@@ทำความรู้จัก French Polynesia กันก่อน
จริงๆเขาเป็นแค่อาณานิคมไกลโพ้นทะเลของฝรั่งเศส แต่เรารู้สึกว่ามันไม่เหมือนฝรั่งเศสเลย และคนที่นี่ก็ไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคนฝรั่งเศสด้วย เขาเรียกตัวเองว่า “ตาฮิเตียน”
@@มันอยู่ตรงไหน
อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ประกอบด้วยเกาะมากมาย 118 เกาะ กระจายตัวในมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ โดยมีเกาะหลักคือเกาะตาฮิติ (Tahiti) ซึ่งเปรียบเสมือน Capitol Island ของประเทศนี้ (จริงๆเขาเป็นแค่อาณานิคมแต่เราขอเรียกประเทศแล้วกันนะ) ซึ่งเกาะตาฮิติ ก็ยังมีเมืองหลวงของมันอีกที่มีชื่อว่ากรุง Pape’ete (อ่านกว่ากรุง ปา-ปิ-เอ-เต้) โดยสถานที่เที่ยวหลักที่คนนิยมไปคือเกาะ Bora Bora ครับ
@@ข้อมูลทั่วไป
มีประชากรราวๆ 3 แสนคนเท่านั้น บนเนื้อที่ทุกเกาะรวมกันแค่ 4 พันกว่าตารางกิโลเมตร กระจายตัวในมหาสมุทรแปซิฟิคในรัศมี 2 พันกิโลเมตร ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการและมีภาษาตาฮิเตียนของเขาเองด้วย ใช้เงินสกุล”ฟรัง” (Tahitian Franc : CFP) เรทเท่าๆกับเงินเยนของญี่ปุ่น (ของราคา 1,000 ฟรัง จะพอๆกับ 1,000 เยน หรือเอาเงินบาทไทยหารสาม พูดแบบนี้จะได้เข้าใจง่ายๆ) เวลาช้ากว่าเมืองไทย 17 ชั่วโมง (หรือจริงๆคือเร็วกว่าไทย 7 ชั่วโมงแต่ต้องย้อนหลังไปวันนึง) คนที่นี่ส่วนมากเป็นคนพื้นเมืองเชื้อชาติตาฮิเตียนหน้าตาไม่เหมือนฝรั่งนะ มีราวๆ 70% ของประชากรทั้งหมด อีก 30% ก็คนยุโรปและฝรั่งเศส
@@วีซ่า
ต้องขอผ่านสถานทูตฝรั่งเศสโดยวีซ่าที่ได้รับเป็นวีซ่าสำหรับเข้าอาณานิคมไกลโพ้นทะเลของฝรั่งเศสที่ระบุเฉพาะสำหรับเข้า French Polynesia เท่านั้น วีซ่าหน้าตาเหมือน Schengen ทุกประการ แต่ไม่ใช่ Schengen และไม่สามารถใช้เข้าประเทศในกลุ่ม Schengen รวมถึงประเทศแม่อย่างฝรั่งเศสด้วย ขั้นตอนการขอเหมือนการขอวีซ่า Schengen ฝรั่งเศสทุกประการครับ ผมได้รับวีซ่ามา 2 ปีแบบ multiple entries ครับ
@@การเดินทางจากประเทศไทย
ความที่ประเทศนี้มันโดดเดี่ยวเหลือเกิน แล้วก็ไกลจากเมืองไทยมากๆ การเดินทางจากเมืองไทย ปกติแล้วจะต้องไปแวะที่ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ก่อนซึ่งจะเลือกทางไหนก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ
Narita - Papeete
มี 2 flights ต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยสายการบิน Air Tahiti Nui ใช้เวลาบินราวๆ 11 ชั่วโมง
Auckland - Papeete
มี 6 flights ต่อสัปดาห์ โดย Air Tahiti Nui กับ Air New Zealand ใช้เวลาบินราวๆ 5 ชั่วโมงกว่าๆ
นอกจากนี้ยังมี flight จากที่ต่างๆในโลกมาลงคือ
Los Angeles - Papeete
สายการบิน Air France มี 2 flights ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะบินต่อไปยังปารีสด้วย
สายการบิน Air Tahiti Nui มี 6 flights ต่อสัปดาห์ ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง
Honolulu - Papeete
สายการบิน Hawaiian Airlines มีแค่สัปดาห์ละ flight ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมงกว่า
Easter Island - Papeete
สายการบิน LATAM Airlines มีแค่สัปดาห์ละ 2 flights ซึ่งจะบินต่อไปยังกรุง Santiago ประเทศชิลีด้วย
จะเห็นว่าการมา French Polynesia แอบมายากเพราะ flight จากที่ต่างๆในโลกมาลงไม่เยอะและไม่ได้มีทุกวัน การมาเที่ยวที่นี่จึงต้องวางแผนให้ดีๆ
@@มารู้จักสายการบินประจำชาติเขากันครับ
French Polynesia จะมีสายการบินของตัวเองหลักๆ 2 สายการบิน แบ่งแยกชัดเจนคือ
Air Tahiti Nui ซึ่งจะบินเฉพาะรูท International เท่านั้น มีเครื่องบินใน fleet แค่ 4 ลำเท่านั้น โดยใช้เครื่องบิน Boeing 787-9 ใหม่เอี่ยมทั้งฝูงบิน ซึ่งมีเที่ยวบินไปยัง 3 เส้นทางคือ Tokyo, Auckland และ Los Angeles
Air Tahiti (ไม่มีคำว่า Nui ต่อท้าย) ใช้บินรูท Domestic ระหว่างเกาะต่างๆใน French Polynesia มีเครื่องบินทั้งหมด 10 ลำเป็นเครื่องบินใบพัดแบบ ATR42 และ ATR72
ทั้งสองสายการบินใช้ท่าอากาศยานนานาชาติตาฮิติฟาอาร์ (Tahiti Faa’a International Airport) ที่กรุง Papeete เป็น Hub ของสายการบิน
@@ท่าอากาศยานนานาชาติตาฮิติฟาอาร์ (Tahiti Faa’a International Airport)
เป็นท่าอากาศยานหลักของ French Polynesia เลยครับ มีเที่ยวบินจากเกาะต่างๆใน French Polynesia มาลง และยังมีเที่ยวบินจากต่างประเทศมาลงด้วย บรรยากาศสนามบินจะแนวๆ Tropical นิดนึงครับ สนามบินเล็กมีชั้นเดียว ทั้งอาคารไม่มีแอร์ ไม่มีงวงเทียบเครื่องบิน เวลาขึ้นเครื่องจะเป็นเดินขึ้นบันไดเอาครับ ทั้งอาคารใช้พัดลมหมด ยกในส่วนของ Air Tahiti Nui Lounge ถึงจะมีแอร์เย็นๆครับ ในสนามบินจะมีร้านแลกเงินด้านหน้า และเคาเตอร์รถเช่าของบริษัทต่างๆพวก Hertz, Avis เป็นต้น
###การเดินทางของผมนั้นผมเลือกบินโดยไปแวะที่ New Zealand เพราะมีจำนวน flights ไปเยอะกว่าทำให้ plan ได้ง่ายกว่าการบินไปทางญี่ปุ่นครับ โดยมีเที่ยวบินทั้งหมดในทริปดังนี้ครับ
1. Bangkok - Auckland โดยการบินไทยชั้นธุรกิจไปกลับ ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง
2. Auckland - Papeete โดยสายการบิน Air Tahiti Nui ชั้นธุรกิจขาไป ส่วนขากลับเป็น Air New Zealand ชั้นธุรกิจเช่นกัน (เป็นตั๋วเดียวกันกับ Air Tahiti Nui แต่เป็น Codeshare ครับ) ใช้เวลาบินขาละ 5 ชั่วโมงกว่า
3. Papeete - Bora Bora โดยสายการบิน Air Tahiti เป็นเครื่องบินใบพัดระยะสั้น มีแต่ชั้นประหยัดครับ ใช้เวลาบินแค่ 50 นาที
@@มารู้จักเกาะ Bora Bora กันเถอะ
เกาะ Bora Bora นี่ถือเป็น highlight สำหรับคนที่มาเที่ยว French Polynesia เลยครับ เป็นเกาะที่สวยมากๆ การมาเที่ยวที่นี่จะอารมณ์คล้ายๆมัลดีฟนี่แหละครับ คือเป็นรีสอร์ทกลางน้ำ สำหรับคนที่มาฮันนีมูนหรือชอบกิจกรรมทางน้ำครับ แต่ที่นี่พิเศษตรงที่โบราโบราจะมีฉากหลังเป็นวิวภูเขาไฟสวยๆในขณะที่มัลดีฟเราจะเห็นแต่ทะเลเวิ้งว้าง เกาะนี้อยู่ห่างจากเกาะ Tahiti 260 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีขนาดแค่ 30 ตารางกิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศ (Air Tahiti) ราวๆ 50 นาที ตัวเกาะจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆคือ Main Island ที่เป็นเกาะใหญ่มีภูเขาไฟตรงกลางที่เรียกว่า Otemanu และเกาะปะการังวงแหวนรอบๆที่เรียกว่า Mutu
Main island จะมีส่วนที่เป็นเมืองด้วยครับ (จริงๆน่าจะเรียกว่าเป็นแค่ Village) โดยเมืองหลักชื่อ Vaitape อยู่ทางตะวันตกกลางๆของเกาะ และเมือง Matira อยู่ทางแหลมใต้ๆของเกาะ โดยในเมืองก็จะมีร้านค้าต่างๆ ท่าเรือ ตลาด บริษัททัวร์ ร้านอาหารครับ การเดินทางบนเกาะใหญ่จะใช้ taxi หรือเช่ารถขับ มีทั้งรถยนต์และรถ ATV ให้เช่าครับ ที่พักบน main island จะมีตั้งแต่ถูกยันแพงแต่ยังถูกกว่าพักบน Mutu ครับ
Mutu เป็นเกาะปะการังวงแหวนที่อยู่รอบๆ Main island เป็นที่ตั้งของสนามบินทางตะวันตกเฉียงเหนือและรีสอร์ทต่างๆสไตล์เดียวกับมัลดีฟ ซึ่งรีสอร์ทที่อยู่บน Mutu จะมีแต่รีสอร์ทแพงๆทั้งนั้นราคาคืนละหลักหมื่นยันหลักแสนเลยครับ
สนามบินโบราโบราจะตั้งบน Mutu ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยจากสนามบินจะสามารถเดินทางไปยัง resort ต่างๆโดยจะมี reception ของรีสอร์ทต่างๆที่สนามบิน ซึ่งถ้าเป็นรีสอร์ทแพงๆจะมีเรือจากรีสอร์ทมารับโดยตรงแล้วดิ่งไปยังรีสอร์ทเลย หรือถ้าใครพักที่ Main island ก็จะมีเรือ ferry บริการรับส่งสนามบินไปยังท่าเรือบน Main island ครับ
@@Bora Bora เที่ยวช่วงไหนดี?
ช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคมจะเป็นช่วง high season ครับเพราะอากาศแห้ง ฝนน้อย แต่นักท่องเที่ยวจะมากหน่อย ส่วนช่วงที่ธันวาคมถึงเมษายนถือเป็น low season ครับเพราะอากาศชื้น ฝนจะเยอะหน่อยและมียุงด้วย
ช่วงที่ผมมาเป็นปลายเดือน พย ควบต้น ธค ซึ่งเข้าช่วง low season แล้วครับ ฝนตกจริงแต่มาเป็นพักๆแล้วก็ไปเพราะเป็นเกาะ มีลมพัดตลอด หลังฝนหยุดแดดก็ออกปกติ แต่เมฆอาจจะเยอะนิดนึง ส่วนเรื่องยุงผมไม่ค่อยรู้สึกว่ามีตามเค้าพูดนะ สรุปคือก็เที่ยวได้สบายไม่มีปัญหาครับ อากาศที่นี่ร้อนแบบบ้านเราครับราวๆ 30 องศา
@@แผนการเที่ยวของผม
Day1-2 บิน Bangkok - Auckland (การบินไทย) ค้าง 1 คืน เดินเล่นใน Auckland ชิวๆวันนึงครับ
วันที่สองบินไป Papeete ตอนเย็นไปถึงโน่น 5 ทุ่มค้างคืนที่ Papeete ครับ
Day3 เดินเที่ยวในใจกลางเมือง Papeete ช่วงเช้าแล้วขึ้นเครื่องไป Bora Bora ตอนเย็น
Day3-7 ผมพักที่ Bora Bora ทั้งหมด 5 วัน 4 คืนโดยแบ่งเป็น 2 resorts ครับ
2 คืนแรกผมพักบน Main island เที่ยวโดยเช่ารถขับรอบเกาะครับ
2 คืนหลังผมพักบน Motu ซึ่งจะคล้ายๆมัลดีฟครับ
(ถ้าพักบน Motu ทุกคืนมันจะแพงมากๆเลยแบ่งแบบนี้ครับ)
Day8-9 บินกลับเกาะ Tahiti ค้างคืนเดียว เช่ารถขับ แล้วเที่ยวรอบเกาะ Tahiti แบบ Road Trip
แล้วบินกลับ Auckland ช่วงเย็นๆของวันที่สองครับไปถึง Auckland ค่ำๆ
Day9-11 ค้าง Auckland 2 คืน แต่คืนแรกมาถึงก็ดึกแล้วครับ เลยมีเวลาเที่ยวจริงๆแค่วันที่ 2 ตรงกลาง
ก็เดินเล่นชิวๆพักผ่อนไม่ค่อยได้ไปไหน แล้ววันที่ 3 ก็บินกลับกรุงเทพครับ
[CR] French Polynesia : เกาะสวรรค์อันไกลโพ้นทะเล Part I
@@ทำความรู้จัก French Polynesia กันก่อน
จริงๆเขาเป็นแค่อาณานิคมไกลโพ้นทะเลของฝรั่งเศส แต่เรารู้สึกว่ามันไม่เหมือนฝรั่งเศสเลย และคนที่นี่ก็ไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคนฝรั่งเศสด้วย เขาเรียกตัวเองว่า “ตาฮิเตียน”
@@มันอยู่ตรงไหน
อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ประกอบด้วยเกาะมากมาย 118 เกาะ กระจายตัวในมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ โดยมีเกาะหลักคือเกาะตาฮิติ (Tahiti) ซึ่งเปรียบเสมือน Capitol Island ของประเทศนี้ (จริงๆเขาเป็นแค่อาณานิคมแต่เราขอเรียกประเทศแล้วกันนะ) ซึ่งเกาะตาฮิติ ก็ยังมีเมืองหลวงของมันอีกที่มีชื่อว่ากรุง Pape’ete (อ่านกว่ากรุง ปา-ปิ-เอ-เต้) โดยสถานที่เที่ยวหลักที่คนนิยมไปคือเกาะ Bora Bora ครับ
@@ข้อมูลทั่วไป
มีประชากรราวๆ 3 แสนคนเท่านั้น บนเนื้อที่ทุกเกาะรวมกันแค่ 4 พันกว่าตารางกิโลเมตร กระจายตัวในมหาสมุทรแปซิฟิคในรัศมี 2 พันกิโลเมตร ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการและมีภาษาตาฮิเตียนของเขาเองด้วย ใช้เงินสกุล”ฟรัง” (Tahitian Franc : CFP) เรทเท่าๆกับเงินเยนของญี่ปุ่น (ของราคา 1,000 ฟรัง จะพอๆกับ 1,000 เยน หรือเอาเงินบาทไทยหารสาม พูดแบบนี้จะได้เข้าใจง่ายๆ) เวลาช้ากว่าเมืองไทย 17 ชั่วโมง (หรือจริงๆคือเร็วกว่าไทย 7 ชั่วโมงแต่ต้องย้อนหลังไปวันนึง) คนที่นี่ส่วนมากเป็นคนพื้นเมืองเชื้อชาติตาฮิเตียนหน้าตาไม่เหมือนฝรั่งนะ มีราวๆ 70% ของประชากรทั้งหมด อีก 30% ก็คนยุโรปและฝรั่งเศส
@@วีซ่า
ต้องขอผ่านสถานทูตฝรั่งเศสโดยวีซ่าที่ได้รับเป็นวีซ่าสำหรับเข้าอาณานิคมไกลโพ้นทะเลของฝรั่งเศสที่ระบุเฉพาะสำหรับเข้า French Polynesia เท่านั้น วีซ่าหน้าตาเหมือน Schengen ทุกประการ แต่ไม่ใช่ Schengen และไม่สามารถใช้เข้าประเทศในกลุ่ม Schengen รวมถึงประเทศแม่อย่างฝรั่งเศสด้วย ขั้นตอนการขอเหมือนการขอวีซ่า Schengen ฝรั่งเศสทุกประการครับ ผมได้รับวีซ่ามา 2 ปีแบบ multiple entries ครับ
@@การเดินทางจากประเทศไทย
ความที่ประเทศนี้มันโดดเดี่ยวเหลือเกิน แล้วก็ไกลจากเมืองไทยมากๆ การเดินทางจากเมืองไทย ปกติแล้วจะต้องไปแวะที่ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ก่อนซึ่งจะเลือกทางไหนก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ
Narita - Papeete
มี 2 flights ต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยสายการบิน Air Tahiti Nui ใช้เวลาบินราวๆ 11 ชั่วโมง
Auckland - Papeete
มี 6 flights ต่อสัปดาห์ โดย Air Tahiti Nui กับ Air New Zealand ใช้เวลาบินราวๆ 5 ชั่วโมงกว่าๆ
นอกจากนี้ยังมี flight จากที่ต่างๆในโลกมาลงคือ
Los Angeles - Papeete
สายการบิน Air France มี 2 flights ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะบินต่อไปยังปารีสด้วย
สายการบิน Air Tahiti Nui มี 6 flights ต่อสัปดาห์ ใช้เวลาบิน 8 ชั่วโมง
Honolulu - Papeete
สายการบิน Hawaiian Airlines มีแค่สัปดาห์ละ flight ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมงกว่า
Easter Island - Papeete
สายการบิน LATAM Airlines มีแค่สัปดาห์ละ 2 flights ซึ่งจะบินต่อไปยังกรุง Santiago ประเทศชิลีด้วย
จะเห็นว่าการมา French Polynesia แอบมายากเพราะ flight จากที่ต่างๆในโลกมาลงไม่เยอะและไม่ได้มีทุกวัน การมาเที่ยวที่นี่จึงต้องวางแผนให้ดีๆ
@@มารู้จักสายการบินประจำชาติเขากันครับ
French Polynesia จะมีสายการบินของตัวเองหลักๆ 2 สายการบิน แบ่งแยกชัดเจนคือ
Air Tahiti Nui ซึ่งจะบินเฉพาะรูท International เท่านั้น มีเครื่องบินใน fleet แค่ 4 ลำเท่านั้น โดยใช้เครื่องบิน Boeing 787-9 ใหม่เอี่ยมทั้งฝูงบิน ซึ่งมีเที่ยวบินไปยัง 3 เส้นทางคือ Tokyo, Auckland และ Los Angeles
Air Tahiti (ไม่มีคำว่า Nui ต่อท้าย) ใช้บินรูท Domestic ระหว่างเกาะต่างๆใน French Polynesia มีเครื่องบินทั้งหมด 10 ลำเป็นเครื่องบินใบพัดแบบ ATR42 และ ATR72
ทั้งสองสายการบินใช้ท่าอากาศยานนานาชาติตาฮิติฟาอาร์ (Tahiti Faa’a International Airport) ที่กรุง Papeete เป็น Hub ของสายการบิน
@@ท่าอากาศยานนานาชาติตาฮิติฟาอาร์ (Tahiti Faa’a International Airport)
เป็นท่าอากาศยานหลักของ French Polynesia เลยครับ มีเที่ยวบินจากเกาะต่างๆใน French Polynesia มาลง และยังมีเที่ยวบินจากต่างประเทศมาลงด้วย บรรยากาศสนามบินจะแนวๆ Tropical นิดนึงครับ สนามบินเล็กมีชั้นเดียว ทั้งอาคารไม่มีแอร์ ไม่มีงวงเทียบเครื่องบิน เวลาขึ้นเครื่องจะเป็นเดินขึ้นบันไดเอาครับ ทั้งอาคารใช้พัดลมหมด ยกในส่วนของ Air Tahiti Nui Lounge ถึงจะมีแอร์เย็นๆครับ ในสนามบินจะมีร้านแลกเงินด้านหน้า และเคาเตอร์รถเช่าของบริษัทต่างๆพวก Hertz, Avis เป็นต้น
###การเดินทางของผมนั้นผมเลือกบินโดยไปแวะที่ New Zealand เพราะมีจำนวน flights ไปเยอะกว่าทำให้ plan ได้ง่ายกว่าการบินไปทางญี่ปุ่นครับ โดยมีเที่ยวบินทั้งหมดในทริปดังนี้ครับ
1. Bangkok - Auckland โดยการบินไทยชั้นธุรกิจไปกลับ ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง
2. Auckland - Papeete โดยสายการบิน Air Tahiti Nui ชั้นธุรกิจขาไป ส่วนขากลับเป็น Air New Zealand ชั้นธุรกิจเช่นกัน (เป็นตั๋วเดียวกันกับ Air Tahiti Nui แต่เป็น Codeshare ครับ) ใช้เวลาบินขาละ 5 ชั่วโมงกว่า
3. Papeete - Bora Bora โดยสายการบิน Air Tahiti เป็นเครื่องบินใบพัดระยะสั้น มีแต่ชั้นประหยัดครับ ใช้เวลาบินแค่ 50 นาที
@@มารู้จักเกาะ Bora Bora กันเถอะ
เกาะ Bora Bora นี่ถือเป็น highlight สำหรับคนที่มาเที่ยว French Polynesia เลยครับ เป็นเกาะที่สวยมากๆ การมาเที่ยวที่นี่จะอารมณ์คล้ายๆมัลดีฟนี่แหละครับ คือเป็นรีสอร์ทกลางน้ำ สำหรับคนที่มาฮันนีมูนหรือชอบกิจกรรมทางน้ำครับ แต่ที่นี่พิเศษตรงที่โบราโบราจะมีฉากหลังเป็นวิวภูเขาไฟสวยๆในขณะที่มัลดีฟเราจะเห็นแต่ทะเลเวิ้งว้าง เกาะนี้อยู่ห่างจากเกาะ Tahiti 260 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีขนาดแค่ 30 ตารางกิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศ (Air Tahiti) ราวๆ 50 นาที ตัวเกาะจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆคือ Main Island ที่เป็นเกาะใหญ่มีภูเขาไฟตรงกลางที่เรียกว่า Otemanu และเกาะปะการังวงแหวนรอบๆที่เรียกว่า Mutu
Main island จะมีส่วนที่เป็นเมืองด้วยครับ (จริงๆน่าจะเรียกว่าเป็นแค่ Village) โดยเมืองหลักชื่อ Vaitape อยู่ทางตะวันตกกลางๆของเกาะ และเมือง Matira อยู่ทางแหลมใต้ๆของเกาะ โดยในเมืองก็จะมีร้านค้าต่างๆ ท่าเรือ ตลาด บริษัททัวร์ ร้านอาหารครับ การเดินทางบนเกาะใหญ่จะใช้ taxi หรือเช่ารถขับ มีทั้งรถยนต์และรถ ATV ให้เช่าครับ ที่พักบน main island จะมีตั้งแต่ถูกยันแพงแต่ยังถูกกว่าพักบน Mutu ครับ
Mutu เป็นเกาะปะการังวงแหวนที่อยู่รอบๆ Main island เป็นที่ตั้งของสนามบินทางตะวันตกเฉียงเหนือและรีสอร์ทต่างๆสไตล์เดียวกับมัลดีฟ ซึ่งรีสอร์ทที่อยู่บน Mutu จะมีแต่รีสอร์ทแพงๆทั้งนั้นราคาคืนละหลักหมื่นยันหลักแสนเลยครับ
สนามบินโบราโบราจะตั้งบน Mutu ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยจากสนามบินจะสามารถเดินทางไปยัง resort ต่างๆโดยจะมี reception ของรีสอร์ทต่างๆที่สนามบิน ซึ่งถ้าเป็นรีสอร์ทแพงๆจะมีเรือจากรีสอร์ทมารับโดยตรงแล้วดิ่งไปยังรีสอร์ทเลย หรือถ้าใครพักที่ Main island ก็จะมีเรือ ferry บริการรับส่งสนามบินไปยังท่าเรือบน Main island ครับ
@@Bora Bora เที่ยวช่วงไหนดี?
ช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคมจะเป็นช่วง high season ครับเพราะอากาศแห้ง ฝนน้อย แต่นักท่องเที่ยวจะมากหน่อย ส่วนช่วงที่ธันวาคมถึงเมษายนถือเป็น low season ครับเพราะอากาศชื้น ฝนจะเยอะหน่อยและมียุงด้วย
ช่วงที่ผมมาเป็นปลายเดือน พย ควบต้น ธค ซึ่งเข้าช่วง low season แล้วครับ ฝนตกจริงแต่มาเป็นพักๆแล้วก็ไปเพราะเป็นเกาะ มีลมพัดตลอด หลังฝนหยุดแดดก็ออกปกติ แต่เมฆอาจจะเยอะนิดนึง ส่วนเรื่องยุงผมไม่ค่อยรู้สึกว่ามีตามเค้าพูดนะ สรุปคือก็เที่ยวได้สบายไม่มีปัญหาครับ อากาศที่นี่ร้อนแบบบ้านเราครับราวๆ 30 องศา
@@แผนการเที่ยวของผม
Day1-2 บิน Bangkok - Auckland (การบินไทย) ค้าง 1 คืน เดินเล่นใน Auckland ชิวๆวันนึงครับ
วันที่สองบินไป Papeete ตอนเย็นไปถึงโน่น 5 ทุ่มค้างคืนที่ Papeete ครับ
Day3 เดินเที่ยวในใจกลางเมือง Papeete ช่วงเช้าแล้วขึ้นเครื่องไป Bora Bora ตอนเย็น
Day3-7 ผมพักที่ Bora Bora ทั้งหมด 5 วัน 4 คืนโดยแบ่งเป็น 2 resorts ครับ
2 คืนแรกผมพักบน Main island เที่ยวโดยเช่ารถขับรอบเกาะครับ
2 คืนหลังผมพักบน Motu ซึ่งจะคล้ายๆมัลดีฟครับ
(ถ้าพักบน Motu ทุกคืนมันจะแพงมากๆเลยแบ่งแบบนี้ครับ)
Day8-9 บินกลับเกาะ Tahiti ค้างคืนเดียว เช่ารถขับ แล้วเที่ยวรอบเกาะ Tahiti แบบ Road Trip
แล้วบินกลับ Auckland ช่วงเย็นๆของวันที่สองครับไปถึง Auckland ค่ำๆ
Day9-11 ค้าง Auckland 2 คืน แต่คืนแรกมาถึงก็ดึกแล้วครับ เลยมีเวลาเที่ยวจริงๆแค่วันที่ 2 ตรงกลาง
ก็เดินเล่นชิวๆพักผ่อนไม่ค่อยได้ไปไหน แล้ววันที่ 3 ก็บินกลับกรุงเทพครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น