อยากแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของดิฉันโดยตรง เผื่อเป็นข้อคิดให้กับบิดามารดาที่จะนำบุตรหลาน โดยเฉพาะลูกสาวไปสมัครเรียนเทนนิสที่สถาบัน Impact Tennis Academy นี้นะคะ บางทีอาจจะเจอเหตุการณ์แบบดิฉัน
เริ่มเรื่อง...
ดิฉันได้รับการแนะนำจากผู้ปกครองที่พาลูกมาแข่งเทนนิสด้วยกันที่เมืองทอง LTAT และจากการค้นในกูเกิ้ล ก็ปรากฏชื่อของ อิมแพค เทนนิส อะคาเดมี่ นี้ ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรากำลังมองหาสถานที่เรียนเทนนิสให้ลูกสาว ที่ตั้งใจอยากจะฝึกฝนเทนนิสให้เล่นได้ดีกว่านี้ จึงได้โทรติดต่อเข้าไปที่คลับนี้ การติดต่อนั้นยากมากเนื่องจาก ไม่มีคนรับสายเลย โดยพยายามอยู่ 4-5 ครั้งตลอดทั้งวัน เมื่อคืนดิฉันจึงลองส่งอีเมลหาเจ้าหน้าที่ตามอีเมลที่ปรากฏอยู่หน้าเวบฯ และได้รับการตอบกลับภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยดิฉันเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะจากชื่ออีเมลคนที่จะตอบน่าจะไม่ใช่คนไทย เขาตอบมาว่าเปิดรับสมัคร และสามารถติดต่อเขาโดยตรงได้ที่มือถือ xxx โดยได้บอกว่ารับสมัครนักเรียนที่จะมาเรียนเทนนิสในระดับโซเชียลจนถึงเล่นโปร และคัดเข้าอะคาเดมี่ 14 คน
ดิฉันเล่าคร่าวๆ ว่ามีลูกสาวอายุ 11 ปีกว่า อยากเรียนเทนนิสในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และเล่นได้ดีกว่านี้ แนะนำตัวเสร็จก็นัดหมายกันว่าให้มาเจอเขาซึ่งเป็น ผอ. ของอะคาเดมี่นี้ในวันรุ่งขึ้น โดยเขาจะว่างช่วงบ่ายและเจอลูกเราได้ พร้อมกับจะเทสและบอกว่าลูกเราควรจะอยู่กลุ่มไหน เรียนแบบไหน ทุกอย่างดูเหมือนเขาให้บริการดี จนกระทั่ง...
เกือบๆ เที่ยง วันนี้ สามีของดิฉันพาลูกสาวไป โดยเดินทางจากรางนี้ อนุเสาวรีย์ นั่งรถตู้ลงเมืองทอง ต่อด้วยแทกซี่ ถือว่าค่อนข้างไกลพอควรค่ะ ลูกสาวก็แพคกระเป๋า พร้อมไม้เทนนิส แต่งตัวเพื่อไปเล่นเทนนิสและไปให้โค้ช เทสดูว่าเขาควรอยู่ระดับไหน พอไปถึงสถานที่ พนักงานถามในทำนองว่า มาพบใคร มาทำอะไร จะเรียนอะไร ได้นัดหรือไม่ สามียืนยันว่าได้นัดไว้ มีอีเมลให้ดู เขาก็บอกรอสักครู่ (ปล. สามีเป็นชาวอังกฤษ และสื่อสารกันได้พอรู้เรื่องบ้าง) ในขณะเดียวกัน ดิฉันได้ส่งข้อความไปหาผอ. คนนี้บอกว่าสามีและลูกดิฉันเดินทางถึงแล้วแจ้งเพื่อทราบ
ในขณะที่สามีของดิฉันเดินดูรอบๆ สถานที่ โดยต้องยอมรับว่าใหญ่ สะอาดและได้มาตรฐาน ขณะนั้นลูกสาวที่เป็นลูกครึ่งที่เข้าใจสื่อสารไทยได้พอควร นั่งอยู่ด้านล่างกับ พนง งานที่เคาเตอร์ ก็มีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปลูกสาว ซึ่งน้องก็ยอมให้ถ่ายแต่แบบอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยชอบถ่ายรูป จากนั้น พนง เอารูปลูกสาวมาให้สามีดูบอกว่าเดี๋ยวจะส่งให้ ผอ. คนนี้ดูก่อน ซึ่งสามีดิฉันก็เริ่มสงสัยว่าทำไมต้องดูรูปก่อนเจอนักเรียนที่มาสมัครเรียน และทำไมถ่ายรูปลูกเขาโดยไม่ขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ว่าจะถ่ายไปทำอะไร ปกติต่างชาติจะซีเรียสเรื่องถ่ายรูปเด็ก และไม่ให้ถ่ายรูปของเด็กโดยพลการ แต่เจ้าหน้าที่ที่นี่ ก็ถ่ายเลยและมาบอกว่าจะส่งไปให้ ผอ ซึ่งเป็นโค้ชด้วยดูก่อนนะ เดี๋ยวจะแจ้งว่าเขาจะมาเจอเราได้หรือไม่ ตอนนั้นสามีดิฉันก็ไม่อยากไปซักถาม หรือสงสัยอะไรมากนัก
สักครู่ เจ้าหน้าที่เดินมาบอกสามีว่า โค้ช ไม่ว่างเจอ มาไม่ได้ ให้กลับไปแล้วมาใหม่วันหลัง! ง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ ณ ตอนนั้น ดิฉันก็ได้รับข้อความ sms ตอบกลับจาก ผอ. คนนี้ด้วยว่า เขาไม่ว่างแล้ว (คงจะหลังจากที่ดูรูปลูกเรา เพราะตอนแรกนัดกันไว้) ตอนนั้นสามีเริ่มไม่ประทับใจแล้ว โดยเขาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมว่า "คุณไม่คิดว่าหรือว่ากว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ กับลูกสาว มันร้อน ไกล และเหนื่อยแค่ไหน เรากลับได้คำตอบคือ กลับไปแล้วมาใหม่วันหลัง" ไม่มีแม้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นที่สามารถให้ข้อมูลดูแลเราได้ ไม่มีโบรชัวร์ ตาราง ราคา ให้ดูบ้าง แม้ว่าโค้ชจะไม่ว่างมาเจอตามที่นัด ควรจะมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน ราคา ตารางเรียนก็ยังดี ก็เข้าใจนะคะว่าลูกค้าเขาอาจจะเยอะแล้ว เลยกลายเป็นเขาไม่ค่อยแคร์ สักเท่าไรกับลูกค้าใหม่อย่างเรา
้ข้อข้องใจ
1. ถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องหรือสมควรทำหรือไม่ ที่มานัด พอไปตามนัด มาขอถ่ายรูปลูกเรา ส่งไปให้โค้ชดูก่อน ก่อนจะบอกว่าเจอได้หรือไม่ ไม่รู้ว่าท่านใดมีประสบการณ์ แบบนี้บ้างไม่ว่าจะคลับอื่น หรือคลับนี้ เราติดต่อสถานที่เรียนมาพอควร ที่นี่เป็นที่แรกที่เจอแบบนี้ค่ะ ปกติทั่วไปขั้นตอนคือ โทรติดต่อ โค้ชโทรกลับมา นัดมาเจอ เทสนักเรียน และแจ้งว่าจะเรียนระดับพื้นฐาน กลาง หรือ ขั้นสูง กลุ่มไหน ราคาเท่าไร มันควรจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ
2. หากดูตามรูปถ่ายแล้วเขาตัดสินว่าไม่ผ่าน ฝีมือการตีเทนนิส มันตัดสินจากรูปถ่ายไม่ได้ การที่เด็กจะสมัครเรียน จะใส่ชุดอะไร หมวกสีอะไร ผมสั้นหรือยาว หน้าตาเป็นอย่างไร ฯลฯ มันเกี่ยวกับการรับเข้าเรียนด้วยหรือ ลูกเราก็รูปร่างดี สูงโปร่ง หน้าตาก็เด็กลูกครึ่งทั่วไป ยังคิดไม่ออกว่าลูกเราผิดปกติตรงไหน ถึงเจอไม่ได้ งงมากค่ะ หากต้องการดูบุคลิกเด็ก และอยากดูรูป เราก็สามารถส่งทางอีเมลได้ หากไม่ผ่านก็แจ้งมา เราก็จะได้ไม่เดินทางไปหาให้เสียเวลา และเสียความรู้สึกแบบนี้
3. การที่รูปลูกสาวเราถูกถ่ายและส่งเข้ามือถือ ผอ. ท่านนี้ที่เป็นผู้ชาย มันก็น่ากังวล เนื่องจากเราก็ไม่รู้จักเขา และก็ไม่รู้เขาจะเอารูปลูกเราไปทำอะไรหรือไม่
หากไม่ได้นัดหมายเป็นเรื่องเป็นราว แล้วเขาไม่มาเจอลูกเรา เรายังเข้าใจนะคะ หรือหากไม่ดูรูปลูกเราแล้วปฏิเสธการเจอ เราก็ยังไม่เสียความร็สึกเท่า ขอดูรูปก่อน
ไม่ทราบว่าท่านเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หรือคล้ายกัน บ้างไหม หรือหากท่านเจอแบบนี้ ท่านจะทำอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
อิมแพคเทนนิส อะคาเดมี่ภายในแอมแพคสปอร์ตคลับแชร์ประสบการณ์ "โค้ชขอดูรูปลูกสาวก่อนตอบว่าไม่ว่างเจอ" ใครเคยเจอแบบนี้บ้างคะ
เริ่มเรื่อง...
ดิฉันได้รับการแนะนำจากผู้ปกครองที่พาลูกมาแข่งเทนนิสด้วยกันที่เมืองทอง LTAT และจากการค้นในกูเกิ้ล ก็ปรากฏชื่อของ อิมแพค เทนนิส อะคาเดมี่ นี้ ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรากำลังมองหาสถานที่เรียนเทนนิสให้ลูกสาว ที่ตั้งใจอยากจะฝึกฝนเทนนิสให้เล่นได้ดีกว่านี้ จึงได้โทรติดต่อเข้าไปที่คลับนี้ การติดต่อนั้นยากมากเนื่องจาก ไม่มีคนรับสายเลย โดยพยายามอยู่ 4-5 ครั้งตลอดทั้งวัน เมื่อคืนดิฉันจึงลองส่งอีเมลหาเจ้าหน้าที่ตามอีเมลที่ปรากฏอยู่หน้าเวบฯ และได้รับการตอบกลับภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยดิฉันเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะจากชื่ออีเมลคนที่จะตอบน่าจะไม่ใช่คนไทย เขาตอบมาว่าเปิดรับสมัคร และสามารถติดต่อเขาโดยตรงได้ที่มือถือ xxx โดยได้บอกว่ารับสมัครนักเรียนที่จะมาเรียนเทนนิสในระดับโซเชียลจนถึงเล่นโปร และคัดเข้าอะคาเดมี่ 14 คน
ดิฉันเล่าคร่าวๆ ว่ามีลูกสาวอายุ 11 ปีกว่า อยากเรียนเทนนิสในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และเล่นได้ดีกว่านี้ แนะนำตัวเสร็จก็นัดหมายกันว่าให้มาเจอเขาซึ่งเป็น ผอ. ของอะคาเดมี่นี้ในวันรุ่งขึ้น โดยเขาจะว่างช่วงบ่ายและเจอลูกเราได้ พร้อมกับจะเทสและบอกว่าลูกเราควรจะอยู่กลุ่มไหน เรียนแบบไหน ทุกอย่างดูเหมือนเขาให้บริการดี จนกระทั่ง...
เกือบๆ เที่ยง วันนี้ สามีของดิฉันพาลูกสาวไป โดยเดินทางจากรางนี้ อนุเสาวรีย์ นั่งรถตู้ลงเมืองทอง ต่อด้วยแทกซี่ ถือว่าค่อนข้างไกลพอควรค่ะ ลูกสาวก็แพคกระเป๋า พร้อมไม้เทนนิส แต่งตัวเพื่อไปเล่นเทนนิสและไปให้โค้ช เทสดูว่าเขาควรอยู่ระดับไหน พอไปถึงสถานที่ พนักงานถามในทำนองว่า มาพบใคร มาทำอะไร จะเรียนอะไร ได้นัดหรือไม่ สามียืนยันว่าได้นัดไว้ มีอีเมลให้ดู เขาก็บอกรอสักครู่ (ปล. สามีเป็นชาวอังกฤษ และสื่อสารกันได้พอรู้เรื่องบ้าง) ในขณะเดียวกัน ดิฉันได้ส่งข้อความไปหาผอ. คนนี้บอกว่าสามีและลูกดิฉันเดินทางถึงแล้วแจ้งเพื่อทราบ
ในขณะที่สามีของดิฉันเดินดูรอบๆ สถานที่ โดยต้องยอมรับว่าใหญ่ สะอาดและได้มาตรฐาน ขณะนั้นลูกสาวที่เป็นลูกครึ่งที่เข้าใจสื่อสารไทยได้พอควร นั่งอยู่ด้านล่างกับ พนง งานที่เคาเตอร์ ก็มีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปลูกสาว ซึ่งน้องก็ยอมให้ถ่ายแต่แบบอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยชอบถ่ายรูป จากนั้น พนง เอารูปลูกสาวมาให้สามีดูบอกว่าเดี๋ยวจะส่งให้ ผอ. คนนี้ดูก่อน ซึ่งสามีดิฉันก็เริ่มสงสัยว่าทำไมต้องดูรูปก่อนเจอนักเรียนที่มาสมัครเรียน และทำไมถ่ายรูปลูกเขาโดยไม่ขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ว่าจะถ่ายไปทำอะไร ปกติต่างชาติจะซีเรียสเรื่องถ่ายรูปเด็ก และไม่ให้ถ่ายรูปของเด็กโดยพลการ แต่เจ้าหน้าที่ที่นี่ ก็ถ่ายเลยและมาบอกว่าจะส่งไปให้ ผอ ซึ่งเป็นโค้ชด้วยดูก่อนนะ เดี๋ยวจะแจ้งว่าเขาจะมาเจอเราได้หรือไม่ ตอนนั้นสามีดิฉันก็ไม่อยากไปซักถาม หรือสงสัยอะไรมากนัก
สักครู่ เจ้าหน้าที่เดินมาบอกสามีว่า โค้ช ไม่ว่างเจอ มาไม่ได้ ให้กลับไปแล้วมาใหม่วันหลัง! ง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ ณ ตอนนั้น ดิฉันก็ได้รับข้อความ sms ตอบกลับจาก ผอ. คนนี้ด้วยว่า เขาไม่ว่างแล้ว (คงจะหลังจากที่ดูรูปลูกเรา เพราะตอนแรกนัดกันไว้) ตอนนั้นสามีเริ่มไม่ประทับใจแล้ว โดยเขาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมว่า "คุณไม่คิดว่าหรือว่ากว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ กับลูกสาว มันร้อน ไกล และเหนื่อยแค่ไหน เรากลับได้คำตอบคือ กลับไปแล้วมาใหม่วันหลัง" ไม่มีแม้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นที่สามารถให้ข้อมูลดูแลเราได้ ไม่มีโบรชัวร์ ตาราง ราคา ให้ดูบ้าง แม้ว่าโค้ชจะไม่ว่างมาเจอตามที่นัด ควรจะมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน ราคา ตารางเรียนก็ยังดี ก็เข้าใจนะคะว่าลูกค้าเขาอาจจะเยอะแล้ว เลยกลายเป็นเขาไม่ค่อยแคร์ สักเท่าไรกับลูกค้าใหม่อย่างเรา
้ข้อข้องใจ
1. ถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องหรือสมควรทำหรือไม่ ที่มานัด พอไปตามนัด มาขอถ่ายรูปลูกเรา ส่งไปให้โค้ชดูก่อน ก่อนจะบอกว่าเจอได้หรือไม่ ไม่รู้ว่าท่านใดมีประสบการณ์ แบบนี้บ้างไม่ว่าจะคลับอื่น หรือคลับนี้ เราติดต่อสถานที่เรียนมาพอควร ที่นี่เป็นที่แรกที่เจอแบบนี้ค่ะ ปกติทั่วไปขั้นตอนคือ โทรติดต่อ โค้ชโทรกลับมา นัดมาเจอ เทสนักเรียน และแจ้งว่าจะเรียนระดับพื้นฐาน กลาง หรือ ขั้นสูง กลุ่มไหน ราคาเท่าไร มันควรจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ
2. หากดูตามรูปถ่ายแล้วเขาตัดสินว่าไม่ผ่าน ฝีมือการตีเทนนิส มันตัดสินจากรูปถ่ายไม่ได้ การที่เด็กจะสมัครเรียน จะใส่ชุดอะไร หมวกสีอะไร ผมสั้นหรือยาว หน้าตาเป็นอย่างไร ฯลฯ มันเกี่ยวกับการรับเข้าเรียนด้วยหรือ ลูกเราก็รูปร่างดี สูงโปร่ง หน้าตาก็เด็กลูกครึ่งทั่วไป ยังคิดไม่ออกว่าลูกเราผิดปกติตรงไหน ถึงเจอไม่ได้ งงมากค่ะ หากต้องการดูบุคลิกเด็ก และอยากดูรูป เราก็สามารถส่งทางอีเมลได้ หากไม่ผ่านก็แจ้งมา เราก็จะได้ไม่เดินทางไปหาให้เสียเวลา และเสียความรู้สึกแบบนี้
3. การที่รูปลูกสาวเราถูกถ่ายและส่งเข้ามือถือ ผอ. ท่านนี้ที่เป็นผู้ชาย มันก็น่ากังวล เนื่องจากเราก็ไม่รู้จักเขา และก็ไม่รู้เขาจะเอารูปลูกเราไปทำอะไรหรือไม่
หากไม่ได้นัดหมายเป็นเรื่องเป็นราว แล้วเขาไม่มาเจอลูกเรา เรายังเข้าใจนะคะ หรือหากไม่ดูรูปลูกเราแล้วปฏิเสธการเจอ เราก็ยังไม่เสียความร็สึกเท่า ขอดูรูปก่อน
ไม่ทราบว่าท่านเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หรือคล้ายกัน บ้างไหม หรือหากท่านเจอแบบนี้ ท่านจะทำอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ