เที่ยว...นี้...มีอะไร ?!? ที่ จ.ตราด...กับ 9 สิ่งที่ต้องห้าม...พลาด...ของจังหวัด?

เที่ยว...นี้...มีอะไร?!? ตอนที่ 5 เป็นการเดินทางสานฝัน ในเดือนมีนาคม แต่จะเป็นเดือนที่ 2 ของการเดินทาง เพื่อสานฝัน ตามที่ผมได้ตั้งใจไว้ (77จังหวัด 999วัด) ซึ่งเดือนแรก (ก.พ.) ผมไปที่นครปฐม ได้ไปแล้ว 10 วัด ครั้งนี้ ผมไปที่ จ.ตราด การที่ผมเลือกไป จ.ตราด ก็เพราะ ผมจะไปสักการะรอยพระพุทธบาท บนเขาคิชฌกูฏ ที่ จ.จันทบุรึก่อน ซึ่งการไปสักการะรอยพระพุทธบาท ผมไปมาทุกปี ในรอบ10กว่าปีที่ผ่านมา และการไปสักการะทุกครั้ง ผมจะเดินไปจนถึงสิ้นสุดแดนบุญ (ผ้าแดง) ทุกครั้ง....ซึ่ง เรื่องนี้ ผมจะเขียนต่อไป ในเร็วๆนี้
               ผมเดินทางไป เขาคิชฌกูฏ คืนวันพฤหัสที่ 18 และหลังจากที่เสร็จสิ้น การเดินทางแสวงบุญที่เขาคิชฌกูฏ ผมมุ่งไปที่เกาะช้าง ซึ่งเป็นเกาะ และเป็นอำเภอหนึ่งของ จ.ตราด ผมไปพักที่โรงแรมแสงตะวัน ซึ่งอยู่บริเวณหาดทรายขาว พักอยู่ที่นี่ 2 คืน วันรุ่งขึ้นวันศุกร์ที่ 19 ไปเที่ยวที่บางเบ้า โดยแวะถ่ายภาพที่จุดชมวิวของเกาะ  และไหว้พระที่วัดคลองพร้าว (มีภาพมาฝาก) ระหว่างที่ทานอาหารเย็น ที่ภัตตาคารของโรงแรม บริเวณชายหาดทรายขาว มีชาวต่างชาติครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาจากเดนมาร์ก เขาบอกว่า เขาชอบมาเที่ยวเมืองไทย และได้มาหลายแห่ง แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่มาเกาะช้าง รู้สึกชอบมาก ชอบในความสงบ เงียบ และความเป็นธรรมชาติ ซึ่งผมก็พลอยปลื้ม แทนพี่น้องชาวเกาะช้างไปด้วย ที่ทำให้เกาะนี้เป็นสถานที่ ที่น่าท่องเที่ยว



               ตอนสาย ของวันอาทิตย์ที่ 20 หลังจากเช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้ว ผมแวะไปทานอาหารทะเลที่ ภัตตาคารสลักเพชร ซึ่งเคยไปทานมาหลายครั้งแล้ว ขอแนะนำครับ...ว่า ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมึกแดดเดียวทอดน้ำปลา ปูผัดผงกระหรี่ และหอยเชลล์อบเนย

               หลังอาหารกลางวัน ผมนั่งเรือเฟอรี่ กลับจากเกาะ แล้วตรงไปที่ จ.ตราด ไปไหว้พระที่วัด บุปผาราม ซึ่งวัดนี้ เป็นวัดเก่าแก่ เป็นวัดแรกของจังหวัด สร้างขึ้นในปี 2191 วัดนี้มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ผมจะขอกล่าวถึงอีก...ในภายหลัง ต่อจากวัดบุปผาราม ก็ไปอีกสองวัด คือวัดโยธานิมิต (วัดนี้ ถือเป็นวัดหลวงเพียงแห่งเดียว ของจังหวัด) และวัดไผ่ล้อม ซึ่งในขณะที่ไปถึงวัดนี้ พระกำลังลงโบสถ์พอดี จึงได้เพียงภาพถ่ายนอกพระอุโบสถ ...แต่...แต่...อ้อ...เดี๋ยวก่อนนะ จริงๆแล้ว ก่อนที่จะไปวัดไผ่ล้อม ผมไปศาลเจ้าพ่อหลักเมืองก่อน เพราะศาลนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดโยธานิมิต เป็นศาลลักษณะเก๋งจีน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น ในครั้งที่กำลังรวบรวมรี้พลเพื่อกอบกู้เอกราช

    ที่วัดบุปผารามมีวิหารพระนอนด้วยนะ

    บริเวณหน้าวัดโยธานิมิต พระอุโบสถหลังใหม่ กับพระพุทธรูปในพระอุโบสถหลังเก่า (ที่ได้ไปกราบไหว้)


  
  ภาพถ่ายจากหน้าพระอุโสถ วัดไผ่ล้อม ในขณะที่พระกำลังลงโบสถ์


               ที่ จ.ตราด ผมไปพักที่โรงแรมตราดเซ็นเตอร์ เป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมือง ราคาสมเหตุสมผล น่าพัก หลังจากพักผ่อนที่นี่ 1คืน วันรุ่งขึ้น ผมเดินทางไปยังเส้นทาง บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ ซึ่ง ตามหนังสือของการท่องเที่ยว จะระบุว่า มีสถานที่น่าเที่ยวหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาดทรายต่างๆ แต่...แต่...ผมต้องขอบอกว่า...การท่องเที่ยว คงจะต้องไปสำรวจใหม่แล้วล่ะ เพราะไม่เช่นนั้น คนที่จะไปเที่ยวหาดทราย จะผิดหวัง เหมือนที่ผมไปมา

              แต่...ถึงผมจะผิดหวัง ก็ไม่มากนัก เนื่องจากจุดมุ่งหมายของผม ในเส้นทางนี้ คือการที่ได้ไปให้ถึง สุดแดนอาคเนย์ (หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้) ของไทย และได้ไปเห็น (ส่วนหนึ่ง) ที่ว่า เป็นส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ ผมยังได้ไปไหว้พระที่วัดคลองใหญ่ ซึ่งเป็นวัดประจำอำเภอนี้

        

             ผมตั้งใจ จะเดินทางไปชมพระอาทิตย์ตก ที่แหลมงอบ ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดไฮไลท์หนึ่ง ของจังหวัดแล้ว บนเส้นทางนี้ ยังมีวัดหลายแห่งให้กราบไหว้ อีกทั้งยังจะได้ไปชม หาดทรายดำ ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวของประเทศ ระหว่างทางที่จะไปชมอีกด้วย ซึ่งที่กล่าวมานั้น ผมได้ไปเพียงหาดทรายดำ

             และได้ชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมงอบ ซึ่งนอกจากจะมีอักษรภาษาอังกฤษ ชื่อของจังหวัดแล้ว ณ.ที่นี่ ยังเป็นบริเวณสิ้นสุดแดนตะวันออกอีกด้วย



             หลังจากที่พระอาทิตย์ตก (น้ำทะเล) เรียบร้อยแล้ว ผมมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯก่อน จึงทำให้ไม่สามารถไหว้พระที่ จ.ตราดในทริปนี้ ให้ได้อย่างน้อย 9วัด ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้วันพุธที่ 23 และพฤหัสที่ 24 ผมต้องเดินทางไปที่ตราดอีกครั้ง
             และการเดินทางไปในเที่ยวนี้ ก่อนที่จะเข้าตัวเมือง ทางด้านซ้ายมือ เห็นเป็นพุทธมณฑลของจังหวัด ก็ได้เพียงแต่ถ่ายภาพมาให้ท่านชม (แต่ภายในสถานที่ ผมไม่ได้เข้าไปครับ) ก่อนเข้าที่พัก ที่โรงแรมตราดเซ็นเตอร์ อีกแล้ว ผมไปไหว้พระที่วัดหนองเสม็ด ก่อนที่จะไปชมพระอาทิตย์ตก ที่หาดแหลมศอก ซึ่งก็ถือว่า เป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง ของพระอาทิตย์ตกที่ จ.ตราด...แต่...ถ้าจะแนะนำ ให้ไปชมที่แหลมงอบดีกว่าครับ



พระพุทธรูปของวัดหนองเสม็ด

            วันรุ่งขึ้น วันพฤหัสบดีที่ 24 ผมเริ่มต้น ด้วยการไปไหว้พระที่วัดลำดวน บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น สะอาดตา มีประกาศนียบัตร บ่งบอกว่า ได้รับการยกย่อง ให้เป็นวัดตัวอย่าง จากหลายสถาบัน (ในความเห็นส่วนตัว) ถ้าการพิจารณานั้น มาจากความสะอาดภายในบริเวณวัด ผมก็เห็นด้วย แต่...ถ้าพิจารณาจากความเป็นวัด ตามนิยามของผม ก็แล้วกันนะ คงจะขอตั้งเป็นข้อสังเกตุไว้ก่อน แล้วจะเขียนถึงเรื่องวัดตัวอย่าง ในภายหลัง

            จากวัดลำดวน ผมกลับไปที่วัดบุปผารามอีกครั้งหนึ่ง เพื่อถ่ายภาพกับสิ่งที่น่าจะเขียนถึงคือ....หมู่กุฏิเล็ก ที่...ในสมัยก่อน คนที่จะออกบวช ญาติพี่น้องจะสร้างกุฏิ ที่ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ ที่มีขนาดพอภิกษุจะอยู่ได้เพียงรูปเดียว และไม่ต้องมีเตียง มีเครื่องอัฐบริขาร อะไรมากมาย เพื่อให้ผู้ออกบวชผู้นั้น มุ่งเพียงการศึกษาพระธรรม และปฏิบัติตนเยี่ยงผู้ออกบวชอย่างแท้จริง

            วัดนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์และสวนหย่อม ที่หยิกแกมหยอกคนที่ชอบดื่มสุรา ว่าเป็นเช่นไร ดูภาพเอาเองนะครับ (และต้องขอบอกว่า ผมที่นั่งถ่ายด้วยนั้น ไม่เกี่ยวครับ เพราะผมเป็นคนที่ไม่เคยดื่มเลย)



            จากวัดลำดวน ผมกลับไปเส้นทาง อ.คลองใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ไปไหว้พระที่วัด ศรีบูรพาราม แต่คนจะเรียกตามนามเดิมว่า วัดเกาะตะเคียน


ห่างจากวัดเกาะตะเคียนไปอีกประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ด้านซ้ายมือ ก็จะเป็นวัดคิรีวิหาร ซึ่งเป็นวัดๆหนึ่ง ที่ผมต้องขอแนะนำให้ท่านที่มีโอกาสผ่านไปทางนี้ ต้องเข้าไปชมครับ....วัดนี้ตั้งอยู่บนเขาเตี้ยๆ ภายในวัดนอกจากพระอุโบสถที่งดงามแปลกตาแล้ว ยังมีเจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งมีพระพุทธรูปอยู่ภายในให้กราบไหว้ และเก๋งจีน ซึ่งภายในเก๋งจีนนี้ นอกจากมีพระ องค์เทพฯทั้งหลายแล้ว ยังมีเจ้าแม่กวนอิม ที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จไปพระราชทานไว้ด้วย






จากนั้นผมก็ไปไหว้พระที่วัดสะพานหิน ซึ่งห่างจากวัดคิรีวิหารไปอีก 5กิโลเมตร วัดนี้ เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่ง มีอายุมากกว่า 100ปี และยังมีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ให้กราบสักการะอีกด้วย


        หลังจากที่ผมเห็นว่า ได้ไหว้พระครบ 10วัดแล้ว ยังเห็นว่า พอมีเวลา จึงไปเที่ยวที่อ.บ่อไร่ และ อ.เขาสมิง ซึ่งทั้งสองอำเภอนี้นี้ ผมต้องยอมรับว่า เป็นเพียงการแวะไปเที่ยว แบบชะโงกทัวร์ ที่เขานิยมทำกัน แต่...มีตั้งใจไว้ว่า ถ้ามีเวลาอีก ในครั้งต่อไป จะขอไปที่ อ.เขาสมิง อีกครั้งหนึ่ง เพื่อไปให้ถึงวัดเก่าแสนตุ่ม และโบราณสถานเขาโต๊ะโมะ เพื่อไปดูว่า มีสมบัติฝังไว้แสนตุ่ม จริงมั้ย?


         แต่...ก่อนจะจบบทความตอนนี้ ผมขอกลับไปที่ 9 สิ่ง ที่ทางจังหวัดบอกไว้ว่า ถ้าใครได้ไป จ.นี้แล้ว ไม่ควรพลาด ซึ่ง 9 สิ่งที่ว่านี้ ผมพลาดไปหลายสิ่ง ได้เพียง 1.หาดทรายดำ 2.ทะเลมรกต 3.อาหารทะเล 4.ผลไม้ และ5.สุดแดนตะวันออก เท่านั้น สิ่งที่พลาดคือ 6.พิพิธภัณฑ์เมืองตราด 7.เหยี่ยวแดงคอขาว 8.ลานตะบูนท่าระแนะ และ9.ล่องเรือระมาด แต่...แต่...แต่ถึงจะพลาดไปหลายสิ่งก็ตาม ก็มีสิ่งที่ได้ทดแทนมา คือ การไหว้พระ 10 วัด สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง กับสุดแดนอาคเนย์ (ที่หลายคนคงคาดไม่ถึงและน่าจะต้องพลาด) ขอปิดท้ายด้วยภาพงามๆที่ลานหาดทราย แหลมกลัด ซึ่งมีรีสอร์ทที่คนชอบความสงบ และเงียบมากๆ น่าไปพัก ก็แล้วกันนะ


         ส่วนเดือนหน้า (เดือนเมษายน) ผมจะไปที่ไหน และไปไหว้พระ วัดไหนบ้าง โปรดติดตามต่อไป และจากนี้ไป กระทู้นี้ จะเป็นเดือนต่อเดือน
         สวัสดีและขอให้ผู้ที่อ่านทุกท่านโชคดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่