สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปวันนี้อยากจะรีวิวทริปการเดินทางมาทำงานที่ Papeete, Tahiti นี่เป็นครั้งแรกที่เขียนกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวซึ่งปกติเราก็หาข้อมูลในพันทิปและเที่ยวอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เคยรีวิวเพราะมีหลายๆท่านรีวิวไว้ดีมากๆ รูปก็สวย เราเป็นคนถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเท่าไร ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ดูเอง แล้วโพสในเฟสบุคบ้างประมาณนี้ แต่สำหรับทริป Tahiti นี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาและก็ไม่รู้ว่าจะได้มาอีกหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ เพราะไกลและมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ คิดว่าคงไม่มีปัญญามาเองอีกรอบแน่ๆ การมา Tahiti รอบนี้มาทำงานค่ะ มาถึงตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2559 แล้ว กำหนดกลับไทยวันที่ 17 เมษายน 2559 ค่ะ บริษัทที่ทำอยู่เป็น world wild มีสาขากระจายอยู่หลายๆที่ในโลก ประมาณ 10 สาขาได้ โดย จขกท ทำงานอยู่ฝ่าย IT มีทั้งหมด 3 คน ทั่วโลก คนแรกอยู่ที่สาขา Tahiti ดูแลออฟฟิศโซน pacific ขอเรียกว่า เอ็ดด์ คนที่สองก็คือเราดูแลออฟฟิศโซนเอเชีย และคนสุดท้ายอยู่สาขาฝรั่งเศส ดูแลออฟฟิศฝั่งยุโรป ขอเรียกว่า กีกี้ ก็มีกันแค่นี้ค่ะไม่เยอะ ก็เลยต้องมีการนัดประชุมกันบ้าง จบเรื่องงานดีกว่าเนอะน่าเบื่อ เด่วเริ่มเลยดีกว่า



เริ่มต้นคือต้องทำวีซ่าซะก่อน Tahiti ก็คือ French Polynesia นั่นเอง ตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งใต้ อยากได้วีซ่าเข้าที่นี่ต้องไปทำเรื่องขอที่สถานทูตฝรั่งเศส ของเราทำวีซ่า Business มา ไม่ยากเย็นอะไร 3 วันได้รับเรียบร้อยโรงเรียนไทยแลนด์
หลังจากได้รับวีซ่าแล้วทางบริษัทก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมให้เป็นที่เรียบร้อย พอเรื่องเอกสารเสร็จสิ้นก็นั่งรอวันเดินทาง



เส้นทางที่เราบินไม่ได้ซับซ้อนอะไร BKK->AKL ด้วยการบินไทย 11 ชั่วโมง จากนั้นก็นั่งเครื่องต่อจาก AKL->PPT ด้วย Air Tahiti Nui อีกประมาณ 5 ชั่วโมง ก็จะถึงเมือง Papeete ค่ะ โดยมีเอ็ดด์มารอรับที่สนามบินเพื่อไปส่งที่โรงแรม

ทริปนี้ได้พักที่โรงแรม Le Meridien Tahiti ค่ะ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ Tahiti มีห้องทั้งแบบบังกาโลและห้องปกติ ส่วนตัวนั้นพักห้อง Deluxe Seaview คือบรรยากาศมันไม่เหมาะมาทำงานค่ะ มันเหมาะมาพักผ่อนมากกว่า ฮ่าๆๆๆๆ



ที่นี่เวลาจะช้ากว่าบ้านเรา 17 ชั่วโมง โดยตั้งอยู่ที่ UTC -10 Hawaii เรามาถึงคือวันเสาร์ที่ 2/04/2016 ประมาณเกือบสี่ทุ่ม เวลาที่เมืองไทยก็ประมาณบ่ายๆ แต่ด้วยความที่ว่าเราเหนื่อยจากการเดินทางเลยหลับปุ๋ยไม่สนใจเวลา ไม่ค่อยมีอาการเจ็ทแล็กเท่าไรนัก

ตื่นเช้าวันต่อมา อากาศไม่ค่อยดีเท่าไร มีฝนตกโปรยๆ นี่เป็นบรรยากาศรอบๆโรงแรม ตอนเช้าคนยังไม่เยอะ



เอ็ดด์กับกีกี้ ก็มารับเราที่โรงแรมแต่เช้าเพื่อไปดูปลาโลมากัน อากาศไม่ค่อยเป็นใจนัก แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเอาเรือออกจากฝั่ง โดยมาที่ Marina เพื่อเอาเรือออกไปดูโลมา


นี่เป็น marina เช่าจอดเรือ เอ็ดด์บอกว่าเช่าจอดเรือตรงนี้แพงมากๆ แต่ก็ไม่ได้ถามรายละเอียดว่ามากแค่ใหน

เรือลำนี้ค่ะที่จะนั่งไปดูโลมา เป็นเรือของเจ้านาย ยังใช้งานได้ดี

ส่วนนี่ก็คนขับเรือของเรา เอ็ดด์เคยทำงานขับเรือมากว่า 15 ปีก่อนที่จะมาเป็น IT เราก็สบายใจได้ ^^

ขับเรือออกมาซักพักจะเห็นโลมา เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาดูโลมากลางทะเลแบบนี้ โลมาพวกนี้จะออกมาว่ายน้ำกันตอนเช้าอย่างนี้ประจำ พอเห็นเรือผ่านก็จะว่ายมาใกล้ๆแบบนี้ค่ะ



จบจากโลมาก็กลับเอาเรือเข้ามาจอดที่เดิม จากนั้นเอ็ดด์ก็พาพวกเราขับรถเล่นในเมือง แต่เนื่องจากว่ามันคือวันอาทิตย์ ร้านค้าเกือบทุกร้านปิดหมดเลย บรรยากาศก็จะสงบๆ ก็เลยหาร้านนั่งดื่มอะไรเล็กๆน้อยๆกัน กีกี้ก็จัดเบียร์กันตั้งแต่หัววัน เบียร์ของที่นี่ชื่อ Hinano รสชาติก็คล้ายๆไฮเนเก้น แต่กลิ่นก็แตกต่างออกไป แก้วนี้ราคาประมาณ 180 บาท (500 XPF)


อันนี้เราเองค่ะ เห็นผู้ชายแล้วอดใจไม่ไหว เอ้ยยยยย ไม่ใช่ ก็แค่ชอบถ่ายรูปเล่นตลกๆไปวันๆ เอ็ดด์เลยจัดรูปนี้ให้ อิอิ


หลังจากทานข้าวเที่ยงก็ไปขับรถไปเล่นรอบๆเกาะ เอ็ดด์เลยพาพวกเราไปที่ Grotte ภาษาไทยคิดว่าน่าจะเป็นถ้ำ ข้างในมีน้ำตก มีคนเล่นน้ำอยู่ด้วย ตรงนี้เป็นโซนป่าของเกาะ


เสร็จจากชมป่า เอ็ดด์ก็พาพวกเรามาที่หาดสีดำ เราก็ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร เราขอเรียกว่าหาดสีดำแล้วกัน ที่มันเป็นสีดำเพราะเกิดจากดินระเบิดของภูเขาไฟผสมกับทราย ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหาดทรายสีดำธรรมชาติแบบนี้



พอเดินเล่นหาดได้ซักพักก็กลับไปทานข้าวเย็นกันในเมือง แล้วเอ็ดด์ก็แยกย้ายส่งทุกคนเข้าโรงแรม ต้องรีบเข้านอนเร็วเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องไปทำงานกันแต่เช้า คนที่นี่เริ่มเข้าออฟฟิสกันตั้งแต่ ตีห้าจนถึงเจ็ดโมงครึ่ง เราเองไม่ชินกับการตื่นเช้าเลยต้องรีบเข้านอน จบทริปของวันแรกค่ะ