เมื่อเวลาเป็นใจให้ได้ไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวๆ ก็ไม่ลังเลที่จะบินตรงสู่โอซาก้าเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้คุ้มค่ากับที่รอคอย
จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่เมืองนารา ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นในปีค.ศ.710-784 ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่โตเกียว เมืองนี้จึงมีวัดและศาลเจ้าเก่าแก่มากมาย และหลายแห่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วทั้งสิ้น จุดหมายปลายทางแรกของเรา คือวัดโทไดจิ Todaiji (東大寺) มีความหมายว่า “มหาวิหารตะวันออก” เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดในเมืองนารามี สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.747 ในสมัยเทมเปียว เพื่อ ขจัดปัดเป่าโรคระบาดและภัยธรรมชาติที่คุกคามผู้คนในยุคนั้น เนื่องด้วยในสมัยนั้นมีภัยธรรมชาติและโรคระบาดเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จักรพรรดิจึงมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้น โดยมีความเชื่อว่าพระพุทธรูปจะช่วยคุ้มครองให้พ้นทุกข์ได้ พระพุทธรูปโทไดบุสสึสร้างด้วยทองสัมริดมีขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ในวิหารไม้ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
มาถึงที่นี่แล้วต้องแวะไปสำรวจความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาทฮิเมจิ ตัวปราสาทสีขาวสว่างสวยงามตระการตา อันเป็นที่มาของชื่อที่เรารู้จักกันดีคือ ปราสาทนกกระเรียน (Hakurojo) เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงเหลือรอดจากสงครามกลางเมืองและสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1993 ตัวปราสาทได้รับการบูรณะ ให้ใกล้เคียงกับของเดิมครั้งที่ถูกสร้างเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ปราสาทหลังนี้ เจ้าขุนมูลนายและครอบครัว รวมถึงซามูไรอยู่อาศัยกันหลายรุ่น ในสมัยสงครามช่วงศตวรรษที่ 15-16 นั้น ปราสาทแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นฐานทัพและแนวป้องกันสงครามอีกด้วย
หลังจากชื่นชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทในประวัติศาสตร์กันจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาเปลี่ยนบรรยากาศ แวะไปพักกายพักใจ
ที่สวนนุโนบิกิ สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีดอกไม้นานาพรรณมากกว่า 200 สายพันธุ์ รวมถึงสวนสมุนไพร ดอกไม้ในเขตเมืองร้อนที่พร้อมเบ่งบานให้ได้ชื่นชมในทุกฤดูกาล สวนแห่งนี้ตกแต่งให้คล้ายกับบรรยากาศของเมืองแตร์นี แคว้นทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี และมีความสวยงามไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถขึ้นกระเช้าเพื่อชมความงามของทิวทัศน์ทั่วเมืองและอ่าวโกเบได้อีกด้วย ที่สวนแห่งนี้ยังมีร้านอาหารที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเมนูอาหารที่สด ใหม่ เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ
และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ สำหรับใครที่อยากสมหวังในความรัก พรั่งพร้อมไปด้วยสติปัญญา รวมถึงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน เราสามารถขอพรได้ครบสามประการพร้อมๆกันในครั้งเดียว ได้ที่วัดคิโยมิสึหรือวัดน้ำใส วัดแห่งนี้มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับตำนานน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากแม่น้ำ 3 สาย ไหลลงมาจากยอดเขาฮิงาชิยาม่ามานานนับพันปี ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ถ้าใครได้ดื่มน้ำสายที่ 1 จะประสบความสำเร็จด้านการศึกษาสติปัญญาดี น้ำสายที่ 2 จะสมหวังในความรัก และน้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว มาถึงที่แล้วดื่มน้ำให้ครบทั้งสามสาย จะได้สมหวังครบทุกประการค่ะ
แอบกระซิบเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของวัดอีกแห่งของที่นี่ หากใครต้องการประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ต้องเดินทางมาขอพรที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าในลัทธิชินโต เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าอินาริหรือพระแม่โพสพ ผู้ดูแลความอุดมสมบูรณ์ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรและพืชสวนไร่นา โดยมีสุนัขจิ้งจอกเป็นพาหนะประจำกายของเทพเจ้า ศาลเจ้านี้ขึ้นชื่อในด้านการขอพรให้ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ คนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจหลังจากมาขอพรที่นี่ จะสร้างเสาโทริอิ เสาสีแดงมาตั้งไว้ที่ศาลเพื่อเป็นการสักการะเทพเจ้าที่เชื่อว่าช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันมีเสาเรียงรายยาวกว่า 4 กิโลเมตร
ก่อนกลับ ขอปิดท้ายด้วยการเที่ยวช้อปปิ้งย่าน ย่านคิตาโนะ เป็นแหล่งที่พักของชาวต่างชาติที่เคยเข้ามาทำการค้าขายกับชาวญี่ปุ่นตรงบริเวณท่าเรือโกเบซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่บริเวณนี้มีลักษณะเป็นเนินเขา ลาดชัน มีบ้านพักที่โดดเด่นในย่านนี้คือ เรือนไก่กังหันลมหรือที่เรียกว่า Weather Cock House บนหลังคาจะมีกังหันลมรูปไก่ตั้งอยู่ ตัวบ้านเป็นสไตล์เยอรมัน อาคารสีเขียวอ่อนหรือที่เรียกว่า Moegi House สร้างขึ้นเพื่อไว้เป็นที่รับรองกงสุลใหญ่อเมริกันเมื่อปี ค.ศ. 1903 นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนอีกมากมายหลายแห่งตั้งอยู่โดยรอบ
อีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวโกเบ คือ ย่านฮาร์เบอร์แลนด์ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 2 แห่งนั่นคือ Umie Mosaic และ Canal Garden นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่าง ๆ จำหน่ายสินค้าและของฝากมากมาย และยังเป็นที่ตั้งของ Anpanman Museum อีกด้วย
เผลอนิดเดียว ก็มาถึงวันสุดท้ายของทริปท่องเที่ยวในครั้งนี้ ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะจบลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะเป็นการเดินทางในระยะเวลาสั้นๆแต่ก็ได้ประสบการณ์ที่หลากหลายในที่เดียวครบ บอกเลยว่าเป็นการท่องเที่ยวที่สนุกและคุ้มสุดๆ ช่วยเติมพลังชีวิตให้พร้อมเริ่มต้นกับวันใหม่ทุกๆวัน ต้องรีบบอกต่อความสุขนี้กับคนรอบข้างให้มาเปิดประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่นี่กันบ้างแล้ว
“Enjoy Kansai” แพคเกจท่องเที่ยวคันไซ โดย JTB Thailand ออกเดินทาง 19 - 24 พฤษภาคม 2559 และ 20 - 25 พฤษภาคม 2559
ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับมืออาชีพ ประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 100 ปี
สนใจรายละเอียดแพคเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เข้าชมได้ที่เว็บไซด์ www.jtbthailand.com
หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ สาขาเอ็มควอเทียร์ (BTS พร้อมพงษ์)โทร 02 344 - 4688 เวลา 10.30 – 21.00
สาขาสีลมคอมเพล็กซ์ (BTS ศาลาแดง)โทร 02 344 - 4600 เวลา 10.30 – 19.30
JTB Thailand บริการทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น บริการจัดกรุ๊ปท่องเที่ยวส่วนตัว (Private group) บริการจองตั๋วเครื่องบินทั่วโลก บริการจองโรงแรม จำหน่ายตั๋วรถไฟ JR และ ตั๋วTheme Park
Official Facebook: JtbThailand
[Advertorial]
เที่ยวคันไซที่เดียวได้ครบทุกประสบการณ์ ทริปสุดฮอตที่ไม่เคยตกเทรนด์
จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่เมืองนารา ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นในปีค.ศ.710-784 ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่โตเกียว เมืองนี้จึงมีวัดและศาลเจ้าเก่าแก่มากมาย และหลายแห่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วทั้งสิ้น จุดหมายปลายทางแรกของเรา คือวัดโทไดจิ Todaiji (東大寺) มีความหมายว่า “มหาวิหารตะวันออก” เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดในเมืองนารามี สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.747 ในสมัยเทมเปียว เพื่อ ขจัดปัดเป่าโรคระบาดและภัยธรรมชาติที่คุกคามผู้คนในยุคนั้น เนื่องด้วยในสมัยนั้นมีภัยธรรมชาติและโรคระบาดเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จักรพรรดิจึงมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้น โดยมีความเชื่อว่าพระพุทธรูปจะช่วยคุ้มครองให้พ้นทุกข์ได้ พระพุทธรูปโทไดบุสสึสร้างด้วยทองสัมริดมีขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ในวิหารไม้ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
มาถึงที่นี่แล้วต้องแวะไปสำรวจความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาทฮิเมจิ ตัวปราสาทสีขาวสว่างสวยงามตระการตา อันเป็นที่มาของชื่อที่เรารู้จักกันดีคือ ปราสาทนกกระเรียน (Hakurojo) เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงเหลือรอดจากสงครามกลางเมืองและสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1993 ตัวปราสาทได้รับการบูรณะ ให้ใกล้เคียงกับของเดิมครั้งที่ถูกสร้างเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ปราสาทหลังนี้ เจ้าขุนมูลนายและครอบครัว รวมถึงซามูไรอยู่อาศัยกันหลายรุ่น ในสมัยสงครามช่วงศตวรรษที่ 15-16 นั้น ปราสาทแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นฐานทัพและแนวป้องกันสงครามอีกด้วย
หลังจากชื่นชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทในประวัติศาสตร์กันจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาเปลี่ยนบรรยากาศ แวะไปพักกายพักใจ
ที่สวนนุโนบิกิ สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีดอกไม้นานาพรรณมากกว่า 200 สายพันธุ์ รวมถึงสวนสมุนไพร ดอกไม้ในเขตเมืองร้อนที่พร้อมเบ่งบานให้ได้ชื่นชมในทุกฤดูกาล สวนแห่งนี้ตกแต่งให้คล้ายกับบรรยากาศของเมืองแตร์นี แคว้นทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี และมีความสวยงามไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถขึ้นกระเช้าเพื่อชมความงามของทิวทัศน์ทั่วเมืองและอ่าวโกเบได้อีกด้วย ที่สวนแห่งนี้ยังมีร้านอาหารที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเมนูอาหารที่สด ใหม่ เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ
และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ สำหรับใครที่อยากสมหวังในความรัก พรั่งพร้อมไปด้วยสติปัญญา รวมถึงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน เราสามารถขอพรได้ครบสามประการพร้อมๆกันในครั้งเดียว ได้ที่วัดคิโยมิสึหรือวัดน้ำใส วัดแห่งนี้มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับตำนานน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากแม่น้ำ 3 สาย ไหลลงมาจากยอดเขาฮิงาชิยาม่ามานานนับพันปี ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ถ้าใครได้ดื่มน้ำสายที่ 1 จะประสบความสำเร็จด้านการศึกษาสติปัญญาดี น้ำสายที่ 2 จะสมหวังในความรัก และน้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว มาถึงที่แล้วดื่มน้ำให้ครบทั้งสามสาย จะได้สมหวังครบทุกประการค่ะ
แอบกระซิบเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของวัดอีกแห่งของที่นี่ หากใครต้องการประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ต้องเดินทางมาขอพรที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าในลัทธิชินโต เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าอินาริหรือพระแม่โพสพ ผู้ดูแลความอุดมสมบูรณ์ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรและพืชสวนไร่นา โดยมีสุนัขจิ้งจอกเป็นพาหนะประจำกายของเทพเจ้า ศาลเจ้านี้ขึ้นชื่อในด้านการขอพรให้ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ คนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจหลังจากมาขอพรที่นี่ จะสร้างเสาโทริอิ เสาสีแดงมาตั้งไว้ที่ศาลเพื่อเป็นการสักการะเทพเจ้าที่เชื่อว่าช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันมีเสาเรียงรายยาวกว่า 4 กิโลเมตร
ก่อนกลับ ขอปิดท้ายด้วยการเที่ยวช้อปปิ้งย่าน ย่านคิตาโนะ เป็นแหล่งที่พักของชาวต่างชาติที่เคยเข้ามาทำการค้าขายกับชาวญี่ปุ่นตรงบริเวณท่าเรือโกเบซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่บริเวณนี้มีลักษณะเป็นเนินเขา ลาดชัน มีบ้านพักที่โดดเด่นในย่านนี้คือ เรือนไก่กังหันลมหรือที่เรียกว่า Weather Cock House บนหลังคาจะมีกังหันลมรูปไก่ตั้งอยู่ ตัวบ้านเป็นสไตล์เยอรมัน อาคารสีเขียวอ่อนหรือที่เรียกว่า Moegi House สร้างขึ้นเพื่อไว้เป็นที่รับรองกงสุลใหญ่อเมริกันเมื่อปี ค.ศ. 1903 นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนอีกมากมายหลายแห่งตั้งอยู่โดยรอบ
อีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวโกเบ คือ ย่านฮาร์เบอร์แลนด์ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 2 แห่งนั่นคือ Umie Mosaic และ Canal Garden นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่าง ๆ จำหน่ายสินค้าและของฝากมากมาย และยังเป็นที่ตั้งของ Anpanman Museum อีกด้วย
เผลอนิดเดียว ก็มาถึงวันสุดท้ายของทริปท่องเที่ยวในครั้งนี้ ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะจบลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะเป็นการเดินทางในระยะเวลาสั้นๆแต่ก็ได้ประสบการณ์ที่หลากหลายในที่เดียวครบ บอกเลยว่าเป็นการท่องเที่ยวที่สนุกและคุ้มสุดๆ ช่วยเติมพลังชีวิตให้พร้อมเริ่มต้นกับวันใหม่ทุกๆวัน ต้องรีบบอกต่อความสุขนี้กับคนรอบข้างให้มาเปิดประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่นี่กันบ้างแล้ว
“Enjoy Kansai” แพคเกจท่องเที่ยวคันไซ โดย JTB Thailand ออกเดินทาง 19 - 24 พฤษภาคม 2559 และ 20 - 25 พฤษภาคม 2559
ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับมืออาชีพ ประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 100 ปี
สนใจรายละเอียดแพคเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เข้าชมได้ที่เว็บไซด์ www.jtbthailand.com
หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ สาขาเอ็มควอเทียร์ (BTS พร้อมพงษ์)โทร 02 344 - 4688 เวลา 10.30 – 21.00
สาขาสีลมคอมเพล็กซ์ (BTS ศาลาแดง)โทร 02 344 - 4600 เวลา 10.30 – 19.30
JTB Thailand บริการทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น บริการจัดกรุ๊ปท่องเที่ยวส่วนตัว (Private group) บริการจองตั๋วเครื่องบินทั่วโลก บริการจองโรงแรม จำหน่ายตั๋วรถไฟ JR และ ตั๋วTheme Park
Official Facebook: JtbThailand
[Advertorial]