Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าที่คนต่อคิวซื้อข้ามคืน

กระทู้สนทนา

การต่อแถวรอซื้อ iphone ข้ามคืนอาจดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่กับรถยนต์ราคาเป็นล้าน และยังได้แค่ใบจองไว้รับรถปลายปีหน้านี่ คงยังไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

ค่ำวันที่ 31 มี.ค.นี้ (เช้าวันที่ 1 ในไทย) เหล่าสาวก Tesla ทั่วโลกกำลังรอคอยการเปิดตัวและเปิดรับจองรถรุ่น Model 3 ที่คาดกันว่าจะเป็นรอยต่อไปสู่ยุคสมัยถัดไปเลยทีเดียว

ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วในการเปิดตัวครั้งแรก Elon Musk ถูกค่อนแคะว่ารถไฟฟ้า Tesla Roadster 2 ที่นั่งราคาแพง ที่มีอัตราเร่ง 0-100 ใน 3.8 วินาทีและวิ่งได้ 320 กม.ต่อการชาร์จนั้น เป็นแค่ของเล่นคนรวย (ลูกค้าหลายคนเป็นคนดังใน hollywood) ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนโลกได้อย่างที่เค้าพูด และไม่สมควรได้เงินกู้จากรัฐบาลด้วย

Elon ใช้เวลาอีก 4 ปีถัดมาเพื่อจะพิสูจน์ว่า การเปลี่ยนโลกด้วยสินค้าสีเขียวนั้น ต้องเริ่มด้วยสินค้าที่เป็น "High price, Low volume" ก่อนอย่างรถสปอร์ต Roadster เพื่อทำสินค้าให้น่าตื่นเต้น (Compelling electric car) ค่อยๆ สร้างความนิยมพร้อมๆ ไปกับทำกำไร เพื่อเอาเงินมาพัฒนาสินค้าและลด Cost ต่อไป เป็นฐานให้นำไปสู่สินค้า "Medium price, Medium volume" ในเวลาถัดมา
นั่นคือ Tesla Model S (2012) ราคาเหลือไม่ถึงครึ่งของ Roadster รุ่นแรก แต่อัตราเร่ง 0-100 เร็วกว่า Lamborghini ที่ 2.8 วินาที และวิ่งได้เกือบ 500 กม. ผู้คนที่เคยชื่นชอบ Roadster แต่ยังไม่สามารถซื้อได้ จึงหันมาซื้อ Model S กันจำนวนมาก สร้างยอดขายได้ถึง 60,000 คันต่อปีในปัจจุบัน และจ่ายเงินกู้คืนรัฐบาลจนหมด

ดังนั้นสินค้า Step ที่ 3 "Low Price, High Volume" จึงคาดเดาได้ว่าจะไม่ต่างกับ Step ก่อนหน้า เว้นแต่ปริมาณจะใหญ่กว่ากันมาก นั่นก็คือ Tesla Model 3 รถไฟฟ้าตลาดแมส ที่ราคาต่ำลงไปอีกครึ่งหนึ่ง หรือ 35,000 US$ ตั้งธงคู่แข่งไว้เป็น BMW 3 Series คาดว่าจะมียอดขายในระดับ 500,000 คันต่อปี

สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมนอกจากตัวรถที่น่าหลงใหลแล้ว ปริมาณรถไฟฟ้าที่กำลังจะออกสู่ตลาดจำนวนมาก จะยิ่งผลักให้ราคาแบตเตอรี่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว และนั่นหมายถึงอนาคตของพลังงานหมุนเวียนอย่างแสงอาทิตย์ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ราคาถูก และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้านและอาคารได้มากขึ้นๆ อีกด้วย

------------------------------------------------------
update 1/4/16

ล่าสุดหลัง Model 3 เปิดตัวและเปิดรับจองด้วยเงิน 1,000 US$ มีผู้จองไปแล้วถึง 180,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 7 พันล้าน US$ หรือ 2.5 แสนล้านบาท ทั้งที่รถเริ่มส่งมอบได้ในปลายปีหน้า (2017) และนั่นเป็นตัวเลขใน 24 ชม.แรก ปัจจุบันการจองก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่
ด้วยยอดจองล่วงหน้าเยอะขนาดนี้ จะทำให้ Tesla สามารถพัฒนาสินค้า และเริ่มกระบวนการ Mass production ได้อย่างสบายใจเลยทีเดียว

ข้อมูลของรถเท่าที่เปิดเผยคือ
- อัตราเร่ง 0-100 ต่ำกว่า 6 วินาที
- Range 340 กม.ต่อการชาร์จขั้นต่ำ ปกติจะมีรุ่นเพิ่มระยะทางให้เลือก
- มาพร้อม Autopilot hardware ที่พร้อมจะกลายเป็น self-driving (Autonomous) car ได้ทันทีเมื่อ update software ในอนาคต
- 5 Star safety ในทุก category - อันนี้ Model S ทำได้ดีที่สุดในกลุ่มเลย ส่วนนึงมาจากการที่ใต้ฝากระโปรงหน้าไม่มีเครื่องยนต์ ทำให้สามารถดีไซน์ให้ดูดซับ impact ได้เต็มที่
- ราคา 35,000 US$ อย่างที่คาดการณ์กัน

"At Tesla, We don't make slow cars!" Elon Musk กล่าวไว้