***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
วันนี้หลายๆ คนทราบดีว่าคือว่า "เมษาหน้าโง่" หรือ วันโกหก April Fool's Day เป็นวันที่คนแกล้งหลอกกันโดยแต่งเรื่องอะไรก็ได้
ให้คนอื่นหลงเชื่อ จากนั้นค่อยเฉลยในตอนท้าย ซึ่งเรื่องที่เอามาหลอกนั้นจะต้องไม่ทำให้สร้างความเดือดร้อนหรือเกินขอบเขต
และคนที่ถูกหลอกจะต้องไม่โกรธด้วย เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ยกเว้นให้หนึ่งวัน
นั่นเป็นวันพิเศษของสากล แต่เราชาวไทย ทราบไหมคะว่าวันนี้สำคัญอย่างไร ... วันนี้เป็น "
วันเลิกทาส" ค่ะ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงประกาศ "พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124" ให้ลูกทาสทุกคนเป็นไท
เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2448 พสกนิกรทั้งหลายล้วนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก
ในบรรดาหนังที่เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่ออิสรภาพทั้งเพื่อตนเองและเพื่อชนชาติ มีอยู่ 2 เรื่องที่เราประทับใจมากๆ นั่นคือ Braveheart
(วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ) กับ The Shawshank Redemption (ชอว์แชงค์: มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง) ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้
พี่พระรองได้รีวิววิเคราะห์ไว้อย่างน่าอ่านมากๆ เผื่อใครสนใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34231174/comment1 และ http://ppantip.com/topic/34346901/comment2
วันนี้เราขอนำเสนอเรื่อง The Shawshank Redemption ในมุมมองของตัวเอง ซึ่งเคยลงในกระทู้เพลงไว้แล้วแต่จะนำมาลงใหม่ค่ะ
เพราะชอบมาก และคิดว่าเข้ากับ "วันเลิกทาส" ด้วย เรื่องนี้ดีมากๆ แนะนำให้หามาดู
เรื่องย่อ ใครอยากลุ้นข้ามได้เลยค่ะ เพราะสปอยด์แหลกราญ
พระเอกชื่อแอนดี้ (ทิม ร็อบบินส์) วันนึงเมาตื่นมาโดนจับข้อหาฆ่าเมียและชู้ ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าทำจริงรึป่าว
เลยต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในคุกชอว์แชงค์ (นี่แหละ เหล้าไม่เคยให้ผลดีกับใคร)
ในคุกเขามีเพื่อนสนิทชื่อเรด (มอร์แกน ฟรีแมน) ที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต เรดอยู่มา20 ปีแล้วจึงเก๋ามาก
สามารถหาของเล็กๆ น้อยๆ จากภายนอกเข้ามาได้ เช่น บุหรี่ รูปดารา ฯลฯ ใครต้องการอะไรบอกเรดได้ เขาจะจัดให้
แอนดี้เป็นคนมีความคิดความอ่านและไม่เคยยอมแพ้ เขาขอค้อนเล็กๆ จากเรดมาแกะสลักหิน ซึ่งบอกว่าเป็นงานอดิเรก
ก็ไม่มีใครสนใจเพราะถ้าจะใช้ค้อนเล็กแหกคุก สงสัยจะต้องใช้เวลาตลอดชีวิต ดีไม่ดีโดนจับได้ก่อนงานนี้อยู่ยาว
ครั้งหนึ่งแอนดี้เคยแอบต่อเครื่องเล่นเปิดเพลงออกอากาศในคุก แบ่งปันเสียงดนตรีให้เพื่อนๆ ฟัง เขาบอกว่า
ดนตรีคือสิ่งที่ช่วยให้เรามีความความหวัง มีโลกส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้าไปถึง
เพราะแอนดี้เป็นคนมีความรู้ วันหนึ่งพัศดีเลยเรียกตัวไปให้ช่วยทำบัญชีหลีกเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน (ที่ไหนก็เหมือนกันในโลก - -")
แอนดี้ได้สร้างคนสมมติขึ้นมาชื่อ สตีเวนส์ ให้เหมือนมีตัวจริงในสังคม เพื่อจะได้สาวมาไม่ถึงตัวพัศดีกับแอนดี้
วันหนึ่งมีนักโทษหนุ่มมาใหม่ แล้วเล่าให้แอนดี้ฟังว่าเพื่อนคนหนึ่งได้ฆ่าเมียนายธนาคารและชายชู้ แต่สามีรับเคราะห์ต้องเป็นแพะแทน
แอนดี้ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย ไม่นึกว่าอยู่ๆ จะโชคดีเพราะได้พยานโดยไม่คาดฝัน เขาเลยไปหาพัศดีเพื่อขอความเป็นธรรม ว่าได้พยานแล้ว
ที่จะบอกว่าเขาบริสุทธิ์ แน่นอนพัศดีไม่ยอมให้แอนดี้หลุดไปโลกภายนอกหรอก เลยฆ่านักโทษหนุ่มนั่นปิดปากซะ พยานจะได้หายไป
แอนดี้สุดจะทน วันรุ่งขึ้นเขาหายไปจากคุกอย่างไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่มาตรวจจนทั่วแล้วพบว่าเบื้องหลังโปสเตอร์ดาราที่ผนังห้องแอนดี้
เป็นโพรงขนาดใหญ่ เมื่อตามโพรงไปเรื่อยๆ พบว่ามันไปยังท่อระบายน้ำออกสู่นอกคุก
สรุปว่าแอนดี้ใช้เวลา 19 ปีในคุก ค่อยๆ สร้างทางออกจากคุก คือตกกลางคืนเขาค่อยๆ ใช้ค้อนเล็กขุดผนัง แล้วตอนเช้าเอาเศษปูน
ใส่กระเป๋ากางเกงออกมาทิ้งนอกห้องขัง (บากบั่นมาก สมควรได้รับอิสระจริงๆ) พอแอนดี้ออกจากคุกก็สวมรอยเป็นสตีเวนส์หนุ่มไร้ตัวตน
ที่เขาเคยสร้างไว้ เขาเที่ยวไล่ถอนเงินฝากของพัศดีที่เขาเคยโอนเข้าบัญชีนี้ แล้วแอบส่งหลักฐานทุจริตของพัศดีให้ตำรวจ
พัศดีเครียดจัดเลยชิงยิงตัวตายลาโลกไป
ในหนังเราจะพบเห็นคนที่ติดคุกมานานๆ 3 แบบ อย่างชัดเจน
1. ลุงบรู๊ค นักโทษชราที่ติดคุกมาตั้งแต่หนุ่มๆ และไม่ได้คิดถึงอิสรภาพจนถึงบั้นปลาย เขามีความคิดว่า “แรกๆ ก็เกลียดคุก ต่อมาก็เริ่มชิน
สุดท้ายก็พบว่าไม่อยากไปจากมัน” เมื่อได้รับการปล่อยตัวลุงไม่สามารถปรับตัวกับโลกภายนอกได้ สุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย
(เราร้องไห้ด้วย สงสารลุงเค้า และมันทำให้เรากลัวมาตลอดว่าถ้าชีวิตเราไม่มีความหวัง ไม่ปรับตัว เราจะตามโลกไม่ทัน)
ลุงเป็น
ตัวอย่างของคนที่ขาดอิสรภาพมาทั้งชีวิตและเคยชินกับมัน จนไม่สามารถปรับตัวกับการมีอิสรภาพได้
2. เรด เขาเคยสิ้นหวังแล้วกับอิสระที่อยากได้รับ แต่เมื่อนึกถึงแอนดี้ ชายหนุ่มผู้เก็บงำจุดมุ่งหมายบางอย่าง อดทนมา 19 ปี
สร้างสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จนเกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ เรดก็เห็นคุณค่าของความหวังอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ได้รับการปล่อยตัว
เรดเป็น
ตัวอย่างของการซึมซับอุดมการณ์ดีๆ จากเพื่อน ทำให้เขาไขว่คว้าอิสรภาพมาได้
3. แอนดี้ ได้ใช้ชีวิตอย่างที่หวังไว้ เพราะเขา
ไม่เคยหมดหวังในการได้รับอิสรภาพไม่ว่าอยู่ในสภาพใดก็ตาม
แล้วเขายัง
พยายามส่งต่อความคิดไปยังคนอื่นๆ อีกด้วย
วันนี้ต่อให้ถูกจำกัดอิสรภาพ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะมีวิถีชีวิตแบบใครใน 3 คนนี้
ข้อคิดที่เราได้จากหนังเรื่องนี้
1. ความหวัง แอนดี้ได้รับความอยุติธรรม ซึ่งดูแล้วไม่มีทางใดเลยที่จะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง หนำซ้ำพยานสำคัญยังถูกเก็บไป
เป็นคนอื่นก็คงใช้ชีวิตซังกะตายแต่เขาไม่เคยหมดสิ้นความหวัง
2. อิสรภาพ ใครที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เมื่อได้รับแล้วจะรู้ว่าอิสรภาพนั้นหอมหวานปานใด ดูแล้วเราก็ให้ฉงนใจนัก
เหตุใดมีชนบางประเภทไม่ปรารถนาถึงอิสรภาพและสิทธิของตน
3. มิตรภาพ แอนดี้ได้รับการช่วยเหลือจากเรด เรดก็ได้แรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่จากแอนดี้ ในที่ใดก็ตามหากมีคนมากกว่าหนึ่ง
มันย่อมเกิดมิตรภาพได้ อยู่ที่ผู้คนรู้จักเรียนรู้และแสวงหาหรือไม่
4. ลงมือทำอย่างอดทนและไม่ยอมแพ้ แอนดี้ใช้เวลาร่วม 20 ปี ค่อยๆ ทุบผนังห้องขัง เจาะโพรงไปสู่โลกภายนอก
ในขณะที่นักโทษคนอื่นนอนหลับสบาย การเลือกทางชีวิตต่างกันย่อมให้ผลต่างกัน นานแค่ไหนก็รอได้
5. สติ แอนดี้มีชีวิตตกต่ำก็เพราะเหล้าทำให้ขาดสติ และเขากลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งก็เพราะตั้งสติหาทางออก
...........................................................
ถึงแม้เราจะตกอยู่ในภาวะบีบคั้น อยุติธรรม หรือเป็นทุกข์ขนาดไหนก็ตาม สิ่งที่เราต้องทำคือตั้งสติ มีความหวัง
ลงมือทำอย่างอดทนแม้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย เก็บเกี่ยวมิตรภาพระหว่างทาง แล้วสุดท้ายเราจะได้รางวัลสวยงามที่หวังไว้
รางวัลแด่คนช่างฝัน - จรัล มโนเพ็ชร
มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง
กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่... ให้เธอ
https://www.youtube.com/watch?v=pmIA5oeA9Io
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่ากลับคืนคำเมื่อเธอย้ำสัญญา
อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป
ให้เธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร
เดินทางไป... อย่าหวั่นใครขวางกั้น ..
มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง
กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่... ให้เธอ
บนทางเดินที่มีขวากหนาม
ถ้าเธอคร้ามถอยไปฉันคงเก้อ
ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ
เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน
จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน
จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็น ดับกระหายยามโหยอ่อน
คอยอวยพรให้เธอสมดังหวังได้... นิรันดร์...
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 1/4/2016
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
วันนี้หลายๆ คนทราบดีว่าคือว่า "เมษาหน้าโง่" หรือ วันโกหก April Fool's Day เป็นวันที่คนแกล้งหลอกกันโดยแต่งเรื่องอะไรก็ได้
ให้คนอื่นหลงเชื่อ จากนั้นค่อยเฉลยในตอนท้าย ซึ่งเรื่องที่เอามาหลอกนั้นจะต้องไม่ทำให้สร้างความเดือดร้อนหรือเกินขอบเขต
และคนที่ถูกหลอกจะต้องไม่โกรธด้วย เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ยกเว้นให้หนึ่งวัน
นั่นเป็นวันพิเศษของสากล แต่เราชาวไทย ทราบไหมคะว่าวันนี้สำคัญอย่างไร ... วันนี้เป็น "วันเลิกทาส" ค่ะ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงประกาศ "พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124" ให้ลูกทาสทุกคนเป็นไท
เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2448 พสกนิกรทั้งหลายล้วนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก
ในบรรดาหนังที่เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่ออิสรภาพทั้งเพื่อตนเองและเพื่อชนชาติ มีอยู่ 2 เรื่องที่เราประทับใจมากๆ นั่นคือ Braveheart
(วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ) กับ The Shawshank Redemption (ชอว์แชงค์: มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง) ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้
พี่พระรองได้รีวิววิเคราะห์ไว้อย่างน่าอ่านมากๆ เผื่อใครสนใจ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนี้เราขอนำเสนอเรื่อง The Shawshank Redemption ในมุมมองของตัวเอง ซึ่งเคยลงในกระทู้เพลงไว้แล้วแต่จะนำมาลงใหม่ค่ะ
เพราะชอบมาก และคิดว่าเข้ากับ "วันเลิกทาส" ด้วย เรื่องนี้ดีมากๆ แนะนำให้หามาดู
เรื่องย่อ ใครอยากลุ้นข้ามได้เลยค่ะ เพราะสปอยด์แหลกราญ
พระเอกชื่อแอนดี้ (ทิม ร็อบบินส์) วันนึงเมาตื่นมาโดนจับข้อหาฆ่าเมียและชู้ ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าทำจริงรึป่าว
เลยต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในคุกชอว์แชงค์ (นี่แหละ เหล้าไม่เคยให้ผลดีกับใคร)
ในคุกเขามีเพื่อนสนิทชื่อเรด (มอร์แกน ฟรีแมน) ที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต เรดอยู่มา20 ปีแล้วจึงเก๋ามาก
สามารถหาของเล็กๆ น้อยๆ จากภายนอกเข้ามาได้ เช่น บุหรี่ รูปดารา ฯลฯ ใครต้องการอะไรบอกเรดได้ เขาจะจัดให้
แอนดี้เป็นคนมีความคิดความอ่านและไม่เคยยอมแพ้ เขาขอค้อนเล็กๆ จากเรดมาแกะสลักหิน ซึ่งบอกว่าเป็นงานอดิเรก
ก็ไม่มีใครสนใจเพราะถ้าจะใช้ค้อนเล็กแหกคุก สงสัยจะต้องใช้เวลาตลอดชีวิต ดีไม่ดีโดนจับได้ก่อนงานนี้อยู่ยาว
ครั้งหนึ่งแอนดี้เคยแอบต่อเครื่องเล่นเปิดเพลงออกอากาศในคุก แบ่งปันเสียงดนตรีให้เพื่อนๆ ฟัง เขาบอกว่า
ดนตรีคือสิ่งที่ช่วยให้เรามีความความหวัง มีโลกส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้าไปถึง
เพราะแอนดี้เป็นคนมีความรู้ วันหนึ่งพัศดีเลยเรียกตัวไปให้ช่วยทำบัญชีหลีกเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน (ที่ไหนก็เหมือนกันในโลก - -")
แอนดี้ได้สร้างคนสมมติขึ้นมาชื่อ สตีเวนส์ ให้เหมือนมีตัวจริงในสังคม เพื่อจะได้สาวมาไม่ถึงตัวพัศดีกับแอนดี้
วันหนึ่งมีนักโทษหนุ่มมาใหม่ แล้วเล่าให้แอนดี้ฟังว่าเพื่อนคนหนึ่งได้ฆ่าเมียนายธนาคารและชายชู้ แต่สามีรับเคราะห์ต้องเป็นแพะแทน
แอนดี้ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย ไม่นึกว่าอยู่ๆ จะโชคดีเพราะได้พยานโดยไม่คาดฝัน เขาเลยไปหาพัศดีเพื่อขอความเป็นธรรม ว่าได้พยานแล้ว
ที่จะบอกว่าเขาบริสุทธิ์ แน่นอนพัศดีไม่ยอมให้แอนดี้หลุดไปโลกภายนอกหรอก เลยฆ่านักโทษหนุ่มนั่นปิดปากซะ พยานจะได้หายไป
แอนดี้สุดจะทน วันรุ่งขึ้นเขาหายไปจากคุกอย่างไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่มาตรวจจนทั่วแล้วพบว่าเบื้องหลังโปสเตอร์ดาราที่ผนังห้องแอนดี้
เป็นโพรงขนาดใหญ่ เมื่อตามโพรงไปเรื่อยๆ พบว่ามันไปยังท่อระบายน้ำออกสู่นอกคุก
สรุปว่าแอนดี้ใช้เวลา 19 ปีในคุก ค่อยๆ สร้างทางออกจากคุก คือตกกลางคืนเขาค่อยๆ ใช้ค้อนเล็กขุดผนัง แล้วตอนเช้าเอาเศษปูน
ใส่กระเป๋ากางเกงออกมาทิ้งนอกห้องขัง (บากบั่นมาก สมควรได้รับอิสระจริงๆ) พอแอนดี้ออกจากคุกก็สวมรอยเป็นสตีเวนส์หนุ่มไร้ตัวตน
ที่เขาเคยสร้างไว้ เขาเที่ยวไล่ถอนเงินฝากของพัศดีที่เขาเคยโอนเข้าบัญชีนี้ แล้วแอบส่งหลักฐานทุจริตของพัศดีให้ตำรวจ
พัศดีเครียดจัดเลยชิงยิงตัวตายลาโลกไป
ในหนังเราจะพบเห็นคนที่ติดคุกมานานๆ 3 แบบ อย่างชัดเจน
1. ลุงบรู๊ค นักโทษชราที่ติดคุกมาตั้งแต่หนุ่มๆ และไม่ได้คิดถึงอิสรภาพจนถึงบั้นปลาย เขามีความคิดว่า “แรกๆ ก็เกลียดคุก ต่อมาก็เริ่มชิน
สุดท้ายก็พบว่าไม่อยากไปจากมัน” เมื่อได้รับการปล่อยตัวลุงไม่สามารถปรับตัวกับโลกภายนอกได้ สุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย
(เราร้องไห้ด้วย สงสารลุงเค้า และมันทำให้เรากลัวมาตลอดว่าถ้าชีวิตเราไม่มีความหวัง ไม่ปรับตัว เราจะตามโลกไม่ทัน)
ลุงเป็นตัวอย่างของคนที่ขาดอิสรภาพมาทั้งชีวิตและเคยชินกับมัน จนไม่สามารถปรับตัวกับการมีอิสรภาพได้
2. เรด เขาเคยสิ้นหวังแล้วกับอิสระที่อยากได้รับ แต่เมื่อนึกถึงแอนดี้ ชายหนุ่มผู้เก็บงำจุดมุ่งหมายบางอย่าง อดทนมา 19 ปี
สร้างสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จนเกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ เรดก็เห็นคุณค่าของความหวังอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ได้รับการปล่อยตัว
เรดเป็นตัวอย่างของการซึมซับอุดมการณ์ดีๆ จากเพื่อน ทำให้เขาไขว่คว้าอิสรภาพมาได้
3. แอนดี้ ได้ใช้ชีวิตอย่างที่หวังไว้ เพราะเขาไม่เคยหมดหวังในการได้รับอิสรภาพไม่ว่าอยู่ในสภาพใดก็ตาม
แล้วเขายังพยายามส่งต่อความคิดไปยังคนอื่นๆ อีกด้วย
วันนี้ต่อให้ถูกจำกัดอิสรภาพ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะมีวิถีชีวิตแบบใครใน 3 คนนี้
ข้อคิดที่เราได้จากหนังเรื่องนี้
1. ความหวัง แอนดี้ได้รับความอยุติธรรม ซึ่งดูแล้วไม่มีทางใดเลยที่จะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง หนำซ้ำพยานสำคัญยังถูกเก็บไป
เป็นคนอื่นก็คงใช้ชีวิตซังกะตายแต่เขาไม่เคยหมดสิ้นความหวัง
2. อิสรภาพ ใครที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เมื่อได้รับแล้วจะรู้ว่าอิสรภาพนั้นหอมหวานปานใด ดูแล้วเราก็ให้ฉงนใจนัก
เหตุใดมีชนบางประเภทไม่ปรารถนาถึงอิสรภาพและสิทธิของตน
3. มิตรภาพ แอนดี้ได้รับการช่วยเหลือจากเรด เรดก็ได้แรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่จากแอนดี้ ในที่ใดก็ตามหากมีคนมากกว่าหนึ่ง
มันย่อมเกิดมิตรภาพได้ อยู่ที่ผู้คนรู้จักเรียนรู้และแสวงหาหรือไม่
4. ลงมือทำอย่างอดทนและไม่ยอมแพ้ แอนดี้ใช้เวลาร่วม 20 ปี ค่อยๆ ทุบผนังห้องขัง เจาะโพรงไปสู่โลกภายนอก
ในขณะที่นักโทษคนอื่นนอนหลับสบาย การเลือกทางชีวิตต่างกันย่อมให้ผลต่างกัน นานแค่ไหนก็รอได้
5. สติ แอนดี้มีชีวิตตกต่ำก็เพราะเหล้าทำให้ขาดสติ และเขากลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งก็เพราะตั้งสติหาทางออก
...........................................................
ถึงแม้เราจะตกอยู่ในภาวะบีบคั้น อยุติธรรม หรือเป็นทุกข์ขนาดไหนก็ตาม สิ่งที่เราต้องทำคือตั้งสติ มีความหวัง
ลงมือทำอย่างอดทนแม้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย เก็บเกี่ยวมิตรภาพระหว่างทาง แล้วสุดท้ายเราจะได้รางวัลสวยงามที่หวังไว้
รางวัลแด่คนช่างฝัน - จรัล มโนเพ็ชร
มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง
กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่... ให้เธอ
https://www.youtube.com/watch?v=pmIA5oeA9Io
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้