ขอเท้าความก่อนนะคะ ที่ดินที่บ้านปัจจุบันค่ะ มีบ้าน 2 หลัง หลังที่ 1 คือบ้านที่ จขกท อาศัยอยู่ หลังที่ 2 เป็นบ้านที่คุณพ่อสร้างเพื่อให้คุณย่าอาศัย และต่อมาคุณป้ามาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อดูแลคุณย่า พอคุณย่าเสีย คุณป้าก็อาศัยอยู่ต่อเรื่อยมา

ก่อนหน้านี่คุณพ่อ คุณแม่ คุณย่า อาศัยเช่าห้องแถวอยู่ด้วยกัน พอคุณแม่ท้อง คุณพ่อเลยซื๊อสิทธิ์เช่าที่ราชพัศดุพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากผู้เช่าเดิม (เมื่อ 32 ปีก่อน) ด้วยเงินวงแชร์ และผ่อนแชร์มาเรื่อยๆ พอย่ายมาอยู่ คุณย่าไม่ได้ติดตามมาด้วยแต่ไปอาศัยกับคุณอาแทน
ต่อมาคุณอาขายบ้าน คุณย่าเลยต้องย้ายออก จะกลับมาอยู่กับคุณพ่อ แต่เพราะบ้านมีแค่ 1 ห้องนอน คุณพ่อเลยสร้างบ้านเพิ่มอีก 1 หลังเมื่อปี 2530 เพื่อให้คุณย่าอาศัยอยู่ ในบริเวณเดียวกัน ต่อมาคุณป้าก็มาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อดูแลคุณย่า พอคุณย่าเสีย (เสียปี 2535 ) คุณป้าก็อาศัยอยู่ต่อเรื่อยมา ค่าใช้จ่ายน้ำไฟทั้งหมดของบ้านทั้ง 2 หลัง คุณพ่อเป็นคนจ่ายตลอด

เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ มีการสำรวจสำโนครัว พบว่าบ้านหลังที่ 2 ไม่ได้ขอเลขที่บ้าน เทศบาลเลยให้ไปขอเลขที่บ้านและให้ใส่ชื่อเจ้าบ้าน และเจ้าบ้านต้องเป็นคนที่อาศัยในบ้านนั้นๆ ตอนนั้นทุกอย่างก็สงบสุขดี เลยใช่ชื่อป้าเป็นเจ้าบ้านไป

แล้วเมื่อ 4 ปีก่อนคุณพ่อเสียชีวิต คุณแม่เป็นเจ้ามรดกจึงรับทรัพยสินมาดูแลต่อ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อผู้เช่าราชพัศดุเป็นชื่อคุณแม่แทน  

ฟ้องครั้งที่ 1  ปี 2557  คุณป้าก็ไปยื่นขอแบ่งที่ดินที่ราชพัศดุ โดยบอกว่าคุณพ่อแอบโกงที่ดินจากคุณย่า ใส่ชื่อตนเองเป็นผู้เช่าเพียงคนเดียว  คุณป้าฟ้องว่าที่ดินนี้เป็นที่มรดกจะขอแบ่งที่ดิน ½ ส่วนเป็นของตนตามชอบธรรม พร้อมไปยื่นฟ้องต่อศาล จนไกล่เกลี่ยยอมรับว่าที่ดินนี้เป็นของคุณพ่อจริง และเหตุที่ฟ้องเพราะกลัวว่าจะโดนขับไล่ไม่มีที่อยู่ ทั้ง 2 ฝ่ายจึงบันทึกไกล่เกลี่ยว่าให้อาศัยอยู่ได้ตลอดชีวิต โดยไม่ขับไล่ หรือขายเด็ดขาด และคุณป้าจะไม่เรียกร้องสิทธิใดๆเพิ่มเติมจากคำไกล่เกี่ยนี้อีก

ฟ้องครั้งที่ 2 ปี 2558  คุณป้าก็ไปยื่นขอแบ่งที่ดินที่ราชพัศดุ แต่ราชพัศดุไม่ทำให้อ้างคำไกล่เกลี่ยเดิม แต่ไม่รู้คุณป้าไปเดินเรื่องยังไง ทางราชพัศดุให้คำสั่งลงมาว่าจะให้สิทธิ์เช่าตามลักษณะความเป็นเจ้าของบ้าน ถึงแม้เราจะเช่าที่ดินถูกต้อง แต่ถ้ามีบ้านของผู้อื่นปลูกในที่ดินเช่า ก็จะตัดแบ่งที่ดินเช่าให้ตามที่มีการอาศัยอยู่จริง โดยให้ศาลเป็นชี้ขาดสิทธิของบ้าน  แต่ศาลไม่รับฟ้องเพราะถือว่าเป็นเรื่องเดิม

ฟ้องครั้งที่ 3 ปี 2559 พึ่งได้รับหมายศาลเมื่อวันก่อนค่ะ เป็นศาลอุทรณ์ ขอยื่นเรื่องตัดสินความเป็นเจ้าของบ้าน เพื่อนำไปแบ่งที่ดิน พร้อมทั้งเรียกค่าขาดประโยชน์ในการใช้ที่ดิน 300,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย

เราก็ปรึกษาทนายบ้างแล้ว แต่ก็อยากหาความรู้เพิ่มเติมทางอื่น เพราะทนายเรายุ่งมาก ไม่คุยได้คุยกันเท่าไหร่

พอมีทางใหนจะให้คุณป้าหยุดฟ้องได้มั้ยคะ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่อย่างสงบ มาด่าทอ จะเข้ามาทำร้าย และชอบเปิดประตูรั้วบ้านเราทิ้งไว้ตอนดึกๆ ทั้งๆที่มีรถ ทรัพย์สินในบริเวณบ้าน (ลงบันทึกประจำวัน และมีภาพกล้องวงจรปิด)

ถ้าจะฟ้องขับไล่ป้า เพราะไม่ยอมทำตามข้อไกล่เกลี่ยว่าจะไม่เรียกร้องสิทธิใดๆเพิ่มเติม ได้หรือเปล่าคะ เสียทรัพย์ เวลา และสุขภาพจิตมาก ที่ดินนี้เป็นทรัพย์สินแรกที่คุณพ่อกับคุณแม่มีร่วมกันเราจึงไม่อยากเสียมันไป เพราะที่จริงแล้วคุณย่ามีที่มรดกเหลืออยู่จริง ตั้งแต่คุณพ่อเราเสียไป พี่น้องของคุณพ่อก็เอาที่ดินมรดกไปแบ่งกันหมดและไม่มีส่วนแบ่งมาให้เราซึ่งเป็นทายาทคุณพ่อเลย เพราะอ้างว่าเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ของที่เราหามา เราก็เลยไม่สนใจ แต่ใครจะทราบว่าหลังจากนั้นจะมาฟ้องที่ดินของเราเพิ่มล่ะ

มูลเหตุที่คุณป้าฟ้องน่าจะมาจากคุณอาเป็นคนยุ เพราะคุณป้าไม่มีอาชีพ และก่อนหน้านั้นอยู่กันอย่างปกติสุขมาโดยตลอด เกือบ 30 ปี จนคุณอากลับมาอาศัยกับคุณป้า

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ