เรื่องโดย : ChaMaNow www.marumura.com
ในระยะหลังมานี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า มีการสร้างละครญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับหนังสือและอาชีพคนทำหนังสือมากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ปลุกพลังให้คนได้เห็นถึงความสำคัญของหนังสือ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีละครเรื่องอะไรบ้างที่จะมาชวนให้เราหลงรักหนังสือกันมากขึ้น
จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในปีนี้ ก็จะเห็นว่ามีแฟนๆ นักอ่านไปเลือกดู เลือกซื้อหนังสือกันมากมายไม่แพ้ปีก่อนๆ ที่ผ่านมาเลยค่ะ แต่ในขณะเดียวกันถ้าเรามองแนวโน้มของตลาดหนังสือนั้น กลับซบเซากว่าแต่ก่อน เหตุผลหลักๆ ที่หลายคนมองว่าน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็คือ การเข้ามาของสื่อออนไลน์ เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึง E-BOOK ด้วย และไม่ใช่เป็นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ปัญหานี้ได้แพร่ไปแทบทุกทั่วมุมโลก รวมถึงประเทศที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจอย่างญี่ปุ่นด้วยค่ะ และในระยะหลังมานี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า ญี่ปุ่นมีการสร้างละครที่เกี่ยวกับหนังสือและอาชีพคนทำหนังสือมากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ปลุกพลังให้คนได้เห็นถึงความสำคัญของหนังสือ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีละครเรื่องอะไรบ้างที่จะมาชวนให้เราหลงรักหนังสือกันมากขึ้น
1. Biblia Koshodou no Jiken Techou
สำหรับเรื่องนี้ขอบอกว่า พอดูปุ๊ปแล้วอยากลุกไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทันทีเลยค่ะ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวเจ้าของร้านหนังสือมือสอง ผู้ที่หลงใหลและมีความรู้แตกฉานเกี่ยวกับหนังสือเก่า ที่ต้องมาไขปริศนาลึกลับที่มี “หนังสือ” เป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายความจริงต่างๆ ร่วมกับพนักงานใหม่ของร้าน ที่รู้จักโดยบังเอิญในตอนที่เขาเอาหนังสือเก่าของยายมาขาย และจากเหตุการณ์นี้ทำให้ได้ล่วงรู้ความลับบางอย่างที่ซ่อนไว้ในหนังสือที่ไม่เคยมีใครได้บอกเขา จากการได้พบเจอหญิงสาวที่รักการอ่าน และได้ฟังเรื่องราวที่น่าสนใจของหนังสือ ทำให้เขาเริ่มสนใจหนังสือมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถอ่านหนังสือพวกนั้นได้ เลยอาศัยรับรู้เรื่องราวจากเธอ พร้อมสืบคดีต่างๆ ที่มากับแขกร้านหนังสือที่มาเยือน
สิ่งที่น่าสนใจของละครเรื่องนี้คือ ได้นำหนังสือเก่าชื่อดังของญี่ปุ่นมาเล่าเรื่อง เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างคดีปริศนา ทำให้คนดูได้รับความรู้เกี่ยวกับหนังสือแต่ละเล่มไปในตัวค่ะ บางเล่มนี้ถึงกับอยากไปหาเล่มจริงมาอ่านดูสักครั้ง ถือได้ว่าเป็นละครญี่ปุ่นที่ช่วยสร้างเสริมพฤติกรรมรักการอ่าน ให้ผู้คนหันมาเห็นความสำคัญของหนังสือมากขึ้นค่ะ
2. Ghost writer
ถ้าไม่มีอาชีพนี้ก็ไม่อาจเกิดงานเขียนให้นักอ่านได้อ่านกัน อาชีพที่ว่านี้ก็คือ “นักเขียน” ค่ะ ซึ่งละครที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนได้อย่างน่าสนใจ ก็คือเรื่องนี้เลยค่ะ Ghost Writer ที่จะมาเผยเรื่องราวในวงการอาชีพนักเขียนให้เห็นค่ะว่า การจะเป็นนักเขียนเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ใช่แค่ว่านั่งเขียนสบายๆ ในห้องแอร์แล้วก็เสร็จ แต่มันต้องเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ที่ยากจะเค้นออกมาได้ เลยทำให้นักเขียนหลายคนเจอปัญหา “มุกตัน” ค่ะ หรือบางคนมีเรื่องราวอยากจะเล่า แต่ก็ไม่สามารถเขียนออกมาได้ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้เกิดอาชีพ Ghost Writer ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันนี้อาชีพ Ghost Writer ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นอาชีพที่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เสมอไป ในละครก็ได้บอกค่ะว่า ถ้าสำหรับงานเขียนเชิงสารคด ชีวประวัติก็อาจจะมีบ้างที่ต้องจ้าง Ghost Writer มาเขียนเรียบเรียง แต่สำหรับงานนวนิยายแล้ว เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ ถ้ามาหลอกลวงคนอ่าน โดยให้ใครอีกคนมาเขียนแทน
เนื้อเรื่องของละครเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “โทโนะ ริสะ” นักเขียนมืออาชีพ ผู้ได้รับฉายาว่าเป็นราชีนีแห่งวงการวรรณกรรม วันหนึ่งเธอได้ประกาศหาผู้ช่วยคนใหม่ ให้มาช่วยงานเธอ และในขณะนั้นเอง “คาวาฮาร่า ยูกิ” หญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน ได้ตัดสินใจเดินตามความฝันถึงโตเกียว และได้เสนอต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง บรรณาธิการหน้าใหม่ “โอดะ ฮายาโตะ” ได้รับต้นฉบับนั้นไว้ และเมื่ออ่านดูก็ได้พบพรสวรรค์ในตัวเธอ แต่ด้วยสถานะของเขา ทำให้ไม่สามารถสั่งพิมพ์หนังสือเล่มนี้ได้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว โอดะเลยยื่นอีกข้อเสนอหนึ่งที่เกี่ยวกับงานเขียนเช่นกัน นั่นก็คือ ตำแหน่งผู้ช่วยคนใหม่ของโทโนะ ริสะ เมื่อคาวาฮาร่าได้ยินข้อเสนอนี้ก็ดีใจมาก เพราะโทโนะ ริสะ คือนักเขียนในดวงใจของเธอที่ติดตามมานาน แต่แล้วเมื่อเธอได้มาทำงานนี้จริงๆ งานที่ว่ากลับไม่ใช่แค่ผู้ช่วยธรรมดา แต่กลับเป็นนักเขียนเงาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนที่ไม่ได้เขียนจริงๆ
ละครเรื่องนี้ไม่ได้เล่าถึงแค่อาชีพ Ghost Writer เท่านั้นนะคะ แต่ยังพูดถึงอุดมการณ์และแรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียนอีกด้วย อีกทั้งยังพูดถึงอาชีพบรรณาธิการ อีกหนึ่งอาชีพสำคัญในการผลิตหนังสือ ผู้อุทิศเวลาทุกวินาทีให้กับหนังสือที่รัก ผลักดันนักเขียนแต่ละคนให้ก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการวรรณกรรมได้
3. First Class
มาที่อาชีพสำคัญของวงการหนังสือ ถ้าไม่มีเขาคนนี้ ก็ไม่อาจทำให้หนังสือแต่ละเล่มถูกตีพิมพ์ออกมาได้เช่นกันค่ะ อาชีพที่ว่านี้ก็คือ “บรรณาธิการ” หรือ “บ.ก.” นั่นเองค่ะ First Class จะเป็นละครที่เล่าถึงชีวิตของบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่น เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “จินามิ” หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันที่อยากจะเข้าสู่วงการแฟชั่น ได้เจอจุดพลิกผันเข้ามาทำงานเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นในดวงใจ ดูเหมือนโลกต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยสิ่งสวยงาม แต่ความจริงแล้วกลับตาลปัตรจากที่วาดฝันเอาไว้ เมื่อเธอเข้ามาต้องมาเจอเหล่าปีศาจปากอย่างใจอย่าง เพื่อนร่วมงานที่คอยขัดขาความสำเร็จ เพื่อความอยู่รอด และก้าวขึ้นสู่บรรณาธิการอันดับหนึ่งแห่งนิตยสาร First Class เธอก็ต้องต่อกรกับพวกเหล่านางร้าย และผลักดันตัวเองไปสู่จุดสูงสุดให้ได้
ละครเรื่องนี้แม้จะดูแซ่บๆ จิกกัดไปบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับวงการนิตยสารได้อย่างดีเลยค่ะ เราจะเห็นหมดเลยว่า ในแต่ละวันบ.ก.ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจต้นฉบับ การคิดคอนเซ็ปต์นิตยสารแต่ละเล่ม ออกไปหาข้อมูล ไปเขียนสกู๊ป หรือแม้แต่การเทคแคร์เหล่านางแบบนิตยสาร เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้ ในเรื่องนี้ยังมีการพูดถึงประเด็นของ E-BOOK ด้วยค่ะ ที่ส่งผลให้ยอดขายลดลง และ First Class จำเป็นต้องคัดพนักงานออก ถ้ายอดขายไม่กระเตื้อง ด้วยเหตุนี้เหล่าบ.ก.เลยต้องเจอศึกหนัก หาวิธีการ ทำอย่างไรก็ได้ให้นิตยสารกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
“ในอนาคตพวกสื่อสิ่งพิมพ์คงค่อยๆ หายไป
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังดิ้นรน
จนทำให้ ‘นิตยสาร’ ที่กำลังจะ ‘ตาย’ กลับมา ‘มีชีวิต’ ได้อีกครั้ง”
ท่ามกลางสภาวะการขายหนังสือที่ฝืดเคือง อีกหนึ่งอาชีพสำคัญในวงการหนังสือที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ “พนักงานขายหนังสือ” ค่ะ ละครเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงเรื่องราวของพนักงานขายหนังสือ 2 สาวต่างวัย ระหว่างผู้ช่วยผู้จัดการร้านนิชิโอะ ริโกะ สาวโสดวัย 40 ปี กับพนักงานน้องใหม่ ไฟแรง ผู้หลงรักหนังสืออย่าง คิตามูระ อากิ สาวสวยวัย 23 ปี ที่มักมีความเห็นไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่นัก แต่ทั้งคู่ก็ต้องร่วมแท็กทีม หากลยุทธ์ พร้อมเทคนิคการขายที่ไม่ใช่แค่ขายได้ แต่ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับคนซื้อ ให้เขาได้หนังสือที่เขารักกลับไป
ละครเรื่องนี้ได้สอดแทรกเทคนิคการขายหนังสือที่น่าสนใจ พร้อมอุดมการณ์ของพนักงานขายค่ะ ที่ต้องทั้งมีความคิดสร้างสรรค์ รักงานที่ทำ ที่สำคัญต้องชื่นชอบการอ่านหนังสือด้วย นักขายหนังสือที่ดี ต้องอ่านหนังสือด้วยค่ะ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถส่งต่อความน่าสนใจของหนังสือแต่ละเล่มให้ถึงลูกค้าได้
5. Juhan Shuttai!
มาต่อกันที่อาชีพบรรณาธิการอีกเรื่องค่ะ เป็นละครใหม่ล่าสุดที่เตรียมลงจอในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้เลย ชื่อเรื่องว่า “Juhan Shuttai!” เป็นเรื่องราวของโคโคโระ คุโรซาว่า เคยเป็นคู่ต่อสู่ในการแข่งขันยูโด โอลิมปิกมาก่อน แต่ตอนนี้เธอได้ผันตัวมาทำงานในนิตยสารมังงะชื่อว่า “ไบบุสึ” เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานบรรณาธิกรกับรุ่นพี่มากฝีมืออย่าง “เคย์ อิโอคิเบะ” หลังจากที่โคโคโระได้มาทำงานนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกหลงใหลไปกับโลกแห่งบรรณาธิการ ไม่ว่าจะเป็นการได้พูดคุยกับนักวาดมังงะ การค้นหานักวาดหน้าใหม่ และการพยายามทำให้หนังสือตีพิมพ์ซ้ำให้ได้ ในขณะนี้วงการสื่อสิ่งพิมพ์กำลังดำเนินไปท่ามกลางความปั่นป่วนของการเข้ามาของอีบุ๊ค ทำให้ทีมบรรณาธิการทุกคนต้องดิ้นรน หาทุกวิถีทางที่จะทำให้หนังสือการ์ตูนมังงะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นให้ได้!!!
สำหรับแฟนๆ ท่ชื่นชอบมังงะ และสนใจอาชีพบรรณาธิการห้ามพลาดค่ะ รับรองว่าเราจะได้เห็นอะไรต่างๆ มากมายว่า กว่าจะได้มังงะออกมาสักเล่มเนี่ย เหล่านักวาด และบ.ก.เขาต้องฝ่าฟันกับอะไรบ้าง บ.ก. ไม่ได้มีหน้าที่แค่อ่านแต่หนังสือนั้น แท้จริงแล้ว บ.ก. มีภาระหน้าที่เยอะมากกว่าที่คิดค่ะ ทั้งต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ประสานงานเก่ง และยังต้องเป็นนักการตลาดที่ยอดเยี่ยมด้วย ถึงจะพาธุรกิจนี้ไปได้รอด
ละครญี่ปุ่นที่ชวนให้หลงรักหนังสือ
เรื่องโดย : ChaMaNow www.marumura.com
ในระยะหลังมานี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า มีการสร้างละครญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับหนังสือและอาชีพคนทำหนังสือมากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ปลุกพลังให้คนได้เห็นถึงความสำคัญของหนังสือ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีละครเรื่องอะไรบ้างที่จะมาชวนให้เราหลงรักหนังสือกันมากขึ้น
จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในปีนี้ ก็จะเห็นว่ามีแฟนๆ นักอ่านไปเลือกดู เลือกซื้อหนังสือกันมากมายไม่แพ้ปีก่อนๆ ที่ผ่านมาเลยค่ะ แต่ในขณะเดียวกันถ้าเรามองแนวโน้มของตลาดหนังสือนั้น กลับซบเซากว่าแต่ก่อน เหตุผลหลักๆ ที่หลายคนมองว่าน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็คือ การเข้ามาของสื่อออนไลน์ เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึง E-BOOK ด้วย และไม่ใช่เป็นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ปัญหานี้ได้แพร่ไปแทบทุกทั่วมุมโลก รวมถึงประเทศที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจอย่างญี่ปุ่นด้วยค่ะ และในระยะหลังมานี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า ญี่ปุ่นมีการสร้างละครที่เกี่ยวกับหนังสือและอาชีพคนทำหนังสือมากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ปลุกพลังให้คนได้เห็นถึงความสำคัญของหนังสือ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีละครเรื่องอะไรบ้างที่จะมาชวนให้เราหลงรักหนังสือกันมากขึ้น
1. Biblia Koshodou no Jiken Techou
สำหรับเรื่องนี้ขอบอกว่า พอดูปุ๊ปแล้วอยากลุกไปหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทันทีเลยค่ะ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวเจ้าของร้านหนังสือมือสอง ผู้ที่หลงใหลและมีความรู้แตกฉานเกี่ยวกับหนังสือเก่า ที่ต้องมาไขปริศนาลึกลับที่มี “หนังสือ” เป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายความจริงต่างๆ ร่วมกับพนักงานใหม่ของร้าน ที่รู้จักโดยบังเอิญในตอนที่เขาเอาหนังสือเก่าของยายมาขาย และจากเหตุการณ์นี้ทำให้ได้ล่วงรู้ความลับบางอย่างที่ซ่อนไว้ในหนังสือที่ไม่เคยมีใครได้บอกเขา จากการได้พบเจอหญิงสาวที่รักการอ่าน และได้ฟังเรื่องราวที่น่าสนใจของหนังสือ ทำให้เขาเริ่มสนใจหนังสือมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถอ่านหนังสือพวกนั้นได้ เลยอาศัยรับรู้เรื่องราวจากเธอ พร้อมสืบคดีต่างๆ ที่มากับแขกร้านหนังสือที่มาเยือน
สิ่งที่น่าสนใจของละครเรื่องนี้คือ ได้นำหนังสือเก่าชื่อดังของญี่ปุ่นมาเล่าเรื่อง เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างคดีปริศนา ทำให้คนดูได้รับความรู้เกี่ยวกับหนังสือแต่ละเล่มไปในตัวค่ะ บางเล่มนี้ถึงกับอยากไปหาเล่มจริงมาอ่านดูสักครั้ง ถือได้ว่าเป็นละครญี่ปุ่นที่ช่วยสร้างเสริมพฤติกรรมรักการอ่าน ให้ผู้คนหันมาเห็นความสำคัญของหนังสือมากขึ้นค่ะ
2. Ghost writer
ถ้าไม่มีอาชีพนี้ก็ไม่อาจเกิดงานเขียนให้นักอ่านได้อ่านกัน อาชีพที่ว่านี้ก็คือ “นักเขียน” ค่ะ ซึ่งละครที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนได้อย่างน่าสนใจ ก็คือเรื่องนี้เลยค่ะ Ghost Writer ที่จะมาเผยเรื่องราวในวงการอาชีพนักเขียนให้เห็นค่ะว่า การจะเป็นนักเขียนเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ใช่แค่ว่านั่งเขียนสบายๆ ในห้องแอร์แล้วก็เสร็จ แต่มันต้องเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ที่ยากจะเค้นออกมาได้ เลยทำให้นักเขียนหลายคนเจอปัญหา “มุกตัน” ค่ะ หรือบางคนมีเรื่องราวอยากจะเล่า แต่ก็ไม่สามารถเขียนออกมาได้ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้เกิดอาชีพ Ghost Writer ขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันนี้อาชีพ Ghost Writer ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นอาชีพที่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เสมอไป ในละครก็ได้บอกค่ะว่า ถ้าสำหรับงานเขียนเชิงสารคด ชีวประวัติก็อาจจะมีบ้างที่ต้องจ้าง Ghost Writer มาเขียนเรียบเรียง แต่สำหรับงานนวนิยายแล้ว เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ ถ้ามาหลอกลวงคนอ่าน โดยให้ใครอีกคนมาเขียนแทน
เนื้อเรื่องของละครเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “โทโนะ ริสะ” นักเขียนมืออาชีพ ผู้ได้รับฉายาว่าเป็นราชีนีแห่งวงการวรรณกรรม วันหนึ่งเธอได้ประกาศหาผู้ช่วยคนใหม่ ให้มาช่วยงานเธอ และในขณะนั้นเอง “คาวาฮาร่า ยูกิ” หญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน ได้ตัดสินใจเดินตามความฝันถึงโตเกียว และได้เสนอต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง บรรณาธิการหน้าใหม่ “โอดะ ฮายาโตะ” ได้รับต้นฉบับนั้นไว้ และเมื่ออ่านดูก็ได้พบพรสวรรค์ในตัวเธอ แต่ด้วยสถานะของเขา ทำให้ไม่สามารถสั่งพิมพ์หนังสือเล่มนี้ได้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว โอดะเลยยื่นอีกข้อเสนอหนึ่งที่เกี่ยวกับงานเขียนเช่นกัน นั่นก็คือ ตำแหน่งผู้ช่วยคนใหม่ของโทโนะ ริสะ เมื่อคาวาฮาร่าได้ยินข้อเสนอนี้ก็ดีใจมาก เพราะโทโนะ ริสะ คือนักเขียนในดวงใจของเธอที่ติดตามมานาน แต่แล้วเมื่อเธอได้มาทำงานนี้จริงๆ งานที่ว่ากลับไม่ใช่แค่ผู้ช่วยธรรมดา แต่กลับเป็นนักเขียนเงาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนที่ไม่ได้เขียนจริงๆ
ละครเรื่องนี้ไม่ได้เล่าถึงแค่อาชีพ Ghost Writer เท่านั้นนะคะ แต่ยังพูดถึงอุดมการณ์และแรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียนอีกด้วย อีกทั้งยังพูดถึงอาชีพบรรณาธิการ อีกหนึ่งอาชีพสำคัญในการผลิตหนังสือ ผู้อุทิศเวลาทุกวินาทีให้กับหนังสือที่รัก ผลักดันนักเขียนแต่ละคนให้ก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการวรรณกรรมได้
3. First Class
มาที่อาชีพสำคัญของวงการหนังสือ ถ้าไม่มีเขาคนนี้ ก็ไม่อาจทำให้หนังสือแต่ละเล่มถูกตีพิมพ์ออกมาได้เช่นกันค่ะ อาชีพที่ว่านี้ก็คือ “บรรณาธิการ” หรือ “บ.ก.” นั่นเองค่ะ First Class จะเป็นละครที่เล่าถึงชีวิตของบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่น เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “จินามิ” หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันที่อยากจะเข้าสู่วงการแฟชั่น ได้เจอจุดพลิกผันเข้ามาทำงานเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นในดวงใจ ดูเหมือนโลกต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยสิ่งสวยงาม แต่ความจริงแล้วกลับตาลปัตรจากที่วาดฝันเอาไว้ เมื่อเธอเข้ามาต้องมาเจอเหล่าปีศาจปากอย่างใจอย่าง เพื่อนร่วมงานที่คอยขัดขาความสำเร็จ เพื่อความอยู่รอด และก้าวขึ้นสู่บรรณาธิการอันดับหนึ่งแห่งนิตยสาร First Class เธอก็ต้องต่อกรกับพวกเหล่านางร้าย และผลักดันตัวเองไปสู่จุดสูงสุดให้ได้
ละครเรื่องนี้แม้จะดูแซ่บๆ จิกกัดไปบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับวงการนิตยสารได้อย่างดีเลยค่ะ เราจะเห็นหมดเลยว่า ในแต่ละวันบ.ก.ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจต้นฉบับ การคิดคอนเซ็ปต์นิตยสารแต่ละเล่ม ออกไปหาข้อมูล ไปเขียนสกู๊ป หรือแม้แต่การเทคแคร์เหล่านางแบบนิตยสาร เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้ ในเรื่องนี้ยังมีการพูดถึงประเด็นของ E-BOOK ด้วยค่ะ ที่ส่งผลให้ยอดขายลดลง และ First Class จำเป็นต้องคัดพนักงานออก ถ้ายอดขายไม่กระเตื้อง ด้วยเหตุนี้เหล่าบ.ก.เลยต้องเจอศึกหนัก หาวิธีการ ทำอย่างไรก็ได้ให้นิตยสารกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
“ในอนาคตพวกสื่อสิ่งพิมพ์คงค่อยๆ หายไป
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังดิ้นรน
จนทำให้ ‘นิตยสาร’ ที่กำลังจะ ‘ตาย’ กลับมา ‘มีชีวิต’ ได้อีกครั้ง”
4. Tatakau! Shoten Girl
ท่ามกลางสภาวะการขายหนังสือที่ฝืดเคือง อีกหนึ่งอาชีพสำคัญในวงการหนังสือที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ “พนักงานขายหนังสือ” ค่ะ ละครเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงเรื่องราวของพนักงานขายหนังสือ 2 สาวต่างวัย ระหว่างผู้ช่วยผู้จัดการร้านนิชิโอะ ริโกะ สาวโสดวัย 40 ปี กับพนักงานน้องใหม่ ไฟแรง ผู้หลงรักหนังสืออย่าง คิตามูระ อากิ สาวสวยวัย 23 ปี ที่มักมีความเห็นไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่นัก แต่ทั้งคู่ก็ต้องร่วมแท็กทีม หากลยุทธ์ พร้อมเทคนิคการขายที่ไม่ใช่แค่ขายได้ แต่ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับคนซื้อ ให้เขาได้หนังสือที่เขารักกลับไป
ละครเรื่องนี้ได้สอดแทรกเทคนิคการขายหนังสือที่น่าสนใจ พร้อมอุดมการณ์ของพนักงานขายค่ะ ที่ต้องทั้งมีความคิดสร้างสรรค์ รักงานที่ทำ ที่สำคัญต้องชื่นชอบการอ่านหนังสือด้วย นักขายหนังสือที่ดี ต้องอ่านหนังสือด้วยค่ะ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถส่งต่อความน่าสนใจของหนังสือแต่ละเล่มให้ถึงลูกค้าได้
5. Juhan Shuttai!
มาต่อกันที่อาชีพบรรณาธิการอีกเรื่องค่ะ เป็นละครใหม่ล่าสุดที่เตรียมลงจอในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้เลย ชื่อเรื่องว่า “Juhan Shuttai!” เป็นเรื่องราวของโคโคโระ คุโรซาว่า เคยเป็นคู่ต่อสู่ในการแข่งขันยูโด โอลิมปิกมาก่อน แต่ตอนนี้เธอได้ผันตัวมาทำงานในนิตยสารมังงะชื่อว่า “ไบบุสึ” เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานบรรณาธิกรกับรุ่นพี่มากฝีมืออย่าง “เคย์ อิโอคิเบะ” หลังจากที่โคโคโระได้มาทำงานนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกหลงใหลไปกับโลกแห่งบรรณาธิการ ไม่ว่าจะเป็นการได้พูดคุยกับนักวาดมังงะ การค้นหานักวาดหน้าใหม่ และการพยายามทำให้หนังสือตีพิมพ์ซ้ำให้ได้ ในขณะนี้วงการสื่อสิ่งพิมพ์กำลังดำเนินไปท่ามกลางความปั่นป่วนของการเข้ามาของอีบุ๊ค ทำให้ทีมบรรณาธิการทุกคนต้องดิ้นรน หาทุกวิถีทางที่จะทำให้หนังสือการ์ตูนมังงะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นให้ได้!!!
สำหรับแฟนๆ ท่ชื่นชอบมังงะ และสนใจอาชีพบรรณาธิการห้ามพลาดค่ะ รับรองว่าเราจะได้เห็นอะไรต่างๆ มากมายว่า กว่าจะได้มังงะออกมาสักเล่มเนี่ย เหล่านักวาด และบ.ก.เขาต้องฝ่าฟันกับอะไรบ้าง บ.ก. ไม่ได้มีหน้าที่แค่อ่านแต่หนังสือนั้น แท้จริงแล้ว บ.ก. มีภาระหน้าที่เยอะมากกว่าที่คิดค่ะ ทั้งต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ประสานงานเก่ง และยังต้องเป็นนักการตลาดที่ยอดเยี่ยมด้วย ถึงจะพาธุรกิจนี้ไปได้รอด