ข้อ 1. นายชัย คนไทยเป็นลูกจ้างมีหน้าที่ขับรถยนต์ของสถานทูตไทยในปานากัว นายเด่นเป็นข้าราชการประจำสถานทูตไปยมีหน้าที่รับเรื่องการซ่อมยานพาหนะและกรอกข้อความในใบสั่งซ่อมรถยนต์เพื่อ เสนอนายเก่งอุปทูตลงลายมือชื่อในใบสั่งซ่อมรถยนต์ นายเด่นใช้ให้นายชัยขับรถของสถานทูตไปส่งของส่วนตัวของตนที่สนามบิน นายชัยขับรถด้วยความคึกคะนอน รถเสียหลักเฉี่ยวชนต้นไม้ข้างทางได้รับความเสียหายโคมไฟหน้ารถหลุดจึงลึกลอบเก็บไว้เป็นของตน นายชัยขับรถมาสถานทูตและขอให้นายเด่นออกใบสั่งซ่อมรถยนต์นายเด่นเกรงว่าผู้บังคับบัญชาจะรู้ว่าตนใช้ให้นายชัยนำรถราชการไปใช้ส่วนตัวจนได้รับความเสียหาย นายเด่นจึงนำใบสั่งซ่อมรถยนต์ที่ตนรับผิดชอบมากรอกข้อความว่ารถเกิดเหตุในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการแล้วลงลายมือชื่อนายเก่งปลอมในใบสั่งซ่อมรถยนต์เสียเอง แต่ยังไม่ทันได้มอบให้นายชัย นายเก่งทราบเรื่องทั้งหมดเสียก่อน ต่อมานายชัย นายเด่นจึงถูกส่งตัวกลับมากลับมาประเทศไทย และนายเก่งเดินทางกลับประเทศไทยแล้วแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่นายชัยและนายเด่น
ให้วินิจฉัยว่า นายชัยและนายเด่นมีความผิดฐานใด และต้องรับโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
ข้อ 2 นายซิงห์ นายราม เป็นเพื่อนกันโดยสารเครื่องบินสายการบินแอร์อินเดียเพื่อเดินทางจากประเทศอินเดียไปยังประเทศออสเตรเลีย ขณะที่เครื่องบินจอดรับผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ พันตำรวจโทเด่น กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ามีผู้โดยสารลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในหระเทศไทยจึงเข้าตรวจค้นในเครื่องบิน พบนายซิงห์มีพิรุทจึงขอตรวจค้นกระเป๋าถือของนายซิงห์พบเฮโรอีนหนึ่งห่อจึงยึดมาถือไว้ ในขณะที่นายซิงห์กลัวความผิดจึงล้วงเอายาเสพติด(ยาบ้า)ที่ซ่อนในกางเกงใส่ปากเคี้ยว พันตำรวจโทเด่น จึงล้วงเอายาเสพติด (ยาบ้า) ออกจากปากนายซิงห์ยึดเป็นของกลางในขณะนั้นเองนายรามเกรงว่านายซิงห์จะต้องรับโทษจึงคว้าเอากระเป๋าถือของนายซิงห์จากพันตำรวจโทเด่น และนำเข้าไปในห้องน้ำเครื่องบิน แล้วเอาเฮโรอีนทิ้งลงในโถส้วมและกดน้ำทิ้ง พันตำรวจโทเด่น ควบคุมนายซิงห์ นายรามพร้อมยาเสพติด (ยาบ้า) ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุ
ให้วินิจฉัยว่า นายซิงห์ นายรามมีความผิดฐานใด หรือไม่ และต้องรับโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
ข้อ 3. นายเอกกับนายต้นเป็นคนไทยได้รับทุนรัฐบาลไทยไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอินเดียด้วยกัน ขณะที่อยู่บริเสณห้องผู้ดดยสารขาออก ที่สนามบินประเทศอินเดีย เพื่อที่จะเดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่ประเทศไทย นายเอกซื้อของที่สนามบินจนหมดจึงขอยทมนายต้นเพื่อเสียภาษีสนามบิน นายต้นไม่ให้ จึงเป็นปากเป็นเสียงกัน ในขณะนั้นเองนายเอกถือโอกาสล้วงเอาเงินกระเป๋าจากกระเป๋าเสื้อของนายต้นไปห้าพันบาท นายต้นโกรธนายเอกมาก ครั้นนายเอก นายต้นเดินทางกลับถึงประเทศไทย นายต้นยังไม่หายโกรธจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปรามว่านายเอกใช้กำลังทำร้ายชกต่อยตนจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายแล้วในทันทีทันใดนั้นได้ลักเอาเงินตองตนไปห้าพันบาทที่สนามบินประเทศอินเดีย อันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
ให้วินิจฉัยว่า นายเอกและนายต้นมีความผิดฐานใด และต้องรับโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
หลักการ เเละวิธีการวินิจฉัยความผิด มีวิธีการที่ถูกต้องอย่างไรบ้างคะ
พอดีว่าพึ่งเคยเรียนวิชากฏหมายค่ะ รบกวนช่วยวินิจฉัยกรณีตัวอย่างนี้หน่อยค่ะ
ให้วินิจฉัยว่า นายชัยและนายเด่นมีความผิดฐานใด และต้องรับโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
ข้อ 2 นายซิงห์ นายราม เป็นเพื่อนกันโดยสารเครื่องบินสายการบินแอร์อินเดียเพื่อเดินทางจากประเทศอินเดียไปยังประเทศออสเตรเลีย ขณะที่เครื่องบินจอดรับผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ พันตำรวจโทเด่น กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ามีผู้โดยสารลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในหระเทศไทยจึงเข้าตรวจค้นในเครื่องบิน พบนายซิงห์มีพิรุทจึงขอตรวจค้นกระเป๋าถือของนายซิงห์พบเฮโรอีนหนึ่งห่อจึงยึดมาถือไว้ ในขณะที่นายซิงห์กลัวความผิดจึงล้วงเอายาเสพติด(ยาบ้า)ที่ซ่อนในกางเกงใส่ปากเคี้ยว พันตำรวจโทเด่น จึงล้วงเอายาเสพติด (ยาบ้า) ออกจากปากนายซิงห์ยึดเป็นของกลางในขณะนั้นเองนายรามเกรงว่านายซิงห์จะต้องรับโทษจึงคว้าเอากระเป๋าถือของนายซิงห์จากพันตำรวจโทเด่น และนำเข้าไปในห้องน้ำเครื่องบิน แล้วเอาเฮโรอีนทิ้งลงในโถส้วมและกดน้ำทิ้ง พันตำรวจโทเด่น ควบคุมนายซิงห์ นายรามพร้อมยาเสพติด (ยาบ้า) ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุ
ให้วินิจฉัยว่า นายซิงห์ นายรามมีความผิดฐานใด หรือไม่ และต้องรับโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
ข้อ 3. นายเอกกับนายต้นเป็นคนไทยได้รับทุนรัฐบาลไทยไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอินเดียด้วยกัน ขณะที่อยู่บริเสณห้องผู้ดดยสารขาออก ที่สนามบินประเทศอินเดีย เพื่อที่จะเดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่ประเทศไทย นายเอกซื้อของที่สนามบินจนหมดจึงขอยทมนายต้นเพื่อเสียภาษีสนามบิน นายต้นไม่ให้ จึงเป็นปากเป็นเสียงกัน ในขณะนั้นเองนายเอกถือโอกาสล้วงเอาเงินกระเป๋าจากกระเป๋าเสื้อของนายต้นไปห้าพันบาท นายต้นโกรธนายเอกมาก ครั้นนายเอก นายต้นเดินทางกลับถึงประเทศไทย นายต้นยังไม่หายโกรธจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปรามว่านายเอกใช้กำลังทำร้ายชกต่อยตนจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายแล้วในทันทีทันใดนั้นได้ลักเอาเงินตองตนไปห้าพันบาทที่สนามบินประเทศอินเดีย อันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
ให้วินิจฉัยว่า นายเอกและนายต้นมีความผิดฐานใด และต้องรับโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
หลักการ เเละวิธีการวินิจฉัยความผิด มีวิธีการที่ถูกต้องอย่างไรบ้างคะ