย่างที่เรากลับมาคบกันยังไม่ได้ .............