สวัสดีค่ะ วันนี้ไม่ได้มารีวิวเรื่องเที่ยวเหมือนเดิม แต่ขอตามกระแสฟิตแอนด์เฟริ์มช่วงนี้กันหน่อย ด้วยการรีวิวบัตรเบ่ง (เราเรียกเอง) ของฟิตเนสกัน
**ออกตัวก่อนว่ารีวิวนี้เรามิได้เป็นม้าแต่อย่างใด จ่ายเอง เล่นเองทั้งหมด เราว่ามันคุ้มดีเลยเอามาแชร์กันค่ะ**
ไม่เคยรีวิวแนวนี้ แท็คไม่ถูกเลยค่ะ
เริ่มมาจากเราเริ่มออกกำลังกายมาซักพักละ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่กรุงเทพเลยได้แต่วิ่งลู่กับเวทตามคลิปไปตามประสา พอได้กลับมากรุงเทพเลยมองหาที่ออกกำลังกายดู แต่เราเป็นคนไม่ค่อยชอบไปตามฟิตเนสใหญ่ๆเลยไม่ได้สนใจดูสมาชิกของฟิสเนสแบบนั้น ประกอบกับอยากจะเล่นหลายๆอย่าง เห็นช่วงนี้มี studio ออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบมากก็อยากจะลองมันซะหมด
เราหาข้อมูลซักแป๊บก็ไปเจอเข้ากับบัตรสมาชิกอันนึง ชื่อว่า “Guava pass” ตอนแรกแอบเข้าใจว่าให้เฉพาะฝรั่งใช้ซะอีก เห็นชื่อบัตรฝรั่ง แต่มันไม่ใช่ค่า บัตร Guava pass นี่พอเราเป็นสมาชิกปุ๊บ เราก็จะได้สิทธิ์เข้าไปใช้ studio ที่ร่วมกับบัตรได้เลย โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนๆ ละ 2,999 บาท แต่ก็มีเงื่อนไขบางอย่างด้วยนะ
• เราสามารถไปใช้บริการที่ studio ไหนก็ได้ที่ร่วมกับ Guava กี่ครั้งก็ได้ใน 1 เดือน
• แต่ว่าใน 1 studio ก็จะจำกัดให้เราจะไปได้ 2-3 ครั้งขึ้นอยู่กับแต่ละ studio แต่ส่วนใหญ่จะได้ 3 ครั้ง/เดือน
• ถ้าจองแล้ว ไม่ไป หรือยกเลิกหลังช่วงเวลาที่กำหนดมีค่าปรับค่ะ เพราะเท่ากับไปกันสิทธิ์คนอื่นเนอะ
เริ่มจากเข้าเว็บ Guava pass เลยค่ะ แล้วก็ทำการสมัครๆสมาชิกซะ ตัดผ่านบัตรเครดิตได้ เราเลือกสมัครตอนมีโปรโมชั่นปีใหม่ด้วย คือ สมัคร 1 เดือนเล่นได้ 2 เดือน (แบบคุ้มค่าสุดๆ) เราสมัครวันที่ 29 มกราคม 2559 ก็จะเล่นได้ไปถึง 31 มีนามคม 2559 เมื่อวานนี้เอง
เว็บหน้าตาแบบนี้
เข้ามาแล้วก็เลือกประเทศของเรา แล้วก็ตั้ง account เราได้เลย
(นอกจากกรุงเทพแล้วยังสามารถไปใช้สิทธิ์ที่ประเทศอื่นๆที่มี Guava pass ได้ด้วยนะ)
พอเสร็จเรียบร้อย เราก็มาเลือก studio ที่เราจะไปเล่นได้เลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าจะมี studio ใกล้บ้านเยอะมั้ย ลองเข้ามาดูรายชื่อ studio ที่ร่วมได้ค่ะ พอดีเราสะดวกกลางเมืองเลยสบาย แถวๆเส้นสุขุมวิทมี studio เพียบ
Studio ที่ร่วมมีอยู่ประมาณ 60 กว่า studios ซึ่งมากพอให้เราวนไปเล่นได้ทั้งเดือน จากที่เราเป็นสมาชิกมา 2 เดือน ก็มี studio ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆค่ะ
วิธีเลือกมี 2 แบบก็แล้วแต่เราเลยว่าจะเลือกจาก คลาสหรือ studio
ถ้าเลือกจากคลาส พอกดเข้าไปก็จะมีคลาสขึ้นมาเพียบตามเวลา เราก็เลือกคลาสที่เราอยากเล่นได้เลย สีเขียวแปลว่าจองได้ ส่วนสีเทาแปลว่าจองไม่ได้ค่ะ คลาสเต็มแล้ว
หรือถ้าชอบ studio ไหนเป็นพิเศษก็เข้าไปดูตารางเฉพาะ studioนั้นๆก็ได้เหมือนกัน พอเข้ามาหน้าของแต่ละ studio ก็จะมีรายละเอียดของ studio ไว้ รวมทั้ง facilities และคลาสต่างๆด้วย
ถ้าไม่สะดวกเข้าเว็บ มี app ให้ด้วยนะ แต่ app จะมีเฉพาะดูแบบคลาสอย่างเดียว
ส่วนหน้า studio บอกแค่รายละเอียด studio ไม่มีตารางคลาสเหมือนเว็บ
พอเลือกเข้าไปก็จะขึ้นแบบนี้ มีชื่อคลาส เวลา แล้วก็บอกจำนวน credit สำหรับ studio นี้ว่าเรายังเหลือจองได้อีกกี่ครั้ง
พอเรากดจองก็จะมี email confirm มาให้ ในเมลก็จะมี รายละเอียดคลาสที่เราจองและ booking reference ให้มาด้วย เพราบาง studio จะให้เราลงรหัสอันนี้ด้วย
ถ้าจองแล้ว ใน app ก็จะมีขึ้นรายการคลาสที่เราจองไว้อยู่ด้านบน
พอจองเรียบร้อย เราก็ไปเล่นได้เลย เย้ๆ เวลาไปถึง studio ก็แค่แจ้งว่าเราเป็น Guava แจ้งชื่อ บางที่ก็ขอ booking reference ด้วย เป็นอันเสร็จ เข้าคลาสได้เลย
มีข้อกำหนด สำหรับการยกเลิกคลาส หรือจองแล้วไม่ไปด้วยนะคะ ถ้ายกเลิกหลัง 4 ทุ่มของวันก่อนวันที่จองจะต้องเสีย 250 บาท ถ้เราจองแล้วไม่ไป 300 บาท ซึ่งเราไม่เคยยอมเสียแม้แต่บาทเดียว จองแล้วต้องไปให้ได้ ถึงจะต้องลากสังขารไปก็เหอะ
ถ้าจองคลาสกระชั้นชิด จะมีคำเตือนขึ้นมาให้ ว่าจองแล้ว ถ้ายกเลิกจะเสียเงินนะเธอ แน่ใจรึเปล่า
เท่าที่เราไปมาทุก studio ก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีไม่ต่างกับสมาชิกปกติ ส่วนเพื่อนๆ guava ช่วงแรกๆจะเป็นต่างชาติซะเป็นส่วนใหญ่ หลังๆถึงเห็นคนไทยเริ่มมาใช้กันมากขึ้น สมาชิก Guava พอเจอกันก็มักจะเม้ามอย ประมาณไปเล่นอันนี้มารึยัง ไปที่นี่รึยัง ที่ไหนดีก็จะบอกๆกันค่ะ
สรุปผลประกอบการของเรา ในเวลา 2 เดือน เราใช้ไป32 คลาส 17 studios ส่วนใหญ่ที่เราไปจะเป็น Yoga, Yoga fly, Aerial,เต้น แล้วก็มวย (ที่เห็น 5 เดือน เพราะเราสมัครสมาชิกไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ คิดอยู่นานว่ามันจะคุ้มมั้ยน๊อ และตอนนั้นเราเองก็มีสมาชิคโยคะฟลายของที่นึงค้างอยู่ด้วย เลยไปใช้อันนั้นก่อน) พอจบ 2 เดือนเรา(หมดโปร) เราเลยหยุดสถานะไว้ก่อน เพราะเดือนนี้วันหยุดเยอะ เดี๋ยวจะไปเล่นไม่คุ้ม
เราว่าบัตรนี้ดีมาก สำหรับคนที่ชอบเล่นอะไรหลายๆอย่าง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรืออยากมาลองวิธีออกกำลังกายใหม่ๆก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเป็นสมาชิกของ studio ดีมั้ย
เพราะบางทีเราก็ไม่รู้ว่าออกกำลังกายแบบนี้มันเหมาะกับเรารึเปล่า มาลองก่อนที่จะเสียค่าสมาชิกทีละเยอะๆก็จะดีกว่า หรือมาลองสไตล์การสอนของแต่ละ studio เพราะแต่ละที่ก็มีวิธีการสอนไม่เหมือนกัน
แต่ข้อเสียที่ต้องระวังคือ ค่ายกเลิกคลาสนี่แหละ ถ้าเป็น studio ไกลหน่อยหรือช่วงเย็นๆรถติด ถ้าเผื่อเวลาไม่ดีมีโอกาสไปไม่ทันสูงมาก เราเคยต้องสละรถ ซิ่งพี่วินไปให้ทันเวลามาแล้วเพราะไม่อยากเสียค่า cancel นี่ล่ะ
ส่วนเวลาจองคลาส ตอนแรกเรากะจองยาวเต็มเดือนเลย แต่พอเอาเข้าจริงปรากฎว่า บางคลาส บาง studio เหมือนยังไม่ให้เปิดจองล่วงหน้านานๆ ส่วนใหญ่ก็จะจองได้อาทิตย์ต่ออาทิตย์
คลาสที่เปิดให้มีตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปถึง 3 ทุ่ม เนื่องจากช่วงนี้เราว่างๆ เลยไปเล่นได้ทุกเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น เลยสบาย เรามักจะจองคลาสเช้าๆสายๆ ประมาณ 9 โมง 10 โมง บางทีโชคดีทั้งคลาสมีเราคนเดียว ได้เรียน private กันแบบไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่ในคลาสก็จะระมาณ 4-5 คน ยกเว้นซุมบ้าที่คนแน่นตลอดไม่ว่าจะเช้าหรือเที่ยง
ถ้าคนที่ไปได้เฉพาะช่วงเย็นหลังเลิกงาน อาจจะจองยากหน่อย เพราะบางคลาสเต็มเร็วม๊ากกกก โดยเฉพาะ Studio ที่ฮิตๆ เช่น Surfset หรือพวกคลาส Pilates จะเต็มเร็วตลอด
หลังจากลองไปหลายอย่าง แล้วก็สนุกกับมันมาก จนตอนนี้เราเสพติดการออกกำลังกายไปเลย อยากให้ทุกคนลองไปเล่นอะไรใหม่ๆดู เราอาจจะได้พบกับรูปแบบการออกกำลังกายที่เราชอบ ถึงตอนนั้นเราจะสนุก ไม่รู้สึกทรมานกับการออกกำลังกายเลย
ส่วนรีวิวของ studio แต่ละที่ๆเราไปมาแล้ว เราจะทยอยเอามาแชร์นะคะใครมี studio ที่ไหนดี หรือวิธีการออกกำลังกายแบบไหนเด็ด เข้ามาร่วมแบ่งปันกันได้นะคะ
มาออกกำลังกายกันเถอะ
[CR] รีวิว Guava pass : 2 เดือน 32 คลาส 17 studios กับผู้หญิงบ้าพลัง
**ออกตัวก่อนว่ารีวิวนี้เรามิได้เป็นม้าแต่อย่างใด จ่ายเอง เล่นเองทั้งหมด เราว่ามันคุ้มดีเลยเอามาแชร์กันค่ะ**
ไม่เคยรีวิวแนวนี้ แท็คไม่ถูกเลยค่ะ
เริ่มมาจากเราเริ่มออกกำลังกายมาซักพักละ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่กรุงเทพเลยได้แต่วิ่งลู่กับเวทตามคลิปไปตามประสา พอได้กลับมากรุงเทพเลยมองหาที่ออกกำลังกายดู แต่เราเป็นคนไม่ค่อยชอบไปตามฟิตเนสใหญ่ๆเลยไม่ได้สนใจดูสมาชิกของฟิสเนสแบบนั้น ประกอบกับอยากจะเล่นหลายๆอย่าง เห็นช่วงนี้มี studio ออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบมากก็อยากจะลองมันซะหมด
เราหาข้อมูลซักแป๊บก็ไปเจอเข้ากับบัตรสมาชิกอันนึง ชื่อว่า “Guava pass” ตอนแรกแอบเข้าใจว่าให้เฉพาะฝรั่งใช้ซะอีก เห็นชื่อบัตรฝรั่ง แต่มันไม่ใช่ค่า บัตร Guava pass นี่พอเราเป็นสมาชิกปุ๊บ เราก็จะได้สิทธิ์เข้าไปใช้ studio ที่ร่วมกับบัตรได้เลย โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนๆ ละ 2,999 บาท แต่ก็มีเงื่อนไขบางอย่างด้วยนะ
• เราสามารถไปใช้บริการที่ studio ไหนก็ได้ที่ร่วมกับ Guava กี่ครั้งก็ได้ใน 1 เดือน
• แต่ว่าใน 1 studio ก็จะจำกัดให้เราจะไปได้ 2-3 ครั้งขึ้นอยู่กับแต่ละ studio แต่ส่วนใหญ่จะได้ 3 ครั้ง/เดือน
• ถ้าจองแล้ว ไม่ไป หรือยกเลิกหลังช่วงเวลาที่กำหนดมีค่าปรับค่ะ เพราะเท่ากับไปกันสิทธิ์คนอื่นเนอะ
เริ่มจากเข้าเว็บ Guava pass เลยค่ะ แล้วก็ทำการสมัครๆสมาชิกซะ ตัดผ่านบัตรเครดิตได้ เราเลือกสมัครตอนมีโปรโมชั่นปีใหม่ด้วย คือ สมัคร 1 เดือนเล่นได้ 2 เดือน (แบบคุ้มค่าสุดๆ) เราสมัครวันที่ 29 มกราคม 2559 ก็จะเล่นได้ไปถึง 31 มีนามคม 2559 เมื่อวานนี้เอง
เว็บหน้าตาแบบนี้
เข้ามาแล้วก็เลือกประเทศของเรา แล้วก็ตั้ง account เราได้เลย
(นอกจากกรุงเทพแล้วยังสามารถไปใช้สิทธิ์ที่ประเทศอื่นๆที่มี Guava pass ได้ด้วยนะ)
พอเสร็จเรียบร้อย เราก็มาเลือก studio ที่เราจะไปเล่นได้เลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าจะมี studio ใกล้บ้านเยอะมั้ย ลองเข้ามาดูรายชื่อ studio ที่ร่วมได้ค่ะ พอดีเราสะดวกกลางเมืองเลยสบาย แถวๆเส้นสุขุมวิทมี studio เพียบ
Studio ที่ร่วมมีอยู่ประมาณ 60 กว่า studios ซึ่งมากพอให้เราวนไปเล่นได้ทั้งเดือน จากที่เราเป็นสมาชิกมา 2 เดือน ก็มี studio ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆค่ะ
วิธีเลือกมี 2 แบบก็แล้วแต่เราเลยว่าจะเลือกจาก คลาสหรือ studio
ถ้าเลือกจากคลาส พอกดเข้าไปก็จะมีคลาสขึ้นมาเพียบตามเวลา เราก็เลือกคลาสที่เราอยากเล่นได้เลย สีเขียวแปลว่าจองได้ ส่วนสีเทาแปลว่าจองไม่ได้ค่ะ คลาสเต็มแล้ว
หรือถ้าชอบ studio ไหนเป็นพิเศษก็เข้าไปดูตารางเฉพาะ studioนั้นๆก็ได้เหมือนกัน พอเข้ามาหน้าของแต่ละ studio ก็จะมีรายละเอียดของ studio ไว้ รวมทั้ง facilities และคลาสต่างๆด้วย
ถ้าไม่สะดวกเข้าเว็บ มี app ให้ด้วยนะ แต่ app จะมีเฉพาะดูแบบคลาสอย่างเดียว
ส่วนหน้า studio บอกแค่รายละเอียด studio ไม่มีตารางคลาสเหมือนเว็บ
พอเลือกเข้าไปก็จะขึ้นแบบนี้ มีชื่อคลาส เวลา แล้วก็บอกจำนวน credit สำหรับ studio นี้ว่าเรายังเหลือจองได้อีกกี่ครั้ง
พอเรากดจองก็จะมี email confirm มาให้ ในเมลก็จะมี รายละเอียดคลาสที่เราจองและ booking reference ให้มาด้วย เพราบาง studio จะให้เราลงรหัสอันนี้ด้วย
ถ้าจองแล้ว ใน app ก็จะมีขึ้นรายการคลาสที่เราจองไว้อยู่ด้านบน
พอจองเรียบร้อย เราก็ไปเล่นได้เลย เย้ๆ เวลาไปถึง studio ก็แค่แจ้งว่าเราเป็น Guava แจ้งชื่อ บางที่ก็ขอ booking reference ด้วย เป็นอันเสร็จ เข้าคลาสได้เลย
มีข้อกำหนด สำหรับการยกเลิกคลาส หรือจองแล้วไม่ไปด้วยนะคะ ถ้ายกเลิกหลัง 4 ทุ่มของวันก่อนวันที่จองจะต้องเสีย 250 บาท ถ้เราจองแล้วไม่ไป 300 บาท ซึ่งเราไม่เคยยอมเสียแม้แต่บาทเดียว จองแล้วต้องไปให้ได้ ถึงจะต้องลากสังขารไปก็เหอะ
ถ้าจองคลาสกระชั้นชิด จะมีคำเตือนขึ้นมาให้ ว่าจองแล้ว ถ้ายกเลิกจะเสียเงินนะเธอ แน่ใจรึเปล่า
เท่าที่เราไปมาทุก studio ก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีไม่ต่างกับสมาชิกปกติ ส่วนเพื่อนๆ guava ช่วงแรกๆจะเป็นต่างชาติซะเป็นส่วนใหญ่ หลังๆถึงเห็นคนไทยเริ่มมาใช้กันมากขึ้น สมาชิก Guava พอเจอกันก็มักจะเม้ามอย ประมาณไปเล่นอันนี้มารึยัง ไปที่นี่รึยัง ที่ไหนดีก็จะบอกๆกันค่ะ
สรุปผลประกอบการของเรา ในเวลา 2 เดือน เราใช้ไป32 คลาส 17 studios ส่วนใหญ่ที่เราไปจะเป็น Yoga, Yoga fly, Aerial,เต้น แล้วก็มวย (ที่เห็น 5 เดือน เพราะเราสมัครสมาชิกไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ คิดอยู่นานว่ามันจะคุ้มมั้ยน๊อ และตอนนั้นเราเองก็มีสมาชิคโยคะฟลายของที่นึงค้างอยู่ด้วย เลยไปใช้อันนั้นก่อน) พอจบ 2 เดือนเรา(หมดโปร) เราเลยหยุดสถานะไว้ก่อน เพราะเดือนนี้วันหยุดเยอะ เดี๋ยวจะไปเล่นไม่คุ้ม
เราว่าบัตรนี้ดีมาก สำหรับคนที่ชอบเล่นอะไรหลายๆอย่าง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรืออยากมาลองวิธีออกกำลังกายใหม่ๆก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเป็นสมาชิกของ studio ดีมั้ย
เพราะบางทีเราก็ไม่รู้ว่าออกกำลังกายแบบนี้มันเหมาะกับเรารึเปล่า มาลองก่อนที่จะเสียค่าสมาชิกทีละเยอะๆก็จะดีกว่า หรือมาลองสไตล์การสอนของแต่ละ studio เพราะแต่ละที่ก็มีวิธีการสอนไม่เหมือนกัน
แต่ข้อเสียที่ต้องระวังคือ ค่ายกเลิกคลาสนี่แหละ ถ้าเป็น studio ไกลหน่อยหรือช่วงเย็นๆรถติด ถ้าเผื่อเวลาไม่ดีมีโอกาสไปไม่ทันสูงมาก เราเคยต้องสละรถ ซิ่งพี่วินไปให้ทันเวลามาแล้วเพราะไม่อยากเสียค่า cancel นี่ล่ะ
ส่วนเวลาจองคลาส ตอนแรกเรากะจองยาวเต็มเดือนเลย แต่พอเอาเข้าจริงปรากฎว่า บางคลาส บาง studio เหมือนยังไม่ให้เปิดจองล่วงหน้านานๆ ส่วนใหญ่ก็จะจองได้อาทิตย์ต่ออาทิตย์
คลาสที่เปิดให้มีตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปถึง 3 ทุ่ม เนื่องจากช่วงนี้เราว่างๆ เลยไปเล่นได้ทุกเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น เลยสบาย เรามักจะจองคลาสเช้าๆสายๆ ประมาณ 9 โมง 10 โมง บางทีโชคดีทั้งคลาสมีเราคนเดียว ได้เรียน private กันแบบไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่ในคลาสก็จะระมาณ 4-5 คน ยกเว้นซุมบ้าที่คนแน่นตลอดไม่ว่าจะเช้าหรือเที่ยง
ถ้าคนที่ไปได้เฉพาะช่วงเย็นหลังเลิกงาน อาจจะจองยากหน่อย เพราะบางคลาสเต็มเร็วม๊ากกกก โดยเฉพาะ Studio ที่ฮิตๆ เช่น Surfset หรือพวกคลาส Pilates จะเต็มเร็วตลอด
หลังจากลองไปหลายอย่าง แล้วก็สนุกกับมันมาก จนตอนนี้เราเสพติดการออกกำลังกายไปเลย อยากให้ทุกคนลองไปเล่นอะไรใหม่ๆดู เราอาจจะได้พบกับรูปแบบการออกกำลังกายที่เราชอบ ถึงตอนนั้นเราจะสนุก ไม่รู้สึกทรมานกับการออกกำลังกายเลย
ส่วนรีวิวของ studio แต่ละที่ๆเราไปมาแล้ว เราจะทยอยเอามาแชร์นะคะใครมี studio ที่ไหนดี หรือวิธีการออกกำลังกายแบบไหนเด็ด เข้ามาร่วมแบ่งปันกันได้นะคะ
มาออกกำลังกายกันเถอะ