Nikola Tesla คือ นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรในตำนาน
ที่มีทั้งคนรักกับคนชังพอ ๆ กัน
Tesla เป็นคนแปลกประหลาด
มีจินตนาการระดับอัจฉริยะ
มีหลายคนที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต
และผลงานประดิษฐ์ต่าง ๆ ของ Tesla หลายเรื่องมาก
แต่สำหรับเรื่องเหล่านี้เป็นงานเขียนของ Tesla
ที่ได้เขียนเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง
งานเขียนจากบันทึกความทรงจำของ Tesla
ได้เปิดเผยเรื่องราวส่วนลึกในจิตใจของเขา
ผลงานประดิษฐ์และการทำงานเบื้องหลังส่วนตัว
Tesla เป็นยอดนักเล่าเรื่องตัวยงด้วยเช่นกัน
เรื่องราวส่วนมากนี้มาจากบันทึกส่วนตัวของ Tesla
Tesla กล่าวว่า“ ผมไม่คิดว่ามีความตื่นเต้นใด ๆ
ที่จะปลุกเร้าหัวใจคนเราได้เหมือนกับความรู้สึกของนักประดิษฐ์
เมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างที่สร้างสรรค์จากสมอง/ในใจ
ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ...อารมณ์แบบนี้
ทำให้คนบางคนลืมกินอาหาร ลืมการหลับนอน
ลืมแม้กระทั่งเพื่อนฝูง ลืมความรัก และลืมทุกสิ่งทุกอย่าง”
ในช่วงวัยรุ่น Tesla เคยติดการพนันอย่างหนัก
พ่อ Tesla มีอาชีพเป็นนักเทศน์ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแต้นส์
รู้สึกโกรธมากกับการหมกมุ่นกับการเล่นพนันของ Tesla
แต่แม่ Tesla กลับเข้าใจในตัว Tesla ดี
เธอคิดว่าเป็นสภาวะทั่วไปที่ Tesla กำลังพัฒนาความเป็นมนุษย์
(ความสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดี)
Tesla มักจะแพ้พนันจนหมดตัว
และมีครั้งหนึ่งที่ Tesla มีอารมณ์ซึมเศร้า
เพราะไม่มีเงินที่จะไปเล่นพนันอีกแล้ว
แม่ Tesla เลยประชดด้วยการยัดเงินให้ก้อนหนึ่ง
เพื่อให้ Tesla กลับไปเล่นพนันแก้มืออีกครั้ง
เธอตะโกนบอกกับ Tesla ว่า
" ไปเลยแล้วไปสนุกกับชีวิตให้เต็มที่เลย
อีกไม่ช้าที่แกและครอบครัวของเรา
จะได้สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยเป็นเจ้าของ
แล้วเรื่องดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นเอง
เพราะฉันรู้ดีว่าแกจะต้องเลิกมันไปเอง "
การประชดครั้งนี้ได้ผล
เพราะ Tesla ได้เอาชนะใจตนเองได้
แล้วไม่เคยหวนกลับไปเล่นการพนันอีกเลย
Tesla ยังเป็นนักสูบบุหรี่ตัวยงในช่วงหนึ่ง
แต่แล้วเขาก็เลิกสูบบุหรี่ทันที
เมื่อพบว่ามันมีผลร้ายต่อสุขภาพของตนเอง
กับรู้ว่ามันมีศักยภาพที่สร้างความเสียหาย
ที่เป็นภยันตรายต่อชีวิตและร่างกาย
แล้ว Tesla ได้ตัดสินใจที่จะค้นหาตนเองจากส่วนลึกของจิตใจ
เพื่อช่วยเหลือคนอื่นให้ปลอดภัยจากการทำร้ายตนเอง
Tesla ยอมรับว่าธรรมชาติการเป็นนักประดิษฐ์ตกทอดมาจากมารดา Duka
ในบันทึกของ Tesla เขียนว่า
“ แม่ผมเป็นนักประดิษฐ์ระดับแนวหน้าคนหนึ่ง
เธอประดิษฐ์และสร้างสรรค์อุปกรณ์และเครื่องมือหลายอย่าง
และออกแบบเย็บถักปักร้อยด้วยเส้นด้ายได้เป็นอย่างดี "
เพราะแม่ Tesla สืบทอดมรดกทางสายเลือดนักประดิษฐ์มาอย่างต่อเนื่อง
Tesla บรรยายว่า แม่ของเขาทำงานตั้งแต่เช้ามืดจนยันค่ำ
เพื่อหารายได้กับข้าวของมาจุนเจือครอบครัว
ความสามารถที่สูงส่งและทักษะที่หายากของเธอ
รวมทั้งความเก่งกาจกล้าหาญและพลังที่สร้างสรรค์อย่างเต็มเปี่ยม
Tesla ได้พัฒนาวิธีการใช้จินตนาการและประสาทสัมผัส
ในการสร้างสรรค์และประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ จำนวนมาก
เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ Tesla มีอายุได้ 17 ปี
Tesla ไม่ได้เริ่มต้นสิ่งประดิษฐ์จากระบบตรรกพื้นฐานใด ๆ
แต่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างลึกล้ำภายในใจ/ในสมอง
แล้วได้ผลลัพธ์อย่างมากจากมโนภาพที่เกิดขึ้นมา
ซึ่งบางครั้งมันก็โผล่ขึ้นมาในขณะที่กำลังทำงาน
ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา/เรื่องที่กำลังคิดอยู่แต่อย่างใด
รูปแบบผลงานแบบนี้สอดคล้องกับประสบการณ์ของ Einstein
และถูกเรียกว่า Combinatory play
การผสมผสานองค์ความรู้ของทฤษฏีหลายแขนงวิชา
เข้ามาทำงานร่วมกันให้ไปในทิศทางเดียวกันหรือสอดคล้องกัน
โดยไม่จำเป็นต้องมีของจริง ห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ หรือ สถานที่ทำงาน
หรือที่ไอสไตน์มักจะพูดว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
เช่น การวิ่งแข่งกับรถไฟความเร็วเหนือกว่าแสง
ซึ่งมนุษย์ยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้งานได้
แต่จินตนาการมนุษย์สร้างภาพรถไฟขึ้นมาได้
" ผมไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบ แผนผัง ภาพวาดหรือการทดลอง
ผมจะสร้างภาพทั้งหมดนี้ขึ้นมาให้เป็นจริงในใจ/ในสมองของผม
ดังนั้น ผมจึงนำมาพัฒนาต่อได้เลย
กับสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นวิธีการใหม่ ๆ ด้วย
ความคิดสร้างสรรค์และกรอบแนวคิดต่าง ๆ
ทำให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์จริงขึ้นมาได้
ซึ่งเป็นวิธีการที่ตรงกันข้ามกับการทดลองอย่างจริงจัง
เหมือนกับผลงานประดิษฐ์ของนักประดิษฐ์รายอื่น "
Tesla ตั้งข้อสังเกตว่า
กระแสหลักของการทำงานทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา
คือการทดลองสร้างสิ่งประดิษฐ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีการทำงานของ Tesla อย่างมากเลย
Tesla จะทำงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปรับปรุง แก้ไขสิ่งประดิษฐ์
จนกว่ามันจะเป็นที่พอใจจากภายในใจ/ในสมองแล้ว
พร้อมทั้งต้องได้รับการแก้ไขปัญหาทางด้านวิศวกรรมให้ดีขึ้นก่อน
ด้วยกระบวนการที่มีการแก้ไขและสร้างสรรค์อย่างมีลำดับขั้นตอนที่ดีแล้ว
จึงจะนำมาแปรรูปผลงานในใจ/ในสมองออกมาเป็นสิ่งประดิษฐ์/ของจริงขึ้นมา
Tesla เชื่อว่าเป็นเรื่องเสียเวลา เสียเงินทอง ไปมากมาย
กับการสิ้นเปลืองทรัพยากรด้านต่าง ๆ ไปจำนวนมาก
ในการลงมือสร้างสิ่งประดิษฐ์/ข้าวของ ขึ้นมาเพื่อทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนได้ข้าวของที่ใช้งานได้หรือทำงานได้ตามที่ต้องการ
Tesla ผลิตเครื่องทำฟ้าผ่าเทียม
ในปี 1899 ในห้องทดลองที่โคโลราโด
Tesla ได้ผลิตฟ้าผ่าเทียมที่มีขนาด
หลายล้านโวลต์และสายฟ้าผ่าถึง 135 ฟุต
ยังไม่เคยมีใครที่จำลองแบบความสำเร็จในครั้งนี้ได้
Tesla ใช้เครื่อง Oscillator ความถี่สูงทำให้ Mark Twain ถ่ายท้องได้สำเร็จ
Tesla มีเครื่อง Oscillator ความถี่สูง ที่ใช้พลังงานไอน้ำขับเคลื่อน
ที่ตั้งชื่อเรียกว่า "เครื่องแผ่นดินไหว" ไว้ในห้องปฏิบัติการที่แมนฮัตตัน
ไอน้ำถูกบังคับให้ผลักดันลูกสูบขึ้นลง มีผลกับเครื่อง oscillator
และมัดข้าวต้มของไดนาโม ที่เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ขึ้นและลงที่ความเร็วรอบสูง รวมทั้งทำให้เกิดการผลิตกระแสไฟฟ้า
Mark Twain เป็นที่รู้จักกันดีเรื่องมีปัญหาในระบบการย่อยอาหาร
ดังนั้นในเย็นวันหนึ่ง Tesla ได้เชิญ Mark Twain
ไปยังห้องปฏิบัติการของ Tesla
Tesla ได้บอกให้ Twain ยืนบนแท่นของ Oscillator
หลังจากนั้นเพียงแค่ยืนอยู่ไม่เกินกว่ากว่าสองนาที
Twain ต้องรีบกระโดดลงจากแท่นดังกล่าวทันที
แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายของเสียออกจากลำไส้ใหญ่
Nikola Tesla มีพี่ชายชื่อ Dane
Dane พี่ชาย Tesla ที่เขามักจะอ้างว่ามีพรสวรรค์มากกว่า Tesla
พี่ชาย Tesla ได้รับบาดเจ็บสาหัสในค่ำคืนวันหนึ่ง
เพราะม้าอาหรับของครอบครัว Tesla
ตื่นตระหนกตกใจกับเสียงเห่าหอนของฝูงหมาป่าในภูเขา
มันได้ทำร้ายพี่ชาย พ่อ และ Tesla จนทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บ
เพราะทุกคนต่างพยายามจะควบคุมให้ม้าอาหรับให้อยู่ในอาการสงบ
ต่อมา พี่ชาย Tesla ได้เสียชีวิตจากการบาดแผลดังกล่าวนี้
ในบันทึกชีวิตประจำวันของ Tesla เกี่ยวกับผลงานสิ่งประดิษฐ์
" ผมยังจำภาพที่น่าเศร้าสลดเรื่องนี้ได้
และถึงแม้ว่าจะกินเวลานานถึง 56 ปีแล้วก็ตาม
ภาพเหตุร้ายครั้งนั้นไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของผม "
Tesla มีวัยเพียง 7 ขวบขณะที่พี่ชายเสียชีวิตวัย 12 ขวบ
หลังจากที่พี่ชายของเขาเสียชีวิตไปแล้ว
Tesla ยอมรับว่ารู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นเลย
(จริง ๆ แล้ว Tesla น่าจะตายไปแทน ตามหลักกลไกทางจิตวิทยา
ที่ปกป้อง/ปลอบประโลมใจตนเองจากความเศร้าโศกของตนเองและครอบครัว)
Tesla ยังละอายใจกับความสามารถของตนเอง
ทั่งยังรู้สึกว่าพี่ชายมีสติปัญญาล้ำลึกกว้างไกลกว่า Tesla
และแนวความคิด/ผลงานบางเรื่องราว Tesla มักจะระลึกได้ว่า
พี่ชายได้บอกไว้ก่อนจะตายหลายปีแล้วยังครอบงำจิตใจของ Tesla อยู่
Tesla เชื่อว่าผู้หญิงจะมีความรู้เหนือกว่าผู้ชาย
Tesla ทำนายเรื่องนี้ไว้ในอนาคตว่า
"การต่อสู้ของสตรีเรื่องความเสมอภาค
จะสิ้นสุดลงกับกฎเกณฑ์ทางเพศ
ด้วยการที่เพศหญิงจะเหนือกว่าเพศชาย
เพราะผู้หญิงจะไม่จะไม่เลียนแบบผู้ชาย
แต่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสติปัญญา
และการกระทำเช่นนั้นจะกลายเป็นแรงผลักดันที่โดดเด่นของโลก
การปราบปราม/กดขี่ผู้หญิงที่ผ่านมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์
ได้สร้างสมศักยภาพและพลังผลักดันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ความนิ่งเฉยและเฉื่อยชาในสมอง/ในใจของพวกเธอ
จะได้รับการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรม/การลงมือทำ
ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงมากขึ้นและอย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะหลายศตวรรษของการหลับไหล
ผู้หญิงจะไม่ปฎิเสธรูปแบบ/กฎเกณฑ์ใด ๆ
และไม่ตระหนกตกใจกับความก้าวหน้าทางอารยธรรมของพวกเธอ "
Tesla เป็นโรคหลอนตัวเองและโรคย้ำคิดย้ำทำ กับหมกมุ่นกับเลข 3
Tesla จะมีอาการจะเป็นจะตายให้ได้กับเส้นผมของคนอื่น
ที่รู้สึกว่าเหมือนกับการสัมผัสกับพวกมันคล้ายมีปืนเล็งยิงมาที่ Tesla
ไข่มุกก็ยังถูก Tesla รังเกียจ
แต่ถ้าเป็นผลึกรูปทรงต่าง ๆ Tesla จะรู้สึกพึงพอใจมากกว่า
แต่ถ้าหากมีเศษกระดาษขนาดสี่เหลี่ยมชิ้นเล็ก ๆ
เกิดพบในชามซุปหรืออาหารที่ราดด้วยซอสเหลว
จะกลายเป็นรสชาติที่น่ากลัว/ขยะแขยงเต็มปากของ Tesla
Tesla มีความรักและหลงใหลอย่างแปลกประหลาดกับเลข 3
และหมายเลขทั้งหมดที่สามารถนำมาหารด้วย 3 ลงตัว
พนักงานหญิงคนรับใช้จะต้องให้ผ้าขนหนูกับเขาถึง 18 ผืน
และเลือกให้เขาอยู่ในห้องพักโรงแรมเลข 207
หรือทั้งสองอย่างนี้ต้องสามารถหารด้วย 3 ลงตัว
Tesla จะกินอาหารได้อย่างไม่เป็นสุขเลย
ถ้าไม่ได้วางผ้าเช็ดปากแล้วไม่น้อยกว่า 18 ผืน
ให้แต่ละผืนกองไว้บนโต๊ะเป็นกองใหญ่
ความเปราะบางทางจิตใจกับภาพบางภาพในใจของเขา
รวมถึงการมองเห็นร่องรอยทางเดินเท้าของคน
หลังจากที่มีคนเดินเหยียบย่ำบนกองหิมะ
เมื่อแม่ Tesla เสียชีวิตลง Tesla มีผมหงอกสีขาวเกิดขึ้นชั่วคราวบนศีรษะ
ในช่วงปลายชีวิตของ Tesla เกิดตกหลุมรักนกพิราบ
นกพิราบตัวที่ Tesla ชื่นชอบมีสีขาวและมีขนสีเทาบนปีก
Tesla ได้อธิบายถึงความรักนกพิราบสีขาวตัวนี้ว่า
" ผมรักเธอเหมือนเป็นคนรักหญิงคนหนึ่งและเธอรักผม
... ตราบนานเท่านานที่ผมมีเธอ
นั่นคือความประสงค์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปของผม "
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/pWwDWA
เรียบเรียงโดย Leah Stephens
งานเขียนรวมของเธอ
http://goo.gl/tSR0zb
ติดตามผลงานเธอได้ที่
Twitter
https://goo.gl/vgVh5S
Medium
https://goo.gl/Z0qWnn
Leah Stephens
เรื่องเดิม
ชีวิตส่วนตัวที่ลึกลับของ Nikola Tesla
Nikola Tesla คือ นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรในตำนาน
ที่มีทั้งคนรักกับคนชังพอ ๆ กัน
Tesla เป็นคนแปลกประหลาด
มีจินตนาการระดับอัจฉริยะ
มีหลายคนที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต
และผลงานประดิษฐ์ต่าง ๆ ของ Tesla หลายเรื่องมาก
แต่สำหรับเรื่องเหล่านี้เป็นงานเขียนของ Tesla
ที่ได้เขียนเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง
งานเขียนจากบันทึกความทรงจำของ Tesla
ได้เปิดเผยเรื่องราวส่วนลึกในจิตใจของเขา
ผลงานประดิษฐ์และการทำงานเบื้องหลังส่วนตัว
Tesla เป็นยอดนักเล่าเรื่องตัวยงด้วยเช่นกัน
เรื่องราวส่วนมากนี้มาจากบันทึกส่วนตัวของ Tesla
Tesla กล่าวว่า“ ผมไม่คิดว่ามีความตื่นเต้นใด ๆ
ที่จะปลุกเร้าหัวใจคนเราได้เหมือนกับความรู้สึกของนักประดิษฐ์
เมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างที่สร้างสรรค์จากสมอง/ในใจ
ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ...อารมณ์แบบนี้
ทำให้คนบางคนลืมกินอาหาร ลืมการหลับนอน
ลืมแม้กระทั่งเพื่อนฝูง ลืมความรัก และลืมทุกสิ่งทุกอย่าง”
ในช่วงวัยรุ่น Tesla เคยติดการพนันอย่างหนัก
พ่อ Tesla มีอาชีพเป็นนักเทศน์ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแต้นส์
รู้สึกโกรธมากกับการหมกมุ่นกับการเล่นพนันของ Tesla
แต่แม่ Tesla กลับเข้าใจในตัว Tesla ดี
เธอคิดว่าเป็นสภาวะทั่วไปที่ Tesla กำลังพัฒนาความเป็นมนุษย์
(ความสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดี)
Tesla มักจะแพ้พนันจนหมดตัว
และมีครั้งหนึ่งที่ Tesla มีอารมณ์ซึมเศร้า
เพราะไม่มีเงินที่จะไปเล่นพนันอีกแล้ว
แม่ Tesla เลยประชดด้วยการยัดเงินให้ก้อนหนึ่ง
เพื่อให้ Tesla กลับไปเล่นพนันแก้มืออีกครั้ง
เธอตะโกนบอกกับ Tesla ว่า
" ไปเลยแล้วไปสนุกกับชีวิตให้เต็มที่เลย
อีกไม่ช้าที่แกและครอบครัวของเรา
จะได้สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยเป็นเจ้าของ
แล้วเรื่องดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นเอง
เพราะฉันรู้ดีว่าแกจะต้องเลิกมันไปเอง "
การประชดครั้งนี้ได้ผล
เพราะ Tesla ได้เอาชนะใจตนเองได้
แล้วไม่เคยหวนกลับไปเล่นการพนันอีกเลย
Tesla ยังเป็นนักสูบบุหรี่ตัวยงในช่วงหนึ่ง
แต่แล้วเขาก็เลิกสูบบุหรี่ทันที
เมื่อพบว่ามันมีผลร้ายต่อสุขภาพของตนเอง
กับรู้ว่ามันมีศักยภาพที่สร้างความเสียหาย
ที่เป็นภยันตรายต่อชีวิตและร่างกาย
แล้ว Tesla ได้ตัดสินใจที่จะค้นหาตนเองจากส่วนลึกของจิตใจ
เพื่อช่วยเหลือคนอื่นให้ปลอดภัยจากการทำร้ายตนเอง
Tesla ยอมรับว่าธรรมชาติการเป็นนักประดิษฐ์ตกทอดมาจากมารดา Duka
ในบันทึกของ Tesla เขียนว่า
“ แม่ผมเป็นนักประดิษฐ์ระดับแนวหน้าคนหนึ่ง
เธอประดิษฐ์และสร้างสรรค์อุปกรณ์และเครื่องมือหลายอย่าง
และออกแบบเย็บถักปักร้อยด้วยเส้นด้ายได้เป็นอย่างดี "
เพราะแม่ Tesla สืบทอดมรดกทางสายเลือดนักประดิษฐ์มาอย่างต่อเนื่อง
Tesla บรรยายว่า แม่ของเขาทำงานตั้งแต่เช้ามืดจนยันค่ำ
เพื่อหารายได้กับข้าวของมาจุนเจือครอบครัว
ความสามารถที่สูงส่งและทักษะที่หายากของเธอ
รวมทั้งความเก่งกาจกล้าหาญและพลังที่สร้างสรรค์อย่างเต็มเปี่ยม
Tesla ได้พัฒนาวิธีการใช้จินตนาการและประสาทสัมผัส
ในการสร้างสรรค์และประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ จำนวนมาก
เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ Tesla มีอายุได้ 17 ปี
Tesla ไม่ได้เริ่มต้นสิ่งประดิษฐ์จากระบบตรรกพื้นฐานใด ๆ
แต่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างลึกล้ำภายในใจ/ในสมอง
แล้วได้ผลลัพธ์อย่างมากจากมโนภาพที่เกิดขึ้นมา
ซึ่งบางครั้งมันก็โผล่ขึ้นมาในขณะที่กำลังทำงาน
ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา/เรื่องที่กำลังคิดอยู่แต่อย่างใด
รูปแบบผลงานแบบนี้สอดคล้องกับประสบการณ์ของ Einstein
และถูกเรียกว่า Combinatory play
การผสมผสานองค์ความรู้ของทฤษฏีหลายแขนงวิชา
เข้ามาทำงานร่วมกันให้ไปในทิศทางเดียวกันหรือสอดคล้องกัน
โดยไม่จำเป็นต้องมีของจริง ห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ หรือ สถานที่ทำงาน
หรือที่ไอสไตน์มักจะพูดว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
เช่น การวิ่งแข่งกับรถไฟความเร็วเหนือกว่าแสง
ซึ่งมนุษย์ยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้งานได้
แต่จินตนาการมนุษย์สร้างภาพรถไฟขึ้นมาได้
" ผมไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบ แผนผัง ภาพวาดหรือการทดลอง
ผมจะสร้างภาพทั้งหมดนี้ขึ้นมาให้เป็นจริงในใจ/ในสมองของผม
ดังนั้น ผมจึงนำมาพัฒนาต่อได้เลย
กับสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นวิธีการใหม่ ๆ ด้วย
ความคิดสร้างสรรค์และกรอบแนวคิดต่าง ๆ
ทำให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์จริงขึ้นมาได้
ซึ่งเป็นวิธีการที่ตรงกันข้ามกับการทดลองอย่างจริงจัง
เหมือนกับผลงานประดิษฐ์ของนักประดิษฐ์รายอื่น "
Tesla ตั้งข้อสังเกตว่า
กระแสหลักของการทำงานทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา
คือการทดลองสร้างสิ่งประดิษฐ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีการทำงานของ Tesla อย่างมากเลย
Tesla จะทำงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปรับปรุง แก้ไขสิ่งประดิษฐ์
จนกว่ามันจะเป็นที่พอใจจากภายในใจ/ในสมองแล้ว
พร้อมทั้งต้องได้รับการแก้ไขปัญหาทางด้านวิศวกรรมให้ดีขึ้นก่อน
ด้วยกระบวนการที่มีการแก้ไขและสร้างสรรค์อย่างมีลำดับขั้นตอนที่ดีแล้ว
จึงจะนำมาแปรรูปผลงานในใจ/ในสมองออกมาเป็นสิ่งประดิษฐ์/ของจริงขึ้นมา
Tesla เชื่อว่าเป็นเรื่องเสียเวลา เสียเงินทอง ไปมากมาย
กับการสิ้นเปลืองทรัพยากรด้านต่าง ๆ ไปจำนวนมาก
ในการลงมือสร้างสิ่งประดิษฐ์/ข้าวของ ขึ้นมาเพื่อทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนได้ข้าวของที่ใช้งานได้หรือทำงานได้ตามที่ต้องการ
Tesla ผลิตเครื่องทำฟ้าผ่าเทียม
ในปี 1899 ในห้องทดลองที่โคโลราโด
Tesla ได้ผลิตฟ้าผ่าเทียมที่มีขนาด
หลายล้านโวลต์และสายฟ้าผ่าถึง 135 ฟุต
ยังไม่เคยมีใครที่จำลองแบบความสำเร็จในครั้งนี้ได้
Tesla ใช้เครื่อง Oscillator ความถี่สูงทำให้ Mark Twain ถ่ายท้องได้สำเร็จ
Tesla มีเครื่อง Oscillator ความถี่สูง ที่ใช้พลังงานไอน้ำขับเคลื่อน
ที่ตั้งชื่อเรียกว่า "เครื่องแผ่นดินไหว" ไว้ในห้องปฏิบัติการที่แมนฮัตตัน
ไอน้ำถูกบังคับให้ผลักดันลูกสูบขึ้นลง มีผลกับเครื่อง oscillator
และมัดข้าวต้มของไดนาโม ที่เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ขึ้นและลงที่ความเร็วรอบสูง รวมทั้งทำให้เกิดการผลิตกระแสไฟฟ้า
Mark Twain เป็นที่รู้จักกันดีเรื่องมีปัญหาในระบบการย่อยอาหาร
ดังนั้นในเย็นวันหนึ่ง Tesla ได้เชิญ Mark Twain
ไปยังห้องปฏิบัติการของ Tesla
Tesla ได้บอกให้ Twain ยืนบนแท่นของ Oscillator
หลังจากนั้นเพียงแค่ยืนอยู่ไม่เกินกว่ากว่าสองนาที
Twain ต้องรีบกระโดดลงจากแท่นดังกล่าวทันที
แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายของเสียออกจากลำไส้ใหญ่
Nikola Tesla มีพี่ชายชื่อ Dane
Dane พี่ชาย Tesla ที่เขามักจะอ้างว่ามีพรสวรรค์มากกว่า Tesla
พี่ชาย Tesla ได้รับบาดเจ็บสาหัสในค่ำคืนวันหนึ่ง
เพราะม้าอาหรับของครอบครัว Tesla
ตื่นตระหนกตกใจกับเสียงเห่าหอนของฝูงหมาป่าในภูเขา
มันได้ทำร้ายพี่ชาย พ่อ และ Tesla จนทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บ
เพราะทุกคนต่างพยายามจะควบคุมให้ม้าอาหรับให้อยู่ในอาการสงบ
ต่อมา พี่ชาย Tesla ได้เสียชีวิตจากการบาดแผลดังกล่าวนี้
ในบันทึกชีวิตประจำวันของ Tesla เกี่ยวกับผลงานสิ่งประดิษฐ์
" ผมยังจำภาพที่น่าเศร้าสลดเรื่องนี้ได้
และถึงแม้ว่าจะกินเวลานานถึง 56 ปีแล้วก็ตาม
ภาพเหตุร้ายครั้งนั้นไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของผม "
Tesla มีวัยเพียง 7 ขวบขณะที่พี่ชายเสียชีวิตวัย 12 ขวบ
หลังจากที่พี่ชายของเขาเสียชีวิตไปแล้ว
Tesla ยอมรับว่ารู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นเลย
(จริง ๆ แล้ว Tesla น่าจะตายไปแทน ตามหลักกลไกทางจิตวิทยา
ที่ปกป้อง/ปลอบประโลมใจตนเองจากความเศร้าโศกของตนเองและครอบครัว)
Tesla ยังละอายใจกับความสามารถของตนเอง
ทั่งยังรู้สึกว่าพี่ชายมีสติปัญญาล้ำลึกกว้างไกลกว่า Tesla
และแนวความคิด/ผลงานบางเรื่องราว Tesla มักจะระลึกได้ว่า
พี่ชายได้บอกไว้ก่อนจะตายหลายปีแล้วยังครอบงำจิตใจของ Tesla อยู่
Tesla เชื่อว่าผู้หญิงจะมีความรู้เหนือกว่าผู้ชาย
Tesla ทำนายเรื่องนี้ไว้ในอนาคตว่า
"การต่อสู้ของสตรีเรื่องความเสมอภาค
จะสิ้นสุดลงกับกฎเกณฑ์ทางเพศ
ด้วยการที่เพศหญิงจะเหนือกว่าเพศชาย
เพราะผู้หญิงจะไม่จะไม่เลียนแบบผู้ชาย
แต่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสติปัญญา
และการกระทำเช่นนั้นจะกลายเป็นแรงผลักดันที่โดดเด่นของโลก
การปราบปราม/กดขี่ผู้หญิงที่ผ่านมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์
ได้สร้างสมศักยภาพและพลังผลักดันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ความนิ่งเฉยและเฉื่อยชาในสมอง/ในใจของพวกเธอ
จะได้รับการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรม/การลงมือทำ
ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงมากขึ้นและอย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะหลายศตวรรษของการหลับไหล
ผู้หญิงจะไม่ปฎิเสธรูปแบบ/กฎเกณฑ์ใด ๆ
และไม่ตระหนกตกใจกับความก้าวหน้าทางอารยธรรมของพวกเธอ "
Tesla เป็นโรคหลอนตัวเองและโรคย้ำคิดย้ำทำ กับหมกมุ่นกับเลข 3
Tesla จะมีอาการจะเป็นจะตายให้ได้กับเส้นผมของคนอื่น
ที่รู้สึกว่าเหมือนกับการสัมผัสกับพวกมันคล้ายมีปืนเล็งยิงมาที่ Tesla
ไข่มุกก็ยังถูก Tesla รังเกียจ
แต่ถ้าเป็นผลึกรูปทรงต่าง ๆ Tesla จะรู้สึกพึงพอใจมากกว่า
แต่ถ้าหากมีเศษกระดาษขนาดสี่เหลี่ยมชิ้นเล็ก ๆ
เกิดพบในชามซุปหรืออาหารที่ราดด้วยซอสเหลว
จะกลายเป็นรสชาติที่น่ากลัว/ขยะแขยงเต็มปากของ Tesla
Tesla มีความรักและหลงใหลอย่างแปลกประหลาดกับเลข 3
และหมายเลขทั้งหมดที่สามารถนำมาหารด้วย 3 ลงตัว
พนักงานหญิงคนรับใช้จะต้องให้ผ้าขนหนูกับเขาถึง 18 ผืน
และเลือกให้เขาอยู่ในห้องพักโรงแรมเลข 207
หรือทั้งสองอย่างนี้ต้องสามารถหารด้วย 3 ลงตัว
Tesla จะกินอาหารได้อย่างไม่เป็นสุขเลย
ถ้าไม่ได้วางผ้าเช็ดปากแล้วไม่น้อยกว่า 18 ผืน
ให้แต่ละผืนกองไว้บนโต๊ะเป็นกองใหญ่
ความเปราะบางทางจิตใจกับภาพบางภาพในใจของเขา
รวมถึงการมองเห็นร่องรอยทางเดินเท้าของคน
หลังจากที่มีคนเดินเหยียบย่ำบนกองหิมะ
เมื่อแม่ Tesla เสียชีวิตลง Tesla มีผมหงอกสีขาวเกิดขึ้นชั่วคราวบนศีรษะ
ในช่วงปลายชีวิตของ Tesla เกิดตกหลุมรักนกพิราบ
นกพิราบตัวที่ Tesla ชื่นชอบมีสีขาวและมีขนสีเทาบนปีก
Tesla ได้อธิบายถึงความรักนกพิราบสีขาวตัวนี้ว่า
" ผมรักเธอเหมือนเป็นคนรักหญิงคนหนึ่งและเธอรักผม
... ตราบนานเท่านานที่ผมมีเธอ
นั่นคือความประสงค์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปของผม "
เรียบเรียง/ที่มา http://goo.gl/pWwDWA
เรียบเรียงโดย Leah Stephens
งานเขียนรวมของเธอ http://goo.gl/tSR0zb
ติดตามผลงานเธอได้ที่
Twitter https://goo.gl/vgVh5S
Medium https://goo.gl/Z0qWnn
Leah Stephens
เรื่องเดิม
http://ppantip.com/topic/31462824 ชีวิตส่วนตัวที่ลึกลับของ Nikola Tesla
http://ppantip.com/topic/34141087 10 ผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ Nikola Tesla